เสี่ยวผิงอันที่ถูกแบกขึ้นบ่าจนหัวสั่นหัวคลอน ตลอดทางกลับห้องบรรทมนางทั้งเขินทั้งอาย กลางวันแสกๆ แบกอุ้มกันเข้าห้องเช่นนี้นางไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
ยิ่งบอกให้ปล่อย ยิ่งดิ้นรนขัดขืน ขอเดินเองดีๆ คนเอาแต่ใจอย่างท่านอ๋องของนางก็ยิ่งโมโห ก้นนุ่มแดงเป็นรอยฝ่ามือเต็มไปหมด
เมื่อถึงห้องบรรทม คนโมโหหึงก็โยนคนงามที่ดิ้นยุกยิกมาตลอดทางลงบนเตียงโครมใหญ่
หากเป็นนางกำนัล หรืออนุทั้งหลายในตำหนัก คงกลัวเขาตัวสั่นงันงก มีเพียงนางเด็กโง่ตรงหน้านี้เท่านั้น ที่ไม่รู้จักกลัวตาย
ริมฝีปากหนาประกบปิดปากบางอย่างลงทัณฑ์ บดเคล้ารุนแรง ขบกัดจนริมฝีปากบางแตกระยับ หากเป็นหญิงอื่นคงดิ้นหนี กลัวตาย ร่ำร้องขอชีวิต
สมเป็นเสี่ยวผิงอัน คนโปรดเพียงหนึ่งเดียวของชินอ๋อง
คนงามจูบตอบอย่างเอาอกเอาใจ โอนอ่อนผ่อนตาม
ไม่ว่าจะทรงร้อนมาจากไหน ร้อนสักเพียงใด เจอคนงามเอาน้ำเย็นเข้ารูป ก็ย่อมโกรธอยู่ได้ไม่นาน
มือบางลูบไล้แผ่นอกหนาหนั่นอย่างยั่วยวน ริมฝีปากหนาที่จากเดิมตั้งใจจะจูบลงทัณฑ์ ชินอ๋องก็ใจอ่อน อ่อนโยนอ่อนหวานขึ้นจนกลายเป็นจูบอย่างลึกซึ้ง เรียกร้องการตอบสนองแทน
มือหนากระชากเสื้อผ้าคนงามออกอย่างใจร้อน
ใจจริงเสี่ยวผิงอัน ก็อยากทักท้วง กลางวันแสกๆ ทำเรื่องเช่นนี้ใช่น่าอายไปหรือไม่
ด้วยโตมาด้วยกันแต่เล็กแต่น้อยกับชินอ๋องนายเหนือหัวของตน เสี่ยวผิงอันนางจะไม่รู้ได้อย่างไร หากยามนี้ตนขัดใจ คนขี้โมโห เอาแต่ใจได้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาอีกรอบเป็นแน่
ก็เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ยามโกรธเอาน้ำเย็นเข้าลูบ
ยามเขาเป็นไฟ นางก็เป็นน้ำ
"ให้หม่อมฉันปรนนิบัติดีหรือไม่เพคะ ขืนปล่อยให้พระองค์ทำ ทั้งเสื้อผ้าหม่อมฉัน ทั้งอาภรณ์ของพระองค์ได้ขาดกลายเป็นเศษผ้าเป็นแน่"
ฉีเทียนเหลียงที่อารมณ์หึง ยังไม่เบาบางจางลง ถึงแม้นางตัวดีทำมาเอาใจ นางตัวดีช่างขวัญกล้ายิ่งนัก ยามนี้ยังกล้าเอ่ยเล่น หยอกล้อเขา
เสี่ยวผิงอันไม่สนใจคนกำลังโมโหหึง นางยกยิ้มเอาอกเอาใจ คนงามปลดแถบผ้าคาดเอวเขาออก ถอดเสื้อผ้าไหมเนื้อดีพร้อมแอบกินเต้าหู้แผงอกหนั่นเนื้อ กล้ามแน่นเป็นลอนสวย
ท่วงท่าที่เนิบนาบยั่วยวนเป็นธรรมชาติของเสี่ยวผิงอัน ทำให้ฉีเทียนเหลียงไม่แน่ใจว่านางปีศาจน้อยตั้งใจจะหว่านเสน่ห์ใส่เขาใช่หรือไม่
ยามนี้ร่างบางเหลือเพียงแต่เอี้ยมบังทรงตัวน้อย ที่แทบปิดปังอะไรไม่มิดติดกายเพียงตัวเดียว เต้าทรวงขาวอวบเกินตัวแทบจะทะลักล้นออกจากเอี้ยมบังทรงตัวเล็ก
ชินอ๋องเหลือบมองเต้าทรวงอวบอิ่มที่เบียดชิดได้รูปงดงามแล้วกระชากเอี้ยมจนขาดคามือ
คนงามหวีดร้องอย่างตกใจ
"อื้อ"
มือหนาสากบีบเคล้นอกอวบอย่างมันมือ ริมฝีปากหนาปล้นชิงความหวานในโพรงปากนุ่มอย่างเอาแต่ใจ
เสี่ยวผิงอันคนงามตกใจอยู่ชั่วครู่ ก็โอนอ่อนผ่อนตาม ประกบริมฝีปากหวานเข้าหาเขาอย่างออดอ้อนเอาใจ มือบางลูบไล้สำรวจพระวรกายล่ำสันไปทั่ว
ฉีเทียนเหลียงยอมให้คนตัวเล็กกดตนลงกับแท่นบรรทมอย่างสมยอม นางจูบกอดลูบไล้เขาไปทั่ว เกี้ยวครอบผมถูกปลดออก
เต้าอวบคู่งามชี้หน้าเขา ยามที่นางใช้นิ้วนวดศีรษะ และสางผมยาวของเขาอย่างหวังจะช่วยนวดผ่อนคลาย
มือน้อยนุ่มหอมสอดเข้ามาในอกเสื้อ หยอกเย้ากับยอดทับทิมเม็ดเล็กๆ ของเขาอย่างปลุกเร้าเชิญชวน
"ซุกซนนัก" ฉีเทียนเหลียงอดใจไม่ไหว ยัดเต้าทรวงนางเข้าปาก ขบฟันเล่นกับมันอย่างมันเขี้ยว
"อ่ะ"
"เบาหน่อยเพคะ"
"นางจิ้งจอกน้อยช่างยั่วดีนัก ระวังเถอะ จะเจ็บหนักไม่รู้ตัว"
"พระทัยร้าย"
"วันนี้เจ้าเอาแต่ว่าข้าใจร้าย บ่นจริง นี่ข้าปรานีมากแล้วนะนางตัวดี"
"อยากรู้ไหม ว่าอย่างไรถึงจะเรียกว่า ใจร้าย"
แทนที่จะต่อปากต่อคำ จิ้งจอกน้อยของฉีเทียนเหลียงกลับก้มลงดูดเลียยอดแข็งเป็นตุ่มเป็นไตบนยอดอกเขาแทน
"อ๊า"
เสียงครางกระเส่า พร้อมกับกดศีรษะคนงามให้นางปรนเปรอให้รสรักรุ่มร้อนขึ้นอีก
ไม่นานจิ้งจอกน้อยก็ถูกยกขึ้น
"วันนี้ควบม้าดีหรือไม่"
"อยากให้ขี่แล้วหรือเพคะ หม่อมฉันนึกว่าอยากแตกสักน้ำก่อนเสียอีก"
"หิวน้ำล่ะสินางตัวดี"
"ให้เจ้าดูดสักน้ำก่อนก็ได้ แล้วค่อยขึ้นให้ข้า"
เชอะ!
"ทรงตรัสเหมือนมีเมตตา ใครกันแน่ที่ได้ประโยชน์" คนตัวเล็กทำเสียงเล็กเสียงน้อย ทำปากยู่แง่งอน
โอ๊ย!
"พูดมากดีนัก ดูท่าข้าจะปรานี เอาใจเจ้าเกินไปเสียแล้วนางตัวดี"
"ใจดีเข้าหน่อย แทบจะขี่หัวข้า"
"แค่นี้ก็ต้องกัดด้วย" อันอันบ่นกระปอดกระแปด ลูบมือป้อยๆ ไปที่หลังคอที่ทรงงับฟันลงมา
เสื้อผ้าของเขา และนางปลิวหายกระจัดกระจาย ไฟสวาทที่ทั้งคู่ช่วยสุมให้กันทำเอาบทร้อนดิบเถื่อนเจือไปด้วยกลิ่นอายความลุ่มหลงฟุ้งกระจายไปทั่ว
คนงามตัวเล็กนั่งคร่อมทับสะโพกเขาอย่างจงใจ บดส่ายเนินสาวอันอบอุ่นชุ่มชื้นกับแท่งหยกอวบยาวที่ชูชันชี้ชูพร้อมรบเต็มที่ ลิ้นเล็กช่างซุกซนนัก หลังจากมอบจูบแลกลิ้นกับเขาอย่างหื่นร้อน นางตัวดีก็ทั้งดูดทั้งเลียเขาไปทุกที่
คงมีแต่เสี่ยวผิงอันเท่านั้นที่กล้าทิ้งรอยรักสีกุหลาบไปทั่วแอ่งชีพจร และหน้าอกเขา และเขามั่นใจต่อให้ขบกัดเขา ทิ้งรอยฟันเต็มแผงอกหนั่นเนื้อนางตัวดีก็กล้าทำ
"อยากตายใช่ไหม ถึงกล้ากัดข้า"