วิญญาณสลับร่างมีจริงหรือไม่?

1683 Words
ยามเหม่า 05.30 เสียงหญิงชราพูดคุยกันดังอยู่ไม่ห่างจากหน้าประตู ชิงเซียนงัวเงียตื่นนอนพร้อมกับควานหาแมวอ้วนของนางจนทั่วหน้าอก เมื่อคลำหาแล้วไม่พบจึงตัดสินใจลุกขึ้นและเดินออกไปด้านนอก ชุดเสื้อผ้าเก่าๆ ของสตรีถูกส่งมาให้ด้วยมือเหี่ยวย่นของป้าลี่ น้ำเสียงนุ่มบอกนางราวกับบอกลูกหลานว่าให้ไปอาบน้ำแล้วเปลี่ยนชุดเสื้อผ้าเสีย ชิงเซียนรับชุดนั้นมาถือไว้แล้วเดินไปจัดการตนเองตามคำสั่ง ซึ่งดูเหมือนว่าวันนี้ท่านยายหมอจะไปบอกแก่กวนผูเล่อเรื่องการเดินทางเข้าเมืองหลวงด้วยเรือตามที่เซาเตี่ยได้ไปแจ้งแก่ท่านหัวหน้าไว้ ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้นางเองก็สนใจอยู่ไม่น้อย ‘เมืองหลวง’ ของที่นี่คงจะมีอะไรที่น่าสนใจมากกว่าป่าเขาลำเนาไพรเป็นแน่ หากตัวนางจะขอร่วมทางไปด้วยก็เกรงว่าจะไม่เหมาะสมนัก ‘เอาเถอะ’ ไว้นางเจรจากับป้าลี่ให้ช่วยเหลือโดยการพานางไปหาเจ้าของเรือก่อนค่อยคิด สตรีงดงามรูปร่่างอรชรในชุดเสื้อผ้าเก่าๆ เดินตามท่านป้าลี่ไปยังกระท่อมของหัวหน้าหมู่บ้านในยามสาย สองข้างทางมีกระท่อมประปรายให้ผู้มาใหม่ได้ถามตลอดเวลา ทั้งเรื่องจำนวนคนในหมู่บ้าน เรื่องความเป็นอยู่รวมทั้งการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ไหนจะเบี้ย ไหนจะเสื้อผ้า ซึ่งท่านป้าก็ตอบนางไปตามความจริง จนทั้งคู่เดินมาถึงบ้านท่านหัวหน้า “ท่านป้าลี่ มีเรื่องอันใดรึ” หัวหน้าจุงจุน บุรุษวัยกลางคนสอบถามน้องสาวของแม่หมอประจำหมู่บ้าน ด้านหลังเป็นสตรีแรกรุ่นใบหน้าสะอาดหมดจดไร้ที่ติ ยืนยิ้มส่งให้ “ข้าจะมาสอบถามเรื่องเรือของหัวหน้าจุงเสียหน่อย พอดีว่านอกจากคนเจ็บกับเซาเตี่ยแล้วแม่หนูผู้นี้ก็พลัดหลงมาในหมู่บ้านของเราเมื่อวานจึงอยากขอร่วมเดินทางไปกับพวกท่านด้วย ข้าจึงมาสอบถามท่านว่าเรือของท่านพอจะมีที่ว่างให้นางไปด้วยได้หรือไม่” “แม่นางท่านนี้คือ” หัวหน้าจุงจุนสอบถามชื่อแซ่ “ข้ามีนามว่าชิงเซียนเจ้าค่ะท่านหัวหน้า” คาราวะผู้อาวุโสกว่า “อ่อ แม่นางชิงเซียน เรือของข้าสามารถนั่งได้ถึงสิบคน ยามนี้นับรวมคนเจ็บแล้้วก็มีคนเดินทางเพียงเจ็ดคนเท่านั้น ที่ว่างยังพอมีเหลือ” “เช่นนั้น ข้ากับแมวหนึ่งตัวขอติดตามไปด้วยเจ้าค่ะ” ใบหน้ามีรอยยิ้มเต็มแก้ม หัวหน้าจุงพยักหน้า “ย่อมได้” ^^ “ไม่ทราบว่าท่านจะเดินทางวันใดเจ้าคะ” “หลังจากนี้อีกสองวัน” “ขอบพระคุณมากเจ้าค่ะ” ชิงเซียนยืนสนทนากับหัวหน้าจุงอีกเพียงหนึ่งเค่อก่อนที่นางและท่านป้าจะขอตัวกลับกระท่อม คืนนั้นเอง “แมวน้อยๆ” ร้องเรียกหาผู้นำทางที่หายไปตั้งแต่ตอนที่นางตื่นนอน ‘ทำอย่างไรดี’ หนทางข้างหน้าถ้าไม่มีแมวน้อยแล้ว นางจะไปต่อเพื่อสิ่งใดในเมื่อนางมิรู้จักทั้งผู้คนและสถานที่ ให้กลับไปยังกระท่อมที่จากมาแล้วอาหารการกินเล่าจะเสาะหาอย่างไร สิ่งไหนมีพิษมิมีพิษไม่อาจรู้ดังเช่นผลไม้ที่นางทานไปก่อนหน้า “หายไปที่ใดกันนะ” นั่งอยู่หลังกระท่อมพลางถอนหายใจ หากแมวน้อยยังไม่กลับมาในอีกสองวันเกรงว่านางกับสัตว์เลี้ยงตัวน้อยคงต้องพลัดพรากจากกันแล้ว ความวูบโหวงในอกทำให้นางเกือบน้ำตาร่วงอย่างน้อยใจในโชคชะตา ‘นางย้อนยุคมาเข้าร่างคนอื่นไม่พอ ยังต้องมาอยู่คนเดียวไร้ใครให้พึ่งพิงอีกเหรอ’ แม่หมอเดินมาด้านหลัง เห็นสตรีงดงามที่เคยบอกว่าตนนั้นผ่านพ้นวัยปักปิ่นมาแล้วสามปีแต่ยังคงมิมีคู่รักนั่งเหงาอยู่ จึงสอบถาม “เป็นอะไรรึ” ชิงเซียนผู้สวมใส่ชุดเก่าของท่านยายหมอตอบคำถามด้วยใบหน้าเศร้า “แม่อ้วนตัวสีดำของข้าหายไปเจ้าค่ะ อีกสองวันข้าจะเข้าเมืองหลวงแล้ว ทำเช่นไรดีเจ้าคะ” จุดประสงค์หลักในการเดินทางครั้งนี้คืออยากจะสอบถามผู้ที่รู้เกี่ยวการสลับร่าง สลับชาติมาเกิดหรืออะไรก็ตามเกี่ยวกับเรื่องลี้ลับเช่นนี้ ถ้าถามว่า รู้แล้วจะทำเช่นไรต่อไป นั่นก็คงต้องแล้วแต่ผลลัพธ์ของคำถามที่นางจะถาม “หากเจ้าคิดว่าการเดินทางครั้งนี้มีความสำคัญต่อชีวิตเจ้า ก็ไปเถอะแต่ถ้าสัตว์เลี้ยงนั้นสำคัญมากกว่าก็แค่อยู่ที่นี่เพื่อรอ ซึ่งยายก็ไม่อาจจะบอกกับเจ้าได้ว่า เรือของท่านหัวหน้าหมู่บ้านจะกลับมาเมื่อใดหรือถ้ามาแล้วจะออกไปอีกเมื่อไร นั่นอยู่ที่ตัวเจ้าต้องตัดสิ้นด้วยตนเองแล้ว” หมอหญิงชราเฝ้าหวังว่านางคงจะตัดสินใจออกเดินทางเข้าเมืองเพราะการอยู่รอตรงนี้มันไม่มีอะไรดีขึ้นเลย “แมวตัวนั้น ไม่แน่ว่าอาจจะมีชีวิตอยู่หรือไม่มีหรือถ้ามี เจ้าจะแน่ใจได้อย่างไรว่ามันจะกลับมาหาเจ้า” ชิงเซียนทำหน้าเศร้าหนักกว่าเดิม ความจริงแล้วนางกับแมวน้อยรู้จักกันเพียงสามวันเท่านั้นหาได้มีความผูกพันใดมากกว่าเจ้าของร่างคนเก่าแม้สักนิด ไหนจะเรื่องที่ทะเลาะกันทุกเวลาทั้งๆ ที่แมวน้อยคอยชี้แนะแต่นางมิเคยฟังคำโดยเฉพาะเรื่องของบุรุษตกเขาผู้นั้น กวนผูเล่อ บุรุษที่นางไม่คิดว่าจะเป็นภรรยาให้เขาได้ ‘แมวน้อยอาจจะรำคาญนาง’ แล้วแยกตัวจากไป “ไม่แน่ใจเลยเจ้าค่ะ” “เช่นนั้นก็จงทำตามที่ใจเจ้าอยากจะทำเถิด อยากเข้าเมืองก็ไป อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องรั้งรอ มิเช่นนั้นจะเหมือนยายที่ติดอยู่ในหุบเขานี้จนแก่ กว่าจะรู้สึกตัวก็สายเกินไป” ล้วงเข้าไปในอกเสื้อแล้วหยิบเบี้ยหนึ่งตำลึงเงินให้สตรีแปลกหน้า “ยายให้” แม้ไม่มากแต่ก็ดีกว่าไม่มี “ท่านยาย” ชิงเซียนน้ำตารื้น ก่อนจะโผเข้ากอดหญิงชราแปลกหน้าที่ดีต่อนางเหลือเกิน ไม่ว่าวันข้างหน้านางจะกลับไปยังภพเดิมได้หรือไม่ นางจะขอจดจำบุญคุณนี้มิลืมเลือน “ขอบพระคุณเจ้าค่ะ ข้าจะไม่ลืมท่านแน่ ถ้ามีโอกาสข้าจะกลับมาตอนแทนท่านยายกับท่านป้านะเจ้าคะ” นั่นหมายถึงถ้านางยังคงอยู่ที่นี่ “ไม่ต้องกลับมาก็ได้ ขอแค่เจ้าเอาตัวเองให้รอดก็พอ” หมอหญิงชราลูบหลังสตรีงดงามขี้อ้อนเบาๆ ประหนึ่งอีกฝ่ายคือหลานสาวที่รัก ‘ความรู้สึกนี้ช่างดีเยี่ยมจริงๆ’ ชิงเซียนร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย ‘ใช่สินะ! นางต้องเอาชีวิตตัวเองให้รอด’ การเดินทางด้วยตัวคนเดียวเช่นนี้สิ่งแรกที่ต้องเตรียมให้ดีคือ หัวใจ เตรียมเพื่อจะก้าวไปข้างหน้า ตั้งจิตภาวนาขอให้ตัวเองแคล้วคลาดจากสิ่งชั่วร้าย ขอให้ชีวิตยังคงอยู่และขอ...ให้ได้กลับบ้านจริงๆ ซะที วันเดินทาง ชิงเซียนก้าวขาขึ้นเรือขนาดกลางด้วยหัวใจที่วูบโหวง ท่านยายและท่านป้ามาส่งนางแล้วยืนรอจนเรือลับสายตา สุดท้ายแมวน้อยก็ไม่มาจริงๆ แม้บนเรือลำนี้จะมีหัวหน้าหมู่บ้านกับลูกเรืออีกสองคน ท่านอาเซาปิ่ง เซาอ้ายอันและกวนผูเล่ออยู่ร่วมด้วย แต่นางก็ไม่ได้คลุกคลีกับผู้ใด นอกจากนั่งอยู่ตรงด้านข้างของเรือไปเงียบๆ เว้นเสียแต่จะมีใครเดินมาวุ่นวายด้วยเช่นตอนนี้ “ห้ามเจ้าเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับท่านพี่ผูเล่อของข้าเด็ดขาด” เซาอ้ายอันกอดอกสั่งเสียงเรียบ ด้วยเพราะสตรีผู้มีนามว่าชิงเซียนตรงหน้านั้นงดงามยิ่งนักแม้อีกฝ่ายยังมิเคยพบปะกับพี่เล่อของนางแต่ด้วยต้องนั่งเรือไปด้วยกันถึงหกวันก็มิอาจวางใจได้ ดังนั้นนางต้องขัดขวางเอาไว้ก่อน ชิงเซียนพยักหน้ารัวๆ และพูดให้นางมั่นใจ “วางใจได้ข้าแค่ขอติดเรือเข้าเมืองหลวงด้วยหาได้คิดสิ่งใดต่อคนรักของเจ้า” อ้ายอันยิ้มกับคำว่าคนรัก พร้อมตอบกลับอย่างเป็นมิตร “เช่นนั้นก็ดี บนเรือลำนี้มีห้องนอนแค่สองห้อง หากไม่ลำบากเกินไปเจ้าก็นอนกับข้าเถิด ไว้ข้าจะหาผ้าห่มมาให้” จะอย่างไรบนเรือลำนี้ก็มีสตรีเพียงสองคน ยามค่ำมืดดึกดื่นย่อมต้องป้องกันตัวบ้าง “ย่อมได้” นั่งพิงกับกาบเรือด้านข้าง มองแม่น้ำสายยาวพลางคิดถึงแมวอ้วนที่หายไปแห่งใดไม่รู้ได้ ครั้นจะให้นางตามหาก็ติดที่ว่ามันคือป่าบวกกับหากถ้าไม่เดินทางยามนี้ก็ไม่รู้ว่าจะต้องอยู่กับท่านยายหมอไปนานเท่าใดอีก ‘ไม่ได้แล้ว นางต้องลองเข้าเมืองเผื่อจะเจอคนที่ช่วยนางกลับบ้านได้จริงๆ’ “อ้ายอัน เจ้าเชื่อเรื่องวิญญาณสลับร่างหรือไม่” เจ้าของนามมองมายังสตรีงดงามแต่สวมชุดเก่าคร่ำครึ “สลับร่างรึ” ทำหน้างุนงงสงสัยแต่ก็ตอบกลับตามใจคิดว่า “ไม่รู้สิ ถึงข้าอายุยังน้อยและไม่เคยเห็นเรื่องเช่นนี้ก็มิใช่ว่าจะไม่เชื่อเลย เจ้ายังไม่รู้สินะว่าในเมืองหลวงที่ข้าได้ยินมามีกลุ่มหมอผี หมอดูหรือลัทธิประหลาดมากมาย บางคนงมงายเรื่องผีสางและคิดว่ามันมีอยู่จริงก็ไม่ต่างอะไรกับเรื่องวิญญาณสลับร่างของเจ้าหรอกกระมัง” “งั้นเหรอ” ‘หมอผี? หมอดู? คนพวกนี้จะช่วยอะไรนางได้บ้างนะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD