🃏 ดาว มอ.
เสียงแจ้งเตือนในกลุ่มไลน์คณะดังขึ้นไม่หยุดตั้งแต่เช้า
— “วันนี้ดาว มอ. มาเรียนเช้าด้วยนะ”
— “เห็นว่ายังโสดอยู่เลยเว้ย”
— “อย่าหวังเลย แค่เดินผ่านก็เหมือนคนละโลกแล้ว”
เพลงพิณไม่ได้เปิดอ่าน
เธอปิดเสียงกลุ่มตั้งแต่เมื่อคืน
เช้านี้เธอเลือกเสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบ ๆ กับกระโปรงทรงเข้ารูป
ผมยาวถูกรวบครึ่งศีรษะ เปิดหน้าให้ชัด
ไม่ต้องจัดมาก แต่ดูดีในแบบที่เป็นตัวเอง
เธอไม่ได้ตั้งใจจะเด่น
แต่ก็รู้ดีว่า ต่อให้ไม่ตั้งใจ
สายตาคนก็ยังมองอยู่ดี
ทันทีที่เพลงพิณก้าวเข้ามาในเขตมหาวิทยาลัย
เสียงรอบตัวก็เปลี่ยนไป
มีทั้งเสียงกระซิบ
เสียงหัวเราะ
และสายตาที่หยุดมองโดยไม่รู้ตัว
“มึง…วันนี้สวยเกินไปแล้วนะ”
เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านข้าง
พร้อมแขนที่คล้องเข้ามาอย่างคุ้นเคย
แพรวา
เพื่อนสนิทสายปากไว เรียนคณะเดียวกัน
ผมสั้น ท่าทางคล่องแคล่ว พูดก่อนคิดเป็นนิสัย
อีกฝั่งคือ รดา
เพื่อนสนิทอีกคน หน้าหวาน นิสัยนิ่งกว่า
สายสังเกต ชอบมองคนรอบตัวมากกว่าพูด
“ปกติก็สวยอยู่แล้วไหม” รดาพูดเรียบ ๆ
แต่แววตาแซวไม่แพ้ใคร
เพลงพิณหัวเราะเบา ๆ
“เลิกชม เดี๋ยวคนหมั่นไส้”
แพรวากวาดตามองรอบตัว
“ตอนนี้ไม่ใช่หมั่นไส้แล้ว ระดับนี้คืออิจฉา”
ทั้งสามคนเดินผ่านลานกิจกรรม
เสียงคุยกันค่อย ๆ เบาลง
บางคนถึงกับหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย
“เอาจริงนะพิณ” แพรวาพูดเสียงต่ำลง
“เมื่อคืนแกหายไปไหนวะ โทรก็ไม่รับ ไลน์ก็ไม่ตอบ”
เพลงพิณชะงักไปครึ่งก้าว
แต่ก็กลับมาเดินต่อเหมือนไม่มีอะไร
“กลับดึก” เธอตอบสั้น ๆ
รดามองหน้าเธอ
ไม่ถามต่อ
แต่จำไว้
ทั้งสามเดินขึ้นตึกคณะ
เสียงพูดคุยเริ่มกลับมาเป็นปกติ
แต่ทันทีที่เพลงพิณก้าวเข้ามาในโถง
บรรยากาศก็เปลี่ยนอีกครั้ง
เหมือนทุกสายตาหยุดพร้อมกัน
“โคตรไม่เกินจริงว่ะ” แพรวาพึมพำ
“ดาว มอ. ตัวจริง เสียงจริง”
เพลงพิณไม่ได้ยิ้ม
ไม่ได้ทำท่าอะไรเป็นพิเศษ
แค่เดินตามทางของตัวเอง
นั่นแหละที่ทำให้คนมอง
เธอไม่ใช่ดาวที่ต้องเรียกร้องความสนใจ
แต่เป็นดาวที่คนเผลอมองเอง
เสียงหนึ่งดังขึ้นจากกลุ่มนักศึกษาชายแถวนั้น
“เฮ้ย นั่นเพลงพิณปะ”
“เออว่ะ ตัวจริงสวยกว่ารูปอีก”
“อย่าคิดเลยเว้ย แค่ยืนใกล้ยังดูไม่ถึง”
แพรวากระซิบข้างหู
“ได้ยินไหม แฟนคลับแก”
เพลงพิณส่ายหน้า
“หยุดเลย”
พวกเธอเข้าห้องเรียน
นั่งแถวกลางตามปกติ
ระหว่างรออาจารย์
รดาเอียงตัวเข้ามาใกล้
“เมื่อคืน…แกโอเคไหม”
คำถามนั้นเบา
แต่ตรงจุด
เพลงพิณหันไปมองเพื่อน
สายตานิ่งกว่าที่คิด
“โอเค”
เธอตอบ
“ไม่มีอะไร”
แพรวาเลิกคิ้ว
“คำตอบแบบนี้แปลว่ามี”
เพลงพิณยิ้ม
ยิ้มแบบไม่เปิดเผย
“บางเรื่อง ไม่ต้องเล่าก็ได้”
แพรวาอ้าปากจะพูดต่อ
แต่เสียงอาจารย์เข้าห้องพอดี
คลาสเช้าเริ่มขึ้น
เสียงบรรยายดังไปเรื่อย ๆ
แต่เพลงพิณกลับรู้สึกเหมือนสมาธิไม่อยู่กับตัว
ภาพบางอย่างแทรกเข้ามาโดยไม่ตั้งใจ
เสียง
สายตา
ความใกล้ที่ไม่ควรเกิด
เธอขยับตัวนิดหนึ่ง
พยายามดึงตัวเองกลับมา
“ตั้งใจเรียนหน่อย” เธอบอกตัวเองในใจ
พักเที่ยง
ทั้งสามคนลงมาที่โรงอาหาร
เหมือนเดิม
สายตายังคงตามมาเป็นระยะ
“ฉันเริ่มสงสารผู้ชายทั้งมหาลัย” แพรวาพูด
“ไม่มีใครเอื้อมถึงแกเลย”
เพลงพิณยักไหล่
“ฉันไม่ได้ขอให้ใครมอง”
รดายิ้มบาง
“แต่มึงก็ห้ามไม่ได้”
ทั้งสามหัวเราะเบา ๆ
บรรยากาศผ่อนคลายขึ้น
แต่ในวินาทีหนึ่ง
เพลงพิณรู้สึกเหมือนมีใครมองอยู่
ไม่ใช่สายตาทั่วไป
แต่เป็นสายตาที่ทำให้เธอชะงัก
เธอเงยหน้าขึ้น
มองไปรอบ ๆ
ไม่เห็นใคร
อาจคิดไปเอง
เธอคิดแบบนั้น
แต่หัวใจกลับเต้นแปลก ๆ
เหมือนกำลังเตือนอะไรบางอย่าง
“เป็นอะไร” รดาถาม
เพลงพิณส่ายหน้า
“เปล่า”
เธอไม่รู้ว่า
ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้
มีใครบางคน
กำลังจะเริ่มจำเธอได้
จากเพียงแค่แผ่นหลัง
และความคุ้นเคยที่ยังหาคำตอบไม่ได้
และการเป็น “ดาว มอ.”
อาจไม่ใช่แค่ตำแหน่ง
แต่เป็นจุดที่ทำให้เธอ
หลบสายตาคนคนหนึ่ง
ได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ
🃏 ดาวมหาลัยตัวท๊อป (ที่เขาไม่ตั้งใจจะมอง)
เสียงรองเท้าผ้าใบกระทบพื้นคอนกรีตดังสม่ำเสมอ
ขุนเขาเดินเข้ามาในเขตคณะวิศวะด้วยสีหน้าเรียบเฉย
กระเป๋าสะพายข้างตัวเดิม แว่นกันแดดเสียบไว้ตรงคอเสื้อ
“มึง วันนี้หน้าเหี้ยมอีกแล้วนะ”
เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านข้าง
แทน เพื่อนสนิทปีเดียวกัน เดินเคียงมา
อีกฝั่งคือ โอม เจ้าของมุกแซวไม่เลือกหน้า
“ก็หน้าเดิม” ขุนเขาตอบสั้น ๆ
สายตากวาดมองตึกเรียนตรงหน้า
“ไม่ใช่ หน้าแบบนี้คือหน้าไม่มีอารมณ์คุยกับใคร” โอมพูด
“หรือเมื่อคืนจัดหนัก?”
ขุนเขาเหลือบมอง
“อยากโดนเตะ?”
โอมยกมือยอมแพ้
“โอเค ๆ ถามผิดเวลา”
ทั้งสามเดินผ่านลานกิจกรรมกลางคณะ
เสียงนักศึกษารอบตัวค่อนข้างคึกคักผิดปกติ
“เฮ้ย” แทนชะลอฝีเท้า
“วันนี้คนเยอะชิบ”
โอมมองตามสายตา
ก่อนจะหัวเราะหึ ๆ
“ไม่แปลก”
เขาพยักหน้าไปทางด้านหน้า
“ดาว มอ. เขามาเรียน”
ขุนเขาไม่ได้สนใจ
แค่เดินต่อ
“มึงไม่อยากรู้หน่อยเหรอ” โอมถาม
“ดาวมหาลัยตัวท๊อป 4 ปีซ้อนเลยนะเว้ย”
“ไม่” ขุนเขาตอบทันที
“กูไม่ได้มา มอ. เพื่อดูดาว”
แทนหัวเราะ
“ปากบอกไม่ แต่ถ้าเห็น เดี๋ยวก็หยุดมองเอง”
“ไม่มีทาง”
ยังพูดไม่ทันขาดคำ
เสียงรอบตัวก็เริ่มเปลี่ยน
จากคุยกันปกติ
กลายเป็นกระซิบ
เป็นเสียงเรียกชื่อเบา ๆ
ขุนเขาชะงัก
ไม่ใช่เพราะอยากรู้
แต่เพราะความเงียบแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นพร้อมกัน
โอมสะกิดแขนเขา
“นั่นไง”
“ดูดิ” แทนเสริม
“กูบอกแล้ว”
ขุนเขาถอนหายใจอย่างรำคาญ
แต่ก็เงยหน้าขึ้นมองตามที่เพื่อนชี้
และนั่นคือวินาทีที่เขาเงียบไป
ผู้หญิงคนหนึ่งเดินผ่านลานกิจกรรมมา
ผมยาว รวบครึ่งศีรษะ
เสื้อเรียบ ๆ แต่เข้ากับรูปร่างพอดี
ท่าทางมั่นใจแบบไม่ต้องพยายาม
เธอไม่ได้มองใครเป็นพิเศษ
แค่เดินของเธอไป
แต่รอบตัวกลับหยุดมองพร้อมกัน
“โห…” โอมลากเสียง
“เข้าใจละว่าทำไมได้ 4 ปีซ้อน”
แทนหัวเราะ
“ดาวแบบไม่ต้องยืนโพสอะ แม่งเดินเฉย ๆ คนก็หยุดดู”
ขุนเขาไม่พูด
สายตาเขาจับอยู่ที่แผ่นหลังนั้น
โดยไม่รู้ตัว
มันไม่ใช่แค่สวย
แต่มันคือความคุ้น
คุ้นแบบที่เขาไม่อยากยอมรับ
“เฮ้ย ๆ” โอมแซว
“มึงหยุดมองได้แล้ว เดี๋ยวเสียคาแรกเตอร์แบดบอย”
ขุนเขาหันกลับมาทันที
“กูไม่ได้มอง”
แทนเลิกคิ้ว
“อ๋อ มึงแค่จ้องเฉย ๆ”
โอมเสริมทันควัน
“จ้องระดับนี้ เรียกมองไม่ได้ เรียกจำหน้า”
ขุนเขาสบถเบา ๆ
“เลิกพูดได้แล้ว”
แต่สายตาเขากลับเผลอมองตามเธออีกครั้ง
แค่เสี้ยววินาทีเดียว
ผู้หญิงคนนั้นเดินหายเข้าไปในตึกนิเทศ
ไม่หันกลับ
ไม่รู้ตัวเลยว่ามีใครบางคนยืนมองอยู่
“เอาจริงนะ” โอมพูด
“ถ้ากูเป็นมึง กูจีบไปแล้ว”
ขุนเขาสะพายกระเป๋าขึ้นไหล่
เดินต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ผู้หญิงแบบนั้น” เขาพูดเสียงเรียบ
“ไม่ใช่สไตล์กู”
แทนหัวเราะ
“พูดเหมือนคนไม่รู้ตัว”
ขุนเขาไม่ตอบ
แต่ในหัวเขา
ภาพแผ่นหลังนั้นยังไม่หายไป
เขายังไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร
ไม่รู้ชื่อ
ไม่รู้ตัวตน
แต่ความรู้สึกคุ้นตา
มันกลับชัดขึ้นเรื่อย ๆ
และเขาไม่รู้เลยว่า
ดาวมหาลัยที่เพื่อนแซวกันสนุกปาก
คือผู้หญิงคนเดียวกับคืนที่เขายังลืมไม่ลง 😏🌙