แสงเช้าลอดผ่านม่านบางของ ห้อง 2701
เพลงพิณลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ
หัวใจไม่ได้เต้นแรงเหมือนเมื่อคืน
แต่ก็ยังไม่สงบอย่างที่ควรจะเป็น
เธอนอนนิ่งอยู่บนเตียง
ฟังเสียงเมืองยามเช้า
เสียงลิฟต์ เสียงประตู และเสียงคนเดินผ่านทางเดิน
ทุกเสียงพาให้เธอเผลอคิดถึงห้องตรงข้าม
โดยไม่ตั้งใจ
เพลงพิณขยับตัว
ลุกขึ้นนั่ง
สูดลมหายใจลึกหนึ่งครั้ง
“วันนี้ต้องทำตัวให้ปกติ”
เธอบอกตัวเองในใจ
“ก็แค่เช้าวันหนึ่งเหมือนทุกวันที่ผ่านมา”
เธออาบน้ำ แต่งตัวเรียบร้อย
เลือกเสื้อเชิ้ตสีอ่อนกับกางเกงสแลคเรียบ ๆ
ตั้งใจให้ตัวเองดูนิ่ง ดูมืออาชีพ
และดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ก่อนออกจากห้อง
เธอหยุดมือที่ลูกบิด
นิ่งไปหนึ่งวินาที
แล้วประตูฝั่งตรงข้ามก็เปิดขึ้นในจังหวะเดียวกัน
ห้อง “2702”
เสียงโลหะเสียดกันเบา ๆ
เหมือนตั้งใจเรียกร้องความสนใจ
เพลงพิณชะงัก
ขุนเขาก็ชะงักเช่นกัน
ทั้งคู่ยืนอยู่หน้าห้องของตัวเอง
ห่างกันไม่ถึงสามก้าว
เขาใส่เสื้อเชิ้ตสีเข้ม
แขนเสื้อพับขึ้นเล็กน้อย
ผมยังยุ่งนิด ๆ แบบคนเพิ่งอาบน้ำเสร็จ
กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ลอยมาแตะจมูกจาง ๆ
“สวัสดีตอนเช้า”
เขาเป็นฝ่ายพูดก่อน
น้ำเสียงเรียบ
ไม่กวน
ไม่หยอก
เพลงพิณพยักหน้าเล็กน้อย
“อืม สวัสดีตอนเช้า”
เป็นประโยคสั้น ๆ
แต่บรรยากาศกลับตึงขึ้นอย่างประหลาด
ทั้งสองเดินออกมาพร้อมกัน
ไม่ได้มีการนัดหมาย
ไม่ได้เมินเฉย
แต่ก็ไม่ได้เร่งรีบ
ลิฟต์อยู่สุดทางเดิน
ประตูเปิดค้างรออยู่
ขุนเขาก้าวเข้าไปก่อน
เพลงพิณเดินตามเข้าไป
ยืนอยู่คนละฝั่งของลิฟต์
กระจกสะท้อนภาพของทั้งคู่
ใกล้พอให้คนอื่นมองออกว่า
“พวกเขารู้จักกัน”
ประตูลิฟต์ปิดลง
ความเงียบตกลงกลางอากาศทันที
“เมื่อคืน…”
ขุนเขาเอ่ยขึ้น เหมือนกำลังจะเริ่มอะไรบางอย่าง
“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนั้นหรอก”
เพลงพิณตัดบททันที
น้ำเสียงนิ่ง เงียบ แต่ชัดเจน
เขาหันมามองเธอ
ไม่ใช่สายตาโกรธ
แค่ยอมรับคำพูดนั้นโดยไม่เถียง
ลิฟต์ลงถึงชั้นล่าง
ประตูเปิดออก
และนั่นคือจุดที่สายตาจากรอบข้างเริ่มเข้ามาเกี่ยวข้อง
โถงคอนโดในช่วงเช้าไม่ได้เงียบ
มีคนลงมาพร้อมกันหลายคน
ทั้งพนักงานออฟฟิศ นักศึกษา
และคนที่ดูเหมือนอยู่ที่นี่มานาน
เหมือนคนคุ้นหน้า คุ้นตา
สายตาหลายคู่หันมามองพวกเขา
ไม่ใช่เพราะเสียง
แต่เพราะภาพที่มันฟ้องออกมาชัดเกินไป
ผู้หญิงหน้าตาดี
ผู้ชายสูง หล่อ และดูมีออร่า
ยืนอยู่ในลิฟต์เดียวกัน
ออกมาจากลิฟต์พร้อมกัน
ในเวลาที่ใกล้กันเกินกว่าจะเรียกว่าแค่ “บังเอิญ”
เสียงกระซิบเบา ๆ ดังแว่วมาจากรอบข้าง
“คู่นั้นเหรอ”
“อยู่ชั้นเดียวกันแน่ ๆ”
“ดูไม่ใช่แค่เพื่อนนะ”
เพลงพิณได้ยินทุกคำ
และเธอเกลียดมัน
เกลียดสายตาที่จ้องมอง
เกลียดเสียงนินทา
เกลียดคำพูดพวกนั้น
เพราะมันทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเอง
กำลังถูกลากเข้าไปอยู่ในเรื่องที่ยังไม่พร้อมจะยอมรับ
เธอรีบเดินให้เร็วขึ้น
เร่งฝีเท้าเหมือนอยากออกไปให้พ้นพื้นที่นั้นให้เร็วที่สุด
แต่ขุนเขากลับหยุด ชะลอฝีเท้าลง
เหมือนตั้งใจให้ภาพมันชัดขึ้นอีกนิด
และนั่นทำให้เขาเห็น
เห็นผู้ชายคนหนึ่งในโถง
มองเพลงพิณอยู่นานกว่าปกติ
ไม่ใช่สายตาดูถูก
ไม่ใช่สายตาดูแคลน
แต่มองด้วยความสนใจ
ชัดเจนเกินไป
ขุนเขาไม่ชอบสายตาแบบนั้น
ตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็น
เขาไม่ได้พูด
ไม่ได้แสดงออก
แต่ในจังหวะที่ก้าวเท้าเข้าหาเธอ
เขากลับขยับเข้าไปใกล้เพลงพิณเองโดยไม่รู้ตัว
ใกล้พอให้คนอื่นตีความไปผิด ๆ
ใกล้พอให้ความหึง
ที่เขาไม่อยากยอมรับ
เผลอแสดงออกมาโดยไม่ตั้งใจ
เพลงพิณรู้สึกได้ทันที
เธอหันมามองเขาเล็กน้อย
“นายกำลังทำอะไร”
เธอถามเสียงเบา
“ก็แค่ขยับ เดิน” เขาตอบสั้น ๆ
เธอมองเขานิ่ง ๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดออกมา
“เดิน…แต่ขยับเข้ามาใกล้ไปนะ”
ขุนเขาเหลือบมองไปทางคนที่ยังจ้องเธออยู่
ก่อนจะหันกลับมา
“มีคนมองเธอ” เขาพูดเรียบ
“ฉันแค่ไม่ชอบสายตาแบบนั้น”
เพลงพิณหยุดเดิน หันมามองหน้าเขาตรง ๆ
“ไม่ชอบในฐานะอะไร” เธอถาม
ไม่ใช่น้ำเสียงแข็ง
แต่ตรงเกินกว่าจะเลี่ยง
เขานิ่งไป
หนึ่งวินาที
สองวินาที
สามวินาที
“ในฐานะคนที่ไม่อยากให้ใครคิดอะไรผิด ๆ”
เขาตอบในที่สุด
เพลงพิณหัวเราะเบา ๆ
ไม่ใช่เพราะขำ
แต่เป็นรอยประชดที่ปิดไม่มิด
“งั้นก็ยิ่งต้องถอย”
เธอพูดต่อ
“เพราะตอนนี้ นายกำลังทำให้มันผิดยิ่งกว่าเดิม”
เธอเดินต่อทันที
ไม่รอ
ไม่หันกลับมา
ขุนเขามองตาม
กรามขบแน่นโดยไม่รู้ตัว
และความหึงเงียบ ๆ
ก็เริ่มชัดขึ้นในทุกก้าวที่เธอเดินห่างออกไป
ณ หน้าคอนโด
เพลงพิณหยุดก่อนจะขึ้นรถ
เธอหันกลับมามองเขา
สายตาจริงจังแบบไม่หลบ
“เราคุยกันหน่อย”
เธอพูด
ขุนเขาพยักหน้า
เดินเข้าไปใกล้โดยไม่พูดอะไร
“ฉันจะตั้งกติกา”
เพลงพิณพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง ชัดเจน
และไม่เปิดช่องให้โต้แย้ง
“ข้อหนึ่ง” เธอเอ่ยต่อ
“อย่าทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของฉันต่อหน้าคนอื่น”
เขากำลังจะพูด
แต่เธอยกมือขึ้นห้ามไว้ก่อน
“สอง” เธอเอ่ยเสียงนิ่ง
“อย่าใช้อารมณ์ หรือความรู้สึกที่นายยังไม่ยอมรับ
มาเป็นเหตุผลในการเข้ามาใกล้ฉัน”
“สาม” เธอเว้นจังหวะเล็กน้อย ก่อนจะสบตาเขาตรง ๆ
“ถ้าจะอยู่ใกล้ ต้องเคารพพื้นที่ของฉัน”
ความเงียบตกลงอีกครั้ง
ขุนเขามองเธอ ด้วยสายตานิ่งเงียบ แต่ดูจริงจัง
“แล้วของฉันล่ะ” เขาถาม เสียงต่ำ
“ฉันมีกติกาไหม”
เพลงพิณชะงัก
ไม่คิดว่าเขาจะถามกลับแบบนี้
“นายต้องการอะไร” เธอถาม
“ฉันไม่ชอบเล่นเกมที่อีกฝ่ายตั้งกฎฝ่ายเดียว” เขาพูดชัดเจน
“ถ้าจะให้ฉันถอย เธอก็ต้องถอยเหมือนกัน”
“ถอยอะไร” เธอถามกลับ
“อย่ายั่ว” เขาตอบตรง
“อย่ามอง อย่าเข้าใกล้ อย่าทำเหมือนรู้ว่าฉันจะทนไม่ไหว”
เพลงพิณเงียบไปครู่หนึ่ง
ก่อนจะยิ้มบาง ๆ
“นายคิดว่าฉันตั้งใจเหรอ” เธอถาม
“ฉันไม่รู้หรอก ว่าเธอตั้งใจหรือไม่” เขาตอบตรง ๆ
“แต่ฉันรู้ว่า ฉันไม่อยากแพ้ให้มัน หรือใครหน้าไหนอีกแล้ว”
เธอถอนหายใจ
พยักหน้าเล็กน้อย
“งั้นก็แฟร์” เธอพูด
“ต่างคนต่างรักษาเส้นเขตแดน”
เพลงพิณเปิดประตูรถ
ก่อนจะหันกลับมา
“ขุนเขา” เธอเรียก
“อย่าลืมว่าเรื่องเมื่อคืน…” เธอเว้นจังหวะ
“…มันไม่ได้ทำให้นายมีสิทธิ์เหนือฉัน”
เขามองเธอ
ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงนิ่ง แต่หนักแน่น
“แล้วก็อย่าลืมเหมือนกัน” เขาพูดช้า ๆ
“ว่ามันก็ไม่ได้ทำให้ฉันเลิกอยากได้เธอ”
เพลงพิณชะงัก
แต่ไม่ได้หันกลับมา
เธอขึ้นรถ สตาร์ตเครื่องแล้วขับออกไป
ทิ้งขุนเขายืนอยู่ตรงนั้น
กับความรู้สึกที่ชัดเจนขึ้นทุกวินาที
นี่ไม่ใช่แค่แรงดึงดูด
ไม่ใช่แค่ความใกล้ชิด
แต่มันคือเกม
เกมที่ไม่มีใครยอมแพ้
และไม่มีใครคิดจะเดินออกจากเกมง่าย ๆ อีกแล้ว 🧡💋