🔥 ประทะแรงตรงลานกิจกรรม

1480 Words
ลานกิจกรรมกลางมหาวิทยาลัยในช่วงบ่ายแก่ ๆ คนแน่นจนแทบเดินชนกัน เสียงพูด เสียงสั่งงาน เสียงดนตรีทดลองดังระงมไปหมด แต่ท่ามกลางความวุ่นวายนั้น ขุนเขากลับเด่นเกินใคร—เด่นแบบไม่ต้องทำอะไรเลย เสื้อช็อปพาดอยู่บนไหล่ เขายืนพิงเสา มือกอดอก มองภาพรวมของลานงานด้วยสายตานิ่ง ไม่เร่ง ไม่ร้อน เหมือนทุกอย่างอยู่ใต้การควบคุม ข้าง ๆ คือแทนกับโอม สองคนช่วยกันคุมทีมวิศวะ วิ่งเข้าออกไม่หยุด “ขุนเขา อีกครึ่งชั่วโมงประธานนิเทศจะลงมาดูพื้นที่” แทนบ่นเสียงต่ำ โทนแบบรู้ว่าเพื่อนมันไม่ชอบถูกเร่ง ขุนเขาไม่ตอบ แค่กระดิกคิ้วเล็กน้อย เหมือนรำคาญนิด ๆ จนกระทั่ง— เสียงส้นสูงกระทบพื้น “ก๊อก ก๊อก ก๊อก” ดังชัด ดังจนคนทั้งโซนหันไปมองพร้อมกัน และผู้หญิงคนหนึ่งก็เดินเข้ามา เดินเข้ามาเหมือนพื้นที่ตรงนี้เป็นของเธอมาตั้งแต่แรก ผมยาวสีน้ำตาลเข้มลอนสวย ดวงตาคมแบบมั่นใจเต็มร้อย เสื้อครอปสีดำเข้ารูปกับกางเกงทรงตรงที่โชว์เอวบางอย่างพอดี แค่เธอก้าวมาไม่กี่ก้าว ออร่าก็ฟาดแรงยิ่งกว่าไฟเวที เพลงพิณยืนเท้าเอว สั่งงานรุ่นน้องนิเทศแบบไม่ต้องมองกระดาษ ก่อนจะหันมาทางขุนเขาเต็ม ๆ ไม่หลบสายตา ไม่ลดระดับ “ขอใช้เวทีตอนห้าโมงนะคะ” เธอพูดเสียงดังพอให้ทีมรอบข้างได้ยิน “ถ้าเซ็ตไม่เสร็จ—เลื่อนฝั่งวิศวะออกไปก่อนเลยค่ะ” ทั้งลานเงียบลงแทบจะในทันที ทุกสายตาหันไปทางขุนเขา เหมือนกำลังรอดูว่าเขาจะระเบิดหรือจะเฉย เพราะไม่กี่คนบนโลกนี้ ที่กล้าพูดกับประธานสโมสรวิศวะแบบนี้ตรง ๆ ขุนเขาเงียบ เงียบจนแทบได้ยินเสียงลมพัดผ่านโครงเหล็กเวที ก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้น มองเธอเต็ม ๆ นิ่ง คม และแรงกว่าทุกครั้งที่ใครเคยโดน “พูดเยอะเหมือนเดิมนะ…นิเทศ” น้ำเสียงทุ้มต่ำ เย็นจัด เหมือนตั้งใจข่มโดยไม่ต้องขึ้นเสียง เพลงพิณเลิกคิ้ว ก่อนจะยิ้มมุมปากแบบไม่กลัวอะไรทั้งนั้น “ก็คนของฉันต้องซ้อมตามเวลา” เธอตอบกลับทันที “ถ้าคณะนายช้า ก็ต้องมีคนรับผิดชอบค่ะ…คุณประธานวิศวะ” เธอเน้นคำสุดท้าย กัดชัด ไม่ไว้หน้า โอมกระซิบข้างหูแทน “เออละ…ของจริงว่ะ” ขุนเขาไม่โกรธ ไม่ขึ้นเสียง ไม่โต้กลับแรง มีแค่สายตาที่ไล่มองเพลงพิณช้า ๆ ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ไม่เกรงใจ ไม่แคร์สายตาคนรอบข้าง “ชื่ออะไรนะ” เขาถามเรียบ ๆ ทั้งที่ในใจรู้คำตอบอยู่แล้ว เพลงพิณหรี่ตาใส่ “เพลงพิณค่ะ” “นิเทศปีสี่ ประธานสโมสร” “และไม่ชอบให้ใครทำเหมือนไม่รู้จักชื่อฉัน” ขุนเขาหัวเราะในลำคอเบา ๆ เสียงนั้นทำเอาแทนกับโอมชะงักไปพร้อมกัน “ดี” เขาพูดสั้น ๆ “จำง่ายดี” เพลงพิณก้าวเข้ามาใกล้ ใกล้จนระยะห่างแทบไม่มี กลิ่นน้ำหอมโทนสดชัดแตะปลายจมูกขุนเขา เธอยิ้ม ยิ้มแบบคนที่ไม่คิดถอย “ห้าโมงตรงนะคะ” เธอกระซิบ “ฉันไม่ชอบคนทำงานช้า” แล้วเธอก็หมุนตัวเดินออกไป แผ่นหลังตรง ก้าวมั่นใจ แม้แต่คนที่ไม่สนใคร ยังต้องเผลอมองตาม ขุนเขาก็เช่นกัน สายตาที่มองตามเธอ ไม่เย็นเหมือนเดิม แต่มีอะไรบางอย่างที่ชัดขึ้น แทนกระซิบทันที “มึง…อย่าบอกนะว่าอันนี้ก็เรื่องงาน” ขุนเขากระตุกยิ้มมุมปาก ไม่ตอบ แต่แววตาฟ้องชัดกว่าคำพูด “ปากดีดี…” เขาพึมพำกับตัวเอง และตรงนั้นเอง คือจุดเริ่มต้นของสงครามฟาดฟัน ระหว่างประธานสองคณะ ที่ไม่มีใครยอมใคร และไม่มีใครยอมรับว่า ไฟบางอย่างมันเริ่มลุกไปแล้วเรียบร้อย ⸻ 🃏 ยิ้มของเธอ กับไฟของเขา ห้าโมงตรง เวทีถูกส่งต่อให้ฝั่งนิเทศตามเวลาที่ประกาศไว้เป๊ะ ทีมวิศวะถอยออกไปด้านข้าง ทุกอย่างดูเป็นระบบ ไม่มีอะไรผิดพลาด ยกเว้นอารมณ์ของประธานสโมสรวิศวะ ขุนเขายืนกอดอกอยู่หลังแผงควบคุม สายตาจับจ้องไปที่กลางเวที ตรงจุดที่เพลงพิณยืนถือไมค์ สั่งงานทีมอย่างคล่องแคล่ว เธอดูสบาย ดูมั่นใจ และที่น่าหงุดหงิดที่สุดคือ…ดูอารมณ์ดีเกินไป เพลงพิณยิ้มให้ทีมงาน ยิ้มให้คนดู ยิ้มให้ใครต่อใครที่เดินเข้ามาคุย รวมถึงผู้ชายจากคณะบริหารที่เดินเข้ามายืนข้างเธอ พูดอะไรบางอย่างใกล้ ๆ จนเธอหัวเราะออกมาเบา ๆ เสียงนั้น ดังพอให้ขุนเขาได้ยิน เขาขบกรามแน่น มือกำแน่นโดยไม่รู้ตัว “มึงใจเย็น” แทนกระซิบ “หน้ามึงไม่เหมือนคนดูงานแล้ว” “กูดูอยู่” ขุนเขาตอบ เสียงต่ำ นิ่ง แต่ไม่ปกติ “ดูอะไร” โอมถาม “ดูเวที หรือดูคน” ขุนเขาไม่ตอบ แต่ก้าวเท้าออกจากจุดเดิมทันที ⸻ เพลงพิณกำลังเช็กคิวกับทีม ก็รู้สึกถึงเงาบางอย่างเข้ามาใกล้ เธอไม่ต้องหันก็รู้ว่าเป็นใคร “ระบบไฟฝั่งซ้ายโอเคแล้วนะคะ” เธอพูดกับทีม เสียงสดใส เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขุนเขายืนข้างเธอ ใกล้กว่าที่จำเป็น “โอเค” เขาพูด สั้น ห้วน เพลงพิณหันมายิ้มให้ ยิ้มแบบสุภาพ แต่สายตาวาววับ “คุณประธานวิศวะดูเครียดนะคะ” เธอพูด น้ำเสียงเหมือนเป็นห่วง “กลัวงานพังเหรอ” “ผมกลัวคนไม่โฟกัสงานมากกว่า” เขาตอบทันที สายตาเหลือบไปที่ผู้ชายคนนั้น เพลงพิณทำเหมือนไม่เข้าใจ หันไปพูดกับอีกฝ่ายต่อ “เดี๋ยวช่วยดูมุมกล้องตรงนี้ให้หน่อยนะคะ” เธอพูด เสียงอ่อนลงนิดหนึ่ง ยิ้มให้ ขุนเขาเห็นภาพนั้น แล้วความอดทนก็เริ่มร้าว “เพลงพิณ” เขาเรียก เสียงเข้มขึ้น “ขอคุยหน่อย” เธอหันกลับมา เลิกคิ้วนิดเดียว ก่อนจะยิ้ม “คุยตรงนี้เลยก็ได้นะคะ” “ฉันกำลังทำงานอยู่พอดี” ผู้ชายคนนั้นชะงัก มองบรรยากาศแปลก ๆ ก่อนจะถอยออกไปอย่างรู้ตัว ทันทีที่เหลือกันสองคน ขุนเขาก็ลดเสียงลง “เธอทำแบบนี้ทำไม” เขาถามตรง ๆ “แบบไหนคะ” เพลงพิณทำหน้าสงสัย ใสซื่อเกินจริง “เธอรู้ว่าผมหมายถึงอะไร” เพลงพิณหัวเราะเบา ๆ เสียงนั้นทำให้เขายิ่งหงุดหงิด “ฉันก็แค่ทำงาน” เธอพูด “หรือว่าการคุยกับทีมงานคนอื่น มันผิดกฎของประธานวิศวะคะ” “มันไม่จำเป็นต้องใกล้ขนาดนั้น” เขาพูด เร็ว แรง เพลงพิณเงียบไปเสี้ยววินาที ก่อนจะยิ้มช้า ๆ “อ๋อ…” “งั้นเมื่อกี้ที่นายยืนจ้องฉันตลอด นั่นก็ไม่จำเป็นเหมือนกันสินะ” ขุนเขาชะงัก “ผมดูภาพรวม” “เหรอคะ” เธอเอียงคอ “ภาพรวมที่รวมฉันคนเดียวหรือเปล่า” เขาเงียบ เพราะคำตอบมันชัดเกินไป เพลงพิณขยับเข้าใกล้ ใกล้พอให้เขาได้กลิ่นน้ำหอม ใกล้พอให้เห็นแววตาที่กำลังท้าทาย “ขุนเขา” เธอเรียกชื่อเขาตรง ๆ เสียงเบา แต่ชัด “ถ้านายจะหึง” เธอเว้นจังหวะ “ก็ยอมรับตรง ๆ ดีกว่า” เขาสบตาเธอ ไฟในดวงตาเดือดชัด “ผมไม่ได้หึง” “แน่ใจนะคะ” เธอยิ้ม ยิ้มแบบคนรู้คำตอบ “แน่ใจ” เขาตอบทันที แต่เสียงหนักเกินไป เพลงพิณหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะถอยออกมา “งั้นก็ดีค่ะ” “ฉันจะได้ไม่ต้องเกรงใจใคร เวลาเขามาคุยด้วย” ประโยคนั้น เหมือนราดน้ำมันลงกองไฟ ขุนเขาก้าวเข้าไปอีกครั้ง เสียงต่ำลงจนแทบกระซิบ “อย่าเล่นกับผมมากเกินไป” เพลงพิณไม่ถอย ไม่หลบ แค่ยิ้ม “ฉันไม่ได้เล่น” “ฉันแค่ทำในสิ่งที่นายทำกับฉัน” เธอหมุนตัวกลับไปทำงานต่อ ทิ้งให้เขายืนอยู่ตรงนั้น เดือด หงุดหงิด และควบคุมอารมณ์ตัวเองแทบไม่อยู่ แทนเดินเข้ามาข้าง ๆ มองหน้าเพื่อนแล้วส่ายหัว “มึงจบแล้วว่ะ” ขุนเขายังมองตามแผ่นหลังของเพลงพิณ สายตาไม่ปิดบังอะไรอีกต่อไป “กูไม่ได้หึง” เขาพูด เหมือนย้ำกับตัวเอง แต่หัวใจที่เต้นแรง และอารมณ์ที่เดือดขึ้นทุกวินาที กลับไม่เห็นด้วยเลยสักนิด และเขาก็เริ่มรู้แล้วว่า ถ้าเพลงพิณเอาคืนแรงกว่านี้อีกนิด เขาอาจจะไม่เหลือข้ออ้างคำว่า “เรื่องงาน” ให้ใช้ได้อีกต่อไป 😏🔥
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD