👉 ผู้ชายคนนี้อันตรายกว่า เพราะเขาไม่ต้องใช้แรง
⸻
ช่วงบ่ายของวันธรรมดา
แสงแดดอ่อนสะท้อนกระจก
ของอาคารโรงพยาบาลเอกชนกลางเมือง
ผู้คนเดินเข้าออกไม่ขาดสาย
เหมือนทุกวัน
เพลงพิณเดินออกมาจากประตูด้านข้าง
ในมือถือเอกสารบางอย่างแนบอกไว้
สีหน้าเร่งรีบเล็กน้อย
เธอตั้งใจจะกลับมหา’ลัย
ให้ทันการประชุมช่วงเย็น
โดยไม่ได้รู้เลยว่า
ช่วงเวลาธรรมดาแบบนี้
กำลังจะพาเธอเข้าไปเจอ
เรื่องที่ไม่ธรรมดาอีกครั้ง
เธอก้าวลงบันได
เผลอเหม่อไปเพียงเสี้ยววินาที
และแค่นั้น
ก็เพียงพอแล้ว
เสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามา
พร้อมแรงดึงที่ข้อศอกอย่างรวดเร็ว
“ระวังครับ”
ร่างของเพลงพิณเซถลา
แต่ไม่ถึงกับล้ม
เพราะมีแขนแข็งแรงประคองไว้ได้ทัน
เธอเงยหน้าขึ้น
หัวใจเต้นแรง
จากความตกใจที่ยังไม่ทันหาย
ผู้ชายตรงหน้าสูงโปร่ง
สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด
เสื้อกาวน์พาดอยู่ที่แขน
ดวงตานิ่ง สุภาพ
และรอยยิ้มละมุน
ที่ให้ความรู้สึกคุ้นเคย
เหมือนเคยเห็นจากที่ไหนมาก่อน
“ไม่เป็นไรนะครับ”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่ม มั่นคง
แบบคนที่คุ้นเคยกับการทำให้คนอื่นสบายใจ
“ขอบคุณค่ะ”
เพลงพิณรีบขยับตัวออก
ยังตั้งหลักได้ไม่เต็มที่
“คุณเกือบชนรถเข็นคนไข้”
เขาพูดต่อ พลางชี้ไปด้านหลัง
“ดีที่ทัน”
เธอหันไปมองตามที่เขาชี้
ถึงได้เห็นรถเข็นคนไข้
ที่พยาบาลกำลังเข็นผ่านไปพอดี
หัวใจเธอเต้นแรงขึ้นอีกนิด
ไม่ใช่เพราะเกือบเกิดอุบัติเหตุ
แต่เพราะความรู้สึกแปลก ๆ
ที่ผุดขึ้นมาในใจ
เขาเข้ามาเร็วเกินไป…
ราวกับจับจังหวะเธอได้
ตั้งแต่แรก
“คุณเป็นอะไรไหมครับ”
เขาถาม
สายตาใส่ใจ จริงใจ
ในแบบของคนทำงานตรงนี้
มานาน
“ไม่ค่ะ แค่เผลอ”
เพลงพิณตอบ
พร้อมรอยยิ้มบาง ๆ
ที่พยายามทำให้ดู
เป็นเรื่องเล็ก
“ผมเพทายครับ”
เขาแนะนำตัว
“เป็นหมอที่นี่”
เขายื่นนามบัตรมาให้
ชื่อ เพทาย วาตานนท์
พิมพ์ชัดอยู่บนนั้น
เธอรับนามบัตรมา
สายตาหยุดอยู่ที่นามสกุล
เพียงเสี้ยววินาที
ก่อนจะเก็บมันลงอย่างเงียบ ๆ
โดยไม่พูดอะไร
“ฉันเพลงพิณค่ะ”
เธอแนะนำตัวกลับ
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ถ้าไม่มีคุณ—”
“ไม่เป็นไรเลยครับ”
เพทายพูดแทรกขึ้นเบา ๆ
น้ำเสียงสุภาพ
“ผมดีใจที่ได้ช่วย”
คำว่า ช่วย
ถูกเน้นอย่างตั้งใจ
ทั้งที่ในความจริง
เขาแค่ดึงเธอไว้
ก่อนจะถึงจุดที่อาจเป็นอันตราย
แต่ในแววตาของเขา
ทุกอย่างถูกจัดวางเอาไว้ดี
ดีพอจะทำให้ใครต่อใคร
มองเห็นภาพของ
“ฮีโร่”
โดยไม่ต้องตั้งคำถามอะไรเลย
เพทายมองเธอ
นิ่ง
เหมือนกำลังประเมิน
อะไรบางอย่างอยู่ในใจ
“คุณมาที่โรงพยาบาลบ่อยไหมครับ”
เขาถามต่อ
น้ำเสียงเหมือนบทสนทนาธรรมดา
แต่สายตากลับไม่ธรรมดาเท่าไร
“ไม่ค่อยค่ะ วันนี้แค่แวะมาเรื่องเอกสาร”
เธอตอบตามจริง
“อ๋อ…”
เขาพยักหน้าเบา ๆ
“ผมนึกว่าคุณเป็นคนไข้”
“โชคดีที่ไม่ใช่ค่ะ”
เพลงพิณหัวเราะเบา ๆ
เพทายยิ้มตาม
รอยยิ้มอบอุ่นพอดี
ไม่มาก
ไม่น้อย
เหมือนผ่านการฝึกมาอย่างดี
ว่าควรหยุดตรงไหน
“งั้นก็คงเป็นโชคของผม”
เขาพูดต่อ
น้ำเสียงนุ่ม
“ที่ได้เจอคุณแบบนี้”
เพลงพิณชะงักไปเล็กน้อย
รับรู้ได้ถึงเส้นบาง ๆ
ที่เขาเริ่มขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิม
“เอ่อ…ฉันต้องไปแล้วค่ะ”
เธอพูด
ตั้งใจตัดบทให้ชัด
เพทายพยักหน้า
ไม่รั้ง
ไม่เร่ง
“ถ้ามีอะไรให้ช่วยอีก”
เขาว่า
“หรือถ้าเราได้เจอกันอีก ผมหวังว่าคุณจะจำผมได้
ในฐานะคนที่เคยช่วยคุณไว้”
ประโยคนั้น
ฟังดูไม่ผิด
แต่ก็ไม่จริงทั้งหมด
เพลงพิณยิ้มตอบตามมารยาท
ก่อนจะเดินจากไป
เธอไม่รู้เลยว่า
ในจังหวะที่ก้าวพ้นประตูออกไปนั้น
มีสายตาคู่หนึ่งมองตามอยู่
ไม่ใช่ด้วยความเอ็นดู
แต่ด้วยความพึงพอใจ
เพทายยืนอยู่ที่เดิม
รอยยิ้มละมุน
ค่อย ๆ จางหายไปจากใบหน้า
เขาล้วงโทรศัพท์ขึ้นมา
เปิดแชต
ที่ค้างไว้ก่อนหน้านี้
“เธอออกจากอาคารแล้วครับ”
ไม่กี่วินาทีถัดมา
ข้อความตอบกลับ
ก็เด้งขึ้น
“แน่ใจนะว่าไม่มีใครเห็น”
เพทายพิมพ์ตอบกลับอย่างนิ่ง ๆ
มั่นใจ
“ไม่มีครับ”
“ทุกอย่างดูเป็นอุบัติเหตุ”
เขาเก็บโทรศัพท์ลง
เงยหน้ามองท้องฟ้า
เหนืออาคารโรงพยาบาล
“เพลงพิณ…”
เขาพึมพำชื่อเธอเบา ๆ
เหมือนเรียกบางสิ่ง
ที่ควรเป็นของตัวเอง
ในหัวของเขา
ภาพเอกสารหมั้นหมาย
ซ้อนทับขึ้นมา
ชื่อที่ควรอยู่ตรงนั้น
ไม่ใช่ชื่อของเขา
แต่โลก…
ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่าง
“ขุนเขา…”
เพทายยิ้มบาง รอยยิ้ม
ที่ไม่เหลือความอบอุ่น
ถ้านายได้ทุกอย่าง
เพราะความจริง
งั้นฉันก็จะรักษาทุกอย่างไว้
ด้วยคำโกหก
และถ้าภาพลักษณ์ของ “ฮีโร่”
ทำให้คนเชื่อได้ง่ายกว่า
เขาก็พร้อมจะเป็นมัน แม้จะเป็นฮีโร่ปลอม ๆ ก็ตาม
🩶 ฮีโร่ที่โลกอยากเชื่อ
เรื่องมันเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ
เล็กจนไม่มีใครคิดว่า มันถูกตั้งใจ
เช้าวันนั้น
โรงพยาบาลเอกชนกลางเมือง
คึกคักเป็นพิเศษ
เพราะมีทีมสื่อ
เข้ามาถ่ายทำคอนเทนต์สุขภาพ
ชื่อของ นพ.เพทาย วาตานนท์
ถูกพาดขึ้น
บนจอ LED หน้าโถง
ในฐานะ ศัลยแพทย์รุ่นใหม่ไฟแรง
ภาพลักษณ์ดี
และเป็นทายาท ที่ครอบครัวผลักดันออกสื่อ
อย่างต่อเนื่อง
เพทายยืนอยู่หน้ากล้อง
ในเสื้อกาวน์สีขาวสะอาด
รอยยิ้มสุภาพ แบบที่ทำให้คนดู
รู้สึกปลอดภัยตั้งแต่วินาทีแรก
“คุณหมอมีแรงบันดาลใจยังไง
ถึงเลือกเส้นทางนี้คะ”
พิธีกรถาม
เพทายยิ้มบาง
สายตานิ่ง
เหมือนคำตอบ
ถูกเตรียมไว้แล้ว
“ผมเชื่อว่า…”
เขาพูดช้า ๆ
“บางครั้งชีวิตคนเราเปลี่ยนได้
เพราะมีใครสักคนยื่นมือเข้ามา
ในจังหวะที่ใช่ครับ”
ไม่มีใครรู้ว่า
ประโยคนั้น
คือก้อนแรก
ของเรื่องโกหก
ที่กำลังถูกก่อขึ้น
☀️ วันถัดมา
ในการประชุมผู้บริหารโรงพยาบาล
ผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง
เอ่ยขึ้นระหว่างพักเบรก
“หมอเพทายคะ
ดิฉันได้ยินมาว่า…”
เธอเว้นจังหวะเล็กน้อย
“คุณเคยช่วยนักศึกษาผู้หญิง
จากอุบัติเหตุตรงหน้าตึก
ใช่ไหมคะ”
เพทายชะงัก
เพียงเสี้ยววินาที
มากพอให้ดูเหมือน
ไม่ตั้งใจถูกพูดถึง
“เอ่อ…”
เขาหัวเราะเบา ๆ
ถ่อมตัว
“เป็นเรื่องเล็กมากครับ
แค่บังเอิญอยู่ตรงนั้นพอดี”
คำว่า บังเอิญถูกพูดเบา ๆ
แต่กลับดังในหัวคนฟัง
“แต่เธอเกือบโดนรถเข็นชนไม่ใช่เหรอคะ”
อีกคนเสริม
“ถ้าหมอไม่ดึงไว้ทันคงแย่เลย”
เพทายยิ้ม
ไม่ยืนยัน
ไม่ปฏิเสธ
“ผมทำในฐานะหมอครับ” เขาตอบเรียบ
“มันเป็นสัญชาตญาณมากกว่า”
และแค่นั้น เรื่องก็เริ่มโต
ภายในสองวัน เรื่องเล่าเริ่มเปลี่ยนรูปแบบ
จาก ดึงไว้ทัน
กลายเป็น ช่วยจากอุบัติเหตุ
จาก บังเอิญอยู่ตรงนั้น
กลายเป็น เข้าไปช่วยโดยไม่ลังเล
ไม่มีใครโกหกทุกคนแค่ “เติม”
ในสิ่งที่ตัวเองอยากเชื่อ
และเพทาย…ไม่เคยแก้
🌙 เย็นวันศุกร์
ในงานเลี้ยงผู้สนับสนุนโรงพยาบาล
เพลงพิณถูกเชิญมา
ในฐานะแขกของฝ่ายสื่อ
เธอไม่รู้เลยว่า ตัวเองกำลังจะกลายเป็น
ศูนย์กลางของเรื่องเล่าที่เธอไม่เคยเลือก
“คุณคือเด็กผู้หญิงที่หมอเพทายช่วยไว้ใช่ไหมคะ”
คำถามนั้นดังขึ้น
ต่อหน้าคนหลายสิบคน
เพลงพิณชะงักหัวใจตกวูบ
“เอ่อ…คือ—”
เพทายเดินเข้ามาในจังหวะนั้นพอดี
เหมือนถูกนัดไว้ล่วงหน้า
“อย่ากดดันเธอเลยครับ”
เขาพูดเสียงนุ่ม รอยยิ้มสุภาพ
“เรื่องมันผ่านไปแล้ว
เธอคงไม่อยากพูดถึง”
ทุกสายตาหันไปมองเขาทันที
ฮีโร่ ที่ไม่โอ้อวดไม่เรียกร้องเครดิต
ยิ่งทำให้คนเชื่อมากกว่าเดิม
เพลงพิณมองเขา หัวใจเต้นแรง
ไม่ใช่เพราะซึ้ง แต่เพราะเริ่มรู้สึกว่า…มันผิด
“คุณหมอถ่อมตัวจังเลยนะคะ”
ใครบางคนพูด
“ถ้าไม่ใช่คุณ ป่านนี้—”
“พอเถอะครับ”
เพทายยกมือห้าม
“เธอปลอดภัยก็พอแล้ว”
เขาหันมามองเพลงพิณ สายตาอ่อนโยน
เหมือนกำลังปกป้อง
“ใช่ไหมครับ”
คำถามนั้นไม่ใช่การขอคำตอบ
แต่คือการบีบให้เธอเลือก
เพลงพิณกลืนน้ำลาย
รับรู้ถึงสายตาทุกคู่ที่จับจ้อง
ถ้าเธอปฏิเสธเขาจะดูเป็นคนดีที่ถูกเข้าใจผิด
ถ้าเธอเงียบเขาจะกลายเป็นฮีโร่เต็มตัว
และเธอ…เลือกเงียบ
เพทายยิ้ม เหมือนรู้ผลอยู่แล้ว
💫 คืนนั้น
โพสต์หนึ่งถูกแชร์ในโลกออนไลน์
“คุณหมอศัลยแพทย์หนุ่มทายาทตระกูลดัง
ช่วยชีวิตนักศึกษาสาวจากอุบัติเหตุตรงหน้าโรงพยาบาล
โดยไม่หวังคำขอบคุณ”
ภาพประกอบ
คือภาพเพทายในเสื้อกาวน์ ยืนข้างเพลงพิณ
ที่กำลังหลบหน้าเล็กน้อย
ไม่มีคำโกหกตรง ๆ
แต่ทุกคำ…พาให้คนเข้าใจไปไกลกว่าความจริง
ยอดแชร์พุ่ง คอมเมนต์หลั่งไหล
“ฮีโร่ของจริง”
“หมอแบบนี้หายาก”
“เหมาะสมกับภาพลักษณ์ทายาทมาก”
เพทายนั่งอ่านสีหน้าเรียบนิ่ง พอใจ
เขาไม่ได้โกหกใคร
เขาแค่ปล่อยให้โลก
เขียนเรื่องแทน
🪶 ในอีกมุมหนึ่งของเมือง
ขุนเขายืนอยู่หน้าจอมือถือ อ่านข้อความเดียวกัน กรามขบแน่น
“ช่วยชีวิต?” เขาพึมพำ เสียงต่ำ
เขารู้
รู้ดีว่าเรื่องจริงคืออะไร
และเขาก็รู้ดีว่า พี่ชายคนนี้ กำลังเริ่ม “แย่งทุกอย่าง”
ด้วยวิธีที่ดูสะอาดและโหดกว่าเขาเป็นร้อยเท่า
ขุนเขาปิดหน้าจอยกมือขึ้นลูบหน้า
“มึงเล่นเกมนี้สินะ เพทาย…”
ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังยืนอยู่กลางแสงไฟ ในบทบาทของฮีโร่ ที่โลกพร้อมจะเชื่อ
โดยไม่รู้เลยว่า…ไฟที่เพทายจุดขึ้น
กำลังจะเผาทุกอย่าง ให้พังลงทีละชั้น 😏🔥