Ep.3 หลีกเลี่ยงไม่ได้
พอร์ชนั่งจิบไวน์ไปเรื่อยๆ ภายในใจมันกลับคิดไม่ตกเรื่องกอหญ้า อยากเข้าหาจะต้องเริ่มจากตรงไหนก่อนดี บอกเลยว่ากอหญ้าในตอนนี้สวยหวานถูกใจเขามาก ถึงแม้ว่าสเปกเขาจริงๆ จะชอบอีกแบบนึงก็ตาม แต่สาวหวานก็ไม่เลว น่าสนใจ
ไวกว่าความคิด เขาอยากรู้ว่าที่ผ่านมากอหญ้าเป็นอย่างไรบ้าง เขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อเข้าแอพ ไอ-จี เปิดดูความเคลื่อนไหวที่ผ่านมาของเธอ แต่ทำไมแอบรู้สึกขัดใจนิดหน่อยที่เห็นรูปกอหญ้ายิ้ม เธอยิ้มหวานยิ่งกว่าตอนที่มีเขาอยู่ในช่วงเวลานั้นอีก
“ยิ้มสดใสอะไรขนาดนั้นวะ”
… “แล้วไอ้นั่นมันเป็นใคร”
มีรูปภาพหนึ่งที่พอร์ชเลื่อนเห็นคือกอหญ้าถ่ายรูปคู่ผู้ชายคนนึงที่อายุโตกว่าเธอ แม้กอหญ้าจะยิ้มหวานใส่ตากล้อง แต่ผู้ชายคนนั้นส่งยิ้มหวานและสายคู่นั้นตามองกอหญ้าอย่างไม่ละสายตา สายตาแบบนั้น... ผู้ชายด้วยกันมันมองออก
ยังดีที่กอหญ้าไม่บล็อกเขา ใจจริงเขาก็คิดว่ากอหญ้าอาจจะบล็อกเขาไปแล้วด้วยซ้ำ และหลังจากนั้นเขาไม่เคยเข้าไปดู ไอ-จี เธออีกเลยจนกระทั่งวันนี้…
กอหญ้าในตอนนั้นเธอตั้งใจไม่บล็อกช่องทางการติดต่อ เธอแค่ลบออกอย่างเดียว เธอใจเด็ดมากพอสามารถหักดิบได้ เจ็บแค่ไหนก็ทน ถึงแม้จะลบแต่ก็ไม่บล็อก เธอก็ยังจำเบอร์โทรและช่องทางอื่นๆ ได้หมด แต่เธอก็ไม่เคยกดเข้าไปดูอะไรที่เกี่ยวกับพอร์ชอีกเลย เห็นหน้าตาหวานสวยหวานขนาดนี้ แต่ถึงเวลาต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่างก็ใจเด็ดไม่แพ้ผู้ชายเลยเช่นกัน
ในเมื่อความอยากเข้าหากอหญ้ามันมีมากล้นออกปากขนาดนั้น เขาไม่รอช้าที่จะหยิบโทรศัพท์แล้วกดเลื่อนหารายชื่อกอหญ้าที่เขาเองก็ไม่เคยลบมันออกเช่นกัน กดโทรหาปลายสายทันที
ทว่า… เธอไม่รับสาย
ด้านกอหญ้า
กอหญ้ากำลังนั่งฟังเพลงด้วยความอารมณ์ดี ใช้โทรศัพท์เชื่อมต่อกับลำโพงตัวจิ๋ว แต่เสียงดังทั่วทั้งห้องของเธอ วันนี้ที่เธอได้เจอพอร์ชก็ไม่ได้รู้สึกว่าต้องตกใจหรือประหม่าอะไร เพราะเธอมั่นใจว่ายังไงก็ต้องเจอ เธอทำใจไว้ก่อนอยู่แล้ว เพราะโนเนที่ตั้งใจว่าจะกลับมาเพื่อทวงคืนความรักจากรุ่นพี่ แน่นอนว่าเธอเองก็ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงให้ไม่เจอพอร์ชได้ การที่เจอกันโดยบังเอิญในวันนี้ เธอไม่ได้รู้สึกประหม่าเลยสักนิด แต่ ทว่าเสียงเพลงที่ดังอยู่ก็ต้องหยุดชะงักไปเพราะมีสายเรียกเข้าโทรเข้ามา
กอหญ้ามองมือถือที่สั่นอยู่ด้วยแววตาราบเรียบ เธอยังคงจำเบอร์โทรเขาได้ไม่เคยลืมว่านี่เป็นเบอร์โทรของรุ่นพี่ใจร้ายคนนั้น
โทรมาทำไม?
นี่คือคำถามที่เปล่งอยู่ในใจโดยที่เธอไม่ได้เอ่ยออกมา
กอหญ้าไม่ได้สนใจอะไร เธอปล่อยให้โทรศัพท์มันสั่นไปแบบนั้นจนกระทั่งหยุดสั่นไปเอง
ก่อนหน้านี้เธอกำลังร้องเพลงเกาหลีอย่างสบายใจอยู่แล้วเชียว ตอนนี้ก็เลยหมดอารมณ์ที่จะฟังเพลงต่อ เธอดูท้องฟ้าตอนนี้ยังไม่ค่ำมาก จึงออกไปร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อขนมและนมมาเก็บไว้ ส่วนอาหารแช่แข็งเธอขอโบกมือลา ที่บ้านเธอทำธุรกิจส่งออกอาหารแช่แข็งอยู่แล้ว แน่นอนว่าทานจนเบื่อ เพราะแม่ของกอหญ้ามักจะให้เธอทดลองรสชาติเป็นประจำ เพราะฉะนั้นเธอขอโบกมือลาอาหารแช่แข็งไปก่อนเลย กอหญ้าจึงเลือกที่จะทำอาหารทานเองมากกว่า แต่หากวันไหนเพื่อนชวนทานข้าวหลังเลิกเรียนก็ย่อมได้
วัตถุดิบต่างๆ พวกของสด หรือผักต่างๆ คงต้องรอไปซื้อวันอื่นแทน วันนี้ขอไปเหมาขนมและเครื่องดื่มก่อนที่จะดึกไปกว่านี้ ไม่รอช้า กอหญ้าก็ขับรถคันหรูออกจากคอนโดไปทันที
เธอหาร้านสะดวกซื้อที่ใกล้ที่สุด ซึ่งขับรถอออกมาประมาณห้ากิโลเมตรก็เจอ แต่จะเป็นร้านสะดวกที่อยู่ในปั้มน้ำมัน กอหญ้าขับรถคันหรูไปจอดยังช่องจอดรถ จากนั้นเธอก็เดินไปซื้อของที่ต้องการ เมื่อพอใจแล้วก็เดินมาจ่ายเงิน ของที่เธอซื้อทั้งหมดสามถุงใหญ่ๆ ใครผ่านมาเห็นก็คงคิดว่าซื้อไปทานกันหลายคน แต่เปล่าเลยเธอทานคนเดียว กอหญ้าหยิบกุญแจรถออกจากกระเป๋าสะพายอย่างทุลักทุเล เพราะมือของเธอตอนนี้ถือของพะรุงพะรัง
ตุบ!
ขวดนมกลิ้งไปตามพื้น เพราะหล่นออกจากถุงพลาสติกในตอนที่กอหญ้ากำลังหยิบกุญแจรถออกจากกระเป๋าสะพาย
“ทำไมถึงกลิ้งไปไกลขนาดนั้น”
กอหญ้าบ่นพึมพำเบาๆ และกำลังเดินก้มหน้าตามขวดนมขวดนั้นไป
... “โอ๊ะ ขอบคุณนะคะ” เธอเอ่ยขอบคุณคนที่ใจดีเก็บขวดนมให้โดยที่ยังไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองคนนั้น แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นเพื่อมองคนตรงหน้าแล้ว… คนที่เธอไม่คิดว่าจะเจอได้ที่นี่
“...”
“...”
“ไง เราสบายดีไหม”
“...”
“อย่าบอกนะว่าจำพี่ไม่ได้จริงๆ”
“ขอขวดนมคืนด้วยค่ะ”
“คำพูดฟังดูห่างเหินจังเลยนะ”
“ค่ะ ก็ไม่สนิทกัน”
“เรายังโกรธพี่อยู่เหรอ”
“ไม่ได้โกรธค่ะ”
“...” พอร์ชเผยยิ้มกว้างไปถึงดวงตา เขาดีใจที่กอหญ้าไม่โกรธเขา แต่ทว่าก็เป็นรอยยิ้มที่เกิดขึ้นเพียงไม่นาน ภายในสามวินาทีเท่านั้น มันช่างรวดเร็วจนไม่ทันตั้งตัว
“แต่เกลียด”
“...”
กอหญ้าแย่งขวดนมจากมือพอร์ช จากนั้นเธอก็รีบก้าวขาเรียวขึ้นรถและขับรถออกไปทันที
โดนตบหน้ายังไม่เจ็บเท่าคำพูดที่กระแทกหน้าแบบนี้ เขาคิดแค่ว่าก็แค่ความรักในวัยเด็ก ทำไมกอหญ้าถึงได้จริงจังนัก ทำไมถึงได้ผูกใจเจ็บมานานขนาดนี้ เขายืนจุดเดิมพลางคิดถึงเรื่องในวันวาน หากจะบอกว่ากอหญ้ารักเขามากขนาดนั้นก็คงไม่ไม่ทางเป็นไปได้เพราะคบกันแค่ระยะเวลาอันสั้น และเรื่องนี้ก็ไม่มีเพื่อนคนไหนรู้ เขายืนคิดอยู่นานสองนานจนกระทั่งมีคนกดแตรรถไล่เขา เพราะเขากำลังยืนขวางทางอยู่ เมื่อได้สติเขาจึงรีบเดินเข้าร้านสะดวกซื้อเพื่อไปซื้อบุหรี่ ที่เขาออกมาเขาตั้งใจจะมาซื้อสิ่งนี้ แต่ไม่คิดว่าจะได้เจอกอหญ้า เมื่อซื้อของที่ต้องการแล้ว เขาก็กลับรถกลับคอนโดทันที ในระหว่างทางมีอุบัติเหตุรถชนกันข้างหน้า แต่รถคันนั้นมันคุ้นตาซะเหลือเกิน คุ้นจนเขารีบก้าวขายาวออกจากรถไปยังรถคันนั้นทันที
พอร์ชได้ยินเสียงโวยวายของคู่กรณีที่ขับรถเก๋งคันคุ้นตา ซึ่งเป็นเสียงโวยวายของคนที่ขับรถบิ๊กไบค์และยังมีสภาพคล้ายคนเมาที่ดูท่าทางไม่ปกติสักเท่าไหร่
“หญ้า เจ็บตรงไหนไหม”
“มึงเป็นใครวะ เป็นผัวอีนี่ใชไหม งั้นก็ดีเอาเงินมาให้กู รถกูเป็นรอยขนาดนี้ต้องรับผิดชอบ”
“ฉันไม่ได้ผิดนะ คุณผ่าไฟจราจรมาต่างหาก”
“กูไม่ได้ผ่า เอาเงินมา”
“มึงหุบปากไปก่อน เปิดกล้องดูก็รู้ว่าไม่ผ่าไฟจราจรจริงไหม”
“...” ชายหนุ่มคนนั้นเริ่มมีท่าทีกังวลใจ เพราะเขารู้ตัวว่าตัวเองเมาและผ่าไฟจราจรมาจริงๆ แต่ก็ลองจับเสือมือเปล่าดูก่อน เผื่อว่ารถของกอหญ้าจะไม่มีกล้อง
“...”
“รถเรามีกล้องหรือเปล่า”
“มะ.. มีค่ะ มีครบ”
กอหญ้าบังคับตัวเองไม่ให้เสียงสั่นไปกว่านี้ เพราะเธอยังตกใจกับเหตุการณ์ที่รถขับปาดหน้าและเธอก็ได้ชนกับรถบิ๊กไบค์ ถึงจะไม่ได้ชนแรง เธอก็ยังตกใจอยู่ดี เธอทำอะไรไม่ถูก เกือบได้จ่ายเงินให้กับคู่กรณีไปโดยที่ยังไม่เปิดกล้องหน้ารถสักนิด ดีที่พอร์ชมาเจอเข้ายังพอดึงสติของคนตัวเล็กได้บ้าง
ในระหว่างที่พอร์ชจัดการไล่ดูช่วงระยะเวลาที่รถชนกัน เขาก็ได้โทรหาคุณอาของเขาที่เป็นตำรวจให้มาช่วยเคลียร์และมาปรับข้อหาเมาแล้วขับด้วย และเมื่อมั่นใจแล้วว่าคนที่ผิดเป็นผู้ชายคนนั้นจริง พอร์ชเคลียร์ทุกอย่างโดยที่กอหญ้าไม่ต้องจ่ายค่าทำขวัญใดๆ เพราะกอหญ้าไม่ได้ผิด
และตอนนี้กอหญ้าสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยสักนิด เหตุการณ์นี้มันทำให้เธอตกใจและเสียขวัญ ปกติแล้วกอหญ้าไม่ค่อยมั่นใจในการขับรถกลางคืนอยู่แล้ว แต่เธอต้องออกมาซื้อของ แต่ก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ มันเลยทำให้กอหญ้ายังคงตกใจมากกับเหตุการณ์นี้อยู่
✨✨✨