#ZIAN PART
@คณะบริหารธุรกิจ
11.00น.
เมื่อวานเลิกคลาสก็ลนลานขับรถออกไปอย่างรีบร้อน ไม่คิดว่าจะไปโผล่ที่สวนสาธารณะยืนมองร้านโจ๊กปิดบริการแล้วยังรู้สึกเสียดายที่มาเสียเที่ยว ยังดีที่ถ่ายรูปป้ายหน้าร้านเก็บไว้ดูเวลาเปิด 06.00น.-14.00น.
มาคิดดูแล้วทำไมตัวเองถึงต้องทำแบบนั้นเป็นความสงสัยที่ยังไม่แน่ใจกับคำตอบ แน่นอนว่าเกี่ยวกับน้องสาวร้านโจ๊กล่ะมั้ง ไม่รู้นะว่าเป็นความรู้สึกแบบไหนผมก็ไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไร
นับแต่เจอเธอวันนั้นก็ไม่เคยได้นอนเต็มอิ่มสักวัน คิดถึงช่วงเวลานั้นทุกครั้งที่เจอกันครั้งแรกด่าตัวเองอยู่บ่อยๆ ว่าเป็นเอามากแต่เสือกยอมรับซะงั้น
เลิกคลาสแล้วกำลังจะออกไปหาอะไรกินป้ายร้านโจ๊กก็ลอยเข้ามาในหัวอีกครั้งจำได้แม่นตอนนี้ร้านยังเปิดบริการอยู่
เพิ่งลงจากตึกก็ได้ยินเสียงตะโกนของไอ้แดนตามหลังมา
“ไอ้เซียนมึงจะไปไหนวะ กินข้าวกันปะกูหิวข้าวเว้ย”
“โทษทีเพื่อนกูมีธุระที่ต้องรีบไปว่ะ”
“ธุระอะไรของมึงทุกวี่ทุกวันวะ เอาจริงมึงไปไหนกันแน่วะบอกกูมาซะดีๆ ทำตัวมีพิรุธนะมึงน่ะ”
“ไปละมึงกูรีบไว้เย็นๆ เจอกัน” พูดจบก็ไปอย่างว่องไวกลัวว่าไอ้แดนจะขับรถตามมาแล้วถูกจับได้ว่ากำลังจะไปไหน
“ไอ้เซียนนนน~”
@ร้านโจ๊ก
หนีจากไอ้แดนมาก็รีบขับรถออกไปจนมาถึงร้านโจ๊ก พอเข้ามาในร้าน เห็นคุณป้าเจ้าของร้านยิ้มทักทายก่อนใคร
“พ่อหนุ่มหาที่นั่งก่อนนะเดี๋ยวป้าเดินไปจดเมนู”
“ครับป้า”
ระหว่างหาที่นั่งสายตาก็กวาดมองรอบๆ ร้าน ลูกค้าก็มีเยอะพอประมาณไม่พลุกพล่านมากมีเข้าออกอยู่เรื่อยๆ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไรกำลังสงสัยว่าคุณป้าเฝ้าร้านคนเดียวรึเปล่า?
ได้ที่นั่งโต๊ะเดิมที่เคยมากินกับพวกเพื่อนรอไม่นานคุณป้าก็เดินมาหา
“พ่อหนุ่มกินอะไรจ๊ะวันนี้”
“ผมเอาโจ๊กหนึ่ง กวยจั๊บใส่ไข่หนึ่งแล้วก็โอเลี้ยงหนึ่ง แก้วครับป้า”
“ได้ๆ รอแป๊บนึงนะพ่อหนุ่ม”
อาหารมาเสิร์ฟกินไปมองคนเข้าออกร้านไปราวกับเป็นเด็กเฝ้าร้านก็ยังเห็นคุณป้าคนเดียวเท่านั้นสงสัยจะมาผิดเวลา
อาหารหมดจานน้ำหมดแก้วแต่ใจยังไม่อยากกลับเผื่อว่า ตอนที่ออกไปแล้วน้องเขาจะกลับมา เอ๊ะ! สรุปที่มาหาถึงที่นี่เพราะอยากเจอน้องเขางั้นเหรอ
ไม่ใช่เพราะติดใจฝีมืออาหารของคุณป้าเหรอ?
“…”
หลังจากคิดไม่ตกก็ลุกขึ้นเดินไปหาคุณป้าที่มองมาอย่างสงสัย
“ป้าครับ ผมขอสั่งกลับด้วยเอาโจ๊กหนึ่งถุง กวยจั๊บหนึ่งถุง”
คุณป้าพยักหน้ายิ้มๆ ส่วนผมเดินกลับไปนั่งรอที่โต๊ะ กินไปก่อนหน้านี้ก็แน่นท้องแล้ว ที่สั่งเพิ่มก็แค่อยากรออีกหน่อยไม่อยากรีบกลับ เผื่อจะสวนทางกับน้องเขา
“…!”
สรุปกูมาเพราะอยากเห็นหน้าน้องเขาสินะไอ้เซียนมึงเป็นหนักแล้วทุกวันนี้
“โจ๊ก กวยจั๊บเสร็จแล้วพ่อหนุ่ม” ป้าตะโกนเรียกตอนที่กำลังเหม่อ
ว้าาา~ ทำเสร็จเร็วชะมัดอยากอยู่ต่ออีกนิด
ช่างเถอะ ค่อยมาใหม่วันนี้สิบเอ็ดโมงไม่เจอ พรุ่งนี้เลิกคลาสบ่ายโมงค่อยมาเวลานั้น
ผมเดินไปจ่ายตังค์แล้วรับถุงโจ๊กกวยจั๊บมาก่อนจะขับรถกลับคอนโดอย่างผิดหวัง
วันต่อมา... หลังเลิกเรียนช่วงบ่ายหาเรื่องหนีไอ้แดนกว่าจะปลีกตัวมาได้ไม่ง่ายเลย มาถึงก็เห็นคุณป้ายิ้มแย้มเช่นเคย ผมเดินไปนั่งที่ประจำแล้วรอป้ามาจดเมนูอาหาร
“วันนี้กินอะไรจ๊ะพ่อหนุ่มหรือเอาเหมือนเดิม”
ได้ยินแบบนั้นก็ฉีกยิ้มคุณป้าจำผมได้ “เหมือนเดิมครับป้า”
“แล้ววันนี้ห่อกลับด้วยไหมจ๊ะ?”
“ไว้ก่อนครับ”
“จ้า โจ๊กหนึ่งจั๊บใส่ไข่หนึ่งโอเลี้ยงหนึ่ง ถูกต้องไหมพ่อหนุ่ม?”
“ครับคุณป้า”
ไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟนั่งกินเงียบๆ คนเดียวพร้อมกับคอยสังเกตคนเข้าออกร้านทุกอย่างยังเหมือนเดิม นั่งกินจนหมดถ้วยทั้งโจ๊กทั้งกวยจั๊บก็ยังไม่มีวี่แววว่าลูกสาวป้าจะมา
“ป้าครับ ผมขอสั่งกลับด้วยนะครับ”
คุณป้าเดินมาหาพร้อมทำหน้าสงสัย “อ้าว เปลี่ยนใจแล้วเหรอพ่อหนุ่ม?”
“ครับ” จริงๆ ผมไม่ได้เปลี่ยนใจกะจะสั่งกลับอยู่แล้ว แค่ไม่อยากให้คุณป้ารีบทำยังไม่อยากรีบกลับ
“ได้ๆ เดี๋ยวป้าไปทำให้รอแป๊บนึงนะ”
รอจนป้าเรียกแล้วเดินไปจ่ายตังค์ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น วันนี้คว้าน้ำเหลวอีกตามเคย
@ZCondo
พอกลับมาถึงคอนโดเอาถุงโจ๊กกวยจั๊บที่เย็นชืดไปแช่ตู้เย็น แล้วกระโดดขึ้นเตียงกะงีบยาวๆ
“…”
Rrrrrr!
เพิ่งจะหลับตาไม่ถึงนาทีเสียงโทรศัพท์ข้างตัวก็ดังขึ้นมา มือคว้ากดรับสายยังไม่มองจอด้วยซ้ำว่าใครโทร. มา
[ไอ้เซียนมึงอยู่ไหนวะ?]
“อยู่ห้อง ไมวะ?”
[กูกำลังจะขึ้นไปเปิดประตูดิ๊]
“ไอ้ห่าประตูไม่ได้ล็อกก็เปิดเข้ามาเองดิวะ คีย์การ์ดสำรองกูก็อยู่กับมึงนี่ไม่มีปัญญาขนาดนั้นเลยเหรอวะ”
ตืดๆๆๆ
“…”
ไม่รู้มันได้ยินรึเปล่าจู่ๆ ก็วางสายไป ผมลุกจากเตียงไปเปิดประตูให้มันแล้วกลับไปงีบต่อบนเตียง ปกติไอ้แดนก็รู้อยู่ละว่าเวลาที่ผมอยู่ห้องไม่ค่อยชอบ ล็อกประตู
เพิ่งจะหลับตาไปไม่ถึงนาทีก็มีเสียงร้องโหวกเหวกโวยวายของมันที่เข้ามาในห้องแล้ว แม่งอยากเอาหมอนปาใส่หน้ามันแรงๆ หนวกหูฉิบ!
“ไอ้เซียนนน~ กูหิวข้าวว่ะ มึงมีไรกินไหมวะ?”
“เปิดหาเอาในตู้เย็นอยากกินอะไรก็อุ่นเอานะกูงีบแป๊บ”
ก่อนหลับตาเห็นไอ้แดนเดินไปเปิดตู้เย็น
“เชี้ย! มึงไปงานบุญที่ไหนมาวะ?”
เสียงไอ้แดนทำให้สะดุ้งตื่น หันไปมองมือมันที่กำลังถือถุงโจ๊กออกมาอวด
“เออๆ กินไปเถอะน่า” ผมเลิกสนใจมันกะจะงีบต่อไอ้เวรนี่เอะอะโวยวายฉิบหาย กูจะนอนโว้ยยยย!
“โอ้โห! เต็มตู้เลยเว้ย แม่งกี่วันจะกินหมดวะเนี่ย?!”
“…”
เห็นมันพูดจบก็เดินไปอุ่นโจ๊กนั่งกินเงียบๆ สงสัยจะหิวจัด เห็นมันกินอร่อยผมก็เริ่มง่วงแล้ว ก่อนหลับตายังรู้สึกตัวว่าไอ้แดนขึ้นมานอนข้างๆ และไม่รู้ตอนไหนที่พวกเรานอนหลับด้วยกันยาวๆ
ตื่นมาอีกทีก็มืดค่ำแล้ว ไอ้แดนกลับไปตอนไหนไม่รู้คงไปแต่งตัวที่ห้องนั่นแหละ ส่วนผมก็เช่นกันลุกจากเตียงไปแต่งตัวมีนัดกับเพื่อนๆ ที่ร้านเหล้าร้านเดิม
ขับรถออกมาระยะนึงเพิ่งนึกได้ ลูกสาวคุณป้าชื่ออะไรกันนะนี่ผมคิดถึงเธออีกแล้ว เฮ้อ...
@Zbar
มาถึงผับพวกเพื่อนก็มาถึงแล้วครบแก๊งเลย นั่งได้ไม่นานไอ้แดนก็ลุกขึ้นทำหน้าที่เป็นบาร์เทนเนอร์จำเป็นมันชอบชงเหล้าให้เพื่อนทุกคน แต่ว่าเหล้าแก้วนี้รสชาติไม่ขมฝาดเหมือนอย่างเคย
“…”
เหมือนว่าขาดอะไรไปอย่าง...
ขณะที่พวกเพื่อนพูดคุยกันอย่างเฮฮาผมได้แต่พยักหน้ามีส่วนร่วมเท่านั้น จะให้เป็นฝ่ายพูดอะไรก่อนก็ดูเหมือนว่าจะคิดอะไรไม่ออกคงเพราะในหัวมันกำลังคิดเรื่องอื่นอยู่
“ผับใกล้จะปิดแล้วเว้ย ไปต่อไหนกันไหมวะ?”
“โอ๊ยแดนเราโต้รุ่งมาเป็นอาทิตย์แล้วนะ วันนี้ขอพักเถอะง่วงนอนจะแย่แล้ว” เอ็มมี่เริ่มงอแง เพราะไม่ได้นอนเต็มอิ่มมาหลายคืนแล้ว
ส่วนเฟยนั่งเงียบๆ ไม่พูดอะไรนั่นก็แปลว่าเห็นด้วยกับเอ็มมี่ เหลือแค่ผมคนเดียวสินะที่ยังไม่ตอบมัน
“วันหลังค่อยไปต่อก็แล้วกันว่ะ กูก็ง่วงๆ เหมือนกัน กลับปะแยกย้าย”
“เออๆ ก็ได้วะ”
ไอ้แดนทำหน้าหงอยๆ คงอยากสนุกต่อ มันก็คึกคักได้ทุกวี่ทุกวันเหลือจะเชื่อ
หลังจากพูดคุยตกลงกันได้ก็ต่างแยกย้ายกลับไปพักผ่อน ตัวผมก็มาถึงที่พักแล้วเช่นกันพอมาถึงก็รีบเข้าไปอาบน้ำล้างตัวเผื่อจะกลบกลิ่นแอลกอฮอล์ที่ดื่มไปได้บ้าง อาบน้ำนานหน่อยก็รีบเข้านอนพร้อมกับตั้งเวลาปลุกเวลาตีห้า
งีบไปได้สองชั่วโมงเสียงนาฬิกาก็ร้องดังจนแสบแก้วหู ผมขยี้ตาแล้วควานหาโทรศัพท์มาปิดเสียงแทบอยากนอนต่อแต่พอนึกว่าจะทำอะไร ก็ลุกขึ้นไปล้างหน้าแปรงฟัน แล้วเปลี่ยนชุดที่ดูดีหน่อยก้มดมตัวเองกลิ่นแอลกอฮอล์หายเกลี้ยงละ แจ่ม!
@สวนสาธารณะ
แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็ขับรถออกมาจอดไว้สวนสาธารณะ ไม่ไกลจากร้านโจ๊กเท่าไรนัก
ใช่แล้ว ผมตั้งใจมาฝากท้องที่นี่แหละและคาดหวังว่าวันนี้จะได้เจอน้องคนนั้นอีก ครั้งที่แล้วเจอกันก็คือเวลาเช้าตรู่ คิดว่าครั้งนี้คงไม่น่ามีอะไรผิดพลาด
มองดูนาฬิกายังไม่ถึงเวลาร้านเปิด ผมยืนรออยู่สวนสาธารณะที่มองเห็นหน้าร้านชัดเจน ยืนรอแค่สิบนาทีก็เห็นน้องเดินออกมาพร้อมกับคุณป้าเจ้าของร้าน ในมือถือดอกไม้และถาดใส่บาตรที่มีถุงกับข้าวข้างในนั้น
ได้แต่ยืนมองเธออย่างโง่งม น้องสาวในชุดสีขาวแม้จะยังมืดอยู่ก็ไม่สามารถบดบังความน่ารักไปได้ ผมมองทุกปฏิกิริยาจนพระบิณฑบาตมาเห็นเธอใส่บาตรข้างๆ คุณป้า มองแทบไม่กะพริบตากลัวว่าจะพลาดอะไรไป
และหลังจากเธอและคุณป้าเข้าไปข้างในร้าน ผมก็ยังยืนอยู่ที่เดิมจนร้านเปิดบริการถึงได้เดินเข้าไปข้างใน พอมาถึงคุณป้ามองผมสีหน้าประหลาดใจนิดหน่อย แต่ไม่มีอะไรแค่เอ่ยทักทายผมเท่านั้น
“พ่อหนุ่มวันนี้มาแต่เช้าเลยนะ ติดใจรสมือป้าแล้วล่ะสิ”
คุณป้าพูดกับผมในขณะที่น้องคนนั้นยืนอยู่ข้างๆ และเธอก็เงยหน้าขึ้นมองสบตากัน เป็นวินาทีที่หัวใจของผมพองโตราวกับเวลาหยุดเดินอัตโนมัติ
“ครับ อาหารป้าอร่อยทุกอย่าง” ขณะที่พูดสายตาไม่ได้มองคุณป้าเลยสักนิดไม่รู้ว่าจะสังเกตรึเปล่าว่าผมกำลังมองลูกสาวคุณป้าอยู่
“…”
เธอมองผมแค่แวบเดียวก็เลิกสนใจแล้วช่วยคุณป้าจัดร้านต่อ ในตอนนั้นแหละที่คุณป้าพูดกับผมอีก
“ไปหาที่นั่งก่อนเถอะ ป้าขอจัดร้านอีกแป๊บนึงแล้วเดี๋ยวเดินไปถามนะว่าจะกินอะไร”
“ตามสบายเลยครับป้าผมไม่รีบ” เดินกลับไปนั่งที่มุมเดิมมองเมนูอาหารฆ่าเวลาไม่นานเท่าไรนักก็มีเสียงใสๆ พูดขึ้นมา
“พี่รับอะไรดีคะ?”
ผมชะงักไปสิบวินาที แล้วมองคนหน้าหวานเสียงใสที่ทำผมเกือบลืมหายใจ พอหันไปมองเธอยิ้มกลับมาถึงจะรู้ว่าเป็นการยิ้มตามมารยาทเท่านั้นไม่ได้มีความหมายอื่นใดแต่แค่นี้ก็ดีใจมากแล้ว
คิดถูกแล้วที่ตัดสินใจมา ไม่งั้นคงไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนจะได้เจอ
“พี่คะ รับอะไรบ้างคะ?” เธอถามย้ำอีกรอบ
“อ้อ เอาไข่กระทะสองกวยจั๊บหนึ่ง และก็กาแฟหนึ่งแก้วครับ”
“อ๋อค่ะ กระทะสอง จั๊บหนึ่ง แฟหนึ่งนะคะ?” เธอทวนรายการอาหารอย่างจริงจัง
“ครับ”
ผมพยักหน้า หลังจากนั้นคนตัวเล็กก็เดินไปหาคุณป้าที่กำลังเตรียมทำอาหารให้ลูกค้ารายแรกอย่างผม
“ผ้าแพร ลูกยังไม่รีบไปแต่งตัวอีกเหรอเดี๋ยวก็เข้าเรียนสายหรอก”
“เหลือเวลาอีกตั้งเยอะให้หนูช่วยแม่เสิร์ฟก่อนนะคะ ลูกค้าเอากระทะสอง จั๊บหนึ่ง แฟหนึ่งค่ะ”
“จ้าๆ ลูกไปทำอย่างอื่นเถอะเดี๋ยวทางนี้แม่จัดการเอง”
“หนูเตรียมของช่วยนะคะจะได้เสร็จไวๆ”
“…”
การสนทนาระหว่างแม่ลูกไอ้เราก็หูผึ่งได้ยินชัดเจนทุกถ้อยคำ วันนี้โชคดีจังคิดถูกจริงๆ ที่มา น้องชื่อ ‘ผ้าแพร’ สินะได้ยินครั้งเดียวก็จำได้แล้ว
น้องผ้าแพรคนสวย…
ไม่นานเท่าไรนักน้องผ้าแพรก็เอาอาหารมาเสิร์ฟที่โต๊ะครบทุกอย่าง จากนั้นก็หายไปเลย ผมค่อยๆ กินทีละอย่างไม่รีบร้อน พอหมดจานก็สั่งกลับห้องเหมือนทุกทีอย่างเคยชิน
ขณะที่กำลังรออาหารหิ้วกลับคอนโด น้องผ้าแพรเดินผ่านหน้าพร้อมกับชุดนักศึกษาเรียบร้อยกระโปรงยาวหอบสัมภาระเต็มเป้ แค่เห็นตรากระดุมเสื้อหัวใจก็พองโตยิ่งกว่าเดิมอีก
ที่แท้ก็เรียนมหา’ ลัยเดียวกัน และถ้าดูไม่ผิดจากการแต่งตัวกระโปรงยาวรองเท้าผ้าใบน่าจะอยู่ปีหนึ่ง
ขณะที่กำลังครุ่นคิดป้าเจ้าของร้านก็เรียกผม
“พ่อหนุ่มกับข้าวเสร็จแล้วจ้า”
“…”
ผมมองที่ป้าแล้วเดินไปจ่ายตังค์ พอจะหันกลับไปมองน้องก็ขับรถออกไปไกลแล้ว
ว้า~ ไปซะแล้ว
ไม่เป็นไรอย่างน้อยก็ได้รู้ชื่อและที่เรียน ข้อมูลนี้เกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ซะอีก!