เล่ห์ร้าย ดวงใจรัก ตอนที่ 3

2280 Words
“แล้วคุณพ่อจะจะดานวันเกิดเลยมั้ยครับ ผมจะได้สั่งที่โรงแรมให้เตรียมงาน”ลุงพุธวางแก็วเบาๆก็อนจะใช้ทิชชูเช็ดปากแก็วตามความเคยชิน”   “อืม ตามนั้นเลยพุธ ส่วนหลานๆ ก็เตรียมตัวกันมาให้พร้อมนะ ปู่จะประกาศแต่ตั้ง ยกหุ้นให้ว่าใครจะได้อะไรกันบ้าง”   “ทำไมต้องรีบแบบนี้ครับคุณพ่อ”ลุงอังคาฐเงยหน้าถามคุณปู่   “พ่อก็แก่แล้วนะ จะอยู่ได้อีกกี่วันก็ยังไม่รู้ แบ่งๆไปก็ดี พ่อจะได้พักแบบจริงจังซักที แล้วอย่าลืม บอกเจ้าเสารกับหนูกุลด้วนนะ เพราะเจ้าเสาร์มันติดถ่ายละครที่เกาหลี ส่วนหนูกันยากับเจ้าศุกร์ก็ต้องไปเคลียร์เรื่องแก๊งค์ที่เกาหลีเหมือนกัน จันทร์จัดการให้พ่อด้วยนะ ส่วนอาทิตย์กับลม ช่วยจัดเรื่องวามเรียบร้อย และความสวยงานในงานนะลูก อย่าทำให้อายขายหน้าแขกเหรื่อ เพราะพ่อเชิญแขกรดับวีไอพีทั้งนั้น   “ครับคุณพ่อ”   “ค่ะคุณพ่อ”   แล้วทุกคนก็จัดการอาหารบนโต๊ะและพูดคุยกันอย่างมีความสุข  บรรยากาศแบบนี้บ้านเรามีบ่อยมาก แต่จู่ๆระหว่างที่เรากำลังนั่งกินข้าวอยู่ มันก็มีข้อความจากน้ำตาลเข้ามา ว่าให้เราไปหาที่ข้างโรงเรียนพรุ่งนี้ตอนเช้า  ทำไมต้องเป็นข้างโรงเรียน เราเลยขอตัวลุกจากโต๊ะอาหารเพื่อโทรหา แต่น้ำตาลไม่ยอมรับสาย ได้แต่ส่งข้อความว่าไม่สะดวก ให้พิมคุยแทน แต่เราต้องอย่าลืมไปเจอกันที่ข้างโรงเรียบ และอย่าบอกใคร น้ำตาลมีเรื่องสำคัญที่จะต้องคุยกับเรา อะไรเนี้ย เกิดอะไรขึ้นกับน้ำตาลกันแน่     ไวยลักษณ์ โลกใบนี้มันมักไม่ค่อยยุติธรรมกับคนจนหรอกครับ ส่วนมาก มันจะทำร้ายมากกว่า และเมื่อเรายิ่งพยายามหนีมันเท่าไหร่ เราก็ยิ่งจมดิ่งมากขึ้นเท่านั้น และเราก็ยังคงวนเวียนอยู่ที่เดิม แบบไม่รู้จักสิ้นสุดซักที แล้วชีวิตแบบนี้พวกคนรวยมันมักไม่เข้าใจ แต่ผมก็ไม่ว่าเลยนะที่พวกนั้นจะไม่เข้าใจผม แต่ขออย่างเดียว มึงไม่เข้าใจแต่อย่าเสือกเหยียบย้ำก็พอ   “ไวย พรุ่งนี้เจอกันที่ ม. นะ”   กาน เพื่อนสาวคนสนิทของผมพูดขึ้นหลังจากที่ผมขับมอเตอร์ไซค์คันเก่งมาส่งเธอที่บ้าน พ่อแม่ของกาน ดูไม่ชอบผมเอามากๆ และทุกครั้งที่ผมมาส่ง กานจะโดนแม่หยิกตลอดเวลา และมันจะเป็นอย่างนี้ทุกครั้ง เพราะท่านทำให้ผมเห็นแบบจะๆเลย เรียกว่าไม่ต้องอ้อมคอมกันเลยก็ว่าได้  ผมรู้ดีนะว่าเพราะอะไรกานถึงโดนแบบนั้น มันก็คงจะเป็นเพราะฐานะผมนั่นแหละ ผมที่เกิดจากซ่อง ที่คนเขานี้รู้จักกันดี ผมถูกเลี้ยงมาโดยเจ๊เล้ง เจ๊เจ้าของซ่อง "เรือนรับลม" ผมถูกพามาที่ซ่องพร้อมพี่สาวตั้งแต่เด็ก ผมถูกใช้เป็นเด็กเดินยากับเด็กดูแลผู้หญิงในซ่อง บางครั้งเวลาว่าง ก็ไปทวงหนี้ให้เจ๊เล้ง ส่วนพี่สาวผม เธอถูกพาไปขายตัวครับเพราะพี่สาวผมหน้าตาดีเจ๊เล้งจึงบังคับให้ขายเพื่อแลกกับที่อยู่ที่กิน และแลกกับการให้ผมได้เรียนหนังสือ ผมกับพี่สาว อายุห่างกัน  12 ปี ตอนนี้ผม 22 พี่สาวผม ก็ 34แล้ว แต่ผมกับพี่สาวก็ยังคงอยู่ที่ซ่องนี้ เพราะไปไหนไม่ได้ เนื่องจากเจ๊เล้งจะทวงบุญคุณพวกผมทุกครั้งที่คิดจะออกไปเนื่องด้วยพี่สาวผมที่หน้าตาดี แขกติดเยอะ มันเลยสร้างรายได้ให้เจ๊เล้งเป็นกอบเป็นกำ แต่นี่มันเป็นวิถีที่ผมอยากจะหนีไปให้ไกลๆ ผมไม่อยากถูกตราหน้าว่าเป็นเด็กซ่อง ผมไม่อยากให้พี่สาวผมต้องถูกไอ้พวกโรคจิตพวกนี้ย่ำยีอีก ซึ่งมันก็เหลือเวลาอีกไม่นาน ผมกะว่าพอเรียนจบผมก็จะพาพี่วิ หนีไปจากที่นี่ให้ได้ และผมจะเป็นคนเลี้ยงพี่วิเอง หลังจากที่ส่งกานเรียบร้อยผมก็ขับมอไซค์กลับมาที่ซ่องของเจ๊เล้งจะเรียกว่ากลับบ้านก็ได้ครับเพราะห้องพักของผมจะอยู่หลังซ่อง คือเจ๊ไม่ยอมให้พวกผมไปอยู่ที่อื่นเพราะกลัวว่าจะหนีไป ทำให้พวกผมต้องทนอยู่แบบนี้แบบที่เห็นผู้หญิงโดนตบตีและลากไปทำเรื่องอย่างว่าแทบทุกวัน ซึ่งภาพเชี้ยๆแบบเนี้ยผมไม่เคยคิดอยากจะเห็นเลย แต่มันเลี่ยงไม่ได้จริงๆ   “อ้าวกลับมาแล้วเหรอไวย สนใจมาห้องพี่มั้ยวันนี้พี่พร้อมเต็มที่เลยนะ ดุซิ เห็นอะไรมั้ยพี่ล้างหอนรอแล้วเนี้ย” พี่นก สาววัย 30 ที่ติดทั้งยา และติดทั้งเซ็กส์เอ่ยคุยกับผมพร้อมกับแหกแข้งแหกขาเผยให้เห็นของลับด้านในให้ผมดู  เธอพยายามชักชวนผมแบบนี้แทบทุกวันเลยครับ ทั้งๆที่รู้ว่าคำตอบมันก็เหมือนเดิมทุกครั้ง นั่นคือ ผมปฏิเสธ   “ไม่เป็นไรครับพี่นก ตามสบายเลยครับ พอดีผมยังเด็ก”   “เนี้ยตอบแบบนี้อีกแล้ว พี่สอนได้นะไวย มาซิพี่จะสอนมานะมาๆ”   “ไม่เป็นไรครับ พี่นกพักผ่อนเหอะ ว่าแต่ พี่นกกินยารึยังพี่”   พี่นกรีบเบือนหน้าหนีทันที นั่นคือคำตอบครับ แสดงว่าพี่นก ไม่ยอมกินยาตามที่หมอสั่งอีกแล้ว มันเป็นยาทางจิตเวชครับ หรือเรียกวง่ายๆก็คือยารักษาอาการติดเซ็กส์ของพี่นกนั่นเอง   “กินยาด้วยนะพี่ พี่จะได้หายไง ผมรู้นะว่ามันทรมาน อย่าประชดตัวเองด้วยการปล่อยให้มันเป็นแบบนี้เลยนะ”   “เออ น่าพี่รู้แล้ว”   แล้วพี่นกก็รีบเข้าห้องไป ผมจึงได้แต่ส่ายหัว คือผมสงสารผู้หญิงทุกคนที่อยู่ที่นี่จริงๆนะเพราะแต่ละคน จิตใจย่ำแย่แทบทุกคนเลย แล้วผมก็เดินมาที่ห้อง แต่ยังไม่ทันถึงห้องเลยผมก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังลอดออกมา ผมจึงรีบวิ่งเข้าไปดูก็เห็นว่าพี่วิกำลังถูกลากออกมาข้างนอก ทั้งๆที่สภาพพี่วิตอนนี้ดูอิดโรยมากครับ ผมจึงรีบเข้าไปแยกทันที ก่อนที่จะประจันหน้ากับคนของเจ๊เล้งอย่างไอ้พี่ศักดิ์แบบไม่กลัวตายเลย   “พี่จะทำอะไรพี่สาวผมครับพี่ศักดิ์”   “แล้วมึงละคิดว่ากูจะทำอะไรไอ้ไวย”   “ไม่ว่าพี่คิดจะทำอะไร ผมขอให้หยุดนะครับ”   “กูไม่หยุด กูจะเอาอีวิไปให้แขก มึงอย่าเสือก”   “แต่ผมต้องเสือก เพราะพี่วิไม่ไหวแล้ว พี่ก็เห็น”   “กูไม่สน แขกเจาะจงเลือกอีวิ ยังไงมันก็ต้องไป”   “แต่กูไม่ให้ไป”   “รึมึงจะเอา”   “ก็ลองดูดิ”   ผมบอกแล้วอะไรที่ยอมได้ผมก็จะยอมแต่บางอย่างที่ยอมไม่ได้อย่างเรื่องนี้ผมก็ไม่ยอมเด็ดขาด ผมพร้อมพุ่งชนต่อให้ต้องเจ็บตัวก็ตาม   “พอแล้วๆพอๆ เอะอะโวยวายอะไรกันนักหนาเนี้ย อาศักดิ์ หะ” เจ๊เล้งเดินเข้ามาทันที เจ๊มองไปที่ไอ้พี่ศักดิ์ก่อนที่จะหันมามองผม    “ก็เฮียผจงเขาล็อกจะเอาอีวิครับเจ๊ แต่มันอิดออด ผมเลยจะลากมันไป”   เจ๊เล้งชำเลืองมองไปที่พี่วิที่กำลังจะยืนแทบไม่ไหวด้วยหางตาก่อนจะหันมามองผม   “แล้วลื้อละอาไวย ลื้อโวยวายทำไม”   “พี่วิไม่ไหวครับเจ๊ ผมขอ งานนี้พี่วิไม่ทำได้มั้ยครับ”   “แต่อั๊วจะเสียลูกค้าน้า”   “ผมว่าเจ๊แก็ไขสถานการณ์ได้อยู่แล้ว เพราะถ้าวันนี้พี่วิฝืนทำ พี่วิอาจจะต้องหยุดไปหลายวัน เจ๊ก็น่าจะเสียรายได้ไปเยอะ แต่ถ้าวันนี้เจ๊ให้พี่วิพักผมว่า เจ๊น่าจะเสียแค่วันเดียวนะครับ”   ผมค่อยๆเดินไปใกล้เจ๊เล้งมากขึ้น ซึ่งดูเจ๊ก็เริ่มกลัวผมขึ้นมาเลยนะ  ทำให้ไอ้พี่ศักดิ์รีบเข้ามาขวาง แต่ถูกเจ๊ห้ามเอาไว้   “ฉลาดนี่อาไวย ได้ วันนี้อั๊วจะให้อีพัก แต่ลื้อต้องไปทำงานให้อั๊วแทนนะ ลื้อรู้ใช่มั้ย”   “วันนี้เหรอครับ”   “ช่าย บาร์โฮสของ อามงคลต้องการของ และต้องการเด็ก ลื้อก็เอาของไปส่ง แล้วก็รับแขก 1 คน แค่นี้พี่สาวลื้อก็ได้พักแล้ว”   แบบนี้ทุกที เวลาขออะไร เจ๊ก็จะแลกเปลี่ยนตลอด และผมก็จำเป็นที่จะต้องทำตามด้วย เพราะมันไม่มีทางเลือก   “ครับ เดี๋ยวผมไป”   “ดี งั้นก็ตามนั้นไป อาศักดิ์”   แล้วเจ๊เล้งกับไอ้พี่ศักดิ์ก็เดินออกไปอย่างอารมณ์ดี ส่วนผมก็รีบหันมาอุ้มพี่วิที่ล้มลงไปกองกับพื้น แล้วพาขึ้นไปนอนบนเตียง ผมรู้สึกสงสารพี่วิมากเลยนะที่ต้องมาทำงานอะไรแบบนี้     “พี่วิไหวมั้ยพี่ ไปหาหมอมั้ย”   “พี่ไม่เป็นอะไรหรอก พี่ไหว แต่เรานั่นแหละ จะไหวเหรอไวย”   “ไวยเป็นผู้ชายนะพี่ ไวยไหวอยู่แล้ว งั้นเอาเป็นว่าพี่วินอนพักนะ เดี๋ยวไวยจะไปทำงานให้เจ๊เล้ง”   “เดี๋ยวไวย”   พี่วิจับข้อมือผมเอาไว้ก่อนจะยัดซองใส่มือผม    “นี่ค่าใช้รายเดือนของไวยนะ รวมถึงค่าเทอมด้วย ส่วนที่เหลือไวยก็เก็บเอาไว้เอาไปซื้อบ้าน ตอนเราออกไปจากที่นี่เราจะได้มีบ้านอยู่”   ผมละโคตรเกลียดเลยที่จะต้องเอาเงินที่พี่วิแลกมาด้วยร่างกายเอาไปใช้แบบนี้ผมจึงกำเงินแน่นซึ่งนั่นทำให้พี่วิดูออกว่าผมเสียแค่ไหนที่ต้องใช้เงินนี้   “อย่าคิดมากนะไวย พี่ทำทุกอย่างก็เพื่อไวย แล้วถ้าไวยเรียนจบเมื่อไหร่เราจะได้ไปใช้ชีวิตแบบปกติกันซักทีไง”   ผมได้แต่กำซองเอาไว้ก่อนจะพยักหน้าให้พี่วิเบาๆ    “งั้นพี่วินอนนะ แล้วไวยจะรีบกลับ”   “จ้ะ”   ผมค่อยๆเลื่อนผ้าห่มมาห่มให้พี่วิแล้วก็เปิดประตูออกจากห้องมาเลย ผมตรงไปหาเจ๊เล้งแล้วหยิบของที่เจ๊เตรียมไว้ให้ยัดใส่รองเท้าเพื่อป้องกันการตรวจสอบ เพราะของมันไม่ได้เยอะขนาดนั้นแล้วอีกอย่างมันเป็นไอซ์ แล้วผมก็บึ่งมาที่บาร์โฮสของเสี่ยมงคลทันที แล้วพอเด็กที่ร้านเห็นผม ผมก็ได้ผ่านเข้ามาอย่างง่ายดายพร้อมกับรอยยิ้มที่พอใจของเด็กหน้าร้าน คือพวกมันจะรู้ว่า ถ้าผมมา ผมจะมีของมาด้วยเพื่อเอาให้แขก หรือไม่ผมก็ได้แขกซะเอง   “อ้าวไอ้ไวย วันนี้ทำไมเป็นมึงวะ”เสี่ยมงคลร้องถามผม  เพราะปกติผมไม่ค่อยได้ทำงานนี้เท่าไหร่ จะมีก็เวลาพี่วิป่วยเท่านั้นผมถึงได้มาทำอะไรแบบนี้   “ห้องไหนเฮีย ผมจะได้รีบกลับ”   “มึงนี่มันจริงๆเลยนะ โน่น 405 เขารออยู่แล้ว ดูแลให้ดีนะมึง”   “ครับ”   ผมก็มลงไปเอาของแล้วยื่นมันให้เสี่ยก่อนจะถอดเสื้อแล้วเดินขึ้นไปที่ห้อง 405 ทันที วันนี้ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าผมจะเจอกับแขกแบบไหน จะสาว หรือว่าจะแก่ แต่ความคิดของผมคือทำให้เสร็จๆไปจะได้รีบกลับ    แล้วพอเปิดประตูเข้ามา ผมก็เห็นว่าคนที่รออยู่ด้านในเป็นสาวใหญ่ อายุก็ราวๆ 45 ต้นๆเห็นจะได้ เธออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ารอผมอย่างรู้งาน แต่พอเธอเห็นหน้าผมหน้าเธอก็แดงขึ้นมาทันที ผมว่าเธอกำลังอายหมอนะ หรือไม่นี่ก็เป็นครั้งแรกของเธอ หรือคิดอีกอย่างนึง คือผมหล่อเกินไป   “เอ่อ พี่ไม่เคยเห็นหน้าเราเลย พึ่งมาทำเหรอจ้ะ”   “ป่าวครับ ผมแค่มารับจ๊อบเป็นครั้งคราวเท่านั้น”   “เหรอ งั้นวันนี้เราจะทำอะไรกันก่อนดี ไปอาบน้ำก่อนมั้ย พี่อาบแล้วนะ”   เธอหันหลังให้ผม ผมจึงตรงเข้าไปกอดเธอจากด้านหลังทันทีก่อนที่จะดึงผ้าเช็ดตัวของเธอออก สีหน้าเธอดูอายมากๆเลยครับ แต่ผมไม่อายหรอกนะ ผมคิดซะว่ามันคืองานที่ผมจะต้องทำก็เท่านั้น จากนั้นผมก็ผลักเธอลงไปบนเตียงอย่างแรงก่อนที่จะจูบเธออย่างอย่างหื่นกระหาย เธอมีท่าทีอ่อนระทวยทันทีซ้ำยังพยายามถอดกางเกงผมเองอีกต่างหาก ส่วนตัวแล้วผมเป็นคนไม่ค่อยเล้าโลมมาก คิดจะเอาก็เอาเลย  เพียงแค่ผมเป็นคนเอาหนักก็เท่านั้นเอง มันเลยทำให้แขกต่างติดใจและเรียกร้องที่จะเอาตัวผม อีกครั้ง แต่ก็อย่างที่บอกว่าผมไม่รับงานแบบจริงจัง มันเลยไม่มีใครได้นอนกับผมเป็นครั้งที่ 2 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD