ตอนที่ 2 เป็นพรหมลิขิตหรือนางลิขิต

1446 Words
“ออกไปให้หมดยกเว้นเจ้า!” “!” “ใครกันหรือ” บรรดาสาวงามที่ยืนอยู่ภายในกระโจมต่างก็หันมองกันไปมาด้วยความที่ไม่รู้ว่าหลี๋อ๋องนั้นหมายถึงใคร สายตาของเขามองส่งไปยังสตรีนางหนึ่งผู้ที่ยืนอยู่ท้ายๆกระโจมเลยกระมัง 'เหตุใดเขาถึงมองเห็นนางกัน' หญิงงามเหล่านั้นแสดงออกว่าไม่พอใจนางเป็นอย่างยิ่งเพราะรูปร่างที่อรชรของนางทั้งยังมีใบหน้าที่งดงามแม้จะคลุมผ้าไว้ครึ่งหน้าก็เถอะ เยว่หลิงเมื่อได้ยินที่เขาพูดก็โอดครวญภายในใจทันที ‘ไม่น่าตามมาที่นี่เลย’ “เดินออกมานี่” “ขะ ข้าหรือ” “ใช่ เจ้ามาที่นี่ไม่ใช่ว่ามาปรนนิบัติข้าหรอกหรือ” “คือว่าความจริงแล้วข้า” “เลือกเอาว่าจะปรนนิบัติข้าหรือพวกเจ้าทั้งหมดจะไปรับใช้เหล่าทหารของข้า” “อะไรนะ!” บรรดาหญิงงามเหล่านั้นต่างก็ตื่นตกใจเมื่อได้ยินที่เขาเอ่ยออกมา แม่ทัพเหอรีบต้อนหญิงงามเหล่านั้นออกจากกระโจมด้วยความรวดเร็วทิ้งไว้เพียงแค่เยว่หลิงที่ยืนขาสั่นงันงกอยู่ตรงหน้าเขาเพียงลำพัง นางไม่แน่ใจเหมือนกันว่าที่ตัวนางสั่นอยู่ในตอนนี้เป็นเพราะว่านางกลัวเขาหรือเป็นเพราะในร่างกายของนางเวลานี้นั้นเริ่มร้อนรุ่มขึ้นมาอย่างผิดปกติ นางจำได้ว่าก่อนจะเข้ามาที่ค่ายทหารนี้นางดื่มน้ำไปเพียงแค่อึกเดียวเท่านั้น ‘น้ำธรรมดาแค่อึกเดียวเองนะ ให้ตายสิหรือว่าในน้ำนั้นถูกผสมยาปลุกกำหนัดไว้อย่างนั้นหรือ เหตุใดข้าถึงได้สะเพร่าถึงเพียงนี้กันนะ’ “มานี่สิ” “คือว่าท่านอ๋องข้าเพียงแค่” “เจ้าคงอยากไปเป็นนางโลมของทหารข้ามากสินะ ถึงได้กล้าขัดใจข้า” “ไม่ใช่เพคะ ข้าเพียงแต่จะบอกท่านว่าข้าไม่ใช่หญิงคณิกา” “ก็ต้องพิสูจน์กันหน่อย” “พิสูจน์? พิสูจน์อย่างไร” เยว่หลิงที่กำลังยืนใจลอยเพราะฤทธิ์ยาปลุกกำหนัดที่กำลังเล่นงานนางอยู่นั้นก็พลันสะดุ้งตกใจที่อยู่ๆหลี๋อ๋องก็ดึงตัวของนางไปนั่งบนตักของเขา “พิสูจน์สิว่าเจ้าไม่ได้เป็นเช่นเหล่าสตรีพวกนั้น” “ทะ ท่านก็ปล่อยข้าสิ” “เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยสตรีที่อยู่ในอ้อมแขนไปจริงๆน่ะหรือ” “ทะ ท่านอ๋องปล่อยข้านะ” “อะ อื้อ ปล่อยข้า” หลี๋อ๋องจูบนางไม่ยอมปล่อยก่อนจะรวบร่างของนางขึ้นไว้ในอ้อมแขนแล้วตรงเข้าไปยังเตียงนอนทันที ที่นอกกระโจมหลังนั้นมีบุรุษสามคนนั่งสนทนากันอยู่ไม่ไกลกันนัก “นางเป็นใครเหตุใดถึงไปต้องตาท่านอ๋องได้” แม่ทัพเหอเอ่ยขึ้นเป็นคนแรกหลังจากออกมาจากกระโจม “ข้าก็ไม่คิดว่าหลี๋อ๋องจะสนใจในตัวสตรีผู้นั้นเช่นกัน” ซือหนานกงเพียงเอ่ยออกมาสั้นๆก่อนจะหันไปมองยังกระโจมนั้นอีกครั้ง แววตานิ่งลึกของเขานั้นทำให้แม่ทัพเหอแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้สนใจจะถามอันใด “หลี่จิ่งเจ้าไปพานางมาจากที่ใด” “นางมากับเหล่าหญิงงามพวกนั้นแต่นางก็เป็นเพียงสตรีจากหอนางโลมไม่ใช่หรือ” “ใครจะไปรู้ล่ะ ข้าอยู่กับท่านอ๋องมานานไม่เคยเห็นเขาสนใจสตรีคนไหนมาก่อนยิ่งเป็นสตรีจากหอนางโลมด้วยแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้” แม่ทัพเหอเอ่ยออกมายิ่งทำให้คนที่เหลือถึงกับคิดหนักไปตามๆกัน “เหตุใดเจ้าไม่ตรวจสอบให้ดีก่อนเล่า หากว่าเป็นสายของพวกเผ่าเจียงหนานล่ะท่านอ๋องมิแย่หรอกหรือ” “คงไม่ใช่พวกนั้นหรอกกระมัง ท่านอ๋องเฉลียวฉลาดถึงเพียงนั้นย่อมมองออกว่านางเป็นเพียงสตรีจากหอนางโลมหรือเป็นสายเข้ามาสืบข่าวกันแน่” “ก็ไม่แน่หรอกนางงดงามถึงเพียงนั้น ท่านอ๋องอาจจะเลอะเลือนไปบ้างก็เป็นได้” “พวกท่านเห็นใบหน้าของนางแล้วงั้นหรือ” หลี่จิ่งถามออกไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น แม้จะเป็นคนจัดการนำสตรีเหล่านั้นเข้ามาในค่ายทหารแห่งนี้แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่คัดเลือกพวกนางด้วยตนเอง สตรีเหล่านั้นเป็นซือหนานกงที่คัดเลือกมาก็คงจะใช่ที่ว่าเขาอาจจะเคยเห็นใบหน้าของนางมาก่อนแล้ว “แล้วเจ้าไม่มีตาหรืออย่างไร” แม่ทัพเหอถึงกลับต้องดุเขาทันใดเมื่อพึ่งรับรู้ว่าเขาไม่คิดจะตรวจทานสิ่งใดก่อนจะส่งไปให้ท่านอ๋องเลย “ใครจะไปทันได้มองกันเล่าพวกนางเข้ามาได้เพียงครู่เดียวก็ถูกท่านอ๋องไล่กลับออกไปแล้ว” “ไม่ใช่ว่าเจ้ากลัวโทษทัณฑ์จึงเผ่นออกมาเป็นคนแรกหรอกหรือ” “ใช่ที่ไหนกันข้าก็แค่รู้สึกว่าข้างในนั้นคับแคบ อยากให้ท่านอ๋องสำราญใจกับเหล่าสตรีพวกนั้นจึงถอยให้ต่างหากคนอย่างข้าหรือจะทิ้งพวกพ้อง” “เฮอะๆ ช่างเถอะเฝ้าดูอยู่ห่างๆก็พอ หากมีอะไรไม่ชอบมาพากลจะได้ช่วยท่านอ๋องทัน” “อืม” บุรุษทั้งสามต่างก็นั่งเฝ้าอยู่หน้ากระโจมอยู่เป็นเวลานานสองนานทั้งตบยุงที่บินมากวนทั้งชะเง้อคอมองไปยังประตูกระโจมแต่ก็ยังไม่มีวี่แววของการต่อสู้ใดๆเกิดขึ้น แต่กลับมีเพียงเสียงครวญครางดังแว่วออกมาจากกระโจมนั้นเป็นระยะๆ “เจ้าว่าใช่หรือไม่” “ข้าไม่รู้” “ข้าว่าต้องใช่แน่ๆ” “เฮ้อ….อุตส่าห์เฝ้าอยู่ตั้งนานสองนาน สุดท้ายก็…” “เอาน่า ไปนอนกันเถอะ” “อืม” บุรุษทั้งสามที่ใจจดใจจ่อกับหลี๋อ๋องอยู่นั้นเป็นต้องส่ายหัวให้กันเบาๆ พวกเขามีสีหน้าที่กลืนไม่เข้าคลายไม่ออกก่อนจะเดินกลับกระโจมของตนเองไปคนละทิศละทาง ภายในกระโจมพักของหลี๋อ๋องอบอวลไปด้วยบรรยากาศที่ตึงเคลียดไม่น้อย เพราะเวลานี้เสือขาวหิมะตัวใหญ่ยักษ์กำลังนั่งจ้องมองเขาอยู่นั่นเอง “อ๊าส์ อ๊ะ ซ้ายหน่อยๆ” “เหตุใดเจ้าถึงเรื่องมากเช่นนี้” "ท่านจะขัดใจข้าหรือ เร็วเข้าสิ” “รู้แล้วน่า” “อ๊าาาส์ ฝีมือนวดของท่านใช้ได้เลยนะ นั่งรถม้านานไปหน่อยหลังของข้าระบมไปหมดแล้ว” หลี๋อ๋องมองนางด้วยแววตามืดมน หากไม่ใช่ว่าเจ้าเสือขาวตัวนั้นยืนคุมอยู่ด้านหลังของเขาล่ะก็ มีหรือที่เขาจะยอมรับใช้นางเช่นนี้ "ข้าเป็นถึงองค์ชายทั้งยังควบตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ เจ้ากล้าใช้งานข้าได้อย่างไร" "แต่เมื่อครู่ท่านจูบข้านะ" “เจ้าโดนวางยาปลุกกำหนัดไม่ใช่หรือ ข้าก็เพียงอยากจะถอนพิษให้ก็เท่านั้น" “เฮอะ! เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าข้ามีฉายาหมอพิษมีหรือที่พิษแค่นี้จะทำอะไรข้าได้” "แน่ใจนะว่าเจ้าเป็นองค์หญิงตัวจริง" "คุณชายหลี่ท่านใจร้ายเสียจริงนะ ลืมข้าไปแล้วได้อย่างไร ท่านเห็นตรานี่หรือไม่เล่า สัญลักษณ์เช่นนี้มีเพียงองค์หญิงเป่ยฉีเท่านั้นที่ครอบครองมันได้และไม่ใช่ว่าองค์หญิงทุกคนจะมี ที่สำคัญเป็นสิ่งของที่อู๋ซ่างหวงทรงประทานให้ด้วยองค์เอง” "เจ็ดปีที่ผ่านมาเกิดเรื่องราวขึ้นมากมาย ใครจะไปจำอะไรได้ถึงเพียงนั้นกันล่ะ แล้วเจ้ามาที่นี่ต้องการอะไร” “อำนาจทางการทหารของท่านอย่างไรเล่า” “เจ้าคิดว่าการที่เจ้าดำรงตำแหน่งเป็นองค์หญิงของเมืองเป่ยฉีแล้วเจ้าจะสามารถควบคุมข้าได้เช่นนั้นหรือ” “ในตัวของท่านมีพิษอยู่ไม่ใช่หรือ” “เจ้ารู้ได้อย่างไร” “ก็อย่างที่บอก ข้ามีความสามารถในการใช้พิษแค่ได้กลิ่นข้าก็รู้แล้วว่าคือพิษชนิดใด” “เจ้าเป็นหมางั้นหรือ” “ท่านอยากตายหรือ” “เอาน่า หากเจ้าเก่งกาจเพียงนั้นแล้วมาขอความช่วยเหลือจากข้าทำไม” “ข้าบอกสิ่งที่ต้องการจากท่านไปแล้ว ข้าสามารถถอนพิษให้ท่านได้ขอแค่ท่านยอมทำตามในสิ่งที่ข้าต้องการ” เยว่หลิงยิ้มร้ายกาจให้เขา ‘ไม่น่าหลวมตัวรู้จักกับนางตั้งแต่ทีแรกเลยจริงๆ’ 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD