“พวกมึงรู้มั้ยว่ากูเป็นใคร ถ้าไม่อยากให้ผับถูกสั่งปิดก็ให้ยัยนั่นมานั่งบริการกูซะ”
เควินหนุ่มไฮโซหน้าหล่อที่ชอบเที่ยวกลางคืนพูดโวยวายขึ้นอย่างหัวเสียเมื่อโดนการ์ดของผับมาขวางไม่ให้เขาจับพนักงานเสิร์ฟแสนสวยมานั่งบริการ
“ขอโทษจริงๆ ครับ ร้านของเราไม่มีบริการให้พนักงานเสิร์ฟไปนั่งดื่มกับลูกค้าครับ รบกวนคุณลูกค้าทำตามกฎของร้านด้วยนะครับ”
การ์ดของผับพูดกับลูกค้าด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“ทำไมกูต้องทำ กูเป็นลูกค้ากูต้องการอะไรพวกมึงก็ต้องทำให้กูสิ กูจ่ายเงินให้พวกมึงนะ หรือจะให้กูสั่งปิดผับพวกมึง โอ๊ยย!”
เควินถึงกับร้องเจ็บออกมาขณะที่กำลังชี้หน้าด่าการ์ดอย่างอารมณ์ไม่ดีก็โดนจิกผมกระชากเดินไปทางหลังร้านเมื่อมาถึงหลังร้านก็โดนเหวี่ยงทิ้งจนล้มลงพื้นแล้วกระทืบจนสลบคาที่โดยที่เควินยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่กระทืบเขาเป็นใคร
“ลุงนิกคะ เอามันไปส่งที่โรงพยาบาล แล้วสืบว่ามันเป็นลูกใครมาให้วาด้วย”
เอวาสาวสวยวัยยี่สิบสองปีเอ่ยสั่งลุงนิกลูกน้องคนสนิทพ่อของเธอที่เป็นทั้งพี่เลี้ยงและผู้ช่วยของเธอมาตั้งแต่เด็ก
“ให้สืบทำไมหรอครับคุณหนู”
นิกถามคุณหนูตัวเองด้วยความสงสัย
“เห็นมันบอกว่าพ่อมันใหญ่ วาเลยอยากรู้ว่ามันจะใหญ่แค่ไหน เผื่อมันกลับมาหาเรื่องวาจะได้เล่นถูกครอบครัว”
เอวาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังสายตามองเควินด้วยสายตานิ่งเรียบแต่แผ่รังสีอำมหิตออกมาจนนิกได้แต่คิดในใจว่าแววตาของเอวานั้นเหมือนกับอคินเจ้านายของเขาไม่มีผิดแถมนิสัยก็เด็ดขาดไม่ยอมคนและยังรอบคอบจัดการศัตรูได้อย่างเลือดเย็น
“รับทราบครับคุณหนู คุณหนูครับ พรุ่งนี้ตอนเย็นให้ผมขับรถพากลับบ้านมั้ยครับ”
“มีอะไรหรอคะ ทำไมต้องกลับบ้านหรอคะ พรุ่งนี้ไม่ใช่วันหยุดนิ”
เอวาถามนิกด้วยสีหน้างงๆ เมื่อพูดเรื่องกลับบ้านเพราะปกติเธอจะกลับวันหยุดเสาร์อาทิตย์ซะส่วนใหญ่
“เอ่อ คุณหนูลืมวันเกิดนายหรอครับ”
นิกพูดขึ้นด้วยความสงสัย
“อร๊ายย! วาลืมเลยค่ะลุงนิก ลืมได้ไงเนี่ย ตายๆ มัวแต่จัดการไอ้พวกไม่มีมารยาทเกือบทุกวันจนลืมวันเกิดคุณพ่อเลย ขอบคุณนะคะลุงนิกฝากจัดการไอ้หมอนี่ด้วยนะคะ”
พูดจบเอวาก็เดินกลับเข้าไปในร้านทันที นิกจึงสั่งให้กัสลูกชายของตัวเองพาเควินไปส่งที่โรงพยาบาลตามคำสั่งของเอวา
“คุณเอวาโคตรเลือดเย็นเลยว่ะ ไม่มีเจรจา ไม่ตักเตือน เดินมาซัดไม่ยั้งเลย สมกับเป็นสายเลือดของคุณอคินและคุณมาวินจริงๆ พ่อกูบอกว่าสมัยหนุ่มๆ ทั้งสองท่านโคตรโหดเลยนะมึง”
กัสเล่าให้ลูกน้องอีกคนฟังขณะที่กำลังจัดการเควินอยู่
“จริงหรอพี่ นี่ขนาดคุณเอวาเป็นผู้หญิงยังขนาดนี้ถ้าเป็นผู้ชายจะขนาดไหนเนี่ย ไหนจะคุณเจเดนกับคุณเจด้าสองคนนั้นก็โหดใช่ย่อยเลย ผมล่ะสงสารคนมาก่อเรื่องเลยจริงๆ”
ลูกน้องอีกคนพูดขึ้นพร้อมกับท่าขนลุกเมื่อนึกภาพเหล่าเจ้านายทั้งสามจัดการลูกค้าที่มีเรื่องอย่างเลือดเย็น
“หึ นี่ยังไม่ครบนะ มึงต้องได้เห็นคุณราชันย์กับคุณดารินโหดไม่ต่างจากเจ้านายสามคนของเราเลย”
กัสพูดขึ้นอีกครั้ง
“คุณราชันย์ผมเชื่ออยู่หรอก เพราะเห็นนิ่งขรึมไม่ต่างจากคุณเจเดนเลย แต่คุณดารินโหดด้วยหรอพี่ ผมว่าคุณดารินดูเรียบร้อยมากนะพี่”
ลูกน้องพูดขึ้นด้วยความสงสัย
“หึ มึงรู้จักคุณดารินน้อยไปซะแล้ว มึงไม่สังเกตหรอว่าทำไมคุณเจเดนที่ชอบเถียงกับคุณเอวาแต่ไม่เคยเถียงคุณดารินเลยสักครั้งแถมยังเชื่อฟังคุณดารินทุกอย่างทั้งที่คุณเอวากับคุณดารินก็อายุเท่ากัน เห็นนิ่งๆ แบบนั้นพอมีเรื่องฝีมือก็ไม่ต่างจากคุณเอวาเลยล่ะ”
กัสเล่าให้ลูกน้องฟังจนลูกน้องถึงกับอึ้ง
“โคตรน่ากลัว แล้วแบบนี้จะมีใครกล้าจีบเจ้านายเรามั้ยเนี่ย”
“เลิกสนใจเรื่องเจ้านายได้แล้ว ทำงานๆ”
กัสพูดขึ้นแล้วหันมาจัดการเรื่องเควินต่อ ทางด้านเอวาเมื่อขึ้นมาในห้องทำงานแล้วก็มาตรวจเช็คเอกสารงานที่เจเดนเอามาให้ตรวจซ้ำอย่างละเอียด เอวาเป็นลูกสาวคนเดียวของอคินและแพรวาซึ่งตอนนี้เรียนวิศวะคอมพิวเตอร์ปีสี่แล้วโดยมีดารินลูกพี่ลูกน้องของเธอเรียนห้องเดียวกัน เอวาเป็นสาวสวยหน้าหวานแต่การแต่งตัวออกจะแซ่บถึงพริกถึงขิงผิวขาวเนียนหุ่นดีราวกับนางแบบผมสีแดงยาวสลวยจนหนุ่มๆ ต่างก็มองไม่วางตา แต่เอวากลับไม่สนใจใครเลยสักคน ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากมีแฟนแต่เพราะยังหาคนที่เข้ากับเธอไม่ได้ มีคนมาจีบตลอดแต่พอเจอด่านพ่อเธอเข้าไปก็ถอยกันทุกคนเพราะพ่อของเธอนั้นหวงลูกสาวมากเวลามีคนมาจีบก็มักจะทดสอบด้วยการท้าชกเพราะอยากรู้ว่าจะสามารถปกป้องลูกสาวตัวเองได้มั้ย บางคนแค่ได้เห็นสายตาที่ดุดันของพ่อเธอก็ยกธงขาวไม่กล้าจีบเลยก็มีแต่เอวาก็ไม่ได้โกรธพ่อตัวเองเลยสักนิด กลับชอบที่พ่อมาทดสอบให้แบบนี้เพราะวันข้างหน้าถ้าเข้ากับพ่อเธอไม่ได้ชีวิตคู่ก็อยู่ยาก
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ยุ่งมั้ยวันนี้”
เอวามองไปที่ประตูทันทีเมื่อมีคนเคาะห้องแล้วเปิดประตูเข้ามาก็เห็นดารินเดินเข้ามาแล้วเอ่ยถามเธอด้วยรอยยิ้ม
“ไม่อะ ทำไมจ้ะ วันนี้อยากตี้หรอ ลงไปออกสเต็ปสักเพลงมั้ยล่ะ”
เอวาปิดเอกสารแล้วถามดารินด้วยรอยยิ้ม
“ไม่อยากตี้แต่อยากดื่มในห้องนี้ ได้มั้ยล่ะ”
ดารินพูดขึ้นแล้วไปนั่งที่โซฟา
“ได้อยู่แล้ว”
พูดจบเอวาก็ลุกขึ้นไปหยิบเครื่องดื่มในตู้ออกมาให้ดารินจากนั้นก็นั่งลงที่โซฟาตรงข้าม
“ทำไมวันนี้มาที่นี่ล่ะ”
เอวาถามดารินด้วยความสงสัยเพราะส่วนมากดารินจะอยู่ที่สนามแข่งรถตลอด
“วันนี้ว่างก็เลยอยากมาดื่ม”
พูดจบดารินก็กระดกเหล้าหมดแก้วทีเดียว
“ขอความจริงค่ะสาว”
เอวาถามขึ้นอย่างรู้ทันเพราะรู้ว่าดารินกำลังอารมณ์ไม่ดี
“ฉันแค่เซ็ง โดนเด็กปฏิเสธมา”
ดารินพูดขึ้นอย่างอารมณ์ไม่ดี
“อย่าบอกนะว่าน้องนักแข่งคนนั้น”
เอวาถามขึ้นด้วยความตกใจ
“อือ”
ดารินตอบสั้นๆ แล้วกระดกเหล้าเข้าปากอีกครั้ง
“ฮ่าๆ เอาน่า ตื๊อไว้ค่ะสาวเดี๋ยวผู้ชายก็แพ้เอง”
เอวาพูดปลอบใจดารินด้วยน้ำเสียงกวนๆ
“ว่าแต่แกเถอะ ยังไม่เจอคนที่ชอบหรอเอวา หนุ่มๆ มาจีบแกเยอะมากเลยนิ”
ดารินถามเอวาด้วยความอยากรู้
“ยังอะ สงสัยเนื้อคู่ยังไม่เกิด อ้อ! ฉันลืมบอกแกว่าฉันลงเรียนวิชาเลือกภาษาจีนด้วยนะ เห็นมีชั่วโมงว่าง”
เอวาพูดเรื่องเรียนขึ้นมาทันทีเมื่อนึกขึ้นได้
“เรียนมาเกือบสามอาทิตย์แล้วยังลงได้ด้วยหรอ”
ดารินถามเอวาด้วยความสงสัยเพราะเทอมนี้เรียนมาสามอาทิตย์แล้ว
“ตอนแรกฉันก็คิดว่าไม่น่าได้เลยลองไปถามอาจารย์ดู เห็นว่าเป็นวิชาเลือกเลยสามารถลงเพิ่มได้แล้วจ่ายค่าหน่วยกิตทีหลังน่ะ”
เอวาตอบดารินไปตามตรงแล้วยกแก้วขึ้นดื่ม
“งั้นหรอ ก็ดีนิแกก็ชอบภาษาจีนอยู่แล้ว แต่ได้ยินว่าห้องเราไม่มีใครลงเรียนวิชานี้เลยนะ ให้ฉันลงเรียนเป็นเพื่อนมั้ย”
ดารินถามเอวาด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร เทอมที่แล้วแกลงเรียนหนักมาแล้วเทอมนี้พักบ้างเถอะ ฉันไปเรียนคนเดียวได้ เผลอๆ อาจจะได้เพื่อนใหม่มาก็ได้ เอ๊ะ! หรือจะได้ผู้ชายมารึเปล่าน๊า อิอิ”
เอวาพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดีจนดารินได้แต่หัวเราะออกมานี่คือสาเหตุที่ดารินมาหาเอวาเวลามีเรื่องเครียดเพราะเอวามักจะทำให้เธอนั้นลืมเรื่องเครียดตัวเองได้ตลอด เอวาและดารินนั่งดื่มพูดคุยกันอย่างอารมณ์ดีจนดึกดารินก็กลับส่วนเอวาก็รอเช็คความเรียบร้อยหลังปิดร้านแล้วค่อยกลับคอนโด