จากนักเขียน
เรื่องนี้เป็นเซตต่อ เกียร์รักร้ายลึก แต่เนื้อเรื่องและการดำเนินเรื่องอาจจะไม่ได้สอดคล้องกันมาก เป็นอีกมุมของตัวละคร และนักเขียนได้แก้สรรพนามจากที่เคยเกริ่นไปตอนจบของเรื่อง เกียร์รักร้ายลึก ให้มีความเป็นวัยรุ่นมากขึ้น หวังว่านักอ่านจะชื่นชอบผลงาน เรื่องนี้นะคะ
บทที่1ให้มันจบแค่ตรงนี้
อารัมภบทย้อนไปสักนิด
แสงสีส้มจากโคมไฟถนน สาดส่องร่างบางของ พราวตะวัน ที่กำลังเดินโซเซออกจากผับหรู ใจกลางเมืองหลวง ค่ำคืนนี้เธอมาสังสรรค์กับเพื่อนสนิท แต่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ทำให้เธอขาดสติไปชั่วขณะ
"ไม่ไหวแล้ว..." พราวตะวันพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างถนน ทันใดนั้นเอง ร่างสูงของชายหนุ่มคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ
"เธอโอเคไหม?" เสียงทุ้มนุ่มถามด้วยความเป็นห่วง
พราวตะวันเงยหน้ามอง ใบหน้าคมคายที่คุ้นเคยปรากฏแก่สายตา พายุ รุ่นพี่วิศวะปี 4 สุดฮอตของมหาวิทยาลัย ดวงตาคมกริบของเขาฉายแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด
"พี่พายุ..." พราวตะวันเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
พายุประคองร่างของพราวตะวันขึ้น ก่อนจะพาเธอไปยังคอนโดมิเนียมหรูของเขา คืนนั้น...ด้วยความเมามายและความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่เลือนราง พราวตะวันและพายุจึงมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง
เช้าวันใหม่ พราวตะวันตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ เมื่อพบว่าตัวเองอยู่ในห้องที่ไม่คุ้นเคย และข้างกายเธอก็มีพายุนอนหลับอยู่ ความทรงจำในค่ำคืนที่ผ่านมาค่อยๆ ประดังเข้ามาในสมองของเธอ
"ฉันทำอะไรลงไป..." พราวตะวันพึมพำด้วยความรู้สึกผิด
พายุตื่นขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม เขาจ้องมองพราวตะวันที่กำลังนั่งกอดเข่าด้วยความรู้สึกผิด "ตื่นแล้วเหรอ?" เขาทักทายด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
พราวตะวันเงยหน้ามองเขาด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งอาย ผิดหวัง และสับสน
"เรา...เราจะทำยังไงกันต่อไปคะ?" เธอถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
พายุลุกขึ้นนั่งข้างเธอ ก่อนจะเอื้อมมือมาลูบผมของเธอเบาๆ
"พี่ว่าเธอคงไม่อยากผูกมัดใช่ไหม?"
พราวตะวันขมวดคิ้ว แม้มันจะจริง ทว่าประโยคนี้มันเหมือนกับคนที่ไร้ความรับผิดชอบ
"งั้น เรื่องคืนนี้ก็ขอให้มันจบแค่นี้แล้วกันค่ะ"
เธอลุกขึ้นจากเตียงกว้าง คว้าได้เสื้อผ้าก็มุ่งหน้าเข้าห้องน้ำ จะให้โทษใครได้ละก็เธอเองที่เมาจนไม่รู้สติ ถูกเขาพามาที่ห้องไม่พอ ยังทำเรื่องน่าอายแบบนั้นอีก
สองอาทิตย์ถัดมา
ลมยามบ่ายพัดแผ่วผ่านใบไม้ เสียงใบไม้เสียดสีกันเบาๆ คล้ายจะปลอบโยนหัวใจที่ยังไม่สงบของพราวตะวัน เธอนั่งอยู่บนม้าหินอ่อนหน้าตึกคณะ สายตาเหม่อมองไปยังสนามหญ้าที่เคยมีเงาของใครบางคนเดินผ่านอยู่บ่อยครั้ง แต่ตอนนี้กลับว่างเปล่าอย่างน่าประหลาด
สองอาทิตย์แล้ว... ตั้งแต่คืนนั้น คืนที่ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเกินไป ราวกับฝันที่พราวตะวันยังไม่แน่ใจว่าควรเรียกมันว่า ความผิดพลาด หรือ ความทรงจำ
พายุ... ชื่อของเขายังคงวนเวียนอยู่ในหัวไม่หยุด ภาพหนุ่มหล่อที่ใครๆ ต่างรู้จักเพราะเขาเป็นนักกีฬาของมหาลัย ทุกอย่างยังชัดเจนราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน แต่หลังจากวันนั้น เขาก็หายไป เหมือนลมหายใจที่ถูกกลืนหายไปกับอากาศ
"พราว เป็นอะไรนั่งเงียบเชียว" เสียงนุ่มชวนฟังของโซดาพูดขึ้น ทำเอาพราวตะวันต้องหันมามองหน้าเพื่อน
"เปล่าหรอกก็คิดอะไรไปเรื่อยนั่นแหละ"
คำตอบของพราวตะวัน ที่บอกว่าคิดอะไรไปเรื่อย แต่แววตาของเธอคล้ายจะมีความเศร้าเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเหตุผลที่แท้จริงที่อยู่ในใจคืออะไร แต่โซดาก็ไม่ได้พูดอะไรหรอกนะเธอหย่อนก้นลงนั่ง กวนกาแฟในแก้วกระดาษที่พึ่งซื้อมาอยู่อย่างนั้น
หากจะให้พูดไปแล้วละก็ พราวตะวันเธอเป็นลูกคนมีเงิน ชอบเที่ยวตามประสาสาวโสดที่พ่อแม่มีเงินมาเปย์ให้แต่ก็ไม่เคยเหลวไหลถึงขั้นไปนอนกับผู้ชายมาก่อน แต่ครั้งนี้มันมากเกินไปสำหรับเธอจริง ๆ
แค่คิดก็พลอยเศร้าจะให้ทำอย่างไรได้ละ ก็เธอเองที่บอกเขาว่า เรื่องคืนนั้นให้มันจบลง แล้วทำไมจะต้องมานั่งคิดถึงเขาด้วย
"เย็นนี้ไปหาที่นั่งผ่อนคลายกันไหม"
พราวตะวันหันมาชวนเพื่อน ส่วนโซดาเธอก็นิ่งไปสักพัก เหมือนกำลังชั่งใจอยู่
"ไปก็ไปสิ เดี๋ยวต้องชวนยัยเมย์กับลินดาไปด้วยจะได้ไปหลายคน" เป็นเสียงของโซดาที่เสนอขึ้น และพราวตะวันก็ไม่ได้ค้านเพราะการไปหลายคนก็น่าจะสร้างบรรยากาศได้ดี
ส่วนหนุ่มหล่อปีสี่อย่างพายุ ช่วงนี้ยุ่งอยู่กับโปรเจคต์ที่ต้องจัดการส่งอาจารย์ ทำให้เขาไม่ว่างที่จะออกไปที่ไหน แต่วันนี้ดูเหมือนทุกอย่างจะเรียบร้อย
"ไอ้เหี้ยเอ๊ย เสร็จสักที" เป็นเสียงของพายุที่พูดขึ้น
"กูว่างานเราเสร็จแล้วไปหาเปิดหูเปิดตาดีไหมวะ สองอาทิตย์มานี้กูไม่ได้ปลดปล่อยเลย" เป็นเสียงของ ยิม หนึ่งในเพื่อนพายุที่เสนอขึ้น
"ก็ดีเหมือนกันคลายเครียดดี!" พายุตอบเสียงแผ่วจากนั้นก็ฉีกยิ้มขึ้นบางเบาที่ใบหน้า
ส่วนสถานที่ไปก็คงไม่พ้นร้านดังประจำเมืองกรุง