เสียงเพลงในผับ ยังคงดังต่อเนื่อง แต่บรรยากาศรอบโต๊ะกลับเปลี่ยนไปอย่างประหลาด เมื่อพายุเดินกลับมาพร้อมเพื่อนสามคนของเขา ยิม ยูโร และธาม ทั้งหมดเข้ามาทักทายกลุ่มของพราวตะวันด้วยรอยยิ้มและท่าทีเป็นกันเอง
"ไหน ๆ ก็มาสถานที่เดียวกันแล้วขอนั่งด้วยได้ไหม?" พายุถามเสียงเรียบ แต่แววตาเขามีบางอย่างที่พราวตะวันรู้ดีเกินไป
พราวตะวันชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะฝืนยิ้ม
"ตามสบายเลยค่ะ ที่นั่งยังว่างอยู่"
เมย์กับโซดามองหน้ากันอย่างตื่นเต้น ส่วนลินดายกเพียงแก้วไวน์ขึ้นจิบอย่างเงียบๆ แต่สายตาเธอจับจ้องอยู่ที่พายุและพราวตะวันอย่างจับสังเกต
พายุเลือกนั่งลงตรงข้ามพราวตะวัน ระยะห่างระหว่างพวกเขาไม่มากนัก แต่กลับรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งหนาแน่นอยู่ตรงกลางอากาศ พราวตะวันพยายามไม่สบตาเขา เธอหันไปคุยกับเมย์แทน แต่เสียงหัวเราะของเธอฟังดูฝืนจนแม้แต่ตัวเองก็รู้
ยูโรเริ่มชวนทุกคนคุยเรื่องเพลงและเครื่องดื่ม ยิมหัวเราะเสียงดังตามสไตล์ ส่วนธามนั่งเงียบ มองบรรยากาศรอบโต๊ะด้วยสายตาเรียบเฉย แต่พายุแทบไม่ได้สนใจบทสนทนา เขาเอาแต่มองพราวตะวันเป็นระยะ ดวงตาคมของเขาเต็มไปด้วยความหมายที่เธอไม่อยากให้ใครเห็น
"คุณพราวตะวันชอบเพลงแนวนี้เหรอครับ?" ยูโรถามขึ้นอย่างเป็นมิตร
พราวตะวันยิ้มบาง
"ก็พอชอบค่ะ ฟังได้ทุกแนว...แล้วก็ไม่ต้องเรียกคุณก็ได้ค่ะ เรียกพราวเฉยๆก็พอ"
"งั้นดีเลย คืนนี้ดีเจเปิดเพลงดีมาก" พายุพูดแทรกขึ้น เสียงของเขานุ่มแต่แฝงแรงกดดันบางอย่างที่ทำให้หัวใจเธอเต้นแรง
เธอหันไปสบตาเขาเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะรีบหลบสายตาของพายุ พร้อมเปล่งเสียงตอบกลับ
"ใช่ค่ะ...เพลงดีมาก"
เมย์ที่นั่งข้างๆ แอบกระซิบกับโซดาเสียงแผ่วเบา
"ยายพราวเป็นอะไร ดูเกร็ง ๆ เหมือนมีอะไรในใจกับพี่พายุ"
พราวตะวันได้ยินบางส่วนของคำพูดนั้น เธอรู้สึกเหมือนอากาศรอบตัวเริ่มหนืดขึ้น หัวใจเต้นแรงจนแทบกลบเสียงเพลง เธอพยายามยกแก้วขึ้นจิบเพื่อกลบเกลื่อน แต่กลับรู้สึกถึงสายตาของพายุที่ยังจับจ้องอยู่ไม่ห่าง
"เธอดูไม่ค่อยสบายหรือเปล่า?" ลินดาถามเสียงเรียบ
"เปล่าหรอก แค่...อากาศมันร้อนนิดหน่อย" พราวตะวันตอบ พลางฝืนยิ้ม
ส่วนพายุเอนตัวพิงพนักโซฟา ดวงตาเขายังคงมองเธออย่างนิ่งสงบ แต่ในแววตานั้นมีบางอย่างที่พราวตะวันรู้ดี ความลับที่ทั้งคู่พยายามซ่อนจากสายตาคนอื่น ความลับที่พราวตะวันบอกเขาว่าควรจบตั้งแต่คืนนั้น
เวลาเริ่มผ่านไป เสียงหัวเราะของเพื่อนๆ ดังขึ้นอีกครั้ง แต่สำหรับพราวตะวัน ทุกอย่างรอบตัวกลับเงียบงัน เธอรู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่บนระเบิดเวลา ที่ไม่รู้ว่าจะระเบิดเมื่อไหร่ หากใครสักคนเริ่มถามคำถามที่ไม่ควรถามแล้วละก็ มีหวังเธอไปไม่ถูกแน่ ๆ
เสียงเพลงในผับ ดังขึ้นเรื่อย ๆ ตามจังหวะของค่ำคืนที่เริ่มล่วงเลย แสงไฟสีม่วงและทองสลับกันวูบวาบเหนือฟลอร์เต้นรำ ผู้คนรอบข้างต่างโยกตัวตามจังหวะดนตรี เสียงหัวเราะ เสียงแก้วกระทบกัน และกลิ่นแอลกอฮอล์ผสมกับน้ำหอมราคาแพงลอยคลุ้งไปทั่ว แต่ที่มุมโซฟาหนังสีดำ พราวตะวันกลับนั่งนิ่งราวกับอยู่อีกโลกหนึ่ง
แก้วค็อกเทลในมือของเธอพร่องไปเกือบหมดแล้ว และอีกแก้วก็ถูกสั่งมาแทนที่โดยไม่ต้องพูดอะไร เธอยกมันขึ้นจิบช้า ๆ ดวงตาเริ่มพร่าเล็กน้อย แสงไฟที่สะท้อนบนแก้วดูพร่ามัวราวกับภาพฝัน เสียงหัวเราะของเพื่อน ๆ รอบโต๊ะยังคงดังอยู่ แต่เธอกลับไม่ได้ยินชัดเจนเหมือนเมื่อครู่
เมย์กำลังคุยกับยิมอย่างออกรส ส่วนโซดาเต้นอยู่ข้างฟลอร์กับยูโร ส่วนลินดานั่งพิงพนักโซฟา มองพราวตะวันด้วยสายตาเป็นห่วง
"นี่ยัยพราวแกไหวไหมเนี่ย" เธอถามเสียงเบา
พราวตะวันหันมาช้า ๆ รอยยิ้มบางปรากฏขึ้นบนใบหน้า
"ไหวสิ แค่...อยากนั่งเฉย ๆ สักพัก" เสียงของเธอนุ่มแต่แผ่วจนแทบกลืนไปกับเสียงเพลง
พายุที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามมองเธอเงียบ ๆ เขาเห็นแววตาเธอที่เริ่มลอย เห็นมือที่จับแก้วแน่นเกินไป และรู้ดีว่าเธอกำลังหนีบางอย่าง หนีจากความรู้สึกที่ไม่ควรเกิดขึ้นในที่แบบนี้
"พี่ว่าเธอดื่มเยอะไปแล้วนะ" เขาพูดเสียงเรียบ แต่พราวตะวันเพียงหัวเราะเบา ๆ
"หึ! ไม่เยอะหรอกค่ะไม่กี่แก้วเอง" เธอตอบโดยไม่มองหน้าเขา
พายุขมวดคิ้วเล็กน้อย เขารู้ดีว่าความเงียบของเธอไม่ใช่เพราะความเมาเพียงอย่างเดียว แต่เพราะความอึดอัดที่ก่อตัวขึ้นตั้งแต่เขาเข้ามานั่งร่วมโต๊ะ ความลับระหว่างพวกเขาเหมือนกำแพงบาง ๆ ที่ไม่มีใครเห็น แต่กลับกดทับอยู่ในอากาศจนแทบหายใจไม่ออก
เพลงเปลี่ยนเป็นจังหวะช้าลง เสียงร้องของนักร้องหญิงบนเวทีแผ่วหวานแต่เศร้า พราวตะวันเอนตัวพิงพนักโซฟา ดวงตาเธอมองไปยังแสงไฟที่หมุนวนเหนือศีรษะ รอยยิ้มจางหายไป เหลือเพียงความว่างเปล่าที่สะท้อนอยู่ในแววตา
"พราว..." พายุเรียกชื่อเธออีกครั้ง แต่เธอไม่ตอบ เพียงยกแก้วขึ้นดื่มจนหมด แล้ววางมันลงบนโต๊ะด้วยเสียงเบา ๆ
"ไม่ได้เมาค่ะไม่ต้องห่วงหรอก" เธอพูดช้า ๆ ก่อนจะหลับตา เมย์หันมามองทันที "พราว! แกดื่มเยอะไปแล้วนะ"
ลินดาขยับเข้ามาใกล้ คว้าแก้วออกจากมือเธอ
"พอแล้ว เดี๋ยวฉันพาไปห้องน้ำ"
"แค่ไปห้องน้ำฉันไปเองก็ได้นะ ไม่ต้องหวงหรอก"
พราวตะวันลุกขึ้นแต่เซเล็กน้อย ส่วนพายุที่เห็นพราวตะวันเดินไปแล้ว เขาก็ลุกตามโดยที่ไม่พูดอะไรสักคำ