D DAY สามวันก่อนวันหมั้น
“กรี๊ด! อะไรนะ พวกแกหาทั่วแล้วใช่ไหม โดนัทหายไปงั้นเหรอ ลูกฉันหายไปไหน แกดูแลกันยังไง อีพวกบ้า” คุณหญิงพรพิมลกรีดร้องพร้อมกับด่าทอแม่บ้านและพี่เลี้ยงคนสนิทที่มอบหน้าที่ให้คอยช่วยดูแลโดนัท อย่างใกล้ชิด แล้วมารายงานว่าคุณโดนัทหายตัวไปตอนนี้เนี่ยนะ
พี่เลี้ยงส่งกระดาษที่โดนัทเขียนทิ้งไว้ให้คุณหญิงพรพิมลด้วยมืออันสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว
“คุณโดนัทเขียนไว้ค่ะ”
คุณหญิงพรพิมลหยิบกระดาษแผ่นนั้นมาอ่าน ด้วยมือที่สั่นระริกไม่ต่างกัน
“คุณแม่ค่ะหนูขอโทษ หนูคงทำตามคำสั่งของคุณพ่อกับคุณแม่ไม่ได้สำหรับเรื่องนี้ หนูเสียใจ แต่หนูมีคนรักอยู่แล้วคุณแม่ก็รู้ หนูรักเขาค่ะคุณแม่ ยกเลิกการหมั้นครั้งนี้เถอะนะคะ โดนัท”
คุณหญิงพรพิมลอ่านข้อความครบทุกบรรทัดถึงกับเข่าแทบทรุด เดินไปนั่งลงบนเก้าอี้อย่างหมดเรี่ยวแรง
“ทำไมทำแบบนี้ นังลูกไม่รักดี กล้าหักหน้าพ่อแม่แบบนี้ได้ยังไง ฉันอบรมเลี้ยงแกมาไม่ดีพอรึไง ถึงได้กลบเลือดชั่วสันดานต่ำของแกไม่หมดซะที” คุณหญิงพรพิมลพึมพำกับตัวเองพร้อมกับขยำกระดาษในมือปาทิ้งลงพื้นอย่างเดือดดาล แล้วรีบเดินออกไปโทรหาสามีบอกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นตอนนี้
“คุณพี่ค่ะเราจะทำยังไงกันดีคะ โดนัทหนีไปแบบนี้ ลูกทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไงคะคุณพี่”
“คุณหญิงใจเย็นก่อนโดนัทหนีไปไหน อาจจะแค่ออกไปเที่ยวกับเพื่อนรึเปล่า”
“ไม่ค่ะ น้องเช็กทุกอย่างแล้ว ลูกหนีไปกับผู้ชายคนนั้นจริงๆ ค่ะคุณพี่ แล้วอีกแค่สามวันจะถึงวันหมั้นแล้วนะคะ เราจะทำยังไง ถ้างานล่มขึ้นมา แล้วถ้านักข่าวรู้ว่าลูกหนีไปกับผู้ชาย เราพังกันหมดแน่นะคะ”
“โอเคๆ ขอผมคิดก่อนว่าจะทำยังไงต่อ ผมขอจัดการเรื่องนี้เองนะ คุณหญิงแค่กำชับเด็กที่บ้านว่าห้ามใครรู้เป็นอันขาดว่า โดนัทหนีไป”
“ได้ค่ะคุณพี่”
อดีตนายกรัฐมนตรีท่านเกรียงไกรวางสายจากภรรยาแล้ว ถึงกับยกมือขึ้นมากุมขมับ
“โดนัทนะโดนัท ทำไมทำกับพ่อแบบนี้” เขาพูดเสียงลอดไรฟัน อย่างนึกโมโห แต่ทว่าก็คิดถึงใครอีกคนขึ้นมาได้ ที่พอจะช่วยแก้ไขเรื่องนี้ให้ผ่านไปได้
ด้านแม็กซ์เวล
“แม็กซ์เวลวันนี้อย่าลืมนะ ลูกต้องไปรับหนูโดนัทไปทานข้าว แม่กับคุณหญิงพรพิมลอยากให้ลูกกับหนูโดนัทมีรูป ออกสื่อ เช็กกระแสสังคมกันหน่อย หุ้นได้ขึ้นพุ่งกระฉูดแน่ๆ”
“ครับ” แม็กซ์เวลพยักหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ช่วงเย็นเขาโทรหาโดนัทเพื่อจะไปรับเธอ ตามคำสั่งของคุณแม่
ครืดดด ครืดดด
“ฮัลโหลจ้ะ แม็กซ์เวล นี่ป้าเองนะ”
“ครับคุณหญิง ผมกำลังจะไปรับน้องโดนัทไปทานข้าวนะครับ”
“เออ..คือ..ตอนนี้โดนัทไม่สบายน่ะ วันนี้ออกไปไม่ได้ ป้ากลัวน้องจะเป็นเยอะด้วย ใกล้จะถึงวันหมั้นแล้ว เกิดเป็นเยอะขึ้นมาจะลำบาก วานแม็กซ์เวลช่วยบอกคุณเมธาวีให้ป้าหน่อยได้ไหม ว่านัดวันนี้คงไปไม่ได้แล้ว ค่อยเจอกันอีกทีวันหมั้นเลยแล้วกันนะจ๊ะ”
แม็กซ์เวลรู้สึกแปลกๆ กับคำพูดของคุณหญิงพรพิมล เพราะเขาเชื่อว่าถ้าโดนัทแค่ไม่สบายนิดหน่อย ยังไงผู้ใหญ่สองบ้านนี้ก็คงบังคับให้ออกไปจนได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นเขาเองที่ป่วย ถึงจะกำลังให้น้ำเกลืออยู่ยังไงคุณแม่ของเขาก็คงจับเขาถอดสายน้ำเกลือแล้วลากไปจนได้ และเขาคิดว่าบ้านโดนัทก็ไม่ต่างกัน น่าจะมีอะไรมากกว่าไม่สบายแน่ๆ แม็กซ์เวลคิดได้แบบนั้นเลยตัดสินของคุยกับว่าที่คู่หมั้น
“คุณหญิงครับ น้องโดนัทเป็นอะไรมากรึเปล่าครับผมเป็นห่วง ผมขอเข้าไปเยี่ยมน้องหน่อยได้ไหมครับ”
“ไม่ต้องมาหรอกจ้ะ น้องเป็นน้ำมูกนิดหน่อย ป้ากลัวว่าจะติดเอาน่ะถ้าแม็กซ์เวลเข้ามา”
“อ๋อครับ งั้นผมขอสายน้องหน่อยได้ไหมครับ อยากถามน้องว่าอยากทานอะไรรึเปล่า ผมจะให้คนขับรถไปส่งให้ครับ”
“แม็กซ์เวลน่ารักจริงๆ เลยป้าได้ยินแบบนี้แล้ว ดีใจแทนโดนัท แต่ตอนนี้โดนัทเพิ่งทานยาแล้วหลับไป ป้ายังไม่อยากปลุก เอาเป็นว่าถ้าโดนัทตื่นแล้วป้าจะให้น้องทักข้อความหา นะจ๊ะ”
“ได้ครับ งั้นผมไม่รบกวนแล้วนะครับ สวัสดีครับคุณหญิง”
วางสายจากแม็กซ์เวลแล้ว คุณหญิงพรพิมลถึงกับ ถอนหายใจอย่างโล่งอก
ต่างกับแม็กซ์เวล ที่รู้สึกสงสัยแปลกๆ แล้วก็โทรไปบอกคุณแม่ตัวเองตามที่คุณหญิงพรพิมลฝากบอกคุณแม่ของเขา คุณแม่ต่อว่าไปตามประสากับเขา เพราะขัดใจที่ไม่ได้ดังใจ หงุดหงิดพอสมควร
มันแปลกเอาจริงๆ นะคุณแม่เขายังว่าเลยว่า ถ้าไม่ใกล้ตายก็ควรลากสังขารมาหน่อยก็ดีนะ นี่อะไรผิดแผนไปหมด แม็กซ์เวลคิดว่าเขาควรสืบเรื่องนี้สักหน่อย เลยรีบ กดโทรหาพี่บอย ให้ช่วยตามสืบเรื่องนี้แบบด่วนที่สุด
@หมู่บ้านริมทะเลแห่งหนึ่งที่ปราณบุรี
ท่านเกรียงไกรลงจากรถและยืนอยู่หน้าร้านขายอาหารเล็กๆ ริมทะเล เขาลังเลนิดหน่อยก่อนที่ตัดสินใจเดินเข้าไปในร้าน
“กุ้งนาง” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกผู้หญิงที่ยืนหันหลังอยู่ภายในร้าน แต่เขาจำได้ดีว่าเป็นเธอ
คนถูกเรียกหันมา พร้อมกับจ้องมองด้วยความตกใจไม่คิดว่าเขาจะกล้ามาเหยียบที่นี่อีก
“พี่มาทำไม”
“กุ้งนาง พี่ขอเจอลูกพี่หน่อย ตามคัพเค้กมาคุยกับพี่หน่อยได้ไหม”
“ไม่ได้ค่ะ พี่กลับไปเถอะ พี่รับปากกับพี่ก้ามปูไว้แล้วไม่ใช่เหรอว่าจะไม่กลับมาที่นี่อีก จะไม่มาเจอคัพเค้กอีก เหมือนกับพี่ก้ามปูที่เธอก็ไม่เคยไปเจอโดนัทตามที่เมียพี่สั่งห้ามเหมือนกัน แล้วทำไมพี่ถึงทำผิดสัญญากลับมาที่นี่ทำไม”
“พี่ขอโทษนะกุ้งนาง แต่พี่คิดถึงลูก ยังไงก้ามปูก็ไม่อยู่แล้ว พี่ขอเจอคัพเค้กสักครั้งเถอะนะ พี่รู้มาว่าตอนนี้คุณแม่ไม่ค่อยสบาย กุ้งนางกับคัพเค้กคงลำบากมาก พี่อยากช่วย ให้พี่ได้ทำหน้าที่พ่อบ้างเถอะนะ”
“ทำไมอยู่ๆ ถึงใจดีขึ้นมา มันไม่น่าตลกไปหน่อยเหรอคัพเค้กมันอยู่ของมันได้โดยที่ไม่มีพ่อมา 20ปีแล้ว แต่จู๋ๆ พี่กลับมาแสดงตัวว่าเป็นพ่อ พี่ทำไปเพื่ออะไรฉันถามหน่อย เมียกับแม่ของพี่รู้เรื่องนี้รึเปล่า รึสองคนนั้นเกิดใจดีแปลกๆ ขึ้นมาด้วย น่าขนลุกชะมัดนะถ้าแบบนั้น ยังไงฉันก็เชื่อไม่ลงหรอก พี่กลับไปเถอะ”
“กุ้งนางเรื่องมันผ่านมานานแล้วนะ ยังไงพี่ก็เป็นพ่อของคัพเค้กนะ เธออย่าลืมสิ คัพเค้กก็ลูกพี่ทั้งคนนะ”
“ใช่ค่ะฉันไม่เคยลืมหรอก ยังจำฝังใจไม่หายเลย พี่ก้ามปูพี่สาวคนเดียวของฉัน เพิ่งจะคลอดลูกแฝดได้แค่ 15วัน ก็โดนสั่งให้เลิกกับผัวเพราะฐานะไม่คู่ควร และแม่ผัวก็เอาลูกเธอไปคนหนึ่ง โดยที่ห้ามเธอไปเจอลูกอีกตลอดชีวิต ไม่เช่นนั้นจะเอาลูกแฝดไปทั้งสองคน ฉันยังจำเหตุการณ์วันนั้นได้ดี ราวกับโดนพิมพ์ภาพจำเหล่านั้นไว้ในหัวเลยเชียวละ และพี่คือคนที่นั่งอยู่ในรถ มองภาพเหล่านั้นตาปริบๆ โดยที่ไม่ได้ปกป้องอะไรลูกเมียเลย แล้ววันนี้พี่มานี่เพื่อทวงสิทธิ์ความเป็นพ่อของคัพเค้กงั้นเหรอ”
“พ่อเหรอคะ?” เสียงหวานเอ่ยขึ้นมา คัพเค้กได้ยินหมดทุกอย่างแล้ว เธอยืนฟังสองคนโต้เถียงกันตั้งแต่แรก
กุ้งนางกับเกรียงไกรหันไปตามเสียงนั้นพร้อมกัน เห็นคัพเค้กยืนอยู่
เธอมองจ้องมาที่น้าของตัวเองแล้วก็ผู้ชายที่เพิ่งได้ยินว่าเป็นพ่อเธอสลับกันไปมา เหมือนจะรอคำตอบให้ชัดเจนกว่าที่ได้เย็นเมื่อกี้อีกครั้ง เหมือนอยากให้ตอกย้ำว่าเธอไม่ได้หูฝาด
“คัพเค้กนี่หนูเหรอ?” คุณเกรียงไกรปรี่เข้าไปหาลูกสาวของเขาทันที
กุ้งนางวิ่งไปขวางหน้าไว้ก่อนที่เขาจะถึงตัวคัพเค้ก
“พี่ขอละกุ้งนาง ขอพี่ได้กอดลูกหน่อยเถอะนะ พี่ขอคุยกับคัพเค้กได้ไหม แกควรรู้นะว่าถึงแม่จะจากไปแล้ว แต่แกยังมีพ่ออยู่ทั้งคน แล้วก็มีพี่”
“พี่เกรียงไกรค่ะ พี่ก้ามปูเสียไปตั้งแต่คัพเค้ก 10ขวบ ผ่านไปสิบปีแล้วนะคะ ทำไมคัพเค้กถึงต้องมีพ่อตอนนี้ ทำไมพี่ถึงอยากมาแสดงตัวว่าเป็นพ่อแกเอาตอนนี้ค่ะ ฉันถามหน่อย” กุ้งนางไม่ยอมใจอ่อนให้เขาง่ายๆ
“เพราะพี่รู้ว่าตอนนี้เธอลำบากมากไง คัพเค้กจะได้เรียนต่อรึเปล่าก็ไม่รู้คุณแม่ก็มาป่วย บ้านแล้วก็ร้านกำลังจะถูกยึด เหตุผลเยอะแยะขนาดนี้เธอควรจะยอมให้พี่เข้ามาดูแลลูกแล้วก็ครอบครัวเธอได้แล้วนะกุ้งนาง พี่พูดเลยว่าพี่มาเพราะเต็มใจ แล้วก็อยากช่วยจริงๆ พี่สงสารลูก”
“พี่ให้คนตามสืบเรื่องพวกเรางั้นเหรอคะ”
“พี่แค่ให้คนมาดูว่าเธอกับคุณแม่ แล้วก็ลูกพี่ ว่าความเป็นอยู่เป็นยังไงสุขสบายดีไหม พอได้เรื่องว่ากำลังลำบากก็เลยรีบมา ที่สืบก็เพราะเป็นห่วง ตั้งใจอยากมาหาอยากเจอลูกสักครั้งแค่นั้นเลยกุ้งนาง”
“น้าค่ะ หนูของคุยกับเขาหน่อยได้ไหมคะ” คัพเค้กที่ยืนฟังผู้ใหญ่สองคนโต้เถียงอยู่นาน พอจะจับใจความได้บ้างแล้ว เลยพูดขอคนเป็นน้าออกมาแบบนั้น
“เอาเถอะยังไงหนูก็รู้ทุกอย่างแล้ว งั้นก็คุยกับเขาเถอะ” กุ้งนางหลีกทางให้คัพเค้กได้คุยกับคุณพ่อของเธอเป็นครั้งแรก