INTRo
"วันนี้ฉันมีเรียนเก้าโมงหลังจากแต่งตัวด้วยเสื้อนักศึกษารัดรูปจนนมทะลักกับกระโปรงทรงเอสั้นเหนือเข่า
"พ่อคะตื่นรึยังคะ พราวไปเรียนก่อนนะคะ"
ฉันเดินลงบันไดไม้เก่าๆ จากชั้นสองของตัวบ้านเช่า ที่อาศัยอยู่กับพ่อวัยห้าสิบกว่าแค่สองคน....ส่วนคนเป็นแม่นั้น ทิ้งพวกเราไปตอนฉันอายุเพียงห้าขวบตลกใช่ไหมละ แต่ชีวิตคนเลือดกรุ๊ปบีแบบฉัน ไม่จบแค่นั้นค่ะ มันมีอะไรที่วุ่นวายและบัดซบมากกว่านั้น อย่างเช่นวันนี้...
"อ้าวพราวจะไปแล้วเหรอลูก กินข้าวก่อนสิ พ่อทำของอร่อยๆ ทั้งนั้นเลยนะ"
เสียงน้ำมันประทุ ในกระทะ ที่ร้อนระอุ ก่อนจะตามด้วยกลิ่นหอมของไข่เจียวแสนอร่อยฝีมือผู้เป็นพ่อของฉัน
ถ้าอย่างนั้นพราวกินอาหารเช้าเป็นเพื่อนพ่อก่อนก็ได้ค่ะ"
ฉันนั่งลงบนเก้าอี้ข้างโต๊ะอาหารเล็กๆ ที่มีอาหารธรรมดาแต่รสชาติอร่อยสุดๆ วางอยู่ สามสี่อย่าง
เออพราวนี่ ก็ใกล้จะสิ้นเดือนแล้ว ค่าเทอมของลูก เอาเงินเก็บของพ่อไปจ่ายก่อนก็ได้นะ"
เสียงคนเป็นพ่อเอ่ยขึ้นเพราะรู้ว่าแต่ละวันพราวต้องแบกรับภาระมากมายในบ้าน และค่าเล่าเรียนของเธออีก
"อย่าเลยค่ะพ่อ เงินคนชราของพ่อเก็บไว้ใช้ในยามจำเป็นดีกว่า อีกอย่างพราวก็ หาเงินเตรียมไว้แล้วด้วยพ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ทานข้าวกันดีกว่า นี้เลยผัดผักบุ้งไฟแดง ของโปรดพ่อ"
ฉันตักอาหารใส่จานให้พ่อแม้ภายในใจจะแอบเฟลไปบ้างเพราะตอนนี้ฉันยังไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมให้ตัวเอง น่าสมเพชชะมัด
ดิ้งด้อง
เสียงกระดิ่งหน้าประตู
"ใครมานะ เดียวพ่อไปดูก่อนนะ"
"พ่อนั่งรอดีกว่าเดี๋ยวพราวไปดูเอง พ่อทานข้าวไปก่อนนะคะ"
ฉันรีบรั้งพ่อเอาไว้ เพราะกลัวว่าพ่อจะรู้ว่าเจ๊อรเจ้าของบ้านเช่าจะมาทวงเงิน ฉันไม่อยากให้พ่อต้องคิดมาก
" มาแล้วจ้ามาแล้ว"
พราววิ่งหน้าตาตื่นมาเปิดประตูไม้เก่าๆ หน้าบ้าน
"เจ๊อร!! พราวคิดถูก คนที่มาคือเจ๊อรจริงๆ"
"ไหนล่ะเงินค่าเช่าที่ติดอยู่ สามเดือนแล้วนะยัยพราว ฉันก็ต้องกินต้องใช้นะย่ะ"
เสียงแสบหูเอะอะหน้าประตูบ้าน
ทำเอา ภพ คนเป็นพ่อของพราวต้องออกมายืนฟัง จนรู้ว่าตอนนี้พลาวค้างค่าเช่าบ้านอยู่สามเดือน
พราวขอเวลาสักหนึ่งเดือนนะเจ๊ พราว จะรีบหาเงินมาให้เจ๊เลยสงสารพราวกับพ่อเถอะนะ"
เจ๊อร แม้จะเป็นคนปากจัด แต่เพราะนิสัยกตัญญูของพราว จึงเอ็นดูอยู่บ้าง
"ฉันให้เวลาเธอได้แค่หนึ่งอาทิตย์เท่านั้น ฉันช่วยสุดๆ แล้ว ถ้าภายในหนึ่งอาทิตย์ ยังไม่นำเงินมาจ่าย ฉันจะให้คนมารื้อของ พวกเธอสองพ่อลูกออกไป"
"ก็ได้จ้ะเจ๊"
พราวถอนหายใจเฮือกใหญ่ งานที่ทำอยู่ประจำก็รายได้น้อยนิดสงสัยต้องรีบหางานพิเศษทำเพิ่มซะแล้ว
"พราว"
เสียงตะโกนจากพ่อที่ยืนอยู่หน้าประตูบ้านดังขึ้น
"พ่อ... "
ฉันหันไปอย่างตกใจเมื่อพ่อได้ยินสิ่งที่ฉันคุยกับเจ๊อร แต่ภาพที่ทำให้ฉันตกใจมากกว่านั้นคือ พ่อล้มตัวลงบนพื้นต่อหน้าต่อตา
"พ่อ .."
พราวตะโกนเสียงหลงรีบวิ่งเข้าไปพยุงร่างคนเป็นพ่อ
"อย่าเป็นอะไรนะพ่อ"
เพราะโดยปกติแล้วพ่อของฉันท่านป่วยเป็นโรคหัวใจ ฉันเลยไม่บอกเรื่องที่ส่งผลให้ท่านต้องมีอาการเครียด
ทว่าครั้งนี้ พ่อคงได้ยินสิ่งที่เจ๊อรคุยกันหน้าประตู จึงทำให้อาการของพ่อต้องทรุดหนัก