A episode 2
โดย Ginoichi
มือคู่น้อยกระแทกทัพพีลงดังโครมด้วยความลืมตัว ก่อนที่เพียงชั่วครู่จะเริ่มปรับอารมณ์ให้กลับมาเป็นปกติ ดวงตากลมโตหลุบลงหนี ไม่มองเหตุการณ์ตรงหน้าอีก
'โมโหแค่ไหนก็ต้องข่มใจ เมื่อเธอไม่ได้เป็นอะไรกับเขา'
ผู้กองอคินณ์ขมวดคิ้วมุ่น เมื่อมองไปยังจุดรับอาหาร ไม่พบรอยยิ้มที่หวานหยดย้อยเหมือนเคย วันนี้แม่ค้าที่ได้รับสมยานามว่านางฟ้าของค่ายหน้าบูดบึ้ง ซะจนพาบรรยากาศภายในโรงเลี้ยงหม่นไปหมด
ฝ่าเท้ากำยำเยื้องย่างเข้าไปยังจุดรับอาหารช้าๆ กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ลอยประทะจมูก ผู้กอง
อคินณ์เบ้หน้า ทันทีที่เห็น อาหารในหม้อใบโต
'แกงเขียวหวานไก่ ใส่มะเขือเปลาะ ที่เขาเกลียดแสนเกลียด'
ดวงตาคมกริบ มองจ้องแม่ค้า ที่เอาแต่ก้มหน้างุด ด้วยแววตาแห่งคำถาม
หากเป็นบราลีในยามปกติ เจ้าหล่อนคงจะเตรียมจัดหาอย่างอื่นมาสับเปลี่ยนถาดให้เขาทันที
แต่วันนี้นอกจากไม่มีท่าทีจะเปลี่ยน เจ้าตัวยังทำเนียน อัดก้อนมะเขือเข้ามาจนเต็มถาดหลุม
้เต็มเสียจนในถาดมีแต่สีเขียว เขียวกว่าชุดเขาเสียอีก!
'จะเอาแบบนี้ใช่ไหม?' เกิดคำถามขึ้นมาในใจจน
หัวคิ้วหนา สั่นกระตุกด้วยความหงุดหงิด
มือหนาคว้าถาดมาถือด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะย่ำฝีเท้าออกไปในทันที
บราลี มองถ้วยแกงเนื้อใส่หน่อไม้ ของโปรดเขา ที่แอบใว้ ใต้ชั้นด้วยความหงุดหงิดไม่ต่างกัน ทั้งหงุดหงิดทั้งน้อยใจ
ตักข้าวไปก็มองไป ท้ายที่สุด เป็นบดินทร์ที่ทนมองไม่ได้ คว้าเอาถ้วยแกงเนื้อ เดินตรงดิ่งไปหาผู้กองหนุ่มด้วยความรู้งาน
บดินทร์ยิ้มมุมปาก เมื่อก้มลงมองถาดเข้าที่เพิ่งยกมาวาง ไม่ถูกแตะแม้แต่คำเดียว
อีกคนก็รอ แต่ไม่พูด
คนจะให้ก็ทำไม่รู้ไม่ชี้
บอลเหนื่อย!
"กับข้าวครับผู้กอง ถ้วยนี้ ร้อนๆเลย"
ผู้กองชวิน เงยขึ้นมาคนมาใหม่ชั่วครู่ จึงเบนสายตากลับไปมองคนที่ทำไม่รู้ไม่ชี้อีกครั้ง
'ก็ยังนิ่ง...เหมือนกูไปทำอะไรให้'
คิดในใจ พรางคว้าเอาถ้วยแกงเนื้อ มาถือ
"เท่าไหร่"
เสียงขรึมถามพร้อมกับคว้ากระเป๋าเงินมาเปิด
"ฟรีครับ"
"เจ้เขาทำ"
บดินทร์ขยิบตาให้หนึ่งทีตามประสาคนขี้เล่น
"อ๋อ"
"ขอบใจ"
เสียงขรึมตอบนิ่งๆ ก่อนจะจัดการตักแกงราดลงบนข้าว จนพูนถาด ไม่รู้เพราะความหิวหรือความหงุดหงิด แกงเนื้อถ้วยนี้ มันอร่อยแปลกๆ กินเพลิน จนลืมสนใจคนที่มาด้วยกัน
เพียงขวัญ หัวเราะคิกคักกับท่าทางของเขา
ใบหน้าสวย ปรายตามองแม่ค้าคนงามชั่วครู่ ก่อนจะตั้งใจ ทานอาการของตัวเองเงียบๆ
เหล่าทหารที่กินข้าวเรียบร้อย ลุกออกไปจนเกือบหมด เหลือเพียงกลุ่มสุดท้าย ที่เพิ่งเดินเข้ามาทีหลัง และเป็นกลุ่มที่บราลีไม่ชอบใจเป็นพิเศษ
"น้องแบมคนสวย วันนี้อารมณ์เสียหรอจ้ะ ไม่ยิ้มให้พี่ดูเลย"
หมวดศิระ ถามทันที ที่เดินถึงตัว
บราลี ตวัดสายตาขึ้นมองนิ่งๆ พร้อมกับฉีกยิ้มหวานเกือบถึงใบหูให้
"พอใจไหมจ้ะ..พอใจแล้วก็ไป ไม่ว่างเล่นด้วย!"
ฝาหม้อใหญ่ ถูกกระแทกปิดดังโครม! พร้อมกับร่างเพรียวระหงษ์ ที่ซ้อนหม้อขนาดใหญ่ 6ใบเรียงกัน และไม่หน้าเชื่ออีกรอบ ว่า เธอใช้เรือน
ร่างบางๆนั่น ยกมันไปขึ้นท้ายกระบะได้ในคราวเดียว
"เชรด...ปกติ จะกินน้ำสักขวดยังต้องมาอ้อนให้ผู้กองเปิด วันนี้น้องแบมขนหม้อขึ้นรถหว่ะ"
เสียงหัวเราะดังกระหึ่มตามหลัง พร้อมกันกับ รถกระบะ ทันใหญ่ ที่เร่งถอยออกไปจนฝุ่นตลบ
"เจ้..เจ้!"
บดินทร์เรียกเสียงฝาด เมื่อเห็นว่าพลาดซะแน่ เด็กหนุ่มก็ย้ายตัวเองกลับมานั่งกับเหล่าพี่ทหารด้วยใบหน้ามู่ทู่
"มีใครผ่านบ้านผมไหม"
"ขออาศัยกับด้วยที"
ผู้กองอคินณ์เงยขึ้นมอง พร้อมกับพยักหน้ารับ
"ไม่ผ่าน แต่แวะส่งได้"
เสียงขรึมเอ่ยราบเรียบ
"เอาเว้ย..พี่เขยเขาจะไปส่งน้องเมีย"
หมวดศิระ แซวอีกรอบ จนคนที่ถูกกล่าวถึงบ่อยๆชักไม่ชอบใจ
"เก็บปากใว้แดกข้าว"
เมื่อเห็น เพื่อนรุ่นพี่เริ่มอารมณ์เสีย คนขี้เล่นก็เเสร้งเม้มปากแน่น พร้อมกับทำมือท่ารูดซิบปากในทันที
ภายในรถ suv คันใหญ่ ไม่มีเสียงพูดคุยมาจนถึงบ้าน บดินทร์ที่เริ่มรู้สึกตัวว่าคิดผิดที่ติดรถผู้กองหนุ่มมา นั่งเหงื่อแตกพลั่กจนมือชื้นแฉะ ทันทีที่เห็นซอยเข้าบ้าน เด็กหนุ่มแสดงอาการดีใจจนเนื้อเต้น พรางคิดในใจ อย่างตำหนิพี่สาว
'ชอบเข้าไปได้ไง คนอะไรถ้าไม่ได้ยินเสียงหายใจจะคิดว่าเป็นผีตายซาก อยู่ไกล้แล้วเย็นไปหมด'
"ขอบคุณครับผู้กอง ถ้ายังไง รบกวนลงมาก่อนเดี๊ยวผมชงกาแฟให้"
บดินทร์ เสนอตัวแสดงน้ำใจกับอีกฝ่ายพร้อมกับเชื้อเชิญเข้าบ้าน
ผู้กองอคินณ์พยักหน้ารับ พรางดับเครื่องยนต์ ลงรถตามเข้าไป
"รถใครมาอ่ะ?"
เสียงหวานร้องทักทันทีที่ก้าวพ้นบรรไดขั้นสุดท้าย บราลี ในชุด เสื้อคอปสายเดี่ยว สีดำ กับกางเกงเว้าขาเข้าชุด เดินทอดน่องเข้ามาหา
ดวงตากลมโตเบิกกว้างทันที ที่สบตากับเขา คนที่ทำเธอหงุดหงิดมาค่อนวัน
"มะ...มีธุระกับใครคะ"
น้ำเสียงอ้อมแอ้มถูกเปร่งออกมาจากรำคอ เรียกความขบขัน ทางสายตาจากอีกฝ่ายได้ไม่น้อย
"มาส่งบอล"
"มีคนลืมใว้"
เสียงขรึมเอ่ยเรียบๆ ร่างกำยำในชุดลายพรางก้าวเข้ามาไกล้เรื่อยๆ ในขณะที่บราลี เริ่มน้ำลายฝืดคอ
ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มแน่น ลมหายใจขาดห้วง เมื่อเริ่มคิดว่าจะทนได้อีกไม่นาน คนหน้าหวานก็แสร้งจะเดินเลี่ยงไปทางอื่น
"ไม่ต้องหนี"
"ไม่ได้คิดจะทำอะไรอยู่แล้ว"
เขากล่าวออกมาราวกับรู้ทันชุดความคิดของเธอไปหมด แต่นั่นแหละ มันมีความหงุดหงิดของเธอปนอยู่ในนั่นด้วย
'ไม่คิดจะทำอะไรเนี่ยนะ?'
'วอท?'
"ก็ไม่ได้คิดว่าจะทำ แค่ไม่อยากอยู่รบกวน"
เธอเอ่ยทิ้งท้ายประโยค ก่อนจะเดินออกมาด้านนอก ทิ้งให้คนหน้านิ่งขมวดคิ้ว มองตามจนลับสายตา
'แล้วกูไปทำอะไรให้ยัง?'
"รอนานไหมครับ" ทันทีที่หมุบตูดคนพี่ คนน้องก็โผล่พรวด ออกมาทันที ราวกับนัดกันใว้ บดินทร์ยิ้มร่า สองมือ มีถุงผ้าอยู่2ใบ
ใบแรก มองออกทันทีว่าเป็นแก้วกาเเฟ
และอีกใบ คงเป็นทัพเปอร์แว ที่แม่ตัวดีใช้ส่งอาหารเขาประจำ มาร่วม2ปี
บดินทร์ยื่นมันใส่มือชายหนุ่มยิ้มๆ
"ไหนบอกว่าจะเลี้ยงกาแฟ"
"แล้วอีกกล่อง นี่อะไร?"
คนหน้านิ่งถามทั้งที่พอรู้คำตอบดี
"กาแฟของเจ่เจ้...ข้าวก็ของเจ่เจ้"
"กินมาเหยียบสองปี ยังไม่ชินสักทีหรือไงครับ"
บดินทร์ถามยิ้มๆ แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีความอายฉายชัดอยู่บนใบหน้าไม่น้อย
"รู้กับเค้าด้วยรึไง?"
ผู้กองอคินณ์เลิกคิ้วถาม
"โถ่ผู้กอง เขารู้กันหมดทั้งค่ายแล้ว"
บดินทร์เอ่ยเสียงไม่เบาพร้อมกับหัวเราะร่วน
หากให้ว่ากันตามจริง จุดเริ่มต้นของเขากับบราลี คงเป็น วันที่ตัวเขาเอง ย้ายมาประจำการที่นี่
แล้วมีเธอ เป็นผู้ช่วย มาจัดแจงบ้านช่องให้
คราวแรก เข้าตัวก็ดูไม่เต็มใจ พอเจอๆ กันไปไม่กี่วัน อาการชักเริ่มเปลี่ยน แม่ตัวดีที่เคยวิ่งหนี กลับมาตามวอแวเขาไม่หยุด นั้งแต่วันที่ได้เห็นใบหน้าของเขา แรกๆ ก็มีแปลกใจอยู่บ้าง หลังๆ ก็มาได้ยิน ว่าเจ้าตัวคิดว่าเขาเป็นทหารแก่
"จีบมานานขนาดนี้ ไม่หวั่นไหวสักที หรือไงครับผู้กอง"
บดินทร์ถามคำถามที่สงสัยมานานด้วยท่าทีใคร่รู้
ผู้กองชวินเงยหน้ามองนิ่งๆ พร้อมกับตอบแบบไม่คิด
"ไม่"
อื้อหือ ดอกนี้เจ็บจี๊ด
ส่งข้าวเธอแทบตาย เธอบอกไม่คิดอะไรสักนิด
บราลีที่แอบฟังอยู่ห่างๆ หน้าม่อยลงทันตา ร่างเพรียวบางทรุดลงนั่งกอดเข่าเงียบๆ อยู่ดีๆ มันก็รู้สึก sosad ขึ้นมา จนอยากจะคว้า 40 ดีกรีหน้าร้านมาซัดให้เมาแป๋
แต่นั้นแหละ ขนาดยังไม่เมา สภาพยังไม่อยากจะดูได้