10

1450 Words
๑๐ ข้าวในจานกระเบื้องสีขาวปลอดถูกเขี่ยไปมาจากช้อนของอิ่มอรุณ ศิลาหลุบตาลงมองข้าวที่เหลือเกินกว่าครึ่งจานของหญิงสาวด้วยสายตาคมปราบ ก่อนจะเปรยออกมาลอยๆ คล้ายกระตุ้นคนทำท่าซังกะตายให้ตื่นตัว “นี่ถ้าฉันอิ่มแล้วเธอยังกินไม่หมดจานนี้ล่ะได้เห็นดีแน่” มือเรียวชะงักกึก ใบหน้าที่เหม่อมองลงไปยังเมล็ดข้าวสวยเงยขึ้นมองเขาด้วยแววตาวาววับ ต่างจากอีกฝ่ายที่พอบอกแล้วก็ตักข้าวใส่ปากเคี้ยวคล้ายอร่อยนักหนา เป็นเหตุให้รู้สึกอยากท้าทาย และหล่อนก็ทำอย่างใจคิด “ฉันอิ่มแล้ว...” ช้อนในมือถูกรวบและวางลง แก้วน้ำข้างๆ ถูกยกขึ้นดื่ม เสร็จแล้วใบหน้าหวานจึงเมินมองไปยังที่ที่ไม่มีเขา หากแต่อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมองคนที่กำลังยั่วอารมณ์เขานิ่ง ก่อนกระตุกยิ้มมุมปากขณะกลืนข้าวคำสุดท้ายลงคอ “จริงเหรอ...” อิ่มอรุณหันกลับมามองคนถาม คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น “อะไร” “ฉันถามว่า จริงเหรอ... ที่ว่าอิ่มน่ะ” จานสีขาวถูกเลื่อนให้พ้นทางพร้อมสำรับกับข้าว หากตรงหน้าคือร่างสูงใหญ่ที่ขยับเข้ามาแทนที่ คราวนี้อิ่มอรุณเริ่มวิตกจริต ก็ไอ้ท่าทางเงียบๆ นิ่งๆ ยิ้มๆ แบบนี้มันน่าไว้ใจเสียเมื่อไรกัน!! “เอ่อ ก็... ก็ฉันไม่ค่อยหิวเท่าไร คือก็...” “ฉันถามว่าเธออิ่มแล้วจริงๆ นะหรือ...” คนหน้าเข้มยังคงย้ำคำเดิม ความจริงฟังดูมันก็ไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิด แต่ทว่าบางอย่างจากนัยน์ตาของเขากำลังทำให้หล่อนสั่น... หญิงสาวสบตาคมกริบที่ดูมีเลศนัยอย่างไม่ปิดบังแล้วใจสั่น หากแต่เมื่อคิดว่าเรื่องอะไรจะต้องกลัว จึงทำให้หญิงสาวจ้องตากลับไปอย่างไม่พลันพรึง... ทั้งที่ความจริงในตอนนี้ใจหล่อนฝ่อจนเหลือนิดเดียวแล้ว “ค่ะ! ฉันอิ่มแล้ว” ใบหน้าคมคายระบายยิ้ม “ดี! งั้นเธอก็พร้อมจะทำหน้าที่แล้วสินะ” หญิงสาวขยับถอยหลังหนีทันทีที่อีกฝ่ายเอ่ย ทำตาโตมองเขา ลมหายใจติดขัด ขาข้างหนึ่งหย่อนลงวางบนพื้นดินเตรียมตัวเต็มที่ที่จะกระโจนหนีหากเขาคิดจะทำอะไรหล่อนขึ้นมาอีก “หน้าที่อะไร” ถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่แสดงให้อีกฝ่ายรู้ว่าหล่อนกำลังระแวงเขาน่าดู ชายหนุ่มหัวเราะหึหึแล้วตอบ “ก็หน้าที่เมียน่ะสิ! เธออิ่มแล้ว! แต่ฉันน่ะ ยังไม่อิ่ม!” พูดจบมือหนาก็คว้าหมับเข้าที่ต้นแขนกลมกลึง หญิงสาวทำท่าจะร้องกรี๊ดกลับหยุดลง เมื่อนายเฒ่าและนางมาเดินมาเก็บสำรับกับค้อน “ให้ผมเก็บไปเลยนะขอรับคุณศีล” ศิลาพยักหน้า มองสองผัวเมียด้วยสายตาดุๆ สองครั้งแล้วที่สองคนนี้เข้ามาขัดจังหวะ หากแต่ชายหนุ่มไม่ได้ว่าอะไรนอกจากจะรอให้ทั้งคู่ออกไปจึงค่อยจัดการอิ่มอรุณต่อ หญิงสาวมองตามสองตายายด้วยสายตาครุ่นคิด หากหล่อนจะหนีออกไปจากที่นี่ได้ ก็มีสองคนนั้นเท่านั้น ที่จะช่วยหล่อนให้หนีออกไปจากที่นี่ได้ หากแต่ความคิดของหญิงสาวไม่เป็นความลับ เพราะขณะที่หล่อนครุ่นคิดวางแผนอยู่นั้น ดวงตาคู่คมก็หรี่ลงอย่างรู้ทัน “อย่าพยายามคิดวางแผนให้มันวุ่นวายไปเลยอิ่มอรุณ ฉันว่าแทนที่เธอจะเอาเวลาไปวางแผนไร้สาระนั่น น่าจะเอามาคิดว่าจะทำยังไงให้ฉันพอใจมากถึงมากที่สุดน่าจะดีกว่านะ” คำพูดอย่างเห็นแก่ตัวแบบสุดโต่งของศิลาทำให้อิ่มอรุณอยากหาอะไรมาทุบศีรษะของเขาหนักๆ สักที เผื่อในสมองของเขาจะคิดอะไรที่ดีกว่านี้เป็นบ้าง ไม่ใช่จ้องแต่จะลากหล่อนขึ้นเตียงเท่านั้น! “ทุเรศ! ฉันอยากผ่าสมองคุณออกมาดูจริงๆ ว่าในนั้นมันมีอะไรอยู่บ้างนอกจากเรื่องอย่างว่า!” อิ่มอรุณส่วนกลับทันควัน หากแต่อีกฝ่ายไม่สะทกสะท้านสักนิด ตรงข้ามกลับยิ้มยั่วตามแบบฉบับของเขาเสียอีก “เธอนี่มันซาดิสต์ดีจริงๆ แต่ก็ขอให้ซาดิสต์ได้ตลอดรอดฝั่งทีเถอะ เพราะบางทีเรื่องอย่างว่าที่เธอว่า ฉันก็อยากจะลองพลิกแพลงดูมั่ง เผื่อมันจะทำให้เร้าใจยิ่งกว่าเดิม เธอคิดเหมือนฉันไหมล่ะ” แทนที่เขาจะโกรธ กลับยียวนชวนเส้นเลือดในสมองแตกตายนัก หญิงสาวเม้มปากแน่นพลางคิดหาหนทางเพื่อเอาตัวรอดอย่างสุดความสามารถ เอาเถอะ! ตอนนี้เขาอยากได้อะไรก็ให้เขาไปก่อน จะว่าไป หล่อนไม่มีอะไรให้เสียอีกแล้ว ของแบบนี้มันต้องลองเสี่ยง ในเมื่อเขาอยากได้นัก หล่อนก็จะให้! ทางด้านรินลดาที่กำลังมาขอความช่วยเหลือจากอิ่มอรุณก็ต้องผิดหวังกลับไป เมื่ออีกฝ่ายไม่อยู่ที่ร้านและได้รับคำตอบว่าน้องสาวเดินทางไปต่างจังหวัด แต่ไม่ว่าหล่อนจะติดต่ออย่างไรก็ไม่สามารถติดต่อได้เลย “ยายอิ่มนะยายอิ่ม ไปจังหวัดไหนนะ” รินลดาเปรยกับตนเองเบาๆ พลางคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตหล่อนกันแน่ คนที่รู้จักจึงพากันหายหน้าไปหมด หญิงสาวกลับห้องพักอีกครั้งด้วยความหงุดหงิด แล้วตั้งใจไว้ว่าจะต้องติดต่อกับอิ่มอรุณให้ได้ เมื่อมาถึงหญิงสาวจึงจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้า หากแต่เพียงครู่เดียวก็มีเสียงเรียกเข้าดังออกมาจากกระเป๋าถือ แล้วต้องขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเลยสักนิด หากแต่ก็รับในที่สุด “ฮัลโหล รินลดาพูดค่ะ” “ว่าไงลดา จำผัวเก่าได้หรือเปล่าจ๊ะ”จากที่แปลกใจกลายเป็นเจ็บใจขึ้นมาทันที แน่นอนหล่อนจำได้แม่น ไอ้ผู้ชายเฮงซวย!! “ผัวฉันมีคนเดียวคือคุณศีล! ส่วนแกฉันให้เป็นได้แค่เหลือบไรที่คอยเกาะอยู่ตามผิวหนังเท่านั้นล่ะ!!”คนปลายสายถึงกับมุมปากกระตุก หากแต่เพียงครู่เดียวก็เปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะ “ฮะ ฮะ อะไรกันหนอ ถึงทำให้เธอลืมบทรักอันแสนจะร้อนแรงจากฉันไปได้นะทูนหัว แต่เอาเถอะ! ในเมื่อเธอลืม ฉันก็จะเตือนความจำเธอหน่อย อ้อ จำได้เมื่อไรก็โทรหาฉันนะจ๊ะที่รัก” ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด... “อ๊าย! ไอ้บ้า! แก...” รินลดาชะงัก เมื่อมีเสียงข้อความดังขึ้น หญิงสาวกดดูข้อความทันที แต่เพียงแค่เปิดดูเสียงที่ดังออกมาทำให้รินลดาแทบกระอัก! ใบหน้างามเผือดซีดจนไร้สีเลือด ก่อนจะกรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บใจสุดบรรยาย “กรี๊ดดด!! อ๊ายย ไอ้เลว!! ฮือ...” โทรศัพท์ถูกขว้างทิ้งทันที เมื่อพบว่าข้อความที่ถูกส่งให้นั้นไม่ใช่ข้อความธรรมดา หากแต่เป็นข้อความภาพพร้อมเสียง หรือเรียกง่ายๆ ก็คือคลิปวิดีโอนั่นเอง ที่สำคัญนักแสดงนำในเรื่องก็เป็นหล่อนและนาวีเสียด้วย... “ไอ้สารเลว... ฮือ ฉันจะฆ่าแก” รินลดาพร่ำด่านาวีพร้อมกับร้องไห้ไปพลาง ทั้งเจ็บใจและเสียใจที่เสียรู้อีกฝ่ายมาโดยตลอด และเพิ่งรู้ว่า ตลอดระยะเวลาที่ลักลอบคบหน้ากันมา นาวีคงแอบถ่ายคลิปพวกนี้ไว้ตลอด... หญิงสาวเหลือบตามองโทรศัพท์ที่ปาไปค้างอยู่บนเตียงนอน ก่อนจะตัดสินใจเดินไปเก็บแล้วโทรกลับตามที่อีกฝ่ายสั่งไว้ เพราะรู้จักนาวีดี ว่าหากอีกฝ่ายพูดเช่นนั้น ย่อมหมายความว่าอาจมีสิ่งผิดปกติที่นิ่งเฉยไม่ได้แน่นอน ส่วนคนที่นั่งรออย่างสบายอารมณ์อยู่บนโซฟาหนานุ่มแสยะยิ้มแทบจะทันที เมื่อเสียงโทรศัพท์มือถือเครื่องเดิมดังขึ้นหลังจากวางสายลงไปไม่นานนัก ชายหนุ่มแกล้งทำนั่นทำนั่นยังไม่รับในทันที ขณะที่คนโทรรู้สึกร้อนรนจนแทบทนไม่ไหว “โธ่โว้ย! ทำบ้าอะไรทำไมไม่รับเล่าวะ!” รินลดาสบถเสียงดัง กดโทรศัพท์หามือเป็นระวิง คนปลายสายยิ้มเยือกเย็น ก่อนจะรับในที่สุด “ฮัลโหล... ว่าไงจ๊ะที่รัก” “แก! แกทำแบบนี้ทำไม” เมื่อได้ยินเสียงกราดเกรี้ยวของรินลดา ก็ยิ่งทำให้นาวีพอใจและนึกถึงใบหน้าถมึงทึงของอีกฝ่ายอย่างอารมณ์ดี
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD