ปานวาดนั่งรอเจอสามีซึ่งเพิ่งกลับจากทำงาน ทันทีที่ฝ่ายชายมองเห็นใบหน้าบูดบึ้งและสายตาพร้อมจะหาเรื่องของภรรยาก็โคลงศีรษะเบนฝีเท้าจะเดินเลี่ยงไป ทว่าอีกฝ่ายไม่ยินยอม
“เหมือนไฟลต์จะแลนด์ตั้งแต่สองชั่วโมงที่แล้ว ทำไมถึงกลับมาเย็นขนาดนี้”
น้ำเสียงเชิงข่มกับประโยคที่เขาไม่อยากได้ยินดังขึ้น
“ผมก็มีคุยงานต่อบ้างสิ”
“งานอะไร เห็นคนในออฟฟิศบอกว่าเครื่องแลนด์ ขึ้นไปรายตัวเสร็จคุณก็ออกมา คุณไปไหนต่อ ไปกับนังนั่นใช่มั้ย...นี่อย่าเดินหนี”
ปานวาดตามไปกระชากไหล่สามีให้หันกลับมาคุยกันแต่อานัสสะบัดแขนทำให้หญิงสาวเสียหลักล้มกับพื้น แม่บ้านจะเข้ามาช่วยแต่ก็ถูกตวาดไล่ออกไป
“คุณผลักฉัน”
“ผมไม่ได้ผลัก” ชายหนุ่มตอบสีหน้าระอาและเหนื่อยหน่าย
“คุณบอกฉันมานะว่าคุณไปไหนมาทำไมเพิ่งกลับบ้าน”
“บอกไปก็ไม่เชื่อจะบอกทำซากอะไร” น้ำเสียงเขาหงุดหงิดระคนอ่อนใจ งานว่าเหนื่อยแล้ว กลับมาบ้านแทนที่จะได้พักผ่อนกลับทำให้รู้สึกเหนื่อยหนักยิ่งขึ้น
“เดี๋ยวนี้กล้าพูดแบบนี้กับฉันเหรอ ลืมแล้วเหรอว่าพ่อฉันเป็นใคร คุณทำให้ฉันไม่พอใจ คุณตกงานได้นะ”
“ก็เอาสิ เอาเลย ผมตกงานเมื่อไหร่ ผมก็เลิกกับคุณเมื่อนั้น เอามั้ยล่ะเราเลิกกัน จบกันตอนนี้เลยไม่ต้องทนอยู่เพื่อลูก” เมื่อความอดทนถึงขีดสุด เขาก็ไม่อยากจะทนอีกต่อไป
ปานวาดมีลูกสาวกับอานัสหนึ่งคนตอนนี้อายุสามขวบแล้ว ส่วนมากจะอยู่ที่บ้านมารดาของฝ่ายหญิงที่ช่วยเลี้ยงหลานให้ เพราะทางผู้ใหญ่ไม่อยากให้หลานต้องมาเห็นภาพพ่อแม่ทะเลาะกัน ซึ่งคนใกล้ชิดต่างรู้กันดี
“เห็นคนอื่นดีกว่าลูกกว่าเมียแล้วสินะถึงได้พูดแบบนี้”
“อย่าไปลงที่คนอื่น หัดส่องกระจกดูตัวเองซะบ้างว่าอารมณ์ร้ายขนาดไหน ใครจะทนไหว ไม่มีเหตุผลอะไรเลย”
ฝ่ายสามีขึ้นเสียงกลับ
“เพราะนังนั่นใช่มั้ยที่ทำให้คุณเป็นแบบนี้ เพราะมันใช่มั้ย ใช่มั้ย”
ภรรยาตามไปกระชากแขนดึงกลับมาคุย
“นี่ ถ้าคุณยังเป็นแบบนี้อยู่ ผมจะออกไปอยู่ที่อื่นจริง ๆ ไม่หยุดก็ลองดู”
นักบินผู้ช่วยหนุ่มหันกลับมาขู่กลับบ้างแววตาจริงจัง ทำให้ปานวาดมีท่าทีอ่อนลงเมื่ออีกฝ่ายเอาจริง ด้วยความที่ตัวเองรักฝ่ายชายและหลงใหลในความหล่อความเท่จึงไม่สามารถตัดใจจากผู้ชายคนนี้ได้ แต่จะหันไปจัดการกับคนอื่นแทนโดยใช้บารมีของบิดา
หนึ่งสัปดาห์ต่อมาหลังจากที่เข้าไปคุยกับปานวาดในห้องส่วนตัว กระยาหงันก็ยังมีไฟลต์บินตามตารางก่อนที่เธอจะได้รับอีเมลฉบับหนึ่งจากฝ่ายทรัพยากรบุคคลของสายการบินเรียกให้เข้าไปพบด่วน
“คุณมีหนังสือร้องเรียนเรื่องมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมด้านชู้สาวกับเพื่อนร่วมงาน” ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลแจ้งเรื่องที่เรียกตัวเธอเข้าพบ
กระยาหงันยืนอึ้ง แม้จะพอเดาได้ว่าการเข้าพบฝ่ายบุคคลในครั้งนี้คงไม่ใช่เรื่องดี
“ดิฉันไม่เคยมีความสัมพันธ์ในเชิงชู้สาวกับใครในที่ทำงาน” ธรรศกรไม่ใช่คนของวีสกายและเป็นเรื่องส่วนตัวไม่มีผลกระทบต่อการทำงานหรือองค์กร
“จากการตรวจสอบ พบว่าเรื่องนี้มีมูลและมีพยานยืนยันได้”
หญิงสาวนึกรู้ทันทีว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คงไม่พ้นคนที่เรียกเธอไปคุยด้วยก่อนหน้านี้ ปานวาดลูกสาวของผู้บริหารสูงสุดของวีสกายแอร์ไลน์ มีเรื่องขัดแย้งกับคนใหญ่คนโตขนาดนี้ไม่ว่าจะแก้ต่างให้ตัวเองอย่างไรก็คงไม่เกิดผล
“เอาเป็นว่าทางเราไม่อยากตัดอนาคตของคุณ จะให้คุณยื่นเรื่องลาออกเองแทนที่จะเป็นให้ออกหรือไล่ออก”
แม้จะมีพยานบุคคลยืนยันแต่ภาพที่เป็นหลักฐานก็ไม่สามารถฟันธงได้ว่ากระยาหงันกับฝ่ายชายที่ถูกระบุชื่อมีความสัมพันธ์กันเกินขอบเขต แต่ในเมื่อเบื้องบนมีคำสั่งลงมา ผู้น้อยก็มีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่ง
“ไม่ต้องการเห็นเธอทำงานอยู่ที่วีสกายอีก”
เพื่อลดปัญหาที่อาจจะตามมา การให้เธอที่ถูกระบุชื่อลาออกไปเองน่าจะดีกว่า แต่ถ้าหากเธอยังดื้อรั้นดันทุรังก็คงต้องใช้วิธีการขั้นรุนแรง
กระยาหงันยิ้มไว้อาลัยให้กับตัวเอง ไม่ผิดจากที่คิด นี่คือสิ่งที่อีกฝ่ายซึ่งเป็นอภิสิทธิ์ชนต้องการ หากไม่ยื่นหนังสือลาออก เธอก็คงถูกให้ออกหรือไม่ก็ไล่ออกอยู่ดี อย่างน้อยเธอก็ยังมีทางเลือกอยู่บ้าง แม้จะรู้สึกโกรธแค้นกับความอยุติธรรมที่ได้รับ แต่ในสังคมที่ผู้เป็นใหญ่มีอำนาจเหนือคนธรรมดาสามัญ กระยาหงันก็ได้แต่ต้องก้มหน้ายอมรับชะตากรรม ปานวาดเป็นถึงลูกสาวคนเดียวของผู้บริหารสูงสุดของสายการบินและเป็นเสมือนแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ที่ลูกขออะไรก็ย่อมทำให้ได้ ส่วนเธอก็แค่มดตัวเล็ก ๆ จะเป็นอย่างไรก็ไม่มีใครสนใจ
กระยาหงันเองก็คิดที่จะหางานอื่นทำจากทักษะอาชีพที่มีประสบการณ์สี่ปี แต่ไม่คิดว่าเธอจะมาถูกกล่าวหาด้วยข้อหาร้ายแรงทั้งที่ไม่เป็นความจริงจนต้องออกจากงานเสียก่อน หญิงสาวยิ้มหม่น นี่เป็นอีกครั้งที่ชีวิตของเธอต้องเจอกับอุปสรรคที่บั่นทอนกำลังใจ แต่ถึงกระนั้นเธอก็ไม่ท้อและพร้อมที่จะโอบกอดตัวเองให้แน่นที่สุดและก้าวเดินต่อไป
...ออกมาก็ดีเหมือนกัน เธอก็ตกงานตามระเบียบส่วนปานวาดที่คิดว่ากำจัดชู้ของสามีได้สำเร็จ แท้จริงแล้วก็แอร์คนที่เป็นชู้ตัวจริงก็ยังอยู่และป่านนี้ก็คงนั่งหัวเราะเมียหลวง ‘หน้าโง่’ อยู่กระมัง
สมน้ำหน้า ปล่อยให้โง่ต่อไปเถอะ
^
^
^
กิ้นจะไปทำอะไรต่อ เป็นกำลังใจให้กิ้นด้วยนะคะ