ตัดสินใจเพราะอยากพิสูจน์
เช้าวันนี้ เพื่อนๆ พากันไปดูบอร์ดปิดประกาศผลการเลือกลงพื้นที่ แต่สำหรับฉัน กลับถูกเรียกตัวให้เข้าไปพบกับท่านผู้ใหญ่ ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของที่นี่
“ นั่งลงก่อนสิ เรวียา...อย่าเพิ่งทำหน้ายุ่ง ” ท่านผายมือออก ยิ้มให้อย่างใจดี
ฉันนั่งลงตัวตรง ไม่ทำหน้ายุ่งได้อย่างไร เมื่อบนบอร์ดที่ยืนดูเมื่อครู่ ไม่มีชื่อฉันอยู่เลย ที่ที่มีแต่คนไม่อยากไป แต่ฉันกลับต้องการไปที่นั่น สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
“ แปลกใจล่ะสิ...”
“ ค่ะท่าน”
“ คือ...สิ่งที่ผมกำลังจะพูดต่อไปนี้ ผมอยากให้คุณตั้งใจฟัง และตัดสินใจด้วยตัวเอง ” หัวใจของฉันเต้นแรง กับสิ่งที่ยังไม่ได้ยิน ..
“ คุณรู้จักประเทศเปรมาไหม...”
“ รู้จักค่ะท่าน ”
ประเทศเปรมาที่ผู้ใหญ่ท่านนี้พูดถึง คือประเทศเล็กๆ ในแถบดินแดนตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศนี้ กำลังถูกแย่งชิงจากประเทศมหาอำนาจ และยังเกิดสงครามกลางเมือง แย่งชิงบัลลังค์ กันให้วุ่นวาย ประชาชนในประเทศยากจนมาก ประชากรส่วนใหญ่ นับถือภูติผีตามความเชื่อของบรรพบุรุษ
ภูมิประเทศส่วนใหญ่ จะมีภูเขาสลับซับซ้อนกัน ทางเหนือเมื่อถึงฤดูหนาว จะมีหิมะตก ทรัพยากรธรรมชาติยังไม่มีการนำมาใช้มากนัก คนรวยก็รวยล้นฟ้า คนจนก็ถึงขนาดจนติดดิน ไม่มีที่ไหนน่าอยู่เท่าประเทศไทยอีกแล้ว
“ เรื่องนี้ เป็นความลับ ระหว่างประเทศ คุณห้ามปริปาก เล่าให้ใครฟังอย่างเด็ดขาด ”
“ ค่ะท่าน”
“ รัฐบาลของเปรมาต้องการผู้หญิง ที่มีคุณสมบัติเช่นนักเรียนนายร้อยตำรวจหญิงของเรา ให้ไปทำงานร่วมกันกับฝ่ายทหารของเขาสามปี ผมไม่เข้าใจนะว่า ทำไมเขาจึงเจาะจงว่าต้องเป็นคุณเท่านั้น แต่นั่นผมไม่สนใจหรอก ผมต้องการให้คุณตัดสินใจด้วยตัวเอง ที่นั่นอันตรายมาก ยิ่งกว่าสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของเราอีก และการฝึกทหารของที่นั่นโหดว่าเรามาก เพราะชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย คุณจะได้ฝึกกับเขา และเมื่อกลับมาที่ประเทศไทย คุณจะได้ปรับยศตามที่ที่นั่นปรับให้ คล้ายๆ ไปช่วยราชการที่โน้น คุณฟังที่ผมพูดไปแล้ว คุณคิดว่าอย่างไร ”
“ ทำไมเขาจึงต้องการผู้หญิงล่ะคะท่าน ในเมื่อผู้หญิงที่ประเทศของเขา ไม่มี Equality ในสังคมเลย ”
“ ไม่รู้สิ เรื่องนี้อาจเป็นความลับของเขา แต่ถ้าคุณเข้าไปเป็นคนของเขา คุณอาจจะได้รู้ ”
“ ฉันอยากคุยกับ...เอ้อ...คนที่เขาเลือกฉัน...ก่อนตัดสินใจน่ะค่ะท่าน ”
“ ได้สิ เขาเป็นตัวแทน ของประเทศเปรมา กำลังรอคุณอยู่ ที่ห้องรับรองแขกของเราชั้นบน ”
ฉันก้าวเท้าขึ้นบันไดทีละขั้น สายตามองผ่านทะลุออกไปนอกกระจกใสอย่างครุ่นคิด ที่นี่ไม่ใช่ที่ของฉันจริงหรือ ฉันต้องเดินทางไปในที่ที่แม่หมอคนนั้นบอก แต่มันเกี่ยวกับการตัดสินใจของฉันเองต่างหาก ว่าจะเลือกเส้นทางใด นี่คือโชคชะตา หรือฟ้าลิขิตทุกอย่างไว้แล้ว
จริงอยู่ ..ว่าเรามีเส้นทางของชีวิตให้เลือกเดิน .. หลายเส้นทาง .. แต่ก่อนที่เรา ..จะตัดสินใจ .. เปลี่ยนเส้นทางเดินนั้น .. เราลองเดินไปจนสุดทาง.. แล้วหรือยัง? คำนี้สินะ ที่ทำให้ฉันอยากพิสูจน์ เส้นทางที่ตัวเองบอกว่าไม่อยากเลือก เพราะความอยากรู้ จึงต้องการเดินไป...ให้สุดทาง เผื่อที่นั่น อาจมีคำตอบ ที่ฉันต้องการ.
ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก
“ ขออนุญาตค่ะ ”
ฉันเปิดประตูเข้าห้อง พร้อมกับที่ผู้ชายคนหนึ่ง หมุนตัวหันมามองฉันพอดี คิ้วของฉันเลื่อนเข้าหากันอย่างอัตโนมัติ เพราะผู้ชายตรงหน้า คือคนเดียวกับที่พบกันเมื่อคืน ดวงตาคมดุ มองตรงมา ก่อนกวาดสายตามองฉันตั้งแต่ศรีษะ จรดปลายเท้า ฉันมองเขากลับไป ด้วยสายตาที่บอกว่าไม่พอใจอย่างแรง
เขาผายมือเชิญให้นั่ง รอยยิ้มบางๆ เกลี่ยอยู่บนริมฝีปากได้รูป
“ เราได้พบกันอีกครั้งแล้วนะ...ต่อไปคงได้ร่วมงานกันบ่อยขึ้น ”
“ ใครบอกคุณ ว่าฉันตกลง จะร่วมงานกับพวกคุณ ” ความรู้สึกที่มีกับเขาเมื่อคืนเปลี่ยนไป เมื่อได้พบกับเขาอีกครั้ง เพราะฉันไม่ชอบสายตาของเขาที่มองมาเมื่อครู่
“ อ้าว...ไหงเป็นงั้น ”
“ ฉันเพียงแต่อยากรู้เหตุผล ว่า ทำไมต้องเป็นฉัน...และภารกิจที่ฉันต้องทำมีอะไรบ้าง ”
“ อยากรู้...ก็ต้องตกลงก่อน ” เขาเล่นลิ้น หรี่ตามองฉันด้วยแววตากวนๆ
“ ถ้าฉันไม่ตกลง ”
“ ไหนว่าอยากรู้ ”
“ เหตุผลล่ะ...ฉันอยากรู้เหตุผล...ฉันก็แค่ผู้หญิงธรรมดา ที่ผ่านการฝึกอบรม ตามขั้นตอนของตำรวจของที่นี่ ในเมื่อการฝึกทหารในประเทศคุณดีกว่าที่นี่ คุณภาพของฉัน ก็ไม่น่าจะถึงของคุณ ”
เขาลุกขึ้นเดินอ้อมโต๊ะมาหาฉัน แล้วนั่งบนมุมโต๊ะทางด้านซ้ายมือุ โดยให้ฉันเป็นฝ่ายแหงนหน้ามองเขา ช่างไม่มีมารยาทเอาเสียเลย ฉันไม่ใช่ผู้หญิงในประเทศของนายนะ ที่มักจะถูกผู้ชายกดหัวอยู่ตลอดเวลาน่ะ
ฉันลุกขึ้นยืน ถอยหลังออกมาสองก้าว ตัวตรงมองเขาด้วยสายตาไม่พอใจอีกครั้ง
“ คุณคิดว่า คุณคือผู้หญิงธรรมดา แต่ผมกลับคิดว่า คุณเป็นผู้หญิงที่ไม่ธรรมดา เราจึงเลือกคุณ เมื่อไปถึงที่นั่นคุณจะได้รู้อะไร ที่คุณอยากจะรู้อีกมากมายหลายอย่าง ที่คุณเคยสงสัย ที่นั่นมีคำตอบให้คุณนะซิน..เอ้อ...ซินเซีย ”
“ ฉันไม่เห็นอยากรู้ ...ไม่เคยสงสัย ไม่เคยอยากได้คำตอบ ”
ฉันสะบัดหน้าหัน ออกไปมองนอกหน้าต่าง เพื่อหลบสายตาคมที่มอง เหมือนกำลังจ้องจับผิด เขาพูด เหมือนเข้ามาอยู่ในใจ ได้ยินเสียงเขาหัวเราะในลำคอ ก่อนพูดออกมา
“ ยี่สิบล้าน...แลกกับคำว่าตกลง ”
ฉันหันมามองเขาเต็มตา เอาเงินมาล่อ มันดูถูกตำรวจหญิงไทยอย่างฉันชัดๆ ฉันเดินเข้าไปหาเขาช้าๆ ยิ้มเย็นตรงมุมปากอย่างนางร้าย
ปัง!!
ตบโต๊ะข้างๆ เขา จนมือแทบหัก
“ ห้าสิบล้าน!! ” อ้าว ไหนว่าดูถูกกัน…ไม่ใช่...ฉันลองใจเขาดูต่างหากล่ะ ว่าจะแน่แค่ไหน ฉันมีความสำคัญกับเขา เหมือนที่เขาบอกมาจริงหรือเปล่า
“ ตกลง…พรุ่งนี้จะมีเงินโอนเข้าบัญชีของคุณทันที ห้าสิบล้าน”
อ๋า...ทำไม่มันง่ายขนาดนี้เล่า เขายอมเสียเงินเพื่อจะซื้อตัวฉัน ไปทำไม... ฉันสามารถทำอะไรให้พวกเขาได้ เมื่อเทียบกับเงินห้าสิบล้าน
แต่ความเสี่ยงของชีวิตครั้งนี้ มันคือสิ่งท้าทาย ยิ่งเพิ่งจบใหม่ๆ ส่วนใหญ่จะร้อนวิชาทั้งนั้น แต่ยังไงฉันก็ยังห่วงแม่อยู่ดี ถ้าฉันไม่ได้อยู่เมืองไทย ฉันคงต้องจ้างญาติคนหนึ่ง เพื่อมาอยู่คอยดูแลท่าน ถ้าฉันพลาดเสียชีวิตอยู่ที่นั่น ชีวิตของฉัน แลกกับเงินที่จะเลี้ยงแม่ไปตลอดชีวิต
“ โอนเข้าบัญชีแม่ฉัน ”
“ ตกลง...อีกหนึ่งเดือนเราจะออกเดินทางกลับประเทศของฉัน เรื่องเอกสารของเธอ ฉันจะสั่งให้คนของฉันจัดการให้ แล้วอีกหนึ่งเดือนเจอกัน ”
ฉันยืนตัวตรง หมุนตัวเดินยืดคอออกไป...ด้วยหัวใจสับสน ฉันตกปากรับคำเขาไปอย่างง่ายดาย เพียงแค่เห็นแก่เงินห้าสิบล้าน หรือเพราะใจของฉัน
ที่นั่นฉันจะมีภารกิจ และความรับผิดชอบ อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญต่อหัวใจของฉันที่สุด คือ ฉันจะพบกับความรักที่มีอุปสรรคจากความแตกต่าง...ฉันอยากพบแม่หมอคนนั้นอีกสักครั้ง เพื่อจะถามเธอว่า คำว่า “ สุดท้าย ”..ที่เธอพูดถึง มันคือ...สุดท้ายเราต้องแยกจากกันเมื่อเราทั้งสองคนแตกต่างกัน หรือสุดท้ายเราสองคนก็ลงเอยกันได้ เพราะความแตกต่าง....ที่นั่นฉันจะได้คำตอบที่ฉันกำลังรอคอย
ถึงแม้ว่า ความรักของฉันจะลงเอย ด้วยความผิดหวัง เศร้า หรือเสียใจ แต่ฉันก็จะยอมรับมันให้ได้ อย่างน้อย ฉันก็ยังเคยมีความรัก ดีกว่ารักใครไม่เป็น แล้วฉันจะทำได้อย่างที่ใจคิดจริงหรือ...
ฉันเป็นผู้หญิงเด็ดเดี่ยว ใจกล้า ไม่เคยกลัวสิ่งใด อีกอย่างเพราะการฝึกฝนของที่นี่ ทำให้จิตใจของผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างฉันเข้มแข็ง เพราะคติประจำใจของฉันก็คือ
เราต้องสู้ แม้หัวใจเราอ่อนล้า เราจะกล้า ถ้าหัวใจเราเข้มแข็ง
เราไม่ถอย แม้หัวใจเราอ่อนแรง สร้างกำแพง บังหัวใจไม่ให้กลัว
( กลอนนี้ไม่ได้ลอกใครมานะ คนเขียนแต่งเองล้วนๆ ฝีมือโคตรๆ )
วันต่อมาก็มีเงินเข้าบัญชีแม่ ห้าสิบล้านจริงๆ ดังที่เขาสัญญาเอาไว้ งานนี้ ถ้าฉันจะเปลี่ยนใจ ยังทันอยู่หรือเปล่า
ฉันเล่าทุกอย่างให้แม่ฟัง แต่ไม่จริงทั้งหมด แม่ร้องไห้ ไม่อยากได้เงิน ท่านเสียพ่อไปจากการเก็บกู้ระเบิด ท่านไม่อยากเสียฉันไปอีก ฉันยังตลกกับท่านอีกว่า ฉันต้องแต่งงานกี่ครั้ง ถึงจะได้ค่าสินสอดขนาดนี้ ไม่อยากให้ท่านไม่สบายใจ ฉันไม่ผิดใช่ไหม? แค่เพียงสามปี ฉันจะกลับมา กลับมาทำตามสิ่งที่ตัวเองตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก