8

1929 Words
๘ หลังพายุสวาทลูกที่สองสงบลง อิ่มอรุณก็ได้แต่นอนปล่อยให้น้ำตาไหลอยู่เช่นนั้น ดวงตากลมโตปิดลงอีกครั้ง เมื่อภาพก่อนหน้านี้สว่างวาบเข้ามาในมโนนึกอีกคราว ช่างน่าละอายและอดสูนัก... ยิ่งได้ยินเสียงของตัวเองที่วอนขอจากเขายิ่งทำให้หญิงสาวต้องยกมือขึ้นปิดหูทั้งสองข้างทันที อือ... คุณศีล ได้โปรดอย่าทรมานฉัน!... ในที่สุด เขาก็ชนะหล่อนอย่างราบคาบ เมื่อเขาสร้างความทรมานแสนรัญจวนให้กับหล่อนจนหนำใจและทำให้หล่อนร้องขอความปรานีจากเขาได้สำเร็จ นั่นเองเขาจึงมอบความอัปยศอันแสนหวามให้หล่อนในที่สุด และสุดท้าย เมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไปหล่อนจึงต้องมานอนเสียน้ำตาอีกครั้งอย่างโทษใครไม่ได้เลยจริงๆ เวรกรรมอะไรของหล่อนกัน ทำไมทุกอย่างต้องเป็นแบบนี้ น้ำตาไหลพราวไม่หยุด ยิ่งคิดไปถึงคนรักยิ่งปวดหัวใจ ตัวหล่อนไม่มีค่าพอสำหรับเขาอีกต่อไปแล้ว ตัวหล่อนแปดเปื้อนไปด้วยราคีที่อีกฝ่ายเอามาป้ายไว้ ไหนจะแม่อีก “แม่!!” ร่างบางลุกขึ้นนั่งขึ้นทันทีที่คิดถึงแม่ขึ้นมา มือบางกระชับผ้าห่มผืนเดิมขึ้น รู้สึกหนาววาบเมื่อลมพัดเข้ามาทางหน้าต่าง ใบหน้างดงามเปื้อนน้ำตาเหลียวมองหาศิลา เขาไปไหน… แอ๊ด... เสียงประตูที่เปิดเข้ามาทำให้หญิงสาวชะงัก ก่อนขยับตัวจนชิดพนักพิงของเตียง เมื่อร่างสูงในชุดอยู่บ้านสบายๆ เดินยิ้มมาหาหล่อน หญิงสาวเม้มปากแน่นแล้วเชิดหน้าไม่สบตาเขาแม้แว๊บเดียว “ตื่นแล้วเหรอ หิวหรือยังจ๊ะทูนหัว...” คำพูดของเขาทำให้หญิงสาวรู้สึกแปลกๆ หากแต่ก็ยังบอกตัวเองว่าหล่อนรังเกียจเขาที่สุด! “ไม่!”คิ้วหนาเลิกสูง มือสองข้างล้วงกระเป๋านิ่ง ไหล่หนาไหวเบาๆ ก่อนสาวเท้าเข้ามานั่งข้างร่างบางหน้าตาเฉย “จะนอนอยู่แบบนี้จริงๆ หรือ หรือว่าอยากให้ฉันปล้ำอีก ติดใจใช่ไหม” ประโยคสุดท้ายกระซิบจนแทบชิดริมฝีปากบางๆ หญิงสาวสะบัดหน้าหนีพร้อมกับปล่อยมือข้างหนึ่งที่กุมผ้าไว้ผลักใบหน้าคมคายออกห่างอย่างไม่เสียเวลาคิด “ในเมื่อคุณได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วก็พาฉันไปส่งเสียทีสิ!” อิ่มอรุณตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่พูดถึงเรื่องที่แล้วมากับคนตรงหน้าอีก หล่อนอยากออกไปจากที่นี่เต็มที ไปให้พ้นคนเลวตรงหน้านี้ ไปให้พ้นคนที่พรากพรหมจรรย์ไปจากหล่อน! “ใครว่าฉันได้สิ่งที่ต้องการแล้ว ยังหรอกอิ่ม ฉันยังไม่ได้สิ่งนั้นเลย รอก่อน อีกนิด” พูดพลางยกมือขึ้นไล้ท่อนแขนกลมกลึง หญิงสาวยกแขนหนีพร้อมกับแหวออกมาอย่างเหลืออด “บ้าสิ! คุณจะเก็บฉันไว้ทำไม คุณต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ คุณต้องการอะไรกันแน่!” ดวงตาสีเข้มวาววับ เมื่อคิดถึงสิ่งที่เขาต้องการ แต่เมื่อสบตาไม่ไว้ใจของอีกฝ่ายจึงกระตุกยิ้มแล้วเอ่ย “ก็ต้องการเธอน่ะสิ ถ้าไม่เชื่อ ให้ฉันย้ำให้แน่ใจอีกครั้งก็ได้นะอิ่ม” “บ้า!” หญิงสาวกระเถิบหนีเมื่ออีกฝ่ายโน้มตัวทำท่าคว้าหล่อนไว้ ก่อนจะหัวเราะเมื่อทำให้หญิงสาวกลัวได้ “เธอยังไม่ต้องรู้หรอก ขออย่างเดียว แค่ทำตัวดีๆ แล้วฉันจะพาเธอไปส่งที่บ้าน...” คำว่า ‘บ้าน’ ทำให้อิ่มอรุณหัวใจกระตุก คิดถึงมารดาและคนรักขึ้นมาอีกครั้ง “ไม่ได้นะ! ฉันต้องกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ฉันหายมาแบบนี้แล้วแม่จะอยู่ยังไง ท่านต้องเป็นห่วงฉันแน่ ร้านด้วยแล้วใครจะดูแล ไหนจะ...” ดวงตากลมโตช้อนขึ้นมองคนหน้าตึง เมื่อหล่อนเตรียมเอ่ยถึงภควัติ ก่อนจะคิดว่ามันเป็นสิทธิ์ของเธอ ที่จะพูดถึงใครก็ได้ “ไหนจะภีมอีก ถ้าเขารู้ว่าฉันหายไป เขาต้องเป็นห่วงแน่...” “เธอยังคิดว่ามันจะห่วงอีกหรือ ถ้ารู้ว่าเธอเป็นเมียฉัน นอนอยู่กับฉันแบบนี้นี่นะ!” ดวงหน้าหวานแดงก่ำ ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน มือเรียวกำแน่น หัวใจเต้นถี่อยากฆ่าเขาให้ตายนัก อีกฝ่ายแสยะยิ้มออกมาอย่างยั่วเย้า “เรื่องอื่นเธอไม่ต้องห่วง เพราะแม่เธอท่านจะรู้ว่าลูกสาวไม่อยู่บ้านเพราะอะไร และที่ร้านเธอก็จะเปิดไปตามปกติ ส่วนไอ้คนที่เธอคร่ำครวญหามันก็จะแค่หงุดหงิดนิดหน่อย ที่แฟนหายไปสักพัก” คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น แปลกใจว่าอีกฝ่ายทำอย่างไร “คุณทำอะไร! คุณบอกอะไรกับพวกเขา” ดวงหน้าเคร่งเครียดและซีดเผือดทำให้ชายหนุ่มลุกขึ้นแล้วเดินไปยังห่อกระดาษ ก่อนกลับมาอีกครั้งพร้อมส่งให้หญิงสาวแล้วบอก “นี่เสื้อผ้าของเธอ ใส่ซะ จะได้ลงไปข้างล่างกัน” บอกพลางหมุนตัวเดินห่างออกไป หญิงสาวมองห่อกระดาษในมือแล้วเงยขึ้นมองคนที่กำลังจะออกไปจากห้องแล้วตัดสินใจเรียกไว้ “เดี๋ยวก่อน!” คิ้วหนาเลิกขึ้นเป็นเชิงถาม หญิงสาวขยับตัวนิดหนึ่งมือกอดห่อผ้าแน่น “คุณยังไม่ตอบฉันเลย ว่าคุณบอกอะไรกับแม่ของฉัน” และก็ภีมด้วย หญิงสาวยั้งปากไว้ได้ทันอีกประโยคที่จ่อรออยู่ที่ริมฝีปาก ชายหนุ่มหันกลับมาทั้งตัว สีหน้าของเขาเคร่งขรึมต่างไปจากศิลาคนก่อนหน้านี้ “ก็แค่บอกว่าเธอต้องไปต่างจังหวัดด่วน อีกสักพักเธอจะกลับมาเอง ไม่ต้องตามก็แค่นี้ ง่ายจะตายจริงไหมคนสวย” “ใครเขาจะเชื่อคุณ! คนหายตัวไปโดยไม่บอกกล่าวล่างหน้าแบบนี้” หญิงสาวเปรยออกมาอย่างดูแคลน หากแต่ชายหนุ่มกลับหัวเราะหึๆ พลางนึกถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่มีน้ำเสียงเหมือนกับอิ่มอรุณราวคนๆ เดียวกัน ซึ่งเขาว่าจ้างให้โทรศัพท์บอกกับมารดาของหล่อน หญิงสาวฟังเขาบอกเล่าทุกอย่างด้วยสีหน้าแดงจัด โกรธเขาจนเหลือประมาณ โกรธจนอยากกรีดร้องให้กึกก้อง “คุณทำแบบนี้เพื่ออะไรกัน บอกฉันได้ไหม ฉันไปทำอะไรให้คุณ” เสียงแหบพร่าบ่งบอกถึงความเจ็บช้ำและไม่เข้าใจของหญิงสาว ทำให้ชายหนุ่มเหลือบสายตามองออกไปทางหน้าต่าง ใบหน้าสวยหวานของรินลดาลอยมาวูบหนึ่งก่อนจางหายไปรวดเร็ว พร้อมกับความโกรธที่เริ่มกรุ่นขึ้นมาเป็นริ้วๆ “ฉันจะบอก ก็ต่อเมื่อฉันคิดว่าถึงเวลาแล้ว แต่ไม่ใช่ตอนนี้ เพราะตอนนี้เธอต้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ฉันเอามาให้เสียก่อน แต่ถ้าเธอไม่ทำตามก็ไม่เป็นไร เพราะฉันจะได้ทำอะไรๆ ที่ยังอยากทำเสียเลย...” เมื่ออีกฝ่ายพูดจบหญิงสาวก็ทะลึ่งพรวดลงจากเตียงพร้อมกับห่อผ้า แล้วตรงไปยังห้องน้ำที่อยู่ในห้องนั่นอย่างไม่ต้องรอให้เขาพูดซ้ำ ร่างสูงเกือบเดินตามไปแกล้งหญิงสาว หากแต่ร่องรอยบางอย่างที่เปรอะเปื้อนจนเป็นจุดเล็กๆ บนผ้าปูที่นอนทำให้ฝ่าเท้าได้รูปชะงักกึก หัวใจแข็งกระด้างอ่อนยวบ ดวงตาแข็งกร้าวอ่อนแสงก่อนมองไปยังเจ้าของร่องรอยที่หายลับไปในห้องน้ำด้วยสายตาอ่อนโยน... สายน้ำที่พร่างพรมรดตัวไม่ช่วยให้ราคีคาวนั้นหลุดออกได้อย่างใจคิด หากแต่กลับฝังแน่นตรึงไปในจิตใจอย่างยากจะไถ่ถอน น้ำตาร้อยพันหยาดหยดรดรินไม่ยอมหยุด ร่างบางสะอื้นไห้คิดถึงสิ่งที่สูญเสีย ใบหน้าคนรักลอยวนคล้ายจะเตือนไม่ให้ลืมกัน “ภีม... อิ่มจะทำยังไง จะทำยังไงดี” ร่างบางรูดทรุดลงนั่งกับพื้นห้อง ปล่อยให้สายน้ำสะอาดชะล้างคราบคาวโลกีย์แทนหล่อน หากแต่คนที่คอยอยู่ภายนอกชักเริ่มหงุดหงิด ร่วมครึ่งชั่วโมงแล้วที่อิ่มอรุณใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำ... “จะนอนในนั้นเลยหรือยังไงนะ” ชายหนุ่มบ่นอย่างหัวเสียขณะยืนพิงกับขอบหน้าต่าง แต่เพียงครู่เสียงประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออก พร้อมด้วยร่างแบบบางของอิ่มอรุณที่เดินออกมาด้วยเครื่องแต่งกายใหม่ที่อีกฝ่ายเตรียมไว้ให้หญิงสาวก่อนหน้านี้ คนที่เดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำชะลอฝีเท้า เมื่อร่างสูงของคนที่ถือวิสาสะบังคับครอบครองตัวหล่อนยืนกอดอกมองมายังร่างระหงเขม็ง “ทำไมนานจัง เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก...” คำถามนั้นทำให้คนที่เพิ่งออกมาชะงัก น่าแปลก... อิ่มอรุณไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคเมื่อครู่ออกมาจากปากของผู้ชายที่ใช้กำลังข่มเหงรังแกหล่อนเลยสักนิด แต่หญิงสาวไม่ตอบ หล่อนเดินไปยังราวโครเมี่ยมใกล้ๆ แล้วตากผ้าขนหนูผืนเล็กไว้บนนั้น ก่อนหันไปสบตาเขา “ฉันเรียบร้อยแล้วคะ” คนที่ยืนอิงขอบหน้าต่างยิ้มมุมปาก ก่อนจะเดินมาและหยุดอยู่ตรงหน้าหล่อน เขามองดวงหน้าผ่องใสรูปหัวใจ ดวงตากลมโตหม่นแสง จมูกโด่งเล็กเชิดปลายน้อยๆ บ่งบอกถึงความดื้อรั้นไม่เบา และริมฝีปากอิ่มย้อยได้รูปน่าจุมพิต แล้วเขาก็ทำอย่างที่คิดทันที... “อื้อ... บ้าหรือไงนะ!” อิ่มอรุณสะบัดหน้าหนีริมฝีปากร้อนๆ ไปทางหนึ่ง เป็นเหตุให้จมูกและปากของชายหนุ่มพลาดไปซบกับแก้มนวลหอมกรุ่น ซึ่งก็ถือว่าพอจะทดแทนกันได้ หญิงสาวขนลุกซู่เมื่ออีกฝ่ายถูกไถใบหน้ากับพวงแก้มนุ่มหอม มือเล็กทั้งผลักและดันอกกว้างเต็มแรง หากแต่เอวคอดกิ่วที่ถูกโอบรัดไว้ด้วยอ้อมแขนแข็งแรงไม่อาจทำให้หล่อนขยับเขยื้อนได้สักกี่มากน้อย ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วๆ ผ่านลำคอแข็งแกร่งของอีกฝ่าย หญิงสาวยิ่งโกรธจนร้อนวูบวาบไปทั้งตัว! “ปล่อยนะ! คุณมันบ้า! ตายอดตายอยากมาจากไหนหา! เกิดมาไม่เคยพบเคยเจอผู้หญิงเลยหรือไง! คุณมายุ่งกับฉันแบบนี้ เอาพี่สาวฉันไปไว้ไหน!!” คำถามที่แผดก้องออกมาอย่างสิ้นสุดความอดทนทำให้คนที่กำลังซุกหน้าลงหาซอกคอหอมๆ ชะงักกึก เพียงครู่เจ้าของใบหน้าคมเข้ม ดวงตาคมกริบและริมฝีปากได้รูปร้อนผ่าวจึงค่อยๆ เงยขึ้นสบตาดวงโตราวนางเสือสาวด้วยแววตาวาววับ โทสะและความแค้นที่ถูกระงับไปก่อนหน้านี้ผุดขึ้นมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว เมื่ออิ่มอรุณเป็นคนกระตุ้นความทรงจำให้กับเขา! “ผู้หญิงคนนั้น ก็อยู่ในที่ๆ ควรอยู่ ส่วนเธอ อย่าทำเป็นปากดีไปเลยคนสวย เพราะต่อจากนี้ไป เธอจะต้องมาทำหน้าที่แทนพี่สาวของเธอทุกคืน... ทุกวัน จำไว้!” พูดจบร่างเล็กก็ถูกชายหนุ่มกระชากตรงไปยังประตูบานสูงทันที หญิงสาวถลาตามแรงดึงนั้นไปอย่างไม่อาจขัดขืน ดวงหน้างามแดงก่ำเพราะความโกรธ “ฉันไม่ยอมคุณง่ายๆ หรอกนะคุณศีล! คอยดูฉันจะบอกกับพี่ลดา ให้ไปจากผู้ชายเฮงซวยอย่างคุณซะ คนอย่างพี่ลดาควรเจอผู้ชายที่ดีกว่าคุณ!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD