ณ คอนโดหรู
ร่องรอยจากเมื่อคืนยังคงอยู่บนผิวของเธอ
เป็นรอยแดงจาง ๆ ในจุดที่เขากดจูบแบบคุมตัวเองไม่อยู่
เสียงหายใจที่ขาด ๆ หาย ๆ ของเขายังชัดอยู่ในหัว
รวมถึงจังหวะที่เธอเรียกชื่อเขาเบา ๆ จนเขาแทบขาดสติ
ทุกอย่างยังวนอยู่ในอก ไม่ยอมจางหาย
เพลงพิณเดินลงจากรถของตัวเองตรงหน้าโถงคอนโด
ตั้งใจจะ “หนีหน้า” เขาให้ได้มากที่สุด
เมื่อคืนมันแรงเกินไป
ลึกซึ้งเกินไป และเธอก็ปล่อยให้เขา
เข้าใกล้มากกว่าที่คิดว่า ตัวเองจะยอม
เธอกำลิปสติกในมือแน่น
สูดลมหายใจแรงหนึ่งครั้ง
“ไม่ได้นะพิณ ห้ามคิดถึงเขา”
เธอบ่นกับตัวเองเบา ๆ แต่ยิ่งเตือน หน้าเธอก็ยิ่งร้อน
ประตูลิฟต์เปิดออก
เพลงพิณก้าวเข้าไป แต่ยังไม่ทันจะกดปุ่ม
เงาด้านหลังก็เดินพรวดเข้ามาก่อน
“ขุนเขา”
เขายืนซ้อนอยู่ด้านหลังเธอแบบไม่มีเสียง
กลิ่นน้ำหอมจากเมื่อคืนยังติดอยู่
เสื้อช็อปตัวเดิม ผมยุ่งนิด ๆ แบบคนเพิ่งตื่น
เพลงพิณหน้าเหวอทันที
“นาย—! อะไรของนาย มาทำอะไรที่นี่”
เขายกคิ้ว ไม่ตอบ
แค่กดปุ่มชั้นยี่สิบแปดเหมือนเป็นเรื่องปกติ
เพลงพิณชะงัก
“ชั้นยี่สิบแปด?”
“ใช่”
เขาตอบสั้น ๆ
“ทำไม มีปัญหา?”
เธอหันขวับ
“มีสิ! ฉันอยู่ชั้นนั้น! ห้อง—”
ขุนเขาหันมามองตรง ๆ สายตาคมเหมือนเมื่อคืนไม่มีเปลี่ยน แต่วันนี้เพิ่มความนิ่งเย็นแบบแบดบอยที่เธอควรหนีให้ไกล
“เลขห้องอะไร”
“ไม่บอก!”
เพลงพิณกัดฟัน
“นายจะรู้ไปทำไม”
เขาเลิกคิ้วเหมือนจะขำ แต่ยังไม่ยอมยิ้ม
“ก็เมื่อคืนเธอไม่ค่อยปิดของดีเท่าไหร่”
“ขุนเขา!”
เธอหน้าแดงวาบจนแสบร้อน
“อย่าพูดถึงเมื่อคืน!”
“ทำไมล่ะ”
เขาก้าวเข้ามาใกล้ จากระยะสองคืบ เหลือแค่ครึ่งคืบ
“อายเหรอ หรือเขินที่เธอเรียกชื่อฉันตั้งหลายครั้ง”
เพลงพิณถอยจนชิดผนัง หายใจติดขัด
“ขุนเขา .. .. พอ”
ประตูลิฟต์เปิด - ติ้ง -!
ทั้งสองเดินออกมาโดยไม่มองหน้ากัน
แต่พอเลี้ยวเข้าทางเดิน…!
เขาหยุด
เธอหยุด
สายตาทั้งคู่ไปหยุดที่ประตูห้องตรงหน้า
“2701”
ชื่อของเธอติดอยู่หน้าห้อง
ขุนเขาก้มมองกุญแจในมือ แล้วยกขึ้นให้เธอดู
“2702”
เพลงพิณช็อกไปเต็ม ๆ สามวินาที
“หะ…ห้องตรงข้าม?”
ขุนเขาเหยียดยิ้มแบบคนชนะ
“ก็ใช่”
“ไม่เอา!”
เธอแทบจะเอามือปิดหน้า
“ไม่โอเค! ไม่โอเคมาก!”
“ทำไม”
เขาพิงผนังข้างประตูห้องตัวเอง
“กลัวฉันได้ยินเวลาเธอเรียกชื่อฉันอีกหรือไง”
เพลงพิณจะเปิดประตูเข้าห้อง
แต่เขาเอื้อมมือไปจับข้อมือเธอไว้ก่อน
แรงพอให้เธอหันกลับมาทั้งตัว
“เมื่อคืน…”
เขาโน้มหน้าเข้าใกล้
น้ำเสียงทุ้มต่ำแบบเดียวกับเมื่อคืน
“…ในห้องชมรม เธอไม่ได้รู้สึกอะไรจริง ๆ เหรอ”
เพลงพิณกัดปาก ไม่รู้จะตอบยังไง
เพราะถ้าพูดจริง เขาจะยิ่งยิ้ม
แต่ถ้าโกหก เขาจะมองออกทันที
เธอก้มหน้า
“เรื่องเมื่อคืน ถือว่ามันพลาดก็แล้วกัน”
ขุนเขาเงียบไปสองวินาที
ก่อนเสียงหัวเราะต่ำ ๆ จะหลุดออกมา
“พิณ” เขาเรียกชื่อเธอ
คม ลึก และหนักกว่าเมื่อคืน
“เธอเรียกฉันหลายครั้งจนฉันจำจังหวะเสียงได้แล้ว
จะให้ฉันเชื่อว่าเป็นแค่ ‘ความพลาด’ เหรอ”
⸻
ผลของการข้ามเส้น (ที่ไม่มีใครยอมรับตรง ๆ)
⸻
ประตูห้อง 2701 ปิดลงเสียงดัง ปัง
เพลงพิณพิงบานประตูทันที
มือสั่น หัวใจเต้นแรงจนรู้สึกได้ชัดที่ขมับ
เธอหลับตา
พยายามหายใจให้ลึก ให้ช้า เหมือนกำลังดึงตัวเองกลับมาจากขอบบางอย่างที่เกือบหลุด
“บ้าน่า…”
เธอบ่นกับตัวเองเบา ๆ
“อยู่ตรงข้ามกันเนี่ยนะ”
ภาพเมื่อครู่ยังชัด รอยยิ้มของเขา น้ำเสียงกวน ๆ ที่ดูมั่นใจเกินไป และสายตาที่มองเธอเหมือนรู้ทุกอย่างที่เธอพยายามปิดบัง
เธอเดินเข้าไปในห้อง ทิ้งตัวลงบนโซฟา มือกุมหน้าแน่น
เมื่อคืนมันแรงเกินไป วันนี้มันใกล้เกินไป
และพรุ่งนี้เธอไม่รู้เลยว่าจะรับมือกับเขายังไง
มือถือสั่นขึ้นบนโต๊ะ
“ขุนเขา”
เพลงพิณรีบคว่ำหน้าจอทันที
ไม่อ่าน ไม่รับ ไม่อยากให้เขารู้ว่าแค่เห็นชื่อ
ใจเธอก็เต้นแรงขนาดไหน
“ไม่คุย”
เธอบอกตัวเอง
“อย่างน้อย…วันนี้ไม่คุย”
แต่ต่อให้ไม่คุย ต่อให้ไม่เปิดประตู ความจริงก็ยังตั้งอยู่ตรงนั้น
ห้องตรงข้าม
“2702”
แค่คิดถึง เธอก็รู้สึกเหมือนเขายืนอยู่ใกล้เกินไปแล้ว
อีกฝั่งหนึ่งของทางเดิน
ขุนเขาเปิดประตูห้องตัวเองเข้าไป
แล้วปิดลงช้า ๆ
เขาพิงผนัง ถอนหายใจแรง
ยกมือขึ้นลูบหน้าเหมือนพยายามดึงสติกลับมา
“ชิบหายเอ๊ย…”
เขาไม่คิดเลย ว่าแค่คืนเดียว
จะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนเร็วขนาดนี้
ตั้งแต่เธอเรียกชื่อเขา
ตั้งแต่เธอสั่นในอ้อมแขน
ตั้งแต่เธอมองเขาด้วยสายตาที่ไม่ใช่แค่ท้าทาย
และตอนเช้า
เธอกลับพูดคำว่า “พลาด” ได้หน้าตาเฉย
ขุนเขาหัวเราะในลำคอ ไม่ขำ แต่หงุดหงิด
“ถ้านั่นเรียกว่าพลาด…”
เขาพึมพำ
“…งั้นฉันก็คงพลาดหนักกว่าที่คิด”
เขาเดินไปที่ประตู มองผ่านตาแมวไปยังห้องฝั่งตรงข้าม
เงียบ ไม่มีเสียง
แต่เขารู้ดีว่าอีกคนอยู่หลังบานนั้น
ใกล้เกินไป จนหนีไม่ได้
ขุนเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
พิมพ์ข้อความสั้น ๆ ลบ แล้วพิมพ์ใหม่
สุดท้ายก็แค่ล็อกหน้าจอ ไม่ส่งอะไรทั้งนั้น
“ยังไม่ถึงเวลา”
เขาบอกตัวเอง
“แต่หนีฉันไม่พ้นแน่”
คืนนั้น
เพลงพิณนอนพลิกไปมา เสียงลิฟต์
เสียงเปิดประตู ทุกเสียงทำให้เธอสะดุ้ง
เธอเกลียดความรู้สึกนี้
เกลียดที่แค่รู้ว่าเขาอยู่ใกล้
หัวใจก็ไม่ยอมสงบ
ในขณะเดียวกัน
ขุนเขายืนอยู่หลังประตูห้องตัวเอง เงยหน้ามองเพดาน
คิดถึงจังหวะที่เธอสั่นในอ้อมแขนเขา
ไม่มีใครโทร
ไม่มีใครเคาะ
ไม่มีใครข้ามเส้นอีก
แต่ทั้งสองรู้ดี
เส้นนั้น…ถูกเหยียบไปแล้ว
และต่อจากนี้ ต่อให้พยายามถอยแค่ไหน
พวกเขาก็ต้องเจอกันในฐานะคนที่รู้จัก “ความใกล้”
ของกันและกันดีเกินไปแล้ว
🪶 คืนนั้นผ่านไปช้าอย่างประหลาด
เพลงพิณไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปตอนไหน
รู้แค่ว่าทุกครั้งที่ขยับตัว ภาพประตูห้อง 2702 ก็ผุดขึ้นมาในหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า
มันใกล้เกินไปใกล้จนความเงียบไม่ช่วยให้ใจสงบลงเลย
เสียงฝีเท้าแผ่ว ๆ ดังขึ้นในทางเดินตอนเกือบตีสอง
เธอลืมตาขึ้นทันที หัวใจเต้นแรงโดยไม่ต้องเดาเหตุผล
เงียบ แล้วก็เงียบอีกครั้ง
เพลงพิณถอนหายใจ ดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้า
พยายามบังคับตัวเองให้นอนต่อ
“อย่าคิด อย่าคิดถึงเขา”
แต่คำเตือนนั้นไม่ช่วยอะไร
เพราะแค่คิดว่าอีกฝั่งของผนังมีใครบางคนอยู่
ใครบางคนที่รู้จักลมหายใจของเธอดีเกินไป
หัวใจก็ไม่ยอมสงบ
ฝั่งตรงข้าม
ขุนเขานั่งอยู่บนโซฟา ไฟในห้องยังไม่เปิด
มีเพียงแสงจากเมืองที่ลอดเข้ามาทางกระจก
เขาพิงพนัก มองเพดานนิ่ง ๆ
ตั้งแต่กลับเข้าห้อง เขายังไม่ได้อาบน้ำ
ยังใส่เสื้อช็อปตัวเดิม เหมือนร่างกายไม่ยอมขยับไปไหน
คำว่า พลาด ยังติดอยู่ในหัวไม่หาย
เขาหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ
ทั้งหงุดหงิด
ทั้งรู้สึกเหมือนแพ้
“ถ้าเธอไม่รู้สึกจริง…”
เขาพึมพำ
“…เธอคงไม่สั่นขนาดนั้น”
ขุนเขาลุกขึ้น
เดินไปหยุดอยู่หน้าประตู
ยกมือขึ้นเหมือนจะเคาะ
แต่ก็หยุดไว้แค่นั้น
เขารู้ดีว่า ถ้าเคาะตอนนี้
เส้นที่เพิ่งพยายามรักษาไว้ จะหายไปทันที
“ไม่ใช่คืนนี้” เขาบอกตัวเอง เสียงต่ำ จริงจัง
👉 ใกล้รุ่ง เมืองเริ่มเงียบลง
เพลงพิณพลิกตัว
ลืมตาขึ้นมองเพดาน
หัวใจเต้นช้าลงนิดหนึ่ง
เธอเริ่มรู้แล้วว่า
ต่อให้ไม่เปิดประตู
ต่อให้ไม่พูดอะไร
บางอย่างก็เปลี่ยนไปแล้ว
เธอไม่ได้กลัวเขา แต่กลัวตัวเอง
กลัวว่าจะเผลออ่อนลง
เผลอเดินเข้าไปใกล้เกินกว่าที่ควร
ในขณะเดียวกัน
ขุนเขานั่งนิ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
คิดถึงรอยยิ้มที่เธอพยายามซ่อน
และเสียงเรียกชื่อเขาที่ยังตามหลอกหลอน
คืนเดียวกัน
ทางเดินเดียวกัน
ประตูสองบานที่อยู่ตรงข้ามกัน
ไม่มีใครข้ามไปหาใคร
แต่ทั้งคู่รู้ดีว่า หลังจากคืนนี้
คำว่า “บังเอิญ”
คงใช้กับความใกล้แบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว
และเช้าวันพรุ่งนี้
อาจเป็นบททดสอบแรก ของคนสองคน
ที่รู้จักกันลึกเกินกว่าจะทำเป็นไม่รู้จักกัน
ได้เหมือนเดิม 🎻⚙️