ตอนที่6

1188 Words
“เห้อ งั้นเราคงต้องเรียกพี่กวินทร์ว่า เจ๊วินนี่!สินะ” เมยาวีไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเพ้อเจ้อเลยแม้แต่น้อย กลับคิดว่าสิ่งที่เธอกำลังคิดอยู่เป็นเรื่องจริง ‘งั้นต่อไปเราต้องทำให้เขาเปิดเผยตัวเองกับเราให้ได้ เราจะได้เป็นแม่ลูกกันจริง ๆ’ เมยาวีคิดพลางนึกถึงภาพตอนนั้น ตอนที่เธอเรียกกวินทร์ว่าคุณแม่ แล้วพากันเดินกันไปช้อปปิ้งเสื้อผ้าเครื่องสำอาง เอาจริง ๆ ถึงจะเสียดายความหล่อ แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆมันก็ไม่เลวนะ ใบหน้าของเมยาวีเผยรอยยิ้มบางๆด้วยความสุขจากจินตนาการ ในขณะที่ดวงตาของเธอมองไปยังประตูห้องทำงานด้านในด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยแววเอ็นดูอย่างประหลาด กวินทร์เดินออกมาจากห้องทำงานส่วนตัวอีกครั้ง เขายังคงอยู่ในชุดเสื้อยืดออกกำลังกายสีเข้ม ความเคร่งขรึมของเขาแผ่รังสีออกมาตั้งแต่ระยะไกล เขาสังเกตเห็นทันทีว่าเมยาวีกำลังนั่งเหม่อ และเอาแต่นั่งมองประตูห้องทำงานของเขาด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้มแปลก ๆ รอยยิ้ม ที่ปรากฏบนใบหน้าของเธอยิ่งทำให้กวินทร์ตีความว่าเธอคิดถึงเพื่อนของเขา ที่ตอนนี้เขาไล่กลับไปแล้วหรือเปล่า "เสร็จหรือยัง?" กวินทร์ถามเสียงต่ำ เขายืนเท้าสะเอวอยู่ข้างโต๊ะทำงาน เมยาวีจึงเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยสายตาที่ใสซื่อและช่างสังเกต "ยังไม่เสร็จค่ะ พี่กวินทร์" เมยาวีตอบอย่างใจเย็น เธอมองสำรวจใบหน้าคมคายของเขาอีกครั้ง พยายามหา 'เจ๊วินนี่' ที่ซ่อนอยู่ในตัวเขาให้ได้ "ทำงานต่อ" กวินทร์สั่งเสียงต่ำ เมยาวีนึกอยากลองพิสูจน์ความเป็นเก้งของเขาขึ้นมาซะดื้อ ๆ "พี่กวินทร์คะ เมย์ว่าตรงนี้มันมี... มีฝุ่นติดเสื้ออยู่หน่อยนึงค่ะ" เมยาวีเอ่ยเสียงแผ่ว แล้วจงใจยื่นนิ้วไป ปัดฝุ่นที่เสื้อเขาออกจากไหล่ของเขาเบา ๆ จงใจสัมผัสเขาตรง ๆ กวินทร์ชะงักไปชั่วขณะ ดวงตาคมกริบของเขาจ้องตรงมาที่ใบหน้าของเธอด้วยความประหลาดใจ "ทำอะไรของเธอ!" "ก็แค่ปัดฝุ่นที่เสื้อให้ค่ะ" เมยาวียิ้มอย่างใสซื่อ แต่ในใจกลับคิดว่า ‘โดนตัวไม่ได้แบบนี้ใช่แล้วหนึ่ง’ "กลับไปทำงาน" กวินทร์ตวาดเสียงกร้าว เพราะเขาไม่ชอบให้ใครมาแตะเนื้อต้องตัวถ้าไม่จำเป็น แต่เมยาวีไม่ยอมแพ้ เธอจะทำให้เขาเปิดเผยตัวเองให้ได้ "แต่พี่กวินทร์คะ" “อุ้ย!” หญิงสาวเดินสะดุดและแกล้งล้มเซใส่เขาอย่างอ้อยอิ่งเพื่อให้ตัวเบียดกับเขาเล็กน้อยจากนั้นสังเกตสีหน้าของเขาว่าเป็นอย่างไร อารมณ์ที่บังเกิดจากธวัฒน์เมื่อครู่ยังไม่ได้หายไปไหน และตอนนี้เขากำลังโดนเธอยั่วยวนด้วยการสัมผัสที่เขาก็รู้ว่าหล่อนจงใจ เขาใช้มืออีกข้างคว้าเอวของเมยาวี แล้วออกแรงดึงเธอเข้าหาตัวอย่างรวดเร็ว จนเธอต้องเงยหน้าขึ้นสบตากับเขาในระยะเผาขน เมยาวี ตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ "เธอพยายามจะทำอะไรเมยาวี?" กวินทร์ถามเสียงต่ำพร่าดวงตาของเขาฉายแววบางอย่าง "เธอกำลังทดสอบอะไรกันแน่" เขาใช้มือที่ยังคงบีบเอวเธออยู่ ยกตัวเธอขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ร่างกายของเธอลอยและแนบชิดกับร่างกายกำยำของเขา เมยาวี สัมผัสได้ถึงความร้อนที่แผ่ออกมาจากตัวเขา และความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ ไม่เห็นมีร่องรอยของแม่วินนี่สักนิด แต่ว่า ไม่เชื่อหรอก! กำลังทำแมนอยู่น่ะสิ คิดว่าขู่แค่นี้จะเชื่อเหรอ เมยาวีคิดอย่างถือดี ดวงตาที่มองเขาจึงไม่ได้มีความกลัว กลับมองตอบเขาอย่างท้าทาย กวินทร์มองเห็นแววตานั้น แววตาที่กำลังท้าทายเขาอย่างเต็มที่ ความรู้สึกที่เขากำลังพยายามควบคุมไว้ กำลังพังทลายลงในไม่ช้า "ปล่อยเมย์ได้ยังคะ" "ปล่อย?" กวินทร์แค่นเสียงในลำคอ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความขุ่นข้อง เขาไม่เคยถูกผู้หญิงคนไหนท้าทายแบบนี้มาก่อน เขากดร่างของเธอให้ติดกับแผ่นหลังของเก้าอี้ มือที่ท้ายทอยยังคงกดแน่นไว้ไม่ให้เธอหนีไปไหนได้ กลิ่นเหงื่อจาง ๆ และกลิ่นน้ำหอมที่ปะปนกันลอยเข้ามาแตะจมูก "เธอคิดว่าพี่เป็นอะไร?" กวินทร์กระซิบเสียงต่ำถามอย่างรู้ทันความคิดของเธอ พลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนริมฝีปากของเขาสัมผัสกับแก้มของเธอ "เธอคิดว่าพี่ต้องมานั่งพิสูจน์ความเป็นชายให้ผู้หญิงที่พี่จ่ายเงินซื้อมาดูงั้นเหรอ!" “ห้ะ! พี่กวินทร์รู้” เมยาวีอ้าปากค้าง แต่กวินทร์ไม่ตอบ เขาตัดสินใจใช้การกระทำบทพิสูจน์แทน เขาใช้มือข้างหนึ่งจับใบหน้าของหญิงสาวไว้ ก่อนจะประกบริมฝีปากลงมาอย่างรวดเร็วและรุนแรง จูบแรกของเธอ! เมยาวีดวงตาเบิกโพลง เธอไม่ทันคาดคิดว่าจะโดนจูบสักนิด จูบหนักหน่วงของเขาบดขยี้ริมฝีปากของเธออย่างหนัก ปลายลิ้นร้อนบุกรุกเข้ามาในช่องปากของเธออย่างรวดเร็ว เมยาวีพยายามดิ้นแต่ก็แพ้ให้กับอำนาจและความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง ความร้อนผ่าวของความปรารถนาเข้าครอบงำประสาทสัมผัสของหญิงสาวในทันที จูบนั้นยาวนานและดุดัน จนกระทั่งเมยาวีเริ่มหายใจติดขัด ร่างกายอ่อนยวบไร้ซึ่งความต่อต้านใด ๆ จากสัมผัสแปลกใหม่เป็นครั้งแรกที่เธอเพิ่งจะได้รับ เมื่อกวินทร์ผละออก ริมฝีปากของเมยาวีก็บวมแดงและชื้นแฉะ ดวงตาของเธอมองเขาด้วยความตกตะลึงอย่างถึงที่สุด ความคิดที่เคยกล่าวหาว่าเขาเป็นเก้งโดนทำลายลงอย่างสิ้นเชิง กวินทร์มองใบหน้าที่ซีดเผือดของเธอ ก่อนจะยืดตัวขึ้นช้า ๆ "จำไว้นะเมย์" กวินทร์พูดเสียงต่ำเสียงของเขาหอบเล็กน้อย "ถ้าพี่อยากให้ใครมาดูแลเรื่องเสื้อผ้าให้... พี่จะจ้างสไตลิสต์! แต่ถ้าพี่อยากใช้สิทธิ์ที่จ่ายไปแล้ว...ให้รับรู้ไว้ว่าพี่จะใช้ในฐานะผู้ชายที่ซื้อเธอมา ซึ่ง เธอไม่มีสิทธิ์สงสัย!" เขาปล่อยให้เธอเป็นอิสระทันที แล้วเดินกลับไปยังห้องทำงานส่วนตัวโดยไม่หันกลับมามองเธออีกเลย เมยาวีทรุดตัวลงบนเก้าอี้ด้วยความสั่นสะท้าน เธอสัมผัสริมฝีปากที่เพิ่งโดนจู่โจมอย่างเหม่อลอย ตอนนี้เธอรู้แล้วว่า กวินทร์ ไม่ใช่เก้ง ‘เป็นบ้าอะไรยัยเมย์ เธอไม่ควรเขิน เธอควรโกรธเขา โกรธเขาจนแทบอยากจะตบหน้าเขาด้วยซ้ำ’ เมยาวีเตือนสติตัวเอง แต่ยิ่งเตือนก็ยิ่งย้ำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เธอโดนเขากระทำเมื่อครู่ เป็นสัมผัสที่เธอชอบ และตอนนี้หัวใจเธอก็เต้นแรงมาก มากจนแทบจะกระโดดออกมาจากอก ‘รักเขาแล้วใช่ไหม’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD