🔥 กลับสู่สนามรบเดิม
⸻
เสียงลำโพงกลางลานกิจกรรมดังต่อเนื่อง
ชื่อคณะ ชื่องาน ชื่อสปอนเซอร์
ทุกอย่างยังเหมือนเดิม
เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
ยกเว้นบรรยากาศระหว่าง เขา กับ เธอ
เพลงพิณเดินเข้าพื้นที่งานด้วยสีหน้านิ่ง
เสื้อแจ็กเก็ตคณะนิเทศพาดอยู่บนไหล่
มือถือแฟ้มงานแน่น ราวกับเป็นเกราะป้องกันตัวเอง
ท่าทางของคนที่กำลังบอกตัวเองซ้ำ ๆ ว่า
“ฉันมาทำงาน ไม่ได้มาหาเรื่องใคร”
แต่ทันทีที่เธอเห็นเขา—
ทุกอย่างที่พยายามควบคุมไว้
กลับเริ่มสั่นไหวอย่างเงียบ ๆ
ขุนเขายืนอยู่ตรงโซนวิศวะ
เสื้อช็อปพาดบ่า
ท่าทางสบายเกินเหตุ เหมือนที่ตรงนั้นคือพื้นที่ของเขาโดยไม่ต้องประกาศ
และที่สำคัญคือ—
ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างกายเขา
สาวปีหนึ่งหน้าตาน่ารัก
ยืนใกล้แบบไม่กลัวสายตาใคร
มือหนึ่งถือเอกสาร
อีกมือแตะท่อนแขนเขาอย่างเป็นธรรมชาติ
ท่าทางคุ้นเคยเกินกว่าจะเรียกว่าแค่บังเอิญ
เพลงพิณชะงักเท้าไปเพียงครึ่งวินาที
ก่อนจะฝืนก้าวต่อ เหมือนไม่เห็นอะไรเลย
ไม่เห็น
ทั้งที่ภาพนั้นฟาดเข้าตาเต็ม ๆ
“ประธานนิเทศมาแล้ว!”
เสียงรุ่นน้องตะโกนเรียกดังขึ้น
เพลงพิณสะบัดความคิดทั้งหมดออกจากหัว
แล้วเดินตรงเข้าไปคุมงานฝั่งของตัวเองทันที
แต่ยังไม่ทันได้เปิดปากสั่งงาน—
เสียงหนึ่งก็ดังแทรกขึ้นมา
“ระวังหน่อยนะครับ”
เสียงทุ้มที่คุ้นหูดี
น้ำเสียงประชดแบบไม่คิดจะปิดบัง
“โซนนี้ของวิศวะ
อย่าเดินข้ามมาอีก
เดี๋ยวสื่อเข้าใจผิด”
ทั้งลานกิจกรรมเงียบวูบ
เหมือนทุกสายตาหยุดลงตรงจุดเดียวกัน
เพลงพิณหันไปช้า ๆ
ก่อนจะสบตาขุนเขาเต็ม ๆ
เขายิ้ม
ไม่ใช่รอยยิ้มที่เป็นมิตร
แต่เป็นรอยยิ้มยั่ว ๆ ที่ตั้งใจให้เธอเห็น
“เข้าใจผิด?”
เธอทวนเสียงเรียบ
“เข้าใจผิดอะไรเหรอคะ ประธานวิศวะ”
ขุนเขาเอนตัวพิงโต๊ะ
สายตาไล่มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า
แบบไม่สนใจสายตาคนรอบข้างแม้แต่นิด
“ก็เข้าใจว่าเธอว่างไง”
เขาตอบเสียงสบาย
“เห็นช่วงนี้สื่อชอบเอาไปโยงนั่นโยงนี่”
สาวข้างเขาหัวเราะเบา ๆ
เหมือนเรื่องทั้งหมดเป็นแค่มุกขำ ๆ
เพลงพิณกำแฟ้มแน่นขึ้น
เล็บแทบจิกทะลุปก
แต่สีหน้าเธอยังคงนิ่ง
“ถ้ากลัวสื่อเข้าใจผิด”
เธอยิ้ม
ยิ้มของคนที่กำลังคุมอารมณ์สุดชีวิต
“ก็น่าจะคุมพฤติกรรมตัวเองมากกว่านะคะ”
ขุนเขาหรี่ตาลงเล็กน้อย
ก่อนจะหัวเราะในลำคอ
“หวงเหรอ?”
เขาถามตรง ๆ
เสียงดังพอให้คนรอบข้างได้ยิน
บรรยากาศตึงขึ้นทันที
เหมือนอากาศทั้งลานหยุดนิ่งไปพร้อมกัน
เพลงพิณยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“ใคร?”
“ฉันน่ะสิ”
เขาตอบทันที
ชี้เข้าหาตัวเองแบบไม่สะทกสะท้าน
“หรือเธอจะหวงคนอื่น?”
สาวที่ยืนอยู่ข้างเขาชะงัก
สีหน้าฉายความลำบากใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด
เพลงพิณสูดลมหายใจลึก
ก่อนจะตอบช้า ๆ
เหมือนกำลังเลือกคำทุกคำอย่างระวัง
“ฉันไม่มีสิทธิ์หวงใครทั้งนั้น”
เธอพูดเสียงเรียบ
“โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยให้สิทธิ์ฉันตั้งแต่แรก”
คำพูดนั้น
เหมือนมีดบาง ๆ
ไม่ต้องดัง แต่คมพอ
ขุนเขาชะงักไปเสี้ยววินาที
เขาไม่ตอบอะไร
แค่ยื่นแก้วน้ำให้สาวข้างตัว
นิ้วของทั้งสองแตะกันพอดี
“ไปนั่งพักก่อน”
เขาพูดเสียงอ่อน
น้ำเสียงที่ต่างจากตอนพูดกับเพลงพิณ
อย่างเทียบไม่ติด
ภาพนั้น
เหมือนเอาเกลือมาถูแผลสด
เพลงพิณหันกลับไป
ไม่พูดอะไรต่อ
แล้วเดินไปคุมงานของตัวเองต่อ
เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่ข้างในอก
มันเดือดจนแทบระเบิด
ใจเย็น…อย่าเสียหน้า
อย่าทำให้เขาคิดว่าเราสนใจ
เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง
งานเริ่มเข้าที่เข้าทาง
ทุกอย่างดูราบรื่น
ยกเว้นสายตาของขุนเขา
ที่ยังมองมาทางเธอเป็นระยะ
ทุกครั้งที่เธอคุยกับผู้ชาย
เขาจะหัวเราะเสียงดังขึ้นกว่าปกติ
และขยับเข้าใกล้สาวข้างตัวมากกว่าเดิม
ประชด
แบบไม่ต้องใช้คำพูด
จนกระทั่ง—
“เพลงพิณครับ”
เสียงนักศึกษาชายปีสามดังขึ้น
เขาเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มสุภาพ
“เรื่องเวทีตอนเย็น
ผมขอคุยรายละเอียดหน่อยได้ไหม”
เพลงพิณพยักหน้า ก้าวออกมานิดหนึ่ง
ยังไม่ทันพูดอะไร—
“คุยงาน หรือคุยเล่นครับ”
ขุนเขาแทรกเสียงเรียบ แเพลงพิณนิ่ง
สบตาเขาไม่หลบ
“งั้นก็จำไว้”
เธอพูดช้า ๆ
“ฉันไม่ได้เป็นของใคร
โดยเฉพาะคนที่ทำเหมือนฉันเป็นตัวเลือก”
เขาขบกรามแน่น
สายตาวาวขึ้นทันที
“พูดดี ๆ ไม่เป็นหรือไง”
“ฉันพูดชัดต่างหาก”
เธอสวน
“นายต่างหากที่เลือกจะฟังแบบไหน”
ความเงียบคลุมทั้งลานอีกครั้ง
ขุนเขาหัวเราะเบา ๆ
แต่ครั้งนี้ไม่มีอารมณ์ขันเลย
“โอเค”
เขาพูด
“งั้นก็ชัดกันไป”
เขาหันไปคว้าข้อมือสาวข้างต่ดังพอให้ได้ยินทั้งโซน
นักศึกษาชะงัก หันมามองงง ๆ
“งานครับ” เขาตอบเกรงใจ
ขุนเขายิ้ม แต่แววตาไม่ยิ้ม
“ดี” เขาพูด “งั้นคุยให้เสร็จเร็ว ๆ เพลงพิณเธอมีคิวต่อ อย่าเสียเวลาผู้ชายเกินจำเป็น”
เพลงพิณหันขวับ
“นี่นายกำลังสั่งฉัน?”
“เปล่า” เขายักไหล่
“แค่เป็นห่วงภาพลักษณ์ เธอเป็นคนดัง เดี๋ยวคนเข้าใจผิดอีก”
เธอหัวเราะออกมา เสียงสั้น แห้ง ประชดสุด
“นายสนใจภาพลักษณ์ฉัน ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
ขุนเขาเดินเข้ามาใกล้ ใกล้จนเธอได้กลิ่นน้ำหอมของเขาชัดเจน
“ตั้งแต่มีคนอื่นอยากได้” เขาตอบ เสียงต่ำ คน
ตัวดึงเข้ามาใกล้แบบจงใจ
“วันนี้ฉันว่าง”
เขาพูดเสียงดัง “ใครอยากกินข้าวต่อ ไปกับฉันได้”
สายตาเขามองตรงมาที่เพลงพิณ เหมือนท้าชน
เพลงพิณยืนนิ่ง ยิ้มบาง ทั้งที่มือสั่น
“ตามสบายค่ะ” เธอตอบ
“ฉันไม่เคยขอให้นายอยู่แล้ว”
แต่ทันทีที่เขาเดินจากไป
หัวใจเธอกลับเจ็บหน่วง
จนต้องกำแฟ้มแน่นกว่าเดิม
อย่าเดินไปตบ
อย่าร้องไห้
อย่าให้เขาชนะ
เพื่อนสนิทเดินเข้ามาใกล้ กระซิบเสียงเบา
“พิณ…ใจเย็นนะ หน้าเธอคืออยากฆ่าคนมาก”
เพลงพิณหลับตา สูดลมหายใจลึก
“ฉันไม่เป็นไร” เธอตอบ
“แค่…รำคาญคนปากหมา”
แต่ในใจ เธอรู้ดี
ถ้าเขายังเล่นเกมแบบนี้ต่อ สักวันหนึ่ง
เธออาจไม่ใช่แค่ อยากตบ
แต่จะเป็น อยากเดินออกจากชีวิตเขาจริง ๆ
และนั่นแหละ คือสิ่งที่ขุนเขา
ไม่รู้ตัวเลยว่า เขากำลังกลัวที่สุด
ขุนเขา “ไม่ถาม” แต่ แทงทุกคำ
เพลงพิณ “ไม่สน” แต่ ใจแทบระเบิด
⸻