๑๒
เกือบสามทุ่มครึ่ง เสียงรถยนต์ก็ดังกระหึ่มเข้ามาภายในบริเวณที่ศิลาใช้จอดรถเป็นประจำ เพียงครู่ก็ดับลง ร่างระหงในเสื้อแขนกุดสีเหลืองอ่อนกับกางเกงผ้าเนื้อนุ่มขาสั้นนั่งอยู่บนเตียงด้วยจิตใจอันตื่นระทึก
วันนี้หล่อนคิดการใหญ่ และแน่นอน... แม้หล่อนจะเตรียมตัวอยู่แล้วแต่ก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น ถึงแม้หล่อนจะตกเป็นของเขาหลายครั้งแต่ก็ยังไม่สนิทใจ แน่ล่ะ! ใครจะไปสนิทใจกับผู้ชายคนที่ไม่เคยคิดจะรักได้เล่า ความจริงเขาคือผู้ชายแปลกหน้าสำหรับหล่อนต่างหาก แต่เขาก็เป็นคนเดียวกันกับที่กระชากพรหมจรรย์ไปจากหล่อนด้วย คิดมาถึงตรงนี้หน่วยตาคู่สวยก็วาววับด้วยหยาดน้ำ ก่อนจะกะพริบตาถี่ๆ เพื่อไล่ความหมองเศร้าและน้ำตาให้แห้งเหือดลงอย่างรวดเร็ว เมื่อยินเสียงก๊อกแก๊กและวินาทีต่อมาประตูบานสูงก็ถูกเปิดออกกว้าง พร้อมกับร่างสูงสง่าของชายที่หล่อนเฝ้ารอมาตลอดทั้งวัน...
เปล่าหรอก... หล่อนไม่ได้รอด้วยความคิดถึง หากแต่รอเพื่อให้ตนเองเป็นอิสระ และตอนนี้ เวลานั้นก็กำลังจะมาเยือนแล้ว
อิ่มอรุณหลบตาคมกริบที่มองมายังหล่อนทันทีที่ประตูถูกปิดลง หญิงสาวนึกโมโหตนเอง อุตส่าห์ทำใจได้แล้วเชียว แต่พอเจอสายตาคมๆ เข้มๆ ก็หัวใจเต้นถี่รัว ความมั่นใจหายเกลี้ยง อุตส่าห์ฝึกทำสีหน้าและแววตาให้ดูเซ็กซี่ยั่วยวนแล้วเชียว แต่พอสบตากับเขาแค่แวบเดียวสิ่งที่ตั้งใจไว้ก็มลายหายสิ้น...
“ทำไมยังไม่นอน...”
น้ำเสียงนุ่มทุ้มที่เอ่ยถาม กับร่างสูงที่มาหยุดอยู่ตรงหน้า ทำให้หญิงสาวได้กลิ่นโคโลญจน์หอมอ่อนๆ จนเผลอสูดดมเสียเต็มปอด ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่ออีกฝ่ายทรุดตัวลงนั่งข้างๆ แล้วรวบร่างของหล่อนเข้าไปกอดจนอิ่มอรุณตั้งตัวไม่ทัน หญิงสาวขืนตัวหมายจะออกห่าง แต่เมื่อนึกขึ้นได้จึงหยุดนิ่งนั่งให้เขากอดเฉยๆ ยิ่งเมื่ออีกฝ่ายก้มลงกวาดสายตามองใบหน้าหวานสลับกับการมองริมฝีปากอ่อนนุ่ม หญิงสาวก็ก็แทบลืมหายใจ กลัวว่าจะทำแผนแตก กลัวว่าเขาจะจับได้ กลัวว่าจะถูกทำโทษ
เช่นเดียวกับศิลา ดวงตาสีเข้มหรี่มองคนตัวเล็กในอ้อมแขนอย่างนึกแปลกใจ ปกติหล่อนไม่เคยยอมให้เขากอดแต่โดยดีแบบนี้เลยสักครั้ง เพราะทุกครั้งก่อนที่เขาจะทำให้หล่อนยอมศิโรราบลงได้ ก็ต่อเมื่อต่างฝ่ายต่างเหนื่อยด้วยกันทั้งคู่ แต่วันนี้อิ่มอรุณมาแปลก เพราะนอกจากจะไม่ขัดขืน แต่ตรงกันข้ามหล่อนยังโอนอ่อนผ่อนตามอย่างง่ายดายจนน่าสงสัย
แต่เอาเถอะ ไม่ว่าหัวสมองน้อยๆ ของหล่อนจะกำลังคิดแผนการไร้สาระอะไรอยู่ก็ตาม แต่เขาว่าแบบนี้ก็ดีกว่าคืนก่อนๆ ที่ต้องออกกำลังก่อนจะมีความสุขเสียทุกครั้ง และในเมื่อวันนี้หล่อนยอมเขาง่ายๆ เขาก็จะฉวยโอกาสตอนที่หล่อนกำลังคิดทำอะไรสักอย่างกับเขาหาความสุขกับหล่อนให้เต็มที่ และหลังจากนี้จะดูแลหล่อนไม่คลาดสายตา จับขังได้ขัง! มัดได้ก็จะมัด! เพราะหล่อนทำให้เขารู้สึกเคยตัวและเริ่มจะขาดหล่อนไม่ได้เสียแล้วสิ
กับใครที่ไหนไม่เคยเป็นเช่นนี้ แต่กับหล่อนเขายอมให้คนเดียว
ฮึ! ศิลานึกหมั่นไส้ความโลเลของตนเอง ก่อนนี้เขาไม่ใช่หรอกหรือที่สาปส่งผู้หญิงอย่างหล่อน แล้วมาตอนนี้จะมาหลงใหลอะไรอีกเล่า ไม่หลาบไม่จำเลยหรือไงนะ หากแต่ใจหนึ่งค้าน...
ก็หล่อนไม่เหมือนอย่างผู้หญิงคนอื่นนี่หว่า...
อิ่มอรุณมีอะไรที่ต่างไป นอกจากความบริสุทธิ์ผุดผ่องที่หล่อนยังเก็บรักษาไว้ได้จนมาถึงเขา หล่อนยังต่างจากผู้หญิงอื่นตรงที่ไม่หลงใหลได้ปลื้มกับความมั่งมี และไม่คิดจะจับทันทีที่เห็นหน้าหรือแม้แต่ตกเป็นของเขาแล้ว แถมยังร่ำร้องเรียกหาแต่อิสรภาพ ทั้งที่ความจริงหล่อนควรจะชอบและพอใจมากกว่า เพราะอยู่กับเขา ก็ไม่เคยให้ต้องลำบากสักนิด มิหนำซ้ำอยากจะมีจะได้อะไรเขาก็เต็มใจหามาให้อยู่แล้ว
แต่หน็อย ที่ให้ไม่อยากได้ แต่ดันอยากได้ไอ้ที่เขาไม่อยากให้เสียนิ! ฝันไปเถอะอิ่มอรุณ ไม่ว่าเธอจะคิดอะไรฉันไม่มีวันปล่อยเธอไปเด็ดขาด...
คิ้วหนาที่ขมวดมุ่นคลายออก เมื่อบอกกับตัวเองว่าเขาชักติดใจหล่อนเกินกว่าจะปล่อยไปได้ง่ายๆ รวมทั้งยังหลงลืมคนที่เขาเคยคิดสั่งสอนให้กระอักอย่างรินลดาเสียสนิทเมื่อมีอิ่มอรุณอยู่ในอ้อมแขน
มุมปากสีเข้มกระตุกยิ้ม เมื่อคิดว่าหล่อนก็คงจะเป็นอีกคนที่เขายังหลงเพราะได้มาแบบใหม่เอี่ยมถอดด้าม เอาไว้เบื่อเมื่อไรค่อยโล๊ะก็แล้วกัน เพราะถึงแม้เขาจะโลเล และอาจเปลี่ยนใจในวินาทีสุดท้ายที่จะไม่เอาคืนรินลดา แต่สิ่งหนึ่งที่เขาไม่คิดจะเปลี่ยนใจเลยนั่นก็คือ เขาไม่คิดจะรับผู้หญิงคนไหนมาไว้ในใจเขาอีกแล้ว
รวมทั้งผู้หญิงในอ้อมแขนที่กำลังทำให้เขาร้อนเป็นไฟคนนี้ด้วย
“อาบน้ำให้ฉันทีสิ วันนี้เหนื่อยจัง”
ดวงตากลมโตช้อนขึ้นมองคนเอ่ยปากใช้ก่อนหลุบตาลงแวบหนึ่ง นี่หากเป็นเวลาปกติไม่มีวันที่หล่อนจะยอมเขาแน่นอน แต่เวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะที่สุด ที่จะทำให้เขาตายใจ เพราะฉะนั้น อะไรทำให้เขาพอใจหล่อนจะทำให้ทุกอย่าง!
“ค่ะ...” ตอบพลางหลบตาอีก เพราะเกรงว่าจะส่อแววพิรุธให้อีกฝ่ายจับได้ ไม่นานนักร่างสูงสง่าจึงเปลือยเปล่าไปทั้งตัว เช่นเดียวกับหญิงสาวที่ถูกจับปลอกเปลือกออกจนหมดเกลี้ยงเช่นเดียวกัน
ร่างบางสั่นเทาห่อตัวเข้าหากัน สะท้านด้วยความหนาว สะเทิ้นด้วยความอายและสะดุ้งเมื่อถูกเรือนร่างใหญ่โตเบียดแนบชิดจากด้านหลัง พร้อมกับใบหน้าคมคายที่ก้มลงซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่นแผ่วเบา ขณะที่มือหนาทั้งสองข้างก็เลื่อนไล้อ้อมมาด้านหน้าแล้วโอบรัดเอวกิ่ว ก่อนเลื่อนขึ้นกอบกุมทรวงงามผุดผ่อง
หัวใจดวงน้อยเต้นถี่ เมื่อความอวบหยุ่นถูกรุกราน ริมฝีปากเม้มแน่นเมื่อปลายถันสีเรื่อถูกสะกิดเบาๆ ราวกับต้องการยอกเย้าและก่อไฟในอารมณ์ของหล่อนให้รุกฮือ... มือเรียวทั้งสองข้างยกขึ้นยันกับฝาผนังห้องน้ำอย่างรวดร้าว เวลานี้สมองเริ่มเลือน มีสีเทาของหมอกจางๆ ปกคุลม จากที่คิดจะทำให้เขาตายใจ แต่ใยกลับกลายเป็นหล่อนที่กำลังถูกเขาต้อนเขากองไฟแห่งราคะ ร่างบางสะดุ้งอีก เมื่อหน้าท้องเรียบเนียนถูกฝ่ามือใหญ่ลากไล้ลูบเล่น แล้วความตกใจก็ทำให้มือเล็กๆ ที่ยันกับผนังห้องคว้าหมับเข้ากับมือหนาที่เลื่อนต่ำลงและใกล้เขาไปยังส่วนสงวนทันที
“อุ๊ย! อย่าค่ะ ไหนคุณ เอ่อ ว่าจะอาบน้ำไงคะ...”
น้ำเสียงกระท่อนกระแท่นเอ่ยถาม ทำให้คนฟังที่กำลังเพริดไปกับอารมณ์วาบหวิวปรือตามองคนที่ยืนหันหลังให้แวบหนึ่ง ก่อนจะเปรยออกมาเบาๆ ด้วยน้ำเสียงที่ทำให้คนฟังถึงกับสะท้านไปทั้งร่าง...
“อาบสิ... แต่ต้องหลังจากที่เธอทำให้ฉันมีความสุขแล้วนะที่รัก”
ว่าแล้วร่างสูงก็จับหญิงสาวพลิกกลับมาหา ดวงตาสีเข้มที่ฉายแววแห่งความร้อนแรงกวาดมองไปทั่วเนื้อตัวอวบอิ่ม จนคนถูกมองถึงกับตัวแดงก่ำเม้มปากแน่น ยิ่งเห็นแววตาฉายความต้องการชัดเจนหญิงสาวยิ่งสั่น ไอ้ที่ตั้งใจไว้ในตอนแรกว่าจะเป็นฝ่ายยั่วเขานั้นหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ ยิ่งเผชิญหน้ากันตรงๆ เช่นนี้ ก็ยิ่งคิดอะไรไม่ออก และแล้วก็ต้องหลับตาลง เมื่อร่างหนาเบียดความใหญ่โตแนบสนิทกับลำตัวบอบบางจนไม่มีช่องว่างให้สิ่งใดรอดผ่านไปได้แม้แต่ลม!!
“เธอน่ารักมากอิ่ม” ศิลาครางแผ่ว เมื่อเบียดตัวเข้าหาความนุ่มนิ่มอวบหยุ่น ยิ่งกอดกระชับหัวใจก็ยิ่งทวีจังหวะให้กระชั้นเต้นแรง ความอดทนต่อความเย้ายวนกำลังมอดไหม้ ทั้งที่หล่อนแทบไม่ต้องทำอะไรเลยสักนิด ใบหน้าคมคายก้มลงบดจุมพิตเร่าร้อนกับริมฝีปากเต็มอิ่ม ขณะเดียวกันคนถูกโจมตีก็แหงนเงยรับเรียวลิ้นอันร้อนแรงดั่งเปลวเพลิงที่แผดเผาด้วยความเร่าร้อนปานกัน
ชายหนุ่มครางฮือ เมื่อลิ้นเล็กๆ รู้จักโต้ตวัดรัดลิ้นของเขาในที่สุด และสองแขนเรียวก็ยังยกขึ้นโอบกอดต้นคอหนาแกร่งอย่างไม่ต้องอาศัยความกล้าใดๆ อีกต่อไป ในเมื่อตอนนี้เจ้าของแผ่นการที่ล้มไม่เป็นท่ากำลังเพริดไปกับความร้อนระอุแห่งแรงปรารถนา เรียวขางามระหงยกขึ้นเกี่ยวพันท่อนขาแข็งแรงราวกับยั่วเย้า ขณะที่สะโพกผ่ายอวบนุ่มถูกมือข้างหนึ่งของชายหนุ่มเกี่ยวรัดเบียดเข้าหาสะโพกสอบแนบแน่น...
ความร้อนระอุแผ่ซ่านลามไปจนถึงแก่นอารมณ์ ชวนให้เตลิดเพริดไปไกลแสนไกล ลมหนาวข้างนอกพัดโชย จะแรงบ้างช้าบ้างกิ่งไม้ก็ไหวเอนไปด้วยทุกครั้ง ไม่ต่างจากอารมณ์ของสองหนุ่มสาวที่ร้อนแรงดั่งพายุพิศวาสที่โหมกระหน่ำ ตอกย้ำความวาบหวามให้ด่ำดิ่งลงลึกสู่ห้วงหฤหรรษ์ เสียงครางระงมแข่งเสียงหริ่งเรไรอื้ออึงดังขึ้นราวกับกู้ก้องร้องรับขับขานบรรเลงเพลงสวรรค์
ใบหน้างามแหงนเงยหลับตาพริ้ม เมื่อดวงหน้าคมคายไล้ต่ำลงสู่ซอกคอนุ่ม ก่อนเลื่อนลงมายังลาดไหล่บอบบาง กระทั่งมาหยุดยังบัวตูมสั่นไหว เสียงหวานจึงครางแผ่ว เมื่อยอดทับทิมสีอ่อนถูกภมรตัวเอ้ดูดดื่มน้ำหวานจนสั่นสะท้านไปทั้งกาย มือบางยกขึ้นเกาะกุมศีรษะได้รูปพร้อมกับแทรกนิ้วเรียวเล็กเข้าไปในเรือนผมหนานุ่ม เมื่อนวลเนื้ออวบหยุ่นถูกดูดรัดขบเม้มและตวัดไล้ด้วยปลายชิวหา...
ความรู้สึกนี้กำลังฆ่าหล่อน! เขากำลังเข่นฆ่าและฟาดฟันด้วยความปรารถนาที่ยังไม่ยอมหยิบยื่นให้ โดยเฉพาะกับบางอย่างเบื้องล่างที่คอยกระตุ้น ถูไถและเบียดไล้สัมผัส ก็ยิ่งทำให้ใจของหล่อนพลอยกระเด้งกระดอนเพราะความต้องการที่โผทะยานขึ้นสูง แล้วแบบนี้เมื่อไร หล่อนถึงจะไปจากเขาได้สักที...