ระหว่างที่อีกคนนั่งกินอาหารด้วยความเสียดาย อีกคนยกแก้วเครื่องดื่มไม่หยุดหย่อนอยู่นั่น
“สวัสดีครับ เจอกันอีกครั้งจนได้นะครับ”
ข้าวหอมได้ยินเสียงของผู้ชายทักทาย เธอก็เงยหน้าหันมามองทางต้นเสียง สิงหราชเหลือบตามองตาม
ข้าวหอมเห็นชายหนุ่มที่เคยพบกันที่ร้านเหล้าครั้งก่อนที่สิงหราชไปกินเหล้าแล้วให้เธอไปเป็นคนขับรถให้ วันนี้เขาสวมชุดสูทสีเทาเข้ม ดูแล้วสุภาพสง่างาม ทั้งยังดูทันสมัย เขามากินข้าว แต่การแต่งกายดูดีเหมือนมาร่วมงานเลี้ยงอย่างไรอย่างนั้น สงสัยคงเพิ่งจะเลิกงานหรือกำลังจะไปงานเลี้ยงต่อแน่ ๆ
“สวัสดีค่ะ” ข้าวหอมทักกลับไปแค่นั้น เพราะเธอไม่รู้ว่าเขาชื่ออะไร
“หวังว่าจะไม่ลืมนะครับ ว่าสัญญาอะไรกันไว้”
หิรัณย์ยิ้มน้อยๆ และยื่นโทรศัพท์ให้ข้าวหอมทันที
ข้าวหอมรับโทรศัพท์เครื่องเล็กแต่ราคาคงไม่เล็กมา สงสัยคราวนี้เธอต้องทำตามสัญญาด้วยการแลกเบอร์กับชายหนุ่มสุภาพอ่อนโยนคนนี้
…แค่แลกเบอร์คนหล่อไว้ไม่เห็นเป็นไรเลย อิอิอิ เธอคิดในใจ
แต่คงมีใครบางคนใช้สายตามองอย่างไม่พอใจ และมองด้วยใบหน้าอันเฉยชา
“ขอโทษทีนะ ไม่เห็นเหรอว่าเธอกินข้าวอยู่” เขาตวัดสายตาอย่างไม่พอใจขั้นรุนแรง
“แฟนดุจังครับ ก็ไม่แปลกมีแฟนสวยขนาดนี้” ชายหนุ่มพูดเป็นเชิงแซวๆ สิงหราชส่งสายตาเขียวไปให้เขาอย่างไม่เก็บอาการอีกต่อไป
“อ๋อ..ไม่ใช่ค่ะ นี่เจ้านาย ฉันยังไม่มีแฟน” ข้าวหอมรีบเอ่ยตอบเพราะกลัวเขาเข้าใจผิด นานๆ จะมีหนุ่มหล่อมาทัก ขออ่อยหน่อยเถอะ
แต่ทันใดนั้น สิงหราชก็ลุกขึ้นกระชากคอเสื้อชายหนุ่มอย่างหงุดหงิด
“จะไปได้หรือยัง ขอความเป็นส่วนตัวนิดหนึ่งนะ พอดีมีคนอื่นแล้วรู้สึกกลืนข้าวไม่ลง” สิงหราชตะคอกใส่ชายหนุ่มอย่างไร้เหตุผล ...
“สงบสติอารมณ์หน่อยได้มั้ย เขาแค่มาทักทายเฉยๆ นะ” ข้าวหอมหันไปมองหน้าเขา สิงหราชจึงปล่อยมือออกจากคอเสื้อของอีกฝ่าย
“ผมว่า คุณควรใจเย็นกว่านี้หน่อย ถึงจะหวงแฟนก็เถอะ แต่ถ้าอาการขนาดนี้ ระวังจะเสียแฟนครับ”
หิรัณย์ตบไหล่สิงหราชเบาๆ และไม่ลืมที่จะยื่นมือไปรับโทรศัพท์คืนจากหญิงสาว เขายิ้มให้เธอแล้วยกโทรศัพท์ขึ้น คล้ายกับกำลังบอกว่า
‘เดี๋ยวโทรหานะครับ’ ก่อนเดินแยกตัวออกไป
สิงหราชมองเห็นแบบนั้นก็กำมือแน่น และทำท่าเหมือนจะลุกขึ้นไปหาเรื่อง แต่ข้าวหอมรีบดึงมือเขาไว้ซะก่อน
“ช่างเขาเถอะ เรามากินข้าวกันต่อดีกว่านะ” เธอพูดพร้อมกับคีบแซลมอนให้เขาอย่างเอาใจ
หลังจากนั้นทั้งสองก็กินข้าวกันต่อ โดยข้าวหอมตักอาหารที่คล้ายกับแกล้มใส่จานให้เจ้านายหนุ่มบ้าง จนเขามีสีหน้าดีขึ้น แต่ทว่า
ติ๊ดตือดี๊ด ติ๊ดตือดิ้ด”
เสียงริงโทนการ์ตูนสุดฮิตของข้าวหอมดังขึ้นในขณะนั่งรอเช็คบิลค่าอาหาร หญิงสาวหยิบขึ้นมาดูก็เห็นเป็นเบอร์แปลกไม่คุ้นเคย เพราะไม่ได้มีการเมมชื่อไว้ แต่เธอก็กดรับสาย เผื่อเป็นลูกค้าโทรมา
“สวัสดีค่ะ” ข้าวหอมรับสายด้วยน้ำเสียงหวานใส
[ฮัลโหล นี่ผมหิรัณย์เองนะครับ] เสียงตามสายนั้นเป็นเสียงผู้ชาย
แต่...หิรัณไหนวะ ข้าวหอมคิดในใจ
“ขอโทษนะคะ คุณหิรัณย์จากบริษัทไหนคะ”
ข้าวหอมรีบเอ่ยขอโทษและถามออกไปตามแบบฉบับเลขาที่ดี เพราะเธอยังคิดว่าคนในสายอาจจะเป็นลูกค้าของโรงแรมที่เธอทำงานอยู่
[5555 ขอโทษทีนะครับ ผมขอแนะนำตัวก็แล้วกัน ผมหิรัณย์ ที่เราแลกเบอร์กันเมื่อกี้ไงครับ คุณข้าวหอม”
ในสายหัวเราะออกมา เมื่อนึกขึ้นได้ว่าทั้งสองคนยังไม่ได้แนะนำตัวกันเลย ส่วนที่เขารู้ว่าเธอชื่อข้าวหอม เพราะเธอเมมชื่อไว้ในโทรศัพท์เขา
“อ้าวนี่เบอร์คุณเองเหรอคะ” ข้าวหอมร้องทักออกไป และคุยกันต่ออีกสักพัก ก็ต้องรีบวางสายเมื่อเห็นพนักงานร้านนำเงินทอนมาให้ และสิงหราชเดินออกจากร้านไปที่รถ
“แค่นี้ก่อนนะคะ เดี๋ยววันหลังค่อยคุยกันใหม่ ข้าวหอมต้องไปแล้วค่ะ” เธอตัดสายและวิ่งตามเจ้านายที่เดินจ้ำอ้าวออกไป
หลังจากที่เดินมาถึงที่รถ ก็เห็นสิงหราชยืนสูบบุหรี่อยู่ที่ข้างๆ รถ เธอเลยยืนอยู่ห่างๆ เพื่อรอเขาสูบบุหรี่เสร็จ
‘จะเปิดรถให้เราขึ้นไปนั่งรอก็ไม่ได้ เหม็นกลิ่นบุหรี่จะตาย’
เธอได้แต่คิดในใจ แต่ไม่กล้าเอ่ยออกมาเมื่อเห็นสีหน้าเย็นชาของเจ้านายหนุ่ม ทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ จนกระทั่งมีเสียงหนึ่งพูดขึ้นมา
“ใคร” สิงหราชถามเสียงเข้มทันที
“ผู้ชายคนเมื่อกี้เหรอ?!!” ข้าวหอมถามกลับเมื่อเจ้านายถามมาด้วยคำถามสั้นๆ
“ใช่ ใคร?”
อีกคำถามเริ่มใส่อารมณ์มากขึ้นแล้ว พลางเอื้อมมือคว้าโทรศัพท์หญิงสาวไปทันที พร้อมกับเปิดรูปหน้าโพรไฟล์ แอปพลิเคชันไลน์
“คนนี้ใคร” สิงหราชเอ่ยถามพร้อมใช้สายตาพิฆาต
“เขาชื่อหิรัณย์” ข้าวหอมตอบกลับไป เธอรู้สึกใจไม่ดี เธออยากที่จะยื่นมือไปเอาโทรศัพท์คืนมา .....แต่ไม่กล้า
“ที่เดินมาคุยเมื่อกี้เหรอ” อีกคำถามที่เต็มไปด้วยความเย็นชาก็โพล่งขึ้นมาอีกครั้ง
“ใช่” ข้าวหอมตอบ แล้วแกล้งทำหน้าแบบไม่แยแสในคำถาม ทว่า
เปรี้ยง!!!
เสียงโทรศัพท์ข้าวหอมหล่นลงกับพื้นทันที พร้อมกับหน้าจอที่แตกเป็นเศษกระจัดกระจายอยู่บริเวณรอบๆ
“ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย”
ข้าวหอมหันไปมองหน้าสิงหราช สะกดอารมณ์ไม่ให้โมโห พลางนับ1-10 ในใจ แล้วก้มลงไปหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมา
‘นี่เขาคิดว่าเป็นเจ้านายแล้วจะทำอะไรกับฉันก็ได้หรือไง’
ข้าวหอมเริ่มจะทนไม่ไหวกับการกระทำที่เอาแต่ใจและไร้สาระของเขาไม่ไหวแล้วนะ
“โทษที พอดีมันหลุดมือน่ะ แต่เดี๋ยวฉันซื้อให้ใหม่ก็แล้วกัน” สิงหราชเอ่ยขึ้นอย่างไม่สนใจ พร้อมกับยื่นมือมาที่ข้าวหอม
“อะไร” ข้าวหอมมองมือของเจ้านายอย่างงงๆ
“เอาโทรศัพท์มา เดี๋ยวฉันไปซื้อให้ใหม่ แล้วจะถ่ายข้อมูลใส่เครื่องใหม่ให้ เธอก็บอกข้อมูลของเธอมาก็แล้วกัน”
เขาพูดเหมือนปกติ พยายามทำหน้าเฉยเมยเย็นชาเหมือนเดิม
“ไม่ต้องหรอก ฉันเอาไปซ่อมเองได้ นายก็รอจ่ายเงินมาก็แล้วกัน”
ใครจะบอกข้อมูลส่วนตัวขนาดนั้นให้คนอื่นกัน
“เอามาเถอะน่า เพื่อนฉันเปิดร้านขายโทรศัพท์ เดี๋ยวฉันจะให้มันรีบจัดการให้ รับรองว่าเชื่อใจได้ หรือเธอไม่เชื่อใจฉันงั้นเหรอ”
เขายังยื่นมือออกไปและทำหน้าตาคล้ายหงุดหงิดใส่เธอ
ใครควรหงุดหงิดยะ ฉันเลยหรือนาย ข้าวหอมคิดในใจ แต่ก็ดีเหมือนกัน แม่จะเอาเครื่องที่ดีที่สุด แพงที่สุดเลย คอยดู
“ก็ได้ แต่ฉันจะต้องได้ IPhone รุ่นล่าสุด” เธอบอกออกไป
“ได้ IPhone รุ่นล่าสุด” เขาพยักหน้ารับคำ
“เอาเครื่องที่ดีที่สุด แพงที่สุดด้วย” เธอพูดอีก
“ได้ IPhone รุ่นล่าสุด เครื่องที่ดีที่สุด แพงที่สุด แค่นี้ใช่ไหม”
“แล้วต้องได้เครื่องภายในวันพรุ่งนี้ด้วย เพราะอีกวันเป็นวันหยุด ฉันต้องใช้โทรศัพท์”
“ได้ IPhone รุ่นล่าสุด เครื่องที่ดีที่สุด แพงที่สุด ภายในวันพรุ่งนี้ พอใจหรือยัง ถ้าพอใจแล้วก็ส่งมา”
เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เธอรู้ว่าใกล้ถึงขีดจำกัดของเขาแล้ว จึงไม่ต่อรองกับเขาอีก
“เอา เอาไป แล้วไปกันได้หรือยัง ร้อนจะตายอยู่แล้วเนี่ย”
ข้าวหอมยัดโทรศัพท์ที่หน้าจอแตกละเอียดใส่มือเขา ก่อนจะหันไปค้อนใส่เขาอีกรอบ
สิงหราชรับโทรศัพท์มา ก่อนจะมองหน้าข้าวหอมและรีบกดรีโมทเปิดประตูรถให้เธอ
ใครเป็นเจ้านาย ใครเป็นเลขาวะเนี่ย
หลังจากขึ้นรถมาแล้ว เขาจึงพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชาอีกรอบ
“เผื่อเธอจะลืม ฉันเป็นเจ้านายนะ ส่วนเธอเป็นเลขา จะพูดอะไรก็ระวังหน่อย อย่ามาลามปาม เพราะเธอไม่ใช่ขี้กลากขี้เกลื้อนหรอก ใช่ไหม”
คำพูดของเขาทำให้ข้าวหอมอึ้งไป จริงด้วย..เมื่อกี้เธอสั่งเขา แต่เขามีสิทธิ์อะไรมาเปรียบเทียบเธอเป็น ขี้กลากขี้เกลื้อน ไอ้เจ้านายเฮงซวย
เธอได้แต่คิดในใจเท่านั้น