บทที่ 7 ปกป้องคุ้มครอง 2

1229 Words
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” “เชิญ!” วายุพูดแล้วเปิดแฟ้มเอกสารเสียงดัง “อารมณ์แปรปรวนอย่างกับผู้ชายวัยทอง” ทัดดาวบ่นคนเดียวเบา ๆ แล้วเดินออกจากห้องทำงานใหญ่ไป ... วายุเงยหน้ามองเลขาฯ สาวที่นั่งเงียบไม่พูดจาแถมยังดูเหม่อลอยทำหน้าเครียด ๆ อีกต่างหาก เขาเลือกอยู่หลายครั้งแต่ทัดดาวก็ไม่ตอบ “ทัดดาว!” เขาเรียกอีกครั้งแต่ครั้งนี้เสียงดังกว่าเดิม ทำให้เจ้าของชื่อถึงกับสะดุ้งไปเลยทีเดียว “มีอะไรหรือเปล่าคะ” ทัดดาวรีบถามออกมาเมื่อได้ยินเสียงเจ้านายเรียกเสียงดัง แถมใบหน้าคมดุยังมองเหมือนตำหนิเธออีกด้วย “ผมไม่มีแต่คุณน่ะมีอะไรหรือเปล่าผมเรียกตั้งนานคิดอะไรอยู่” เขาถามด้วยความแปลกใจเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ทัดดาวมีอาการแบบนี้ในเวลางาน “ขอโทษค่ะ” “แล้วตกลงคุณมีเรื่องอะไรทำไมมานั่งเหม่อแบบนี้ในเวลางาน” “ไม่มีอะไรค่ะ ฉันขอตัวออกไปทำงานต่อก่อนนะคะ” พูดจบทัดดาวก็รีบลุกออกจากห้องไปทันที วายุมองตามร่างบางที่เดินหนีออกไปจากห้อง ด้วยความที่เป็นคนช่างสังเกตเขารับรู้ได้ว่าทัดดาวมีอะไรบางอย่างปิดบังอยู่ และเขาจะต้องรู้ให้ได้ หลังเลิกงานทัดดาวขับรถออกจากบริษัทแล้วมาจอดที่หน้าตลาดแถวคอนโด เพราะอาหารสดที่ซื้อตุนไว้หมดแล้วเธอเลยแวะซื้อของ แต่ตอนที่กำลังเดินซื้อของอยู่นั้นก็รู้สึกว่าถูกมองจากด้านหลังพอหันไปดูก็ไม่มีอะไรจะว่าไปช่วงสามสี่วันนี้เธอก็รู้สึกแบบนี้ตลอด บางทีประตูห้องพักก็มีเสียงเคาะพอไปส่องช่องตาแมวดูก็ไม่เห็นมีใคร เธอไม่อยากคิดว่าจะเป็นจันทร์แรมกับแฟนหนุ่มหรือเปล่า เพราะเมื่ออาทิตย์ก่อนนายพีรพลโทรมาขอยืมเงินจากเธออีกบอกว่าจันทร์แรมไม่สบาย เธอเลยได้รู้ว่าจันทร์แรมยังไม่เลิกกับแฟนหนุ่ม เธอปฏิเสธว่าไม่มีเงินให้ยืมชายหนุ่มคนนั้นก็ต่อว่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคายและหลังจากนั้นเธอก็บล็อกเบอร์โทรไปเลย “คิดมากไปเองมั้ง พวกนั้นบอกอยู่ต่างจังหวัดจะมาที่นี่ได้ยังไง” เธอปัดสิ่งที่คิดออกจากหัวแล้วตอนที่กำลังจะเดินข้ามถนนในซอยเล็ก ๆ กลับไปที่รถอยู่ ๆ เธอก็ได้ยินเสียงมอเตอร์ไซต์ดังเข้ามาใกล้พร้อมกับเสียงร้องของคนแถวนั้น “ว๊าย!! ระวังคุณ” เสียงร้องเตือนดังขึ้นแต่ดูเหมือนจะไม่ทันเพราะตอนที่เธอหันไปมองรถมอเตอร์ไซต์คันนั้นก็พุ่งเข้ามาชนเธอพร้อมกับกระชากกระเป๋าติดมือไปด้วย ทัดดาวล้มศีรษะฟาดพื้นและสลบไปทันทีเพราะแรงกระแทกที่เข้ามาอย่างจังทำให้โดนชนเข้าไปเต็มแรง ชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้นต่างก็วิ่งเข้ามาดู บางคนก็กำลังจะแตะตัวและเขย่าให้ตัวหญิงสาวให้ฟื้นต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงเข้มดุดังขึ้นมาจากข้างหลัง “อย่าเพิ่งจับตัวคนเจ็บ!!” “นพคุณโทรเรียกรถพยาบาลเร็วเข้า” วายุตะโกนสั่งลูกน้องคนสนิทเสียงดังลั่น “ทัดดาว ๆ คุณได้ยินที่ผมเรียกไหม” เขาเรียกและแตะตัวเบา ๆ ถึงตอนนี้ชาวบ้านพอจะรู้แล้วหนุ่มหล่อคนนี้คงรู้จักกับหญิงสาวที่ถูกรถชนแน่ ๆ “เดี๋ยวรถพยาบาลก็มาแล้วครับนาย” นพคุณบอกเจ้านายออกมาพร้อมกับมองไปรอบ ๆ “คุณธรรมตามมันทันไหม” วายุถามลูกน้องอีกคนที่วิ่งตามรถมอเตอร์ไซต์คันนั้นไปตั้งแต่เห็นมันชนหญิงสาวแล้ว “ไม่ทันครับนายมันขี่รถเร็วมากซอกแซกเข้าซอยไปทั่วเลย แต่ผมจำทะเบียนรถมันได้เดี๋ยวผมจะให้คนตรวจสอบให้นะครับ” คุณธรรมพูดเสียงหอบ ๆ “จัดการให้เรียบร้อยให้ ไม่ว่ามันจะเป็นใครลากคอมันมาให้ได้” วายุสั่งเสียงเข้มแววตาน่ากลัวดุดัน นึกแล้วอดโมโหตัวเองที่ทำอะไรช้าจนเป็นเหตุให้ทัดดาวต้องเจ็บตัวแบบนี้ เขารู้สึกแปลกใจเพราะตลอดทั้งวันหญิงสาวดูเหมือนมีเรื่องอะไรบางอย่างพอเลิกงานเขาก็สั่งให้คุณธรรมขับรถตามทัดดาวมาห่าง ๆ ระหว่างที่เขานั่งมองหญิงสาวกำลังจะข้ามถนนสายตาก็หันไปเห็นรถมอเตอร์ไซต์คันหนึ่งพุ่งไปข้างหน้าซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับที่ทัดดาวยืนอยู่ ตอนนั้นเขาตกใจมากรีบเปิดประตูรถแล้ววิ่งไปอย่างรวดเร็วและตอนที่กำลังจะตะโกนบอกให้อีกฝ่ายระวังตัว แต่ก็ไม่ทันทัดดาวล้มลงต่อหน้าต่อตาเขาเลย “เดี๋ยวฉันจะไปกับทัดดาว พวกนายก็ขับรถตามมาแล้วกัน” พูดจบวายุก็กระโดดขึ้นรถพยาบาลไปทันที ++++++ หลังจากที่ส่งทัดดาวถึงมือหมอแล้วเขาก็นั่งรออยู่ด้านหน้าห้องฉุกเฉิน และตอนนั้นเองเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินเข้ามาหาเพราะมีคนโทรไปแจ้งว่ามีคนถูกชนแล้วหนีแถมยังลักทรัพย์ของผู้เสียหายไปอีก ตอนที่ไปถึงก็เห็นว่าคนเจ็บขึ้นรถพยาบาลไปแล้วพวกเขาเลยต้องขับรถตามมาที่นี่ “สวัสดีครับคุณวายุ” ตำรวจนายหนึ่งทักทายชายหนุ่มที่รู้จักกันดี “สวัสดีครับผู้กองวิษณุ” เขาเอ่ยทักทายกลับไปพร้อมกับยทำหน้าแปลกใจว่าเพราะอะไรทำไมตำรวจนายนี้ถึงมาอยู่ที่นี่ “พอดีมีชาวบ้านโทรไปแจ้งว่ามีเหตุชนแล้วหนีผมเลยมาดู แต่เห็นว่าคนเจ็บมาที่นี่ผมเลยตามมาครับ” เพราะสถานทีตำรวจอยู่ไม่ห่างจากที่เกิดเหตุมากนักทำให้มาถึงเร็ว และชาวบ้านก็ตาไวเห็นชื่อโรงพยาบาลพวกเขาเลยตามาถูก ตอนนั้นเองประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดออกพร้อมกับคุณหมอหนุ่มที่เป็นเพื่อนสนิทของวายุนั่นเอง “ทัดดาวเป็นยังไงบ้างหมอกานต์” วายุรีบพุ่งไปถามอาการของเลขาฯ สาวทันที “ไม่เป็นอะไรมาก แค่หัวแตกหัวเข่าแตกและมีรอยฟกช้ำตามร่างกาย” หมอหนุ่มบอกเพื่อนรัก “ตรวจดีแล้วเหรอ สมองล่ะเป็นอะไรหรือเปล่า” “ตรวจแล้วไม่มีเลือกคั่งที่สลบไปคงเพราะตกใจมากกว่า เดี๋ยวรอคุณทัดดาวฟื้นค่อยเช็คอีกที” วายุถอนหายใจออกมาแล้วสั่งให้นพคุณไปจัดการเรื่องห้องพัก ส่วนตัวเองก็เดินไปคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตอนนี้ทัดดาวยังไม่ฟื้นคงยังให้ปากคำอะไรไม่ได้ และเขาเองก็ไม่คิดจะแจ้งความด้วยซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พอจะเข้าใจแต่ก็พูดเตือนว่าอย่าทำอะไรที่มันรุนแรงมากไปนัก “นายจะให้ผมจ้างพยาบาลพิเศษหรือจะให้ผมโทรหาเพื่อนของคุณทัดดาวไหมครับ” นพคุณถามเจ้านายที่ตอนนี้นั่งอยู่ข้างเตียงหญิงสาว +++++
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD