บทนำ
สวัสดีคุณนักอ่านทุกท่านค่ะ
นิยายเรื่อง ฉีเทียนเหลียง ท่านอ๋องทมิฬ รวมตอนพิเศษ เป็นการรวมตอนพิเศษที่ออกหลายเล่มแล้วมารวมกัน เพื่อง่ายต่อการคุ้นหา
ฉีเทียนเหลียง ท่านอ๋องทมิฬ เป็นนิยายเล่มแรกในเส้นทางนักเขียนของไรท์ (ลูกคนแรก นิยายลูกรักค่ะ) ภาษาอาจยังไม่ค่อยสละสลวย ยังมีคำซ้ำอยู่มาก ต้องขออภัยคุณนักอ่านเป็นอย่างสูงค่ะ
นิยายเรื่องนี้เหมาะกับคุณนักอ่านที่ชอบฉากอุ่นเตียง NC20++ กับบทรักเร่าร้อน บรรยาย NC แบบจัดจ้าน
ซีรีส์ชุด เรื่องลับบนเตียงท่านอ๋องทมิฬ มีดังนี้ค่ะ
1. ฉีเทียนเหลียง ท่านอ๋องทมิฬ เล่ม 1
2. ฉีเทียนเหลียง ท่านอ๋องทมิฬ เล่ม 2 (เล่มจบ)
3. SET ฉีเทียนเหลียง ท่านอ๋องทมิฬ (รวมเล่ม 1-2 +ตอนพิเศษ)
4. ฉีเทียนเหลียง ท่านอ๋องทมิฬ ตอนพิเศษ ความลับ
5. ฉีเทียนเหลียง ท่านอ๋องทมิฬ ตอนพิเศษ เสน่ห์นาง
6. ฉีเทียนเหลียง ท่านอ๋องทมิฬ ตอนพิเศษ ผู้ป่วยผู้แสนยั่วยวน
แนะนำให้อ่านเล่ม 1-2 ให้จบก่อน แล้วจะอ่านตอนพิเศษได้ฟินยิ่งขึ้นค่ะ
ในเรื่องนี้ ที่เรารวบรวมตอนพิเศษมาให้อ่าน นั่นก็คือ เล่ม 4-5-6 นั่นเอง'
สุดท้ายนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คุณนักอ่านจะยังรักและเอ็นดูท่านอ๋องกับอันอันเหมือนเดิม (ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ♡♡♡)
หากมีส่วนหนึ่งส่วนใด ในนิยายเรื่องนี้ มีข้อผิดพลาดประการใด ทางผู้แต่งต้องขออภัยเป็นอย่างสูง มา ณ ที่นี้
ด้วยรักและขอบคุณ ♡
Project X
**************************
ฉีเทียนเหลียง ท่านอ๋องทมิฬ ตอนพิเศษ ความลับ
เกริ่นนำ
ตอนพิเศษ ตอนความลับ จะมาเฉลยปมปริศนาที่กล่าวไว้ในตอนพิเศษ บทสุดท้ายของฮองเฮาค่ะ
คิดถึง
ยามเช้าของวันที่หนาวเหน็บเช่นนี้ หิมะตกหนักตั้งแต่เมื่อคืนจนกระทั่งบัดนี้ไม่มีทีท่าว่าจะซาลง แสงแดดอ่อนจาง อากาศที่ขุ่นมัวเช่นนี้ ช่างชวนให้จิตใจที่เงียบเหงา ยิ่งรู้สึกห่อเหี่ยวมากขึ้นไปอีก
เสี่ยวผิงอัน สาวน้อยวัยสิบแปดปีถอนหายใจยาว นางยืนมองทางเหมือนเช่นทุกวัน
ถึงเจ้านายของตำหนักชินอ๋องแห่งนี้จะไม่อยู่ แต่นางกำนัลชั้นหนึ่ง กูกูหนึ่งเดียวของตำหนักก็หาได้เกียจคร้านไม่ เสี่ยวผิงอันกูกูยังควบคุมบ่าวไพร่ ทำความสะอาดห้องบรรทมท่านอ๋องของนางอย่างเคร่งครัด
"นางหนูเสี่ยวอัน มายืนถอนหายใจอะไรตรงนี้"
พ่อบ้านชราเอ่ยทักกูกูสาวน้อย ด้วยความเอ็นดู
"อีกเพียงสามวันก็จะวันสิ้นปีแล้ว ท่านอ๋องทรงตรัสไว้ก่อนไปว่าจะเสด็จกลับมาก่อนปีใหม่ เหตุใดป่านนี้แล้วยังไม่ทรงเสด็จกลับมาเจ้าคะ"
หากเป็นผู้อื่นเอ่ยปากสอดรู้สอดเห็นเรื่องของเจ้านายเช่นนี้ คงต้องลากตัวไปโบยให้หลาบจำ แต่พอเป็นนางหนูเสี่ยวอัน นางกำนัลคนโปรดที่โตมากับท่านอ๋อง พ่อบ้านชรากลับหัวเราะชอบใจ
"เป็นห่วง หรือว่าเหงาล่ะนางหนู"
"หากท่านอ๋องได้ยินว่าเจ้าคิดถึง นับวันนับคืนรอพระองค์เสด็จกลับมาเช่นนี้ คงจะดีพระทัยมาก"
ยิ่งเห็นมุมปากท่านพ่อบ้านผู้เฒ่ายกยิ้มเป็นเชิงล้อ นางหนูเสี่ยวอัน หรืออันอันของชินอ๋องฉีเทียนเหลียงก็ยิ่งร้อนตัว
"ไม่ใช่สักหน่อย ข้าก็แค่ถามดูเท่านั้น"
เสี่ยวผิงอันก้มหน้างุด หลบตา ท่าทางเอียงอาย
.
.
เมื่อครึ่งเดือนก่อน ชินอ๋องฉีเทียนเหลียงพระอนุชาร่วมอุทธรณ์ของฮ่องเต้ ได้รับพระราชโองการแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนพระองค์ไปควบคุมการซ่อมแซมเขื่อน
ด้วยมีสายข่าวรายงาน เขื่อนที่แตกอาจไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ แต่เกิดจากน้ำมือผู้ไม่ประสงค์ดี ยามนี้ฝ่าบาทเพิ่งขึ้นครองราชย์ได้ไม่นาน ราชบัลลังก์ยังไม่มั่นคง มีเพียงพระอนุชาฉีเทียนเหลียงเท่านั้น ที่ทรงไว้วางพระราชหฤทัย
ชินอ๋องฉีเทียนเหลียง ทรงฉลาดปราดเปรื่องทั้งบุ๋น และบู้ ด้วยวัยเพียงสิบหกชันษาก็รับผิดชอบงานใหญ่ เป็นที่อิจฉาของบรรดาพี่น้องในราชวงศ์ยิ่งนัก
เสี่ยวผิงอันอดเป็นห่วงท่านอ๋องของนางไม่ได้ ด้วยช่วงนี้การเมืองตึงเครียด ราชวงศ์ และขุนนางแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ถึงขั้นมีข่าวเรื่องการซ่องสุมกำลังคน
ก่อนชินอ๋องจะออกเดินทาง อันอันขอติดตามไปปรนนิบัติก็ทรงไม่อนุญาต พอนางบอกให้เอาองครักษ์ เอาทหารไปให้มากหน่อย ก็ทรงหาว่านางกังวลเกินกว่าเหตุ
เสี่ยวผิงอันจึงได้แต่ ฝากฝังให้พี่ใหญ่จินเฟิง หัวหน้าองครักษ์ประจำตัวท่านอ๋องช่วยดูแลท่านอ๋องให้ดีด้วย
คิดถึงเรื่องในวันนั้น เสี่ยวผิงอันคนงามก็หน้าแดงอย่างห้ามไม่อยู่
"ฝากท่านอ๋องด้วยนะเจ้าคะ ยามนี้ศัตรูช่างเหิมเกริมนัก ลงมือกันหนักข้อขึ้นทุกที"
"พี่ใหญ่เฟิงเองก็เดินทางระวังตัวด้วย"
จินเฟิงยังไม่ทันได้ตอบ ข้อมือเสี่ยวผิงอันก็โดนกระชากอย่างแรง
"โอ๊ย! "
ทั้งจินเฟิง ทั้งเสี่ยวผิงอันต่างจ้องมองผู้มาใหม่
"ข้าเรียกหาอยู่ตั้งนาน ที่แท้แอบมาหลบอยู่ที่นี่เอง"
ฉีเทียนเหลียง ชินอ๋องเจ้าของตำหนักคว้าข้อมือบาง ทรงกระชากเสี่ยวผิงอันทีเดียว ร่างบางก็เซมาปะทะอกหนาหนั่นเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ มือหนาโอบกระชับเอวอ่อนอ้อนแอ้นรวบนางชิดอกจนแน่น
ท่าทีแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเช่นนี้ คนสนิทในตำหนักชินอ๋องเห็นเป็นภาพชินตา มีแต่จินเฟิงหัวหน้าองครักษ์ประจำตัวท่านอ๋องเท่านั้น ที่เห็นภาพบาดตาบาดใจแบบนี้ทีไรก็ทำใจไม่ได้สักที มือหนากำแน่นจนเห็นข้อ ได้แต่คำนับ และหลุบตาลงต่ำ
จวบจนชินอ๋องฉีเทียนเหลียง เจ้านายตนโอบเอวเสี่ยวผิงอันคนงาม บังคับเดินไปด้วยกันจนลับตา จินเฟิงก็ยังยืนมองอยู่เช่นนั้น
"ไป" ฉีเทียนเหลียงตรัสด้วยน้ำเสียงดุโกรธ
"เจ็บนะเพคะ"
"อย่าดิ้น"
ปากเพิ่งตรัสดุ มือหนาฟาดป๊าบไปที่ก้นนุ่มอวบ
"อ่ะ อย่าทรงทำอะไรรุ่มร่ามสิเพคะ ทางเดินเช่นนี้สายตาบ่าวไพร่เต็มตำหนัก"
"นางตัวดี เดี๋ยวนี้บังอาจนักนะ กล้าแม้แต่ตำหนิข้า"
เสี่ยวผิงอันบิดตัวที่ถูกรวบเอวแน่น พร้อมบ่นงึมงำกระปอดกระแปด "เบาหน่อยเพคะ เจ็บ"
"เจ็บสิดี" ฉีเทียนเหลียงขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
ยิ่งคิดถึงภาพนางตัวดีหัวเราะต่อกระซิกกับหัวหน้าองครักษ์ของเขาเมื่อสักครู่ ก็ยิ่งโมโห
"เผลอเป็นไม่ได้ ต้องวิ่งแจ้นมาหามัน เจ้าอยากตายนักใช่หรือไม่"
กลิ่นน้ำส้มโชย ไหน้ำส้มแตกทะลัก เสี่ยวผิงอันที่ยังงงๆ ในตอนแรก เพิ่งเข้าใจเรื่องทั้งหมดเอาตอนนี้
"ทรงเข้าพระทัยผิดอีกแล้ว"
"หม่อมฉันบอกแล้วว่า หม่อมฉันกับพี่ใหญ่เฟิงเราไม่ได้มีอะไรเกินเลย เราเป็นพี่เป็นน้องกัน ก็ไม่ทรงยอมเชื่อ"
จริงๆ นางอยากจะพูดแรงๆ อย่างทรงหาเรื่องแล้ว หรือทรงหึงเรื่องไม่เป็นเรื่อง แต่ชายหนุ่มตรงหน้าคือชินอ๋อง เชื้อพระวงศ์อันดับหนึ่งแห่งแคว้นผู้สูงศักดิ์ ต่อให้กินดีเสือดีหมีมานางก็ไม่กล้า
นอกจากฝ่าบาทแล้ว ชินอ๋องฉีเทียนเหลียงไม่ต้องก้มหัวคำนับผู้ใด เรียกได้ว่าอยู่ใต้คนคนเดียว อยู่เหนือคนนับหมื่นอย่างแท้จริง
เสี่ยวผิงอันกูกูคนงามยังไม่ทันจะพูดจบ ฉีเทียนเหลียงที่ภายนอกเย็นชา แต่แท้จริงแล้วเจ้าอารมณ์นัก ก็แบกนางตัวดีของพระองค์ขึ้นบ่า
ตลอดทางเสียงฝ่ามือฟาดเข้าก้นอวบเสียงดังสนั่น
บ่าวไพร่ในตำหนักชินอ๋องต่างพร้อมใจกันหลบหน้าหลบตา ไม่กล้าสอดรู้สอดเห็น ด้วยกฎระเบียบในตำหนักเข้มงวดยิ่งนัก แค่โทษหมิ่นเบื้องสูงก็อาจจะคอขาดกันทั้งครอบครัว
"โอ๊ย! "
"เจ็บนะเพคะ"
" พระทัยร้าย"