7

1975 Words
๗ เสียงสะอื้นไห้เป็นระยะจากร่างบางข้างกายทำให้คนที่นอนนิ่งเป็นขอนไม้ข้างๆ ถึงกับถอนหายใจเฮือก ใบหน้าคมคายพลิกมองเจ้าของแผ่นหลังเนียนผุดผ่องแล้วขมวดคิ้วมุ่น นึกก่นด่าตนเองในใจว่าทำไมเขาจึงกลายเป็นพวก ‘มีตาแต่หามีแววไม่’ไปเสียได้ ชายหนุ่มพลิกตัวตะแคงมองร่างเล็กที่สั่นสะท้านเป็นห้วงๆ แล้วให้นึกโมโหตนเองนัก เขายังจำได้ไม่ลืมเลือนตอนที่ต้องชะงักกลางคันเมื่อความคับแน่นบีบรัดจนอึดอัด และเสียงกรีดร้องก็หวีดหวิวออกมาจากคนตัวบางข้างหน้า นั่นเองจึงทำให้เขาตาสว่างและรับรู้ว่าสิ่งที่เคยคิดและเข้ามาใจตลอดนั้นผิด อิ่มอรุณยังเป็นสาวพรหมจรรย์! หล่อนยังไม่เคยถูกล่วงล้ำ ไม่มีใครที่หน้าไหนได้ชิดใกล้เหมือนที่เขาได้ใกล้ชิด! แม้แต่ไอ้หน้าอ่อนนั่น!ใบหน้าหล่อเหล่าสั่นหน้าน้อยๆ รู้สึกผิดลึกๆ ก่อนยกมือขึ้นแตะลงไปบนลาดไหล่เนียนมือ หากแต่เจ้าหล่อนกลับขยับตัวหนีทันทีพร้อมกับร้องห้ามเสียงแผ่วเจือสะอื้น “อย่า! อย่ามาถูกตัวฉันนะ!” ศิลาถอนหายใจเฮือก เมื่อได้ยินคำพูดที่นางเอกชอบใช้กันหลังเสียตัวให้พระเอก “ช้าไปแล้วล่ะ ฉันถูกจนไม่รู้จะถูกยังไงแล้ว” ไม่พูดเปล่า มือเรียวได้รูปของชายหนุ่มก็เหนี่ยวไหล่เล็กให้พลิกกลับมาหาเขา หญิงสาวถอยหนีเพราะไม่คิดจะยอมเขาอีกแล้ว หล่อนโง่มากที่คิดว่าตนหมดสิ้นทุกอย่างไปในคราวแรกที่ตื่นขึ้นมารับรู้ หากแต่ความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลยสักนิด! เมื่อคิดมาถึงตอนนี้น้ำตาก็ทำท่าจะเอ่อไหลออกมาอีกครั้ง “อ้าว ร้องไห้ทำไมล่ะ ไม่เอาน่า ฉันก็... ไม่ได้ทำเธอเจ็บนักไม่ใช่เหรอ” แทนที่เขาจะหาค่ำที่พูดแล้วคนฟังรู้สึกดีขึ้น กลับถนัดงัดเอาคำที่ทำให้คนอื่นเสียใจขึ้นมาปลอบแทน เป็นเหตุให้หญิงสาวตวัดสายตาขึ้นมองเขาอย่างกราดเกรี้ยว “คุณมันเลว!” คำผรุสวาทที่หญิงสาวเอ่ยออกมาทำให้อีกฝ่ายขมวดคิ้วมุ่น เขาไม่คิดว่าจะต้องยอมให้หล่อนนั่งด่า นอนด่าเสมอไปหรอกนะ “อย่าด่าให้ฉันได้ยินอีก”บอกด้วยแววตาวาววับ แต่หญิงสาวกลับกระตุกยิ้ม ทั้งที่สองข้างแก้มยังเปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา ก่อนยั่วอารมณ์อีกฝ่ายด้วยความโกรธและเกลียด “ทำไม! คุณจะทำไมฉัน ยังมีอะไรที่คุณจะทำฉันได้อีก คนเลว!!” ไม่ทันขาดคำศีรษะของหญิงสาวก็ถูกชายหนุ่มกระชากเข้าหาทันที ปากจิ้มลิ้มแต่ร้ายกาจถูกตะปบด้วยริมฝีปากกระด้าง เป็นจูบที่หยาบคายและไร้ซึ่งความอ่อนโยน และเวลานี้ ทั้งเขาและหล่อนก็กำลังได้ลิ้มรสเค็มปร่าของหญิงสาว คิ้วหนาขมวดมุ่นก่อนจะผลักร่างบางออกห่างทันทีจนหญิงสาวแทบหงายหลัง ก่อนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกร้าวกระด้าง “จำไว้นะอิ่มอรุณ! ต่อไปนี้ถ้าเธอด่าฉันอีก ฉันจะถือว่าเธอเชิญชวนฉัน เธอด่า ฉันปล้ำ!” ดวงตาคมกริบวาววับรับริมฝีปากกระตุกยิ้มเหี้ยม ขณะที่หญิงสาวถลึงตาใส่เขา ทำให้อีกฝ่ายท้าทายทันที “แต่ถ้าเธอคิดจะลองดีกับฉันก็ด่าได้เลย และรับรองว่าคราวนี้ฉันจะทำให้เธอร้องขอความปรานีจากฉันเลยล่ะ อิ่มอรุณ! ลุกขึ้น!” ร่างบางถูกชายหนุ่มกระตุกให้ลุกขึ้นตาม แต่ทว่าหญิงสาวกลับขืนตัวเอาไว้อย่างสุดกำลัง “ไม่! ปล่อยนะ” ร้องบอกพลางตะครุบผ้าเอาไว้แน่น หากแต่เขาไม่คิดจะยอมให้หญิงสาวชนะได้ เขาเท่านั้นที่ต้องเป็นผู้ชนะ และเป็นเขาเท่านั้นที่จะออกคำสั่งได้ ไม่ใช่หล่อน! “จะเอาแบบนี้ใช่ไหมอิ่ม!” ถามพลางสบตากลมโตราวตากวางแต่วาววับเพราะความโกรธเขม็ง หากแต่หญิงสาวไม่คิดจะยอม ก็บอกแล้วว่าหล่อนไม่มีทางยอมเขาอีกเด็ดขาด! “ไม่! ฉันไม่ไปไหนกับคุณทั้งนั้น!”สิ้นเสียงพูด ผ้าห่มผืนหนาก็ปลิวหวือออกจากร่างนวลเนียนขาวผ่องในพริบตา หญิงสาวตกตะลึงแทบช็อค ดวงตากลมโตเบิกกว้างสบตาเขา ก่อนก้มลงมองร่างเปลือยเปล่าของตนด้วยความตกใจสุดขีด “ว้าย!! ไอ้คนบ้า เอาผ้ามาเดี๋ยวนี้นะ!!” อิ่มอรุณกรีดร้องออกมาด้วยความอับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี ขณะที่พยายามยกขาทั้งสองข้างขึ้นชันเข่า แล้วยกมือทั้งสองกอดเอาไว้เพื่อปิดบังเนื้อตัวและสัดส่วนสงวนจากสายตาที่มองมาไม่กะพริบ “อย่ามองนะ เอาผ้าคืนมานะ!” หญิงสาวบอกเสียงสั่นๆ หน้าตาแดงก่ำคล้ายจะร้องไห้อีกครั้ง ทำให้คนที่อยู่ในสภาพหมิ่นเหม่ไม่ต่างกันกระตุกยิ้มขบขัน หากแต่เมื่อไล้สายตาลงไปบนเนื้อตัวขาวผ่องกับผิวเนียนละเอียดแล้วให้รู้สึกตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้งอย่างห้ามไม่อยู่ หล่อนตัวเล็กนิดเดียวแต่กลับมีอิทธิพลต่อเขาอย่างมหาศาล และตอนนี้หล่อนก็กำลังทำให้เขาเกิดความต้องการในตัวหล่อนขึ้นมาอีกครั้งอย่างไม่น่าเชื่อ “เรื่องอะไรล่ะ ฉันไม่ให้ เธอดื้อกับฉันก่อนทำไมล่ะ แต่ถ้าอยากให้ฉันคืนให้ ต้องเข้ามาขอโทษฉันก่อน ไม่อย่างนั้น เธอก็อยู่แบบนี้ทั้งวันไปก็แล้วกัน” ชายหนุ่มพูดพลางทำท่าลุกขึ้นยืนโดยมีผ้าที่ยึดมาจากหล่อนพันตัวเขาไว้ เพื่อปกปิดบางสิ่งบางอย่างที่กำลังเกิดปฏิกิริยาจากสายตาของหล่อน อิ่มอรุณเบิกตาขึ้น กลัวเขาจะทิ้งหล่อนไว้อย่างนี้ก็กลัว แต่หากให้เข้าไปหาเขาทั้งอย่างนี้ก็กลัวอีก กลัวว่าเขาจะล่วงล้ำกล้ำเกินหล่อนอีกหน “ก็ คุณเอามาให้ฉันก็ได้นี่ ทำไมต้องแกล้งฉันด้วย โรคจิตหรือไง” หญิงสาวพูดเสียงสั่น กลัวเขาจะปล้ำ และเกลียดจนไม่อยากเข้าใกล้ แต่ถ้าไม่ไปอีกฝ่ายอาจทำอย่างที่เขาพูด เพราะเขาพิสูจน์ให้หล่อนได้เห็นแล้วครั้งหนึ่งว่าเขาพูดจริงและทำจริง! “ตามใจ ไม่เอาก็อย่าเอา ฉันไปล่ะ” คนที่ยืนรอหล่อนเดินห่างออกไปทันทีเป็นเหตุให้คนที่กำลังตัดสินใจร้องเรียกออกมาทันควัน “เดี๋ยวคะ ฉะ ฉันยอมก็ได้ ขอโทษ คุณศิลาฉันขอโทษ ขอผ้าคืนให้ฉันด้วยนะคะ” หญิงพยายามข่มความโกรธที่มีต่อชายหนุ่ม แล้วขอโทษออกมาตามที่อีกฝ่ายต้องการ หากแต่เขากลับเลิกคิ้วขึ้นด้วยท่าทางยียวน หญิงสาวเม้มปากแน่นเมื่อคิดว่าหากเขายังเล่นลิ้นอีกล่ะก็ เห็นทีคราวนี้คงต้องแสดงให้เขารู้เสียงบ้างแล้ว ว่าหล่อนไม่ใช่หมูในอวยที่จะปล่อยให้เขาทำยังไงก็ได้ “ว่าไงล่ะค่ะ จะคืนหรือไม่คืน!!” “ไม่คืน!!” ตอบทันควันพลางเลิกคิ้วเช่นเดิม หญิงสาวเม้มปากกำมือแน่น ก่อนจะตัดสินใจเป็นไงเป็นกัน ร่างเล็กสะบัดผึงกระโดดลงจากเตียงทั้งที่เปล่าเปลือย ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว จะอายไปทำไม ขอให้สะใจไว้ก่อนเถอะ! เผียะ! เผียะ! เสียงฝ่ามือกระทบบนซีกแก้มเขี้ยวครึ้มติดกันถึงสองครั้ง ก่อนที่ผ้าห่มผืนใหญ่ที่ห่อหุ้มคนตัวโตจะถูกกระตุก หากแต่อีกฝ่ายก็พันเอาไว้เสียแน่นหนา หญิงสาวจึงไม่รอช้ารัวกำปั้นเล็กๆ ทุบลงไปบนอกกว้างของชายหนุ่มไม่ยั้ง ตามแรงอารมณ์ที่เก็บกดมานาน เป็นเหตุให้คนตัวใหญ่กว่าถึงกับมึนงงไปกับความเล็กพริกขี้หนูของอิ่มอรุณ หล่อนว่องไวและมือหนักกว่าที่เขาคิด เพราะหลักฐานมันยังติดอยู่บนหน้าของเขานี่ไงแต่ก่อนที่เขาจะน่วมไปทั้งตัวมือหนาข้างหนึ่งก็รีบคว้าร่างเล็กเอาไว้ “หยุด! ฉันบอกให้หยุดไงอิ่ม!” “ไม่! ไอ้คนสับปลับ! ไอ้คนทุเรศ เห็นแก่ตัว น่าเกลียด น่าขยะแขยง ฉันจะฆ่าแก!! ว้าย!” ร้องเสียงหลงเมื่อผ้าห่มผืนหนาที่หล่อนอยากได้นักหนาถูกสะบัดหวือไปอีกทาง และสิ่งที่ทำให้หล่อนต้องร้องก็คือเรือนกายแข็งแกร่งเปล่าเปลือยตรงหน้านั่นเอง “ทุเรศ! หน้าด้าน!” อิ่มอรุณหันหลังให้คนหน้าด้านทันทีส่วนมือเล็กๆ ก็ยกขึ้นปิดหน้าตนเอง พวงแก้มร้อนผ่าวเมื่อนึกถึงสัดส่วนอันน่าเกรงขามของอีกฝ่าย ทันใดก็สะดุ้งเฮือก เมื่อความแข็งแกร่งนับแต่ศีรษะจรดเท้าแนบสนิทจากด้านหลัง หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบเมื่อถูกโอบรัดด้วยท่อนแขนแข็งแรงแน่นหนา และยิ่งอยากกรีดร้องให้ก้องปฐพีเมื่อเสียงกระซิบดังแผ่วข้างหู “ฉันบอกให้เธอขอโทษฉันใกล้ๆ ไม่ใช้ให้เธอมาทุบตีฉันนะคนสวย แต่ในเมื่อเธอทำผิดกฎที่ฉันวางไว้ มิหนำซ้ำยังทำร้ายฉันอีก เพราะฉะนั้นเธอจะต้องรับผิดชอบรอยแดงๆ ที่เธอทำไว้บนตัวฉันอิ่มอรุณ...” พูดจบทรวงอกอวบหยุ่นแน่นหนันทั้งสองข้างก็ถูกอีกฝ่ายคลึงเคล้นอย่างไม่เบามือนัก หัวใจเล็กๆ ภายใต้ฝ่ามือใหญ่เต้นระรัว ไม่ต่างไปจากท่อนขาเรียวยาวที่สั่นระริกแทบยืนไม่อยู่เมื่อถูกอีกฝ่ายโอบรัดกระชับไปทุกสัดส่วน! “ปล่อย! ฉันขอโทษแล้วนะ ปล่อยสิ ได้โปรดคุณศีลคะ อย่า...” เสียงห้ามสั่นพลิ้ว เมื่อใบหูเล็กถูกขบเม้มด้วยริมฝีปากร้อนรุ่ม “ปล่อยสิ! นี่ฉันบอกให้ปล่อย!” กรีดร้องพร้อมสะบัดตัวรุ่นแรงซึ่งเป็นอีกวิธีที่จะทำให้หล่อนหลุดพ้นจากห้วงพิศวาสได้ หากแต่นอกจากจะไม่เป็นเช่นนั้นร่างทั้งร่างกลับถูกอีกฝ่ายตวัดอุ้มไปยังเตียงกว้างอีกครั้ง แม้ดิ้นรนและขัดขืนแต่ก็ยังสู้คนตัวโตที่ทาบทับลงมาไม่ได้อยู่ดี “อย่านะ! ไม่! หยุดเสียที หยุดได้แล้ว พอแล้ว! คุณทำกับฉันยังงี้ทำไม ฉันมีเจ้าของแล้ว เข้าใจไหม! ว่ามีแล้วฉันมีเจ้าของแล้ว อื๊อ” เสียงเล็กๆ ที่กรีดร้องทั้งน้ำตาถูกริมฝีปากอุ่นหนาประกบกลืนหายทันควัน หัวใจชายหนุ่มเต้นแข่งกับหัวใจดวงน้อย รู้สึกเจ็บใจนักที่หล่อนเป็นของเขาแล้วแท้ๆ แต่กลับร้องหาผู้ชายอื่น “เธอมีเจ้าของน่ะถูกแล้ว!” ชายหนุ่มพูดแทบเป็นกระซิบเมื่อผละริมฝีปากห่างออกมา ก่อนหรี่ตาลงเมื่อสบตาคู่สวยที่ฉ่ำไปด้วยน้ำตา “แต่เจ้าของทั้งตัวและก็ใจเธอน่ะ คือฉันเท่านั้น จำไว้! ฉันที่เท่านั้นที่มีสิทธิ์” “ไม่! คุณไม่มีสิทธิ์ คนเลวอย่างคุณอย่างมากก็ได้แค่ตัวฉัน แต่ใจฉันคุณไม่มีวันได้แน่นอน! อื้อ” แก้มทั้งสองข้างถูกมือหนาคว้าหมับและบีบจนเจ็บ “งั้น…ถ้าเป็นอย่างที่เธอว่า งั้นเรามาลองดูกันสักตั้ง! ว่าใครจะใจแข็งกว่ากัน เธอหรือว่าฉัน!” ว่าแล้วใบหน้าคมคายก็ก้มลงบดขยี้ริมฝีปากหวานอีกครั้ง และคราวนี้มันก็เต็มไปด้วยความเร่าร้อนที่รุนแรงไปด้วยเพลิงแห่งโทสะซึ่งปะปนด้วยเปลวเพลิงแห่งความปรารถนา ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะถูกแผดเผาด้วยไฟพิศวาส แต่หล่อนต้องเป็นคนวอนขอจากเขาเท่านั้น และเขาจะทรมานหล่อนจนถึงที่สุด จนกว่า... หล่อนจะร้องขอความปรานีจากเขาเอง!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD