“ขอบคุณพี่กรมานะคะที่ขึ้นมาส่ง” เธอหันมาขอบคุณชายหนุ่ม
“ไม่เป็นไรเรื่องแค่นี้เอง หญิงเข้าห้องเถอะแล้วอย่าลืมล็อคประตูให้ดีห้ามเปิดให้คนแปลกหน้านะ” ปกณ์พูดเหมือนที่บอกกับทัดดาว
“ค่ะ พี่กรขับรถกลับบ้านดี ๆ นะคะ” ปนัดดาพูดแล้วเปิดประตูเข้าห้องไป แต่ตอนที่เธอกำลังจะปิดประตูมือหนาของปกรณ์ก็ยกขึ้นดันประตูเอาไว้ก่อน
“มีอะไรหรือเปล่าคะ หรือว่าจะเข้าห้องน้ำ”
“เปล่าพี่ไม่ได้จะเข้าห้องน้ำ แต่พี่มีเรื่องอยากบอกหญิงสักหน่อย”
“เรื่องอะไรคะ” เธอถามพร้อมกับหัวใจที่เต้นระรัว
“คราวหลังอย่าแต่งตัวแบบนี้อีก เราน่ะไม่เหมาะกับเสื้อผ้าพวกนี้หรอก และต้องรู้จักระวังตัวด้วยแม้แต่อยู่กับพี่ก็ตาม” พูดจบปกรณ์ก็ดันประตูปิดให้เองทิ้งให้เจ้าของห้องยืนนิ่งอยู่กับที่พร้อมกับความผิดหวังเล็ก ๆ และยืนบ่นอยู่คนเดียวที่หน้าประตูห้อง
“อีพี่กรบ้า ตาทึ่มเอ๊ย”
++++++
ทัดดาวเดินออกจากห้องน้ำหลังจากที่กลับเข้าห้องมาเธอก็เดินเข้าไปอาบน้ำทันที เธอนั่งลงที่เตียงนอนแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์โทรของจันทร์แรม และต้องดีใจเมื่ออีกฝ่ายเปิดเครื่องแล้ว เธอนั่งรออยู่นานจนในที่สุดคนปลายสายก็รับสายเสียที
“แรมใช่ไหม อย่าเพิ่งวางสายนะ!” เธอรีบพูดออกมาอย่างรวดเร็วเพราะกลัวจันทรแรมจะวางสาย
“โทรมามีอะไรหรือว่าจะโทรมาทวงเงินฉัน” จันทร์แรมถามเสียงห้วน
“เปล่าฉันไม่ได้จะโทรมาทวงเงิน ที่โทรมาเพราะห่วงตอนนี้เธออยู่ที่ไหน” เธอพยายามพูดดี ๆ ไม่พูดเรื่องเงินตอนนี้เธออยากรู้ว่าจันทร์แรมอยู่ที่ไหนมากกว่า
“ห่วงเหรอ เธอห่วงฉันทั้ง ๆ ที่ฉันแอบปลอมลายเซ็นเธอไปค้ำประกันเงินอย่างนั้นเหรอ” จันทร์แรมถามเสียงดังออกมา
“เธอรู้เรื่องนี้แล้วเหรอ”
“รู้สิทำไมจะไม่รู้ล่ะ จะด่าจะว่าอะไรก็พูดมาเถอะฉันมันล้มแล้วซ้ำเติมกันให้พอ” จันทร์แรมพูดแล้วร้องไห้เสียงดังออกมา
“ฉันไม่ได้จะว่าอะไรที่โทรมาเพราะเป็นห่วงและมีเรื่องอยากถามเธอด้วย” เธอพูดและถามอีกฝ่าย
“ถามอะไร”
“ทำไมเธอถึงทำแบบนี้ล่ะ ทำไมถึงปลอมชื่อฉันไปค้ำประกันเงินที่ผ่านมาฉันทำอะไรให้เธอไม่พอใจหรือไงถึงได้ทำกันแบบนี้” ทัดดาวถามด้วยความอยากรู้
จันทร์แรมนิ่งไปนิดเมื่อได้ยินสิ่งที่คนปลายสายถาม ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครคบเธอด้วยความจริงใจสักคนมีแต่ ทัดดาวเท่านั้นที่คบเธอและไม่เอาเรื่องของเธอไม่พูดที่ไหน
“เพราะฉันรู้ว่าเธอมีเงินเยอะ แค่แบ่งมาใช้หนี้ให้ฉันสักนิดหน่อยคงไม่เป็นอะไร แต่ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะสร้างหนี้ก้อนใหญ่ขนาดนี้” จันทร์แรมพูดเสียงอ่อย ๆ พร้อมกับร้องไห้ไปด้วย
“ฉันถามได้ไหมว่าทำไมถึงเป็นหนี้ขนาดนี้”
“แฟนฉันติดการพนันที่บ่อนนั่นแหละ พอเขาเล่นได้ฉันก็เอามาซื้อของแบรนด์เนมที่เธอเห็น”
“ที่เธอซื้อเพราะอะไร แล้วทำไมไม่ขายของพวกนั้นมาใช้หนี้ล่ะ” ทัดดาวถามเพราะของบางชิ้นเธอก็ไม่เคยเห็นหญิงสาวใช้เลย
“ที่ซื้อเพราะอยากได้อยากมีเหมือนเธอและคนอื่น ๆ ฉันอยากแสดงให้คนพวกนั้นรู้ว่าคนอย่างฉันก็มีปัญญาซื้อของพวกนี้ใช้เหมือนกัน” จันทร์แรมพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด
“ส่วนของพวกนั้นแฟนฉันขายไปหมดแล้ว”
“อ้าวขายแล้วเอาเงินไปไหนล่ะ อย่าบอกนะว่าเอาไปเล่นการพนันอีกน่ะ” ทัดดาวรีบถามออกมาทันที แต่ก็อีกฝ่ายก็ไม่ตอบนั้นกลับเป็นคำตอบได้ดีว่าสิ่งที่เธอพูดเป็นเรื่องจริง
“ฉันขอโทษนะที่ทำเธอเดือดร้อน แต่ฉันรู้ว่าเธอมีเงินใช้หนี้แน่นอนเธอไปยืมพี่กรก็ได้นี่เขารวยจะตายเงินแค่ไม่กี่แสนเขาให้ได้อยู่แล้ว” จันทร์แรมพูดสะบัดเสียง เพราะเธอเองก็เคยหมายปองชายหนุ่มคนนั้นเหมือนกัน แต่เขาไม่เล่นด้วยแถมยังพูดจาไม่ดีใส่อีกต่างหาก
“เธอพูดเหมือนว่าหนี้ก้อนนี้แค่ห้าบาทสิบบาทเลยนะ เงินตั้งห้าแสนใครจะมาช่วยกันง่าย ๆ เอาอย่างนี้ไหมเธอกลับมาส่วนเรื่องเงินฉันจะช่วยคุยกับคุณวายุให้” เธอพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบถามว่าเงินที่เธอให้เขาไปวันนี้ก็เสียดายแหละ แต่มันคงจะดีกว่าถ้าจันทร์แรมกลับมารับผิดชอบเอง
“ใครคือคุณวายุ” จันทร์แรมถามออกมาเมื่อได้ยินชื่อของผู้ชายคนหนึ่ง
“อ้าวนี่เธอไม่รู้เหรอว่าเจ้าหนี้เธอชื่ออะไร”
“ไม่รู้หรอก แฟนฉันเป็นคนจัดการฉันแค่เซ็นชื่ออย่างเดียวไม่เคยอ่านอะไรเลย”
ทัดดาวยกมือขึ้นมากุมหน้าผากเพราะรู้สึกปวดหัวจี๊ดเลย ไปเอาเงินเขาตั้งเกือบล้านแต่ไม่รู้จักชื่อเจ้าของเงิน
“ตกลงเธอจะกลับมาไหมหรือจะให้ฉันไปรับดีล่ะ”
จันทร์แรมนิ่งเงียบคิดอยู่นานระหว่างนั้นเธอก็ได้ยินเสียงทางปลายสายเหมือนคุยกันเสียงดังเดาว่าแฟนหนุ่มของจันทร์แรมกลับมาพอดี และเขาก็แย่งโทรศัพท์มาคุยเอง
“ไม่ต้องมาหลอกกันกูรู้ว่าคนอย่างไอ้วายุมันไม่ปล่อยให้คนโกงเงินมันมีชีวิตอยู่หรอก เงินมึงมีตั้งเยอะก็แบ่งมาใช้หนี้ให้กันบ้างสิผัวก็ไม่มีจะเก็บเงินไว้ทำไมเยอะแยะ แล้วไม่ต้องโทรมาแล้วนะยังไงพวกกูก็ไม่กลับ” พีรพลพูดจาหยาบคายและเสียงดังลั่น จากนั้นก็วางสายไปทันที
“สาวโสดไม่ต้องใช้เงินซื้อข้าวหรือไง เพราะมีผู้ชายแบบนี้เยอะน่ะสิฉันถึงอยู่เป็นโสด” เธอพูดคนเดียวแล้วถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ เมื่อกี้จันทร์แรมเกือบจะใจอ่อนยอมบอกเธออยู่แล้วเชียวว่าอยู่ที่ไหน สงสัยงานนี้เธอต้องใช้หนี้เองเสียแล้วคิดแล้วก็ทั้งเครียดและเสียดาย
...
อีกด้านหนึ่งของเมืองวายุนั่งจิบวิสกี้ชั้นดีอยู่ในห้องพักสุดหรูของตัวเอง คืนนี้เขาไม่ได้เรียกผู้หญิงมาสนุกด้วยเพราะตอนนี้ในหัวเขามีแต่หน้าผู้หญิงที่หยิ่งและเล่นตัวเท่านั้น หลังจากที่ทัดดาวออกจากผับไปเขาก็สั่งให้ลูกน้องคอยตามดูหญิงสาวต่อไป
“ไม่มีผู้หญิงไหนกล้าปฏิเสธผมหรอกนะทัดดาว อยากจะรู้นักว่าจะเล่นตัวไปอีกนานแค่ไหน”
++++++