บทนำ
หญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยอาการงงงวย เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ สถานที่แปลกตาก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากันจนกระทั่งมีผู้หญิงชุดขาวที่เป็นนางพยาบาลเดินเข้ามาหาเธอ นั่นจึงทำให้คนตัวเล็กรู้ตัวแล้วว่าเธออยู่ที่ไหน เธอพยุงกายให้ลุกขึ้นก่อนจะกลั่นเสียงถามนางพยาบาลด้วยความสงสัย ว่าเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน
“เอ่อ ไม่ทราบว่าดิฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ?”
“คุณเป็นลมค่ะ มีพลเมืองดีพาคุณมาส่งโรงพยาบาล”
“เป็นลม?”ปานชีวาทวนคำ เธอรู้สึกวิงเวียนศีรษะอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรถึงรู้สึกอย่างนี้
“แล้วดิฉันเป็นอะไรมากรึเปล่าคะ?”เธอถามนางพยาบาลไปอีกครั้ง
“คุณหมอตรวจร่างกายแล้ว ไม่ได้มีอะไรน่าเป็นห่วงมากค่ะ คุณก็แค่อ่อนเพลียเป็นอาการของคนท้องทั่วไปเท่านั้นเอง เดี๋ยวถ้ารู้สึกตัวดีแล้วก็สามารถกลับบ้านได้ค่ะ”
“ท้องงั้นเหรอคะ?”ปานชีวาถามกลับไปด้วยความตกใจ ก่อนที่เธอจะเผยรอยยิ้มออกมา เมื่อได้เห็นใบหน้าของนางพยาบาลพยักหน้าให้กับเธอ ทันทีที่รู้ว่าเธอมีลูกน้อยในท้องมันทำให้หัวใจของปานชีวามีความสุขไม่น้อย ลูกที่เป็นสายเลือดของเธอกับคนรักอย่างคุณากร
“ลูกแม่ ลูกของแม่”เธอยกมือขึ้นมาลูบหน้าท้องของตนเองด้วยความดีใจ น้ำตาของหญิงสาวอดไม่ได้ที่จะไหลออกมา เมื่อคำว่าลูกมันก้องอยู่ในใจของเธอ
หลังจากที่ปานชีวารับยาเสร็จเธอก็เดินทางกลับมาที่คอนโดของคนรัก เธออาศัยอยู่กับคนรักหนุ่มได้เกือบสองปีแล้ว เธอรู้จักกับผู้ชายคนนี้เพราะอีกฝ่ายเป็นรุ่นพี่ เขาทั้งหล่อทั้งดูดี ทำให้เธอตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรก ก็ไม่รู้ว่าอะไรทำให้ผู้หญิงอย่างเธอที่ไม่เคยมีคนรักเลย ไปสารภาพความรู้สึกกับอีกฝ่าย ในตอนแรกคิดว่าคงโดนต่อว่ากลับมาเพราะคุณากรเป็นคนนิ่งๆ ดุๆ คนนึง แต่แล้วคำตอบของอีกฝ่ายกลับบอกว่าตกลงที่จะคบหากับเธอ มันทำให้เธอทั้งอึ้งทั้งตกใจ แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นความดีใจที่ได้รับรักกับผู้ชายคนนี้ตอบ
ทั้งสองพูดคุยกันมาสักพักก่อนจะเรียกกันว่าแฟนได้อย่างเต็มปาก ถึงแม้คุณากรจะเป็นคนนิ่งขรึมแต่พอเวลาเขาอยู่กับเธอสองต่อสองอีกฝ่ายคลั่งรักมากๆ แต่ความคลั่งรักนั้นก็มีความดุซ่อนอยู่ ชายหนุ่มเป็นพวกหึงแรง เคยมีผู้ชายคนอื่นมาขอเบอร์เธอไม่ทันทีเธอจะพูดอะไรด้วยซ้ำ คนตัวสูงก็มาลากเธอกลับคอนโดเสียแล้ว เรียกได้ว่าเขาเป็นคนขี้หึงมากๆ คนนึงเลยก็ว่าได้
พอคบกันได้ปีกว่า เธอก็มาอยู่กับเขา มันอาจจะฟังดูเหมือนผู้หญิงใจง่ายแต่ชีวิตเธอไม่มีใครนอกจากผู้ชายคนนี้ ปานชีวาเป็นเด็กกำพร้า เธออยู่ในสถานสงเคราะห์จนกระทั่งเติบโตพอที่จะดูแลตัวเองได้ หญิงสาวจึงออกมาอยู่คนเดียวทำงานพิเศษและเรียนไปด้วย พอมาเจอคุณากรเขาก็ไม่ให้เธอทำงาน ให้เธอเรียนอย่างเดียวและก็มาใช้ชีวิตอยู่กับเขาอย่างนี้จนกระทั่งเธอเรียนจบ
ปานชีวาเดินทางกลับมาถึงคอนโดก็เกือบสองทุ่ม ไม่รู้ว่าชายหนุ่มจะโกรธรึเปล่าที่ยังไม่เห็นเธอกลับบ้าน อันที่จริงวันนี้เธอตั้งใจไปตลาดแต่สุดท้ายรู้ตัวอีกทีก็ไปโผล่ที่โรงพยาบาลเสียแล้ว เธอไม่รู้ว่าใครเป็นคนช่วยเธอส่งโรงพยาบาล ได้แต่ขอบคุณอีกฝ่ายอยู่ในใจหวังว่าสิ่งที่เขาช่วยเหลือเธอจะส่งผลให้ชีวิตเขาดีขึ้น
หญิงสาวเปิดประตูเข้าไปในห้อง พอเห็นว่าทุกอย่างตกอยู่ในความมืดคนตัวเล็กก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน ปกติเวลานี้คนรักของเธอกลับมาแล้ว หญิงสาวจึงเดินไปเปิดไฟแต่พอแสงสว่างปรากฏขึ้น หญิงสาวก็ต้องชะงักเมื่อคุณากรนั่งอยู่ที่โซฟาด้วยท่าทีเรียบนิ่ง เหมือนว่าเขากำลังจะโมโหอะไรบางอย่างอยู่ ซึ่งเธอไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรหรือว่าเครียดกับงานมา
คนตัวเล็กเดินเข้าไปหาคนรักหวังอยากจะบอกข่าวดีที่จะทำให้อีกฝ่ายดีใจบ้าง ถึงแม้ว่าเธอกับเขาจะอยู่กินกันโดยที่ยังไม่ได้แต่งงานแต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขากับเธอก็เคยพูดถึงอนาคตของกันและกัน เธอมีความสุขทุกครั้งที่ชายหนุ่มบอกว่าอยากมีลูกกับเธอในอนาคต อยากใช้ชีวิตด้วยกันกับเธอแบบนี้ไปนานๆ
“พี่คุณ เป็นอะไรไปคะ?”เธอไม่พูดเปล่า ยกแขนขึ้นมากอดชายหนุ่มด้วยความรักแต่ทว่าทันทีที่เธอแตะตัวเขา ร่างสูงก็ผลักไสเธอทันที การกระทำของอีกฝ่ายมันทำให้คนตัวเล็กตกใจไม่น้อย
“พี่คุณ?”
“อย่ามาแตะต้องตัวฉัน ผู้หญิงน่ารังเกียจ”เขาตะคอกต่อว่า ซึ่งคำพูดของอีกฝ่ายมันทำให้หญิงสาวตกใจไม่น้อย
“พะ พี่คุณทำไมพูดแบบนี้คะ?”
“ทำไม รับไม่ได้เหรอ หึ ควรเป็นฉันไหมที่รับไม่ได้ ทำไมวะปาน ที่ผ่านมาฉันให้เธอไม่พอเหรอเธอถึงหักหลังฉันแบบนี้”
“พี่พูดอะไรปานไม่เข้าใจ ปานไม่เคยหักหลังพี่”
“ตอแหล เธอเห็นฉันหน้าโง่มากใช่ไหมปานชีวา! กลับบ้านมาป่านนี้คงไปนอนกับมันมาใช่ไหม คนไหนล่ะ ไอ้รุ่นพี่คนไหนของเธออีก แรดมากเหลือเกินนะ!”
“พี่คุณ พี่กำลังดูถูกปานอยู่นะ ปานไม่เคยทำอย่างที่พี่พูดด้วย ที่ปานกลับช้าเพราะปานไม่สะ…เพล้ง!”ไม่ทันที่คนตัวเล็กจะพูดจบ คุณากรก็หยิบแจกันที่หญิงสาวจัดดอกไม้ตกแต่งคอนโดแห่งนี้เอาไว้ขว้างลงพื้นจนมันแตกกระจายไปคนละทิศละทาง
ปานชีวาตกใจไม่น้อย เธอเงยหน้ามองคนรักด้วยสายตาสั่นเครือ ทำไมเขาถึงไม่คิดจะฟังเธอเลย ทำไมกัน ไหนว่าคนรักกันต้องเชื่อใจกันทำไมเขาถึงทำแบบนี้กับเธอ เธอไม่รู้ว่าเขาไปฟังหรือไปได้ยินอะไรมาถึงได้มาโวยวายใส่เธอแบบนี้ แต่เธอไม่เคยทำอย่างที่เขาพูดเลยสักครั้ง แค่คิดก็ไม่เคย
“เราเลิกกันเถอะ ผู้หญิงอย่างเธอมันไม่คู่ควรกับความรู้สึกดีๆ ที่ฉันมีให้เธอเลย”คำพูดบอกเลิกมันทำให้หญิงเศร้าชะงักอึ้งไป ไม่คิดว่าเธอจะได้ยินคำพูดนี้จากอีกฝ่ายคนที่เธอรักสุดหัวใจ
“พี่คุณ?”
“ผู้หญิงอย่างเธอมันไร้ค่า คิดว่าคนอย่างฉันจะโง่รักเธอลงงั้นเหรอปานชีวา!”พอเห็นแววตาสั่นไหวของหญิงสาวมันก็ทำให้ชายหนุ่มเอ่ยคำพูดที่ทำให้เธอเจ็บปวดมากกว่าเดิมออกไปซึ่งคำพูดเหล่านี้มันทำให้คนตัวเล็กแทบอ่อนแรงลงทันที
“พี่ไม่เคยรักปานเลยใช่ไหมตลอดเวลาที่ผ่านมา ทำไมพี่ถึงมาบอกเลิกกันง่ายๆ แบบนี้?”ชายหนุ่มยกมุมปากก่อนจะเผยสีหน้าหงุดหงิดออกมาเมื่อนึกว่าวันนี้เธอไปทำอะไรลับหลังเขามามันก็ทำให้ชายหนุ่มมีโทสะมากขึ้นกว่าเดิม
“ร่านมากใช่ไหมมานี่!”