"เมย์!"
เสียงทักทายที่ดังขึ้นทำให้เธอต้องหยุดเดิน บาส เพื่อนร่วมสาขา เขาคือหนุ่มหล่อหน้าตาดีคนนึงที่มักจะเข้ามาตีสนิทอยู่เรื่อย ๆ ร่างสูงของบาสเดินเข้ามาหาด้วยรอยยิ้มที่สดใส ซึ่งแตกต่างจากความเย็นชาของกวินทร์อย่างสิ้นเชิง
"ว่าไง"
เมยาวียิ้มตอบกลับไป
"นี่เธอกล้าเมินฉันเลยเหรอ?"
บาสทำหน้างอนเล็กน้อย ก่อนจะก้มลงมากระซิบด้วยน้ำเสียงอยากรู้อยากเห็น
"เมื่อกี้... ใครมาส่งเธอน่ะ? รถคันหรูคันนั้นน่ะ เห็นเขาเดินลงมาเปิดประตูให้เธอด้วย ดูเป็นสุภาพบุรุษสุด ๆ"
เมยาวีใจเต้นแรง เธอพยายามรักษาโทนเสียงให้เป็นปกติ
"เพื่อนของพี่ชายนะ พอดีพี่ชายฉันขอให้เขามาช่วยดูแล"
"ดูแลเนี่ยนะ?" บาสเลิกคิ้วอย่างไม่เชื่อ
"ฉันเห็นเขาจ้องเธอตั้งแต่รถออกตัวเลยนะ สายตาแบบนั้นมันไม่เหมือนแค่ เพื่อนพี่ชายเลยสักนิด"
บาสยื่นหน้าเข้ามาชิดกว่าเดิม
"บอกฉันได้มั้ยว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร? ฉันเป็นห่วงเธอนะเมยาวี ถ้าเธอโดนใครหลอก... "
เมยาวีผงะถอยหลังออกมาเล็กน้อย การถูกสอบสวนแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกอึดอัด แม้จะรู้ว่าบาสไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดีก็ตาม
"ฉันดูแลตัวเองได้ เขาไม่ได้หลอกฉัน และฉันก็ไม่ได้มีอะไรให้เขาหลอก"
"จริงเหรอ?" บาสยังไม่ละความพยายาม
"ฉันเห็นผู้ชายคนนั้นดูมีอายุมากกว่าเราหลายปีนะ ถ้ามีอะไรไม่สบายใจบอกฉันได้ตลอดเลยนะ"
“เขาอายุสามสิบปี ยังไม่ได้มีครอบครัวและยังไม่ได้มีอายุมากกว่าเราขนาดนั้น”
เมยาวีพูดขึ้นอย่างรู้ทันในความคิดของบาส คงคิดว่าเสี่ยที่มีเมียแล้วมาจีบเธอแน่ ๆ
แต่ก่อนที่บาสจะพูดคำต่อไป เมยาวีก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่ออาจารย์เดินเข้ามาในห้องเรียนพอดี ทำให้บทสนทนาสิ้นสุดลง แต่คำพูดของบาสก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัว
ตลอดทั้งวัน เมยาวีพยายามทำตัวให้เป็นปกติ เธอเข้าเรียนอย่างตั้งใจ แต่ในใจก็กังวลว่ากวินทร์จะมารับเมื่อไหร่ และเขาจะทำตัวเป็นเจ้าชีวิตของเธอต่อหน้าเพื่อน ๆ มั้ยนะ
‘นี่เรากลัวคนอื่นรู้ หรือว่ากลัวเขาไม่รับสถานะอื่นกันแน่นะยัยเมย์’
ในช่วงเลิกเรียน ขณะที่เมยาวีกำลังเดินไปเข้าห้องน้ำ อยู่ ๆ ข้อความจากกวินทร์ก็ดังขึ้น
กวินทร์: พี่อยู่หน้าคณะแล้ว
เมยาวีอ่านแต่ไม่ได้ตอบนอกจากพยายามรีบเข้าห้องน้ำให้เสร็จ ไม่คิดว่ากวินทร์จะมาเร็วขนาดนี้
เธอเร่งฝีเท้ากลับไปยังประตูคณะอย่างร้อนรน เมื่อเห็นรถสปอร์ตคันหรูของเขาจอดเด่นอยู่ กวินทร์กยืนพิงประตูรถด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย
เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่เปิดประตูรถให้เธอ เมยาวีรีบเข้าไปนั่งโดยไม่สบตา
"เมย์ขอโทษค่ะที่ให้รอนาน"
เธอเอ่ยเสียงเบา กวินทร์ไม่ตอบ เขาเพียงแต่ปิดประตูรถอย่างนุ่มนวล เขาขับรถออกไปทันทีโดยไม่เอ่ยอะไรออกมาอีก
ทว่า เส้นทางที่ใช้กลับไม่ใช่ทางกลับคอนโดฯ เมยาวีหันไปมองเขาด้วยความสงสัย
"พี่กวินทร์จะไปไหนคะ?"
"ไปที่ยิมสาขาใหญ่" กวินทร์ตอบเสียงเรียบ
"พนักงานลากลับบ้านต่างจังหวัดด่วนเพราะแม่ไม่สบายน่ะ เธอว่างก็มาช่วยหน่อยล่ะกัน"
เมยาวียังไม่ทันได้เอ่ยถามอะไรต่อ กวินทร์ก็ขับรถเลี้ยวเข้าไปในอาคารฟิตเนสขนาดใหญ่ที่ติดกระจกมืดทึบ เธอเดินตามเขาเข้าไปในส่วนสำนักงาน ซึ่งแยกออกมาจากโซนออกกำลังกาย
"นั่งนี่" กวินทร์วางแฟ้มเอกสารหนาปึกไว้ตรงหน้าเธอ
"นี่คือเอกสารรายรับรายจ่ายที่ยังไม่ได้ลงบัญชี เธอจัดเรียงแล้วคีย์ข้อมูลตามนี้ ส่วนพี่จะไปเคลียร์งานที่ห้องโน้น"
เมยาวีนั่งลงทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย เธอพยายามจดจ่ออยู่กับตัวเลขและใบเสร็จต่าง ๆ เพื่อไม่ให้คิดถึงสถานะอันคลุมเครือระหว่างเธอกับเขา
“สวัสดีคร้าบ!”
ประตูห้องเปิดออก มีผู้ชายหน้าตาดีคนนึงเปิดประตูเข้ามาทำเอาเมยาวีถึงกับสะดุ้งอย่างตกใจ
“อ้าว นายวินทร์ไม่อยู่เหรอครับ” ธนวัฒน์ถามอย่างเป็นกันเอง พร้อมมองสำรวจไปรอบ ๆ
“อ๋อ อยู่อีกห้องค่ะ”
“"ไม่เป็นไร พี่รอห้องนี้ก็ได้ น้องคือนักศึกษาฝึกงานเหรอครับ?" ธนวัฒน์ยิ้มกว้างพร้อมกับส่งสายตากรุ่มกริ่ม ก่อนจะดึงเก้าอี้มานั่งลงฝั่งตรงข้ามโต๊ะที่เมยาวีกำลังทำงานอยู่
"เปล่าค่ะ ไม่ใช่ค่ะ" เมยาวีรีบปฏิเสธ รู้สึกอึดอัดโดนจ้องในระยะใกล้จนเกินไป
"โอเคครับ แต่ว่า..ดูเอกสารกองนี้แล้วปวดหัวแทน"
ธนวัฒน์ลดเสียงลงและโน้มตัวเข้ามาเล็กน้อย
"ไม่น่าเชื่อเลยนะว่านายวินทร์จะจ้างพนักงานผู้หญิงด้วย ปกติที่นี่มีแต่ผู้ชาย"
ธนวัฒน์มองเมยาวีด้วยความสงสัยระคนเอ็นดู
"ชื่ออะไรครับ? คุ้น ๆ ว่าไม่เคยเห็นที่ยิมนี้เลย"
ทันใดนั้น
ประตูห้องทำงานด้านในก็ถูกเปิดออก กวินทร์เดินออกมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึมอย่างถึงที่สุด สายตาเข้มกว่าครั้งไหน ๆ เมื่อเห็นธนวัฒน์นั่งอยู่ใกล้เมยาวีมากเกินไป
"มึงมาทำอะไร?"
กวินทร์ถามเสียงต่ำอย่างไม่เป็นมิตร ธนวัฒน์หันไปหากวินทร์ด้วยรอยยิ้มกวน ๆ
"อ้าว! อยู่ข้างในนี่เอง กูมาเอาเอกสารที่มึงบอกว่าจะให้ดูไงวะ"
กวินทร์ไม่ได้สนใจคำตอบของเพื่อนสนิท แต่ดวงตาของจ้องทั้งคู่ สลับกันไปมา
"มึงไปรอข้างนอก"
กวินทร์สั่งเสียงแข็ง ธนวัฒน์ถึงกับเลิกคิ้วสูงด้วยความแปลกใจกับท่าทีที่ไม่ปกติเท่าไหร่ของเพื่อน
"โห! อะไรวะวินทร์ ให้กูอยู่คุยกับน้องเขาหน่อยไม่ได้เหรอ” ธนวัฒน์พยายามออดอ้อน ด้วยความไม่เข้าใจในอาการหวงก้างนี้
"กูบอกให้ไปรอข้างนอก!"
กวินทร์ย้ำเสียงหนักและมองธนวัฒน์อย่างดุดัน ธนวัฒน์สัมผัสได้ว่ามันเอาจริง และดูเหมือนว่ากวินทร์จะเริ่มโกรธเขาจริงจัง ให้ตายเถอะ
‘ ไอ้วินทร์มันเป็นเอามาก แสดงว่าน้องคนนี้ไม่ธรรมดา’
"เออ ๆ ไปก็ได้วะ! หวงเกินเหตุไปละ"
ธนวัฒน์ยอมแพ้ ยกมือขึ้นเหนือศีรษะ แต่ก่อนเดินออกไป เขาก็ยังไม่วายหันมายิ้มให้เมยาวีเล็กน้อย
"ไว้คุยกันใหม่นะน้อง..."
เมยาวียิ้มก่อนจะพยักหน้า มองธนวัฒน์ที่โดนลากออกไปข้างนอกอย่างทุลักทุเล
‘เดี๋ยวนะ พี่คนนี้บอกว่าพี่กวินทร์ไม่เคยพาผู้หญิงมา อย่าบอกนะว่า ความจริงแล้วเขาไม่ได้ชอบผู้หญิง หรือว่า ที่เขาซื้อเราแค่ต้องการช่วยเราจากคืนนั้นเฉย ๆ และเมื่อกี้เขาก็กำลัง....หรือว่าเขาหึงพี่ผู้ชายนั้น’
เมยาวียกมือขึ้นปิดปาก เธอยอมรับว่าสมองของเธอในตอนนี้คิดดีไม่ได้เลย
‘ก็มันน่าคิด เขาออกจะสำอาง เป็นระเบียบเรียบร้อย แต่งตัวสะอาดสะอ้าน และทุกอย่างต้องเนี้ยบตลอดเวลา โอ้ย! เสียดายจัง’
เมยาวีคิดเอง เออเองเป็นตุเป็นตะ เธอรู้สึกเสียดายความหล่อของกวินทร์อย่างจริงจัง เขาสมบูรณ์ และความคิดของเธอก็ยิ่งตอกย้ำเข้าไปใหญ่เมื่อลองคิดถึงสายตาที่กวินทร์มองเธอ เขาไม่เคยสนใจเธอในเชิงชู้สาวจริง ๆ เลยแม้แต่น้อย