ตอนที่ 7 จวนอ๋องที่ไม่เหมือนเดิม

1638 Words
ยามเหม่า (05.00-07.00น.) เมื่อคืนนี้กว่าหลี๋อ๋องจะหลับตาลงได้ก็เป็นเวลาเกือบยามสามแล้ว (23.00-01.00น.) เป็นเหตุให้เช้านี้เขาตื่นสายกว่าทุกวัน เมื่อหันไปมองเตียงของนางกลับพบเพียงความว่างเปล่า หลังจากลุกได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงของหลี่จิ่งองค์รักษ์คนสนิทของเขาร้องเรียกที่หน้าประตูห้อง “ท่านอ๋อง ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ” “มีอะไร” “ท่านอ๋องมาดูนี่เร็วเข้า” ‘คงไม่มีอะไรหรอกนะ’ เมื่อเดินตามหลี่จิ่งมาจนถึงสวนอุทยานที่เขาลงทุนสร้างขึ้นมาด้วยตนเองนั้น ภาพตรงหน้าเกือบทำให้เขาแข้งขาอ่อนลงทันใด “ท่านอ๋องคือว่าข้าน้อยห้ามนางแล้วแต่ว่า….” หลี๋อ๋องหลับตาลงก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อระงับอารมณ์กรุ่นโกรธเอาไว้ “เจ้าทำอะไรกับสวนของข้า!” “หืม ทำไมหรือ” “ยังจะกล้าถามอีก นั่นอะไร” “เอ๋ ท่านไม่รู้จักหมูหรอกหรือ ข้าว่ามันน่ารักออกนะเพคะ” “เจ้าปล่อยมันออกมาวิ่งเล่นในสวนของข้าเช่นนี้ได้อย่างไร” “ข้าเห็นมันอยู่ตัวเดียว น่าจะเหงาจึงให้มันออกมาวิ่งเล่นก็เท่านั้น” “เยว่เหวินหลิง!” “ว่าอย่างไร ท่านคิดถึงข้ามากหรือเรียกข้าแต่เช้าเลย” หลี๋อ๋องพยายามอดทนอดกลั้นกลืนความโกรธกลับลงไปจนเกือบหมดสิ้น หากไม่ใช่ว่านางเป็นท่านหญิงจากเป่ยฉีและเขายังต้องใช้ประโยชน์จากนางอยู่ล่ะก็เขาไม่มีทางละเว้นนางแน่ เยว่หลิงเมื่อเห็นสีหน้าของหลี๋อ๋องก็อดขำไม่ได้ คุณชายเจ้าระเบียบยึดถือกฎเกณฑ์เช่นเขามีหรือจะชอบการกระทำที่นางทำอยู่ในเวลานี้ หมูน้อยอวบอ้วนน่ารักๆตัวนั้นกำลังขุดคุ้ยดินโคลนก่อนจะย่ำไปทั่วทั้งสวนแต่นางตั้งใจเพียงแค่ให้มันอยู่ในสวนเท่านั้น ใครจะไปรู้ว่ามันจะวิ่งพล่านไปทั่วจวนกันเล่า นางไม่ผิดเสียหน่อยก็ใครใช้ให้คนของเขามาไล่จับมันแบบนี้ แต่มีหรือที่คนอย่างเยว่หลิงจะสนใจในเมื่อนางตั้งใจจะกวนประสาทเขาอยู่แล้ว บรรดาบ่าวในจวนต่างก็รีบวิ่งไล่จับหมูน้อยตัวนั้นส่วนนางนั้นก็เอาแต่หัวเราะร่วนไม่รักษากิริยาของสตรีแต่อย่างใด เป็นองค์หญิงแน่หรือ? “ท่านอ๋อง” “ท่านอ๋อง!” “จะเสียงดังทำไม” “ข้าเรียกท่านตั้งนานแล้วไม่เห็นตอบ ท่านคิดอะไรอยู่งั้นหรือ” ‘อยากสังหารเจ้าอย่างไรล่ะ’ แน่นอนว่านั่นเป็นเพียงความคิดภายในใจของเขาเท่านั้น แม้อยากจะทำมากเพียงไรก็คงได้เพียงแค่คิด ขณะที่หลี๋อ๋องกำลังจะหันหลังไปสั่งการกับองค์รักษ์คนสนิท หวางกงกงและบรรดานางกำนัลจากวังหลวงก็เดินเข้ามาในจวนพร้อมกับของพระราชทานที่ดูแล้วน่าจะเป็นของฮ่องเต้และฮองเฮาอีกด้วย “หวางกงกง” “ท่านอ๋อง ข้าน้อยทำตามรับสั่งของฝ่าบาทนำราชโองการมาให้แก่ท่านหญิงจากเป่ยฉีพ่ะย่ะค่ะ” “เร็วถึงเพียงนั้นเชียว” “ท่านหญิงเฟยหลิงจวิ้นจู่รับราชโองการ” เยว่หลิงที่ได้ยินดังนั้นก็หันไปมองหลี๋อ๋องทันทีทุกคนในที่นั้นต่างก็คุกเข่าลงรวมไปถึงหลี๋อ๋องอีกด้วย ด้วยโองการแห่งฟ้าฮ่องเต้ทรงมีพระบัญชา ได้ยินว่าองค์หญิงแห่งเป่ยฉี มีรูปโฉมงดงามกิริยาอ่อนน้อม มีคุณธรรม เบิกบานมีความรู้จึงตั้งใจร่วมเป็นทองแผ่นเดียวกับเป่ยฉี บัดนี้หลี๋อ๋องโจวซือเหยียนเลยวัยสวมมงกุฎแล้วเป็นเวลาเหมาะสมที่จะแต่งงาน….. ‘ไม่เคยพบข้าแล้วรู้ได้อย่างไรว่างาม ฮิๆ’ หลี๋อ๋องที่จ้องมองนางอยู่ก็ถึงกลับส่ายหน้าให้นางทันที ‘หลงตัวเองอีกแล้วสินะ’ ….จึงแต่งตั้งให้เฟยหลิงจวิ้นจู่เป็นพระชายาเอกหลี๋อ๋อง อีกสามเดือนข้างหน้าจะมีพิธีอภิเษกสมรสขึ้น จบราชโองการ “ขอบคุณหวางกงกง” “ท่านอ๋อง ข้าน้อยยังต้องไปที่จวนองค์ชายท่านอื่นเช่นนั้นแล้ว…” “รีบไปเถอะ” “พ่ะย่ะค่ะ” เมื่อหวางกงกงและเหล่านางกำนัลออกจากจวนของเขาไปหมดแล้ว หลี๋อ๋องก็ลุกขึ้นก่อนจะเอ่ยกับบ่าวในจวนให้รับรู้ว่า “ทุกคนที่อยู่ที่นี่จงฟัง ต่อไปนี้ท่านหญิงเยว่เหวินหลิงผู้นี้คือชายาของข้า เคารพนางก็เหมือนเคารพข้า” “พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง/เพคะท่านอ๋อง” “ต่อไปนี้เจ้าคือชายาของข้า ก็ควรที่จะสำรวมกิริยามากกว่านี้อย่าได้คิดที่จะ…” “ข้ารู้แล้วน่า นี่ก็สายมากแล้วท่านหิวหรือไม่” ‘หิว? วันๆนางจะคิดเรื่องอื่นมากไปกว่าก่อกวนเขาแล้วก็กินอย่างเดียวงั้นหรือ’ “ข้ายังไม่หิว” “แต่ข้าหิวแล้ว พ่อบ้านสือเจ้าตั้งโต๊ะอาหารแล้วหรือยัง” “อะ เอ่อคือว่า” ‘ให้ตายสิจวนของเขาจากที่เคยสงบเรียบร้อยมาวันนี้กลายเป็นแบบนี้แล้วจะให้เขามีอารมณ์กินได้อย่างไร’ “พ่อบ้านสือไปเตรียมอาหารมาให้นาง” “พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง” “ส่วนเจ้ากลับเข้าไปในเรือนได้แล้ว ทางนี้ข้าจัดการเอง” “จริงหรือ ขอบพระทัยเพคะ” “เดี๋ยว” “หืม” “วันนี้ยามเว่ย(13.00-15.00 น.) ข้าจะเดินทางไปเมืองเล่ออานเจ้าอยู่ที่นี่ทำตัวดีๆ อย่าได้ก่อกวนอีกเป็นอันขาด” “เมืองเล่ออาน? ท่านจะเดินทางวันนี้เลยหรือ ไม่พักก่อนล่ะ? ” “ไม่มีเวลาแล้ว ไปเถอะหลี่จิ่ง” “พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง” เยว่หลิงที่เห็นเขากำลังจะเดินจากไปก็รีบวิ่งไปดักด้านหน้าของเขาทันที “ท่านอ๋องให้ข้าไปด้วยได้หรือไม่” “ไม่ได้ ข้าไปทำตามรับสั่งของฮ่องเต้เจ้าก็จงอยู่ที่จวนเท่านั้นก็พอ” “ข้าอยากไปด้วยนี่นา เผื่อมีอะไรที่ข้าจะช่วยเหลือท่านได้” “ไม่ได้” “ท่านอ๋อง” “ไม่ได้ก็คือไม่ได้ ข้าไม่อนุญาต” “แต่ว่า” “เจ้าอย่าพูดมากรอข้าอยู่ที่นี่อย่าได้คิดก่อเรื่อง” “ข้าไม่ได้จะก่อเรื่องเสียหน่อย ข้าแค่อยากช่วย” “ท่านหญิงที่วันๆเอาแต่อยู่ในรั้วในวังเช่นเจ้าหรือจะช่วยอะไรใครได้” “ท่านว่าอะไรนะ” “อยู่ที่นี่ ไม่เช่นนั้นข้าจะกักบริเวณเจ้า” “ก็ได้” เยว่หลิงรับปากส่งๆไปอย่างนั้น นางคิดเอาไว้แล้วว่าจะแอบตามหลังเขาไปโดยไม่ให้รู้ตัวโดยเด็ดขาดเมื่อหลี๋อ๋องไปแล้วเยว่หลิงก็หันหลังไปเรียกสาวใช้ส่วนตัวของนางทันที “นี่ เสี่ยวหลัน” “มีอะไรหรือเพคะพระชายา” “ท่านอ๋องจะไปเมืองเล่ออานทำไมหรือ” “หม่อมฉันได้ยินมาว่าที่เมืองเล่ออานมีโรคระบาดเพคะ ฮ่องเต้ทรงส่งหมอหลวงไปหลายคนแล้วก็ยังไร้วี่แววที่จะกำจัดโรคนี้ได้แว่วว่า หากทิ้งไว้นานอาจจะลามมาถึงเมืองหลวงได้เพคะ” “งั้นหรือ” ‘หากเป็นท่านแม่ก็อาจจะช่วยได้แต่กับข้าไม่ถนัดอะไรแบบนี้เสียด้วยสิ ถนัดแต่ก่อกวน ฮึๆ’ “พระชายาอากาศที่นี่เริ่มเย็นแล้วเข้าไปในเรือนกันเถอะเพคะ” “อืม” เยว่หลิงมองตามอาชาสีดำสนิทที่คุ้นเคยนั้น มันกำลังพาบุรุษผู้หล่อเหลาผู้นั้นเยื้องย่างออกไปจากจวนจนลับหายสายตาไป แม้ว่าเขาจะหล่อเหลาดูดีไปหมดเสียทุกอย่าง ทว่านางกลับไม่อยากรู้จักและไม่อยากถลำลึกไปมากกว่าไม่เช่นนั้นจุดประสงค์ที่นางมาที่นี่จะสูญเปล่าเสียก่อน เยว่หลิงกำลังเดินเข้าไปในเรือนแต่ก็มีเสียงของใครบางคนเรียกนางไว้ “พระชายา” เยว่หลิงหันหลังไปมองก็พบว่าเป็นตงหยางองค์รักษ์อีกคนของหลี๋อ๋อง “มีอะไรหรือ” “พระชายาท่านอ๋องให้ข้าน้อยไปรับเสื้อคลุมมาให้ท่านพ่ะย่ะค่ะ” “เสื้อคลุม?” “อากาศที่นี่เริ่มเย็นแล้ว หากพระชายายังไม่คุ้นเคยเกรงว่าจะหนาวเอาได้ท่านอ๋องจึงให้ข้านำมาให้ท่านพ่ะย่ะค่ะ” “ขอบใจ” “ส่วนนี่คือป้ายคำสั่งของท่านอ๋องสามารถเข้าออกจวนได้ตลอดเวลา ท่านอ๋องเกรงว่าพระชายาจะเบื่อจึงให้ข้าน้อยนำมาให้เผื่อว่าพระชายาจะอยากออกไปเที่ยวในเมืองพ่ะย่ะค่ะ” “งั้นหรือแล้วเจ้าไม่ต้องตามท่านอ๋องไปหรอกหรือ” “ท่านอ๋องสั่งให้ข้าน้อยอยู่รับใช้พระชายาพ่ะย่ะค่ะ” ‘อยู่รับใช้หรืออยู่เฝ้าข้ากันแน่’ “เช่นนั้นก็แสดงว่าเจ้าต้องทำตามคำสั่งของข้าสินะ” “ไม่ผิดพ่ะย่ะค่ะ” “ดี พาข้าไปเมืองเล่ออาน” “ได้พ่ะย่ะค่ะ หือ? อะ…อะไรนะพ่ะย่ะค่ะ” “ข้าบอกว่าข้าจะไปเมืองเล่ออาน” “ไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะพระชายา” “ใช่เเล้วไปไม่ได้นะเพคะ” “ทำไมล่ะก็พวกเจ้าเป็นคนของข้าแล้วเช่นนั้นก็ต้องทำตามคำสั่งของข้า พาข้าไปเมืองเล่ออานเดี๋ยวนี้” “พระชายา!/พระชายา!” “ไม่ไปงั้นหรือ เช่นนั้นข้าจะไปเอง” “ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะจะไปเพียงลำพังได้อย่างไร เช่นนั้นทรงรออยู่ตรงนี้กระหม่อมจะไปเอารถม้าก่อน” “ดีมาก เสี่ยวหลันเจ้าไปเตรียมของใช้สำหรับข้าเอาไว้เราจะไปเที่ยวกัน” เสี่ยวหลันกับตงหยางมองหน้ากันด้วยความท้อแท้ที่สุด พระชายาจำที่นางบอกไม่ได้แล้วหรือเมืองเล่ออานเวลานี้มีโรคระบาด จะได้เที่ยวอะไรที่ไหนกันเล่า “เร็วเข้าสิ” “เพคะ/พ่ะย่ะค่ะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD