"โอ๊ะ อิ่มจังเลย" ปุยฝ้ายพูดแล้วเอามือลูบท้องตัวเองออกมาอย่างลืมตัว
วาโยมองแล้วยิ้มออกมาแล้วก็ขำ
"พี่ขำอะไรอ่า" ปุบฝ้ายเอียงคอถามออกมาอย่างแปลกใจ
"ขำเด็กไง ดูอิ่มแล้วทำเข้าสิ" วาโยพูดออกมาแล้วยิ้มกว้าง
"แหะ ลืมตัว" ปุยฝ้ายพูดออกมาอย่างเขิลๆ
"ไม่เป็นไรน่ารักดี"วาโยพูดออกมาแล้วยิ้มที่มุมปาก
กึก!!!
ปุยฝ้าย มองวาโยแล้วกระพริบตาปริบๆ
เป็นครั้งที่ 2 ของวันนี้แล้ว ที่พี่วาโยทำเธอใจเต้นโครมคราม
"เออ เดี๋ยวหนูเก็บของล้างให้นะคะ" เธอพูดออกมาแล้วจะหยิบชามไปล้าง แต่ทว่ามือเรียวสวยของวาโยคว้ามือของเธอเอาไว้
ปุยฝ้ายมองวาโยอย่างถามคำถามในหน้า
"ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวให้แม่บ้านมาจัดการ เราไปกันเถอะ" วาโยบอกปุยฝ้ายออกมาแล้วปล่อยมือของเธอออก
"ออค่ะ ได้ค่ะ" ปุยฝ้ายรับคำออกมาเพียงเท่านั้น แล้วลุกขึ้นยืน
"อร่อยมากๆ ฉันชอบนะ"
"คะ?"
"หมายถึงก๋วยเตี๋ยวไก่มะระฝีมือเธอไง" วาโยพูดออกมายิ้มๆโดยที่แฝงเลิศนัยเอาไว้
"ออ ขอบคุณค่ะ ดีใจที่พี่วาโยชอบนะคะ" ปุยฝ้ายตอบออกมาด้วยความซื่อ
"อืม ไปกัน" วาโยพูดจบแล้วเดินนำปุยฝ้ายออกจากห้องไป ปุยฝ้ายก็เดินตามเจ้านายออกจากห้องเช่นกัน
"วันนี้นะ ฉันว่าเราไม่ต้องเข้าบริษัทแล้วละ ไปหาคุณแม่เป็นเพื่อนฉันหน่อย" วาโยบอกออกมาเสียงเรียบ
"เออ พี่เชอร์รีนจะไม่ว่าเหรอคะ อีกอย่างหนูนะเป็นแค่เด็กฝึกงานนะคะ" ปุยฝ้ายถามออกมาอย่างกังวล
นิ้วเรียวสวยของพ่อซุปตาร์ กดมือถืออยู่พักนึงก่อนจะหันมาบอกปุยฝ้าย
"ฉันบอกเชอร์รีนแล้ว เธอไม่ต้องกังวล"
"ออ ถ้างั้นก็ได้ค่ะ" ปุยฝ้ายตอบวาโยแล้วยิ้มบางๆ
"ดี ไปกัน" ว่าแล้ววาโยก็เดินไปยังรถหรูคู่ใจของเขา
"ไปคันนี้เหรอค่ะ แล้วพี่สายฟ้ากับพี่เวหาละ" ปุยฝ้ายถามอย่างแปลกใจ เพราะรถคันนี้มันนั่งได้แค่ 2 คน
"ไปคันนี้แหละ ฉันขับเองสองคนนั้นไม่ต้องไปหรอก ไปขึ้นรถได้แล้ว" ว่าแล้วว่าโยก็เปิดประตูรถให้ปุยฝ้ายนั่ง เมื่อเธอขึ้นไปนั่งแล้ว วาโยเอื้อมมือไปดึงเบลท์มาคาดให้ปุยฝ้าย หน้าชิดหน้าเรียกว่าหายใจรดต้นคอกันเลยทีเดียว
กึก!!
รอบที่ 3 ของวันแล้ว ที่พี่วาโยทำปุยฝ้ายใจเต้นรัว
เสียงประตูอีกฝั่งเปิดออก แล้ววาโยก็ขึ้นมานั่งประจำที่ฝั่งคนขับแล้วเคลื่นรถออกไปอย่างอารมณ์ดี
ปุยฝ้ายนั่งเหม่อตลอดทาง เพราะเธอนึกถึงตอนที่พี่คาดเบลท์ให้อยู่
"เป็นอะไร เงียบไปเลย" เสียงวาโยทำให้เธอได้สติ
"ออ เปล่าค่ะ เราจะไปหาคุณแม่พี่วาโยที่ไหนกันคะ" ปุยฝ้ายถามออกมาอย่างกลบเกลื่อน
"บ้านของฉันไง เดี๋ยวก็ถึงแล้ว" วาโยบอกออกมาเพียงเท่านั้น
ปุยฝ้ายพยักหน้าอย่างรับรู้
บ้านขจรกิตติบวร
วาโยจอดรถบริเวรโรงรถของบ้าน
"ป่ะเข้าบ้านกัน" วาโยเปิดประตูรถให้ปุยฝ้ายแล้ววชวนเธอเข้าบ้าน
"ค่ะ" ปุยฝ้ายบอกแล้วยิ้มออกมา แม้เธอเองจะตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย และตัวเธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าตัวเองจะตื่นเต้นทำไมกัน
"คุณหนู ป้าคิดถึงจังเลย วันนี้ลมอะไรหอบมาคะ" ป้าแจ่มหัวหน้าแม่บ้านวิ่งมารับอย่างดีใจ
"ลมของความคิดถึงไงครับ" วาโยตอบป้าแจ่มพร้อมรอยยิ้มสดใส
"เออ" ป้าแจ่มมองมาที่ปุยฝ้าย อย่างสงสัย
"ออ ปุยฝ้ายครับ จะมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้ผม วันนี้คุณแม่คุณพ่ออยู่ไหมครับ" วาโยถามออกมา
"สวัสดีค่ะ" ปุยฝ้ายยกมือไหว้ป้าแจ่ม
"สวัสดีค่ะหนูปุยฝ้าย น่ารักน่าเอ็นดูจังเลย"ป้าแจ่มรับไหว้ แล้วบอกออกมาอย่างเอ็นดูว่าที่ผู้จัดการของคุณหนูของเธอที่ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่จะเป็นผู้จัดการแค่อย่างเดียว เพราะร้อยวันพันปี คุณหนูของเธอไม่เคยพาสาวที่ไหนเข้าบ้านเลย
"อะหึ้ม" วาโยแกล้งกระแอมออกมา เรียกสติป้าแจ่มของเขา
"ออ คุณผู้หญิงอยู่ในบ้านคะ ส่วนคุณผู้ชายไปบริษัทแต่เช้าแล้วค่ะ" ป้าแจ่มตอบออกมา แล้วพาทั้งคู่เข้ามาที่ห้องนั่งเล่นที่คุณผู้หญิงของบ้านอยู่
"สวัสดีครับคุณแม่" วาโยเข้าไปกอดอ้อนมารดาเมื่อเดินมาถึง
"ว่าไงค่ะลูกชาย นึกว่าเป็นนักร้องดังแล้วลืมคุณแม่เสียละ" คุณวารินผู้เป็นมารดาแกล้งพูดออกมา
"ลืมอะไรกันละครับ รักมารดาที่สุด" วาโยอ้อนมารดา
"สวัสดีค่ะ" ปุยฝ้ายยกมือไหว้คุณแม่ของพี่วาโย
"ค่ะ สวัสดีค่ะลูก" คุณวารินรับไหว้พร้อมรอยยิ้มแล้วหันมามองลูกชายอย่างจับพิรุธ
"ปุยฝ้ายครับคุณแม่ จะมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของผม" วาโยตอบมารดาออกมา
"นั่งสิคะหนูปุยฝ้าน สวยน่ารักจังลูก" คุณวารินบอกออกมายิ้มๆ อย่างรู้นิสัยลูกชาย ถ้าพามาหาขนาดนี้ คงชอบแล้วเป็นแน่
"ทำอาหารอร่อยด้วยนะครับคุณแม่" วาโยบอกออกมาอย่างภูมิใจ
"เหรอคะ" คุณวารินถามลูกชายออกมายิ้มๆ และเธอก็แน่ใจแล้วว่าเด็กสองคนนี้ชอบกันเป็นแน่ ผู้จัดการส่วนตัวอะไร จะถึงขั้นทำให้วาโยเสียอาการ และปลื้มได้ขนาดนี้ ลูกชายของเธอนะ ขึ้นชื่อว่าเดาใจยาก แต่ครั้งนี้นะเหรอ เค้าเสียอาการเอามากๆ และดูจะปลื้มจะแคร์สาวน้อยที่ชื่อปุยฝ้ายนี้มาก
"น้ำค่ะคุณหนู หนูปุยฝ้าย" ป้าแจ่มเอาน้ำหวานแหละขนมมาเสริฟให้วาโยและปุยฝ้าย
"ขอบคุณค่ะป้าแจ่ม" ปุยฝ้ายบอกออกมาแล้วยกมือไหว้เล่นเอาวาโยมองออกมาอย่างถูกใจ ในกิริยามารยาทของแม่เหยี่ยวสาวของเขา
ส่วนคุณวาริน ที่มองลูกชายที่มองสาวน้อยปุยฝ้ายอย่างเก็บอาการไม่อยู่ ยิ้มออกมาอย่างถูกใจ ที่ได้เห็นลูกชายของเธอมีอาการมีความรักกับเขาเสียที เพราะเดิมทีคุณวารินนึกว่าบุตรชายของเธอจะไม่มีหัวใจเสียแล้ว