ตอนที่ 4 ถูกลักพาตัว Part1

1226 Words
‘ปวดหัวเสียจริง ให้ตายสิใครช่างกล้าทำกับข้าเช่นนี้กันนะ’ เยว่หลิงเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาบ้างแล้วแต่เพราะความรู้สึกปวดหนึบที่ศรีษะทั้งสองข้างนั้นทำให้นางลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก จนกระทั่งเปลือกตาบางของนางค่อยๆแย้มกระพริบขึ้นทีละนิดจนเริ่มมองเห็นภาพตรงหน้าได้อย่างชัดเจน นางยันตัวลุกขึ้นก่อนที่สายตานั้นจะเหลือบไปเห็นบุรุษผู้หนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ห่างจากนางเพียงไม่ถึง 1 จิ้ง[1] วงหน้าของเขานั้นถูกล้อมรอบไปด้วยเส้นผมสีดำเงางาม นัยต์ตาที่เรียวยาวราวกับเหยี่ยวมีแก้วตาสีแดงสดพราวระยับดุจอัญมณี ดูลึกลับแต่สะกดสายตาให้หยุดมอง นางไล่สายตาไปทั่วร่างของเขาจนเจ้าของร่างนั้นเริ่มรู้สึกอึดอัดกับสายตาของนาง “เจ้าจะสำรวจข้าอีกนานไหม” “แล้วเจ้าเป็นใคร” “ไม่คิดจะกลัวข้าบ้างหรืออย่างไร” เยว่หลิงเอาแต่จ้องมองคนตรงหน้าก่อนจะกระตุกยิ้มที่มุมปากสร้างความประหลาดใจให้แก่บุรุษผู้นั้นเป็นอย่างมาก “หงอี้เข้ามาข้างในนี้ที” “ขอรับนายท่าน” สิ้นคำบอกกล่าวก็มีบุรุษผู้หนึ่งเดินเข้ามาด้านในกระโจมด้วยความรวดเร็ว ลักษณะการเดินที่มั่นคงและคล่องแคล่วดูไปแล้วน่าจะถูกฝึกมาเป็นอย่างดี คนผู้นี้น่าจะมีวรยุทธ์ด้วยกระมัง “เจ้าเป็นใครเหตุใดถึงไม่ตอบข้าล่ะ” บุรุษที่นั่งอยู่บนเก้าอี้นั้นยิ้มออกมาแล้วเขายกขาขึ้นมาวางพาดไว้บนโต๊ะอาหารก่อนจะเอ่ยตอบนางด้วยเสียงเรียบๆทั้งรอยยิ้มที่ส่งออกมานั้นช่างดูร้ายกาจยิ่งนัก “ข้าเป็นโจร เจ้ากลัวหรือไม่” “โจรหรือ โจรบ้าอะไรถึงได้หล่อเหลาเช่นนี้” “ห๋า?” เมื่อได้ยินที่นางเอ่ยออกมาก็ถึงกลับพูดไม่ออกกันเลยทีเดียว เยว่หลิงเริ่มยิ้มประหลาดๆขึ้นมาแล้วแววตาที่จ้องมองพวกเขาเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิดจนบุรุษสองคนนั้นเริ่มขนลุกขนชันขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก “นะ นายท่าน ท่านแน่ใจหรือขอรับว่าจับนางมาเพื่อจะทำให้นางกลัวได้” “ข้าก็เริ่มไม่แน่ใจแล้ว นี่แม่นางพวกข้าเป็นโจรเจ้าไม่กลัวตายงั้นหรือ” “ตายหรือ? เหตุใดข้าต้องกลัวด้วยล่ะหากพวกเจ้าอยากสังหารข้าจริงๆ เช่นนั้นก่อนตายขอให้ข้าสมหวังดังที่ใจข้าปรารถนาเสียก่อนสิ” “เจ้าพูดอะไร” “เจ้าต้องการอะไรจากข้างั้นหรือพ่อรูปหล่อข้าไม่มีเงินหรอกนะ มีแต่ตัวเท่านั้นหากว่าเจ้าไม่รังเกียจล่ะก็” “หยุด! หยุดเดี่ยวนี้นะเจ้าเป็นสตรีแบบไหนกันเหตุใดถึงได้พูดจาเช่นนี้ ที่ค่ายทหารไม่สอนเจ้าหรืออย่างไร” “สอนอะไร?ค่ายทหารอะไร? ข้าไม่เข้าใจที่ท่านพูด” โครกคราก~~ ทันใดนั้นเสียงท้องของเยว่หลิงก็ดังออกมาขัดจังหวะการสนทนาของพวกเขา “นายท่านดูเหมือนว่านางจะ…” “นี่ๆ ไหนๆท่านก็จะสังหารข้าแล้วเช่นนั้นก็ช่วยสงเคราะห์ข้าทีเถอะ ข้าหิว” เยว่หลิงพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนพร้อมทำตาปริบๆให้พวกเขา บุรุษผู้นั้นถึงกับพูดไม่ออกได้เพียงแค่มองหน้านางสลับไปมองบ่าวของตนเอง “เฮ้อ นี่ข้าทำอะไรอยู่เนี่ย” เวลาผ่านไปเพียงหนึ่งก้านธูป[2] อาหารหลากหลายชนิดก็มากองอยู่ตรงหน้านางแล้ว “อร่อยจัง อาหารง่ายๆแต่กลับอร่อยเช่นนี้พวกท่านนี่ทำอาหารได้อร่อยเสียจริง” “นี่ๆ เจ้าเป็นสตรีแบบไหนกันกินให้มันดีๆหน่อยไม่ได้หรืออย่างไร” “ข้าก็เป็นของข้าแบบนี้” “อะไรทำให้หลี๋อ๋องติดใจจนถึงกับต้องพาเจ้ามาด้วยนะไม่เข้าใจเลยจริงๆ” ประโยคสุดท้ายนี้นางได้ยินไม่ชัดเท่าใดนักเพราะเหมือนเขาจะบ่นพึมพำกับตนเองเท่านั้นไม่ได้ตั้งใจจะให้นางได้ยินเสียทีเดียว “เจ้าพูดว่าอะไรนะ” “ช่างเถอะ กินดีๆ” “คือข้าหิวน่ะเจ้าจะให้ข้ารักษากิริยาของสตรีอะไรในเวลาเช่นนี้กัน หิวก็คือหิวไม่เข้าใจหรือ” “เฮ้อ…ช่างเถอะ” เยว่หลิงเมื่อกินไปได้สักพักจนอาหารในจานเริ่มหมดลงแล้วนางก็เรอออกมาทันทีสร้างความประหลาดใจให้แก่เหล่าโจรพวกนั้นอย่าง มาก “นี่นาง…” “ท่านชื่ออะไรหรือ” เยว่หลิงไม่สนใจกิริยาที่นางแสดงออกมาเมื่อครู่นี้เลยสักนิดนางเพียงแค่หันไปมองเขาก่อนจะเอ่ยถามชื่อเขาด้วยแวว ตาใสซื่อ “ข้าต้องบอกเจ้าด้วยหรือ” “ท่านจับข้ามานะ ก่อนจะสังหารไม่คิดจะบอกชื่อแซ่ให้ข้ารู้บ้างหรือ” “ไม่ล่ะข้าไม่น่าจะอยากรู้จักเจ้า” “ทำไม? หรือพวกท่านเองก็ชอบหญิงงามที่มารยาทอ่อนหวาน เรียบร้อยเอาอกเอาใจเก่งเช่นนั้นหรือ โทษทีนะที่ข้าไม่มีลักษณะเช่นนั้น” “ว่าแต่จับข้ามาทำไมหรือ” “เจ้ารู้จักหลี๋อ๋อง” “แน่นอนว่ารู้จัก” “เจ้าเป็นสาวใช้ของเขาหรือ” “นี่ หน้าตาข้าดูไม่ได้ถึงเพียงนั้นเลยหรืออย่างไรกัน” “หืม” “ข้าเป็นเพียงสตรีที่เผลอตัวเผลอใจให้หลี๋อ๋องก็เท่านั้นไม่ได้เป็นอะไรกับเขาเสียหน่อย สตรีไร้มารยาเช่นข้าหรือจะเป็นที่ชื่นชอบของบุรุษ” เยว่หลิงเอาแต่บ่นรำพันกับตนเองไปเรื่อย นางไม่ได้สังเกตเลยว่าหัวหน้าโจรป่าผู้นั้นกำลังจ้องมองนางด้วยความเอ็นดูอยู่ “ใครบอกว่าบุรุษต้องชอบสาวงามเพียงอย่างเดียวล่ะ” “ไม่ใช่หรือ” เยว่หลิงเอียงคอก่อนจะมองเขาด้วยแววตานิ่งๆ “ข้ามีนามว่าซือเยว่” “ซือเยว่งั้นหรือ” “ใครช่างกล้าว่าเจ้าไม่งามกัน คนผู้นั้นคงตาบอดเป็นแน่” “ก็คงตาบอดจริงๆอย่างที่เจ้าว่านั่นแหล่ะ” เยว่หลิงเองก็เริ่มเบื่อหน่ายขึ้นมาเมื่อนึกถึงคนผู้นั้น นางจึงหยิบจอกเหล้าของเขาขึ้นมาดื่มรวดเดียวจนหมด “อ๊ายรสชาติแรงใช้ได้ แรงกว่าเหล้าดอกบัวของข้าอีกนะเนี่ย” โจรป่าผู้นั้นนั่งมองนางยกไหสุราดื่ม ใจก็อยากห้ามแต่เพราะดูเหมือนว่านางจะมีความสุขที่ได้ร่ำสุราอยู่แบบนั้นเขาจึงได้แต่ปล่อยนางดื่มต่อไป ซือเยว่ได้เพียงแค่นั่งเป็นเพื่อนนางจนเยว่หลิงเริ่มเมาและประคองสติไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว “นี่ๆ เจ้าไปนอนเถอะไป ไม่ต้องห่วงว่าข้าจะทำอะไรเจ้าล่ะข้าไม่ชอบของแปลก” “ปากคอเจ้าช่างร้ายเหมือนใครบางคนที่ข้ารู้จักเสียจริง” “ปากเจ้าก็จัดจ้านยิ่งกว่าสตรีคนใดที่ข้าเคยพบเจอมาเช่นกันแต่ช่างเถอะข้าไม่ถือสา ไปๆไปนอนได้แล้ว” “ซือ...เยว่” “อะไร” “ข้าอยากอาเจียน” “เฮ้ย!” “อุแหวะ…” “…” --------------------------- [1] 1 จิ้ง = 3.3 เมตร [2] หนึ่งก้านธูป = ครึ่งชั่วโมง-หนึ่งชั่วโมง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD