เผด็จการ

1985 Words
ใช้เวลาไม่กี่อึดใจ คุณซินก็มาส่งฉันถึงหน้าตึกที่ฉันอาศัยอยู่ เข็มนาฬิกาชี้ไปที่เลขหนึ่ง นั่นบ่งบอกให้ฉันรู้ว่านี่มันผ่านเมื่อวานมาแล้ว และฉันกำลังโต้รุ่งเกินเวลาที่ควรจะนอน ซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นกับฉันเลย อยู่มายี่สิบกว่าปีครั้งนี้เป็นครั้งแรก ความรู้สึกน่ะเหรอคะ... อย่าถามถึง มันไม่เป็นผลดีกับฉันหรอก เพราะตอนนี้ฉันง่วง..มาก! “คุณพักที่นี่เองเหรอ” คุณซินหันมาถาม พร้อมชะลอรถ ฉันแหงนหน้าขึ้นไปมอง เพื่อเพ่งเล็งให้มั่นใจว่าทางที่ฉันบอกนั้น คุณซินไม่ได้เข้าใจผิด แต่พอเห็นป้ายชื่อที่เก่ารุ่นทวดของตึกนี้แล้ว โอเค! ฉันมั่นใจเลยทันที.. “ค่ะ ที่นี่แหละ ขอบคุณนะคะ” ฉันหันไปยิ้มให้ ก่อนจะเปิดประตู เตรียมจะลง แต่ทว่า.. คุณซินมาฉวยแขนฉันไว้ซะก่อน นั่นทำให้ฉันตกใจไม่น้อย “ระวังครับ!” ปี๊นนนน! “กรี๊ด!” ความตกใจที่มีประหนึ่งเหมือนพลุแตก ฉันหยุดชะงักทันทีตามเสียงตะโกนของคนข้างๆ ก่อนจะนั่งสงบนิ่งเพราะงงกับเหตุการณ์ที่เกิด ตะกี้มันคืออะไรน่ะ ที่มันทำให้ฉันตกใจลืมตัวจนกรี๊ดได้ “มอเตอร์ไซค์ครับ” ฮะ! -0- อย่าบอกนะว่า มันเฉี่ยวผ่านประตูฝั่งฉันไปน่ะ ให้ตายเถอะ! ทำไมขี่รถประมาทอย่างนี้นะ เอ๊ะ! หรือว่าตัวฉันเองที่เป็นฝ่ายประมาท เออ..คงใช่แหละ! “เฮ้อ.. คุณคงมองไม่เห็นจริงๆ ผมว่าผมไปส่งถึงประตูห้องจะดีกว่า ไม่งั้นคืนนี้คุณไม่ได้นอนแน่” “ขอบคุณนะคะ” ความรู้สึกตอนนี้ บอกตรงๆ เลยนะว่าฉันโคตรจะเกรงใจเขาเลย แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ก็ฉันช่วยเหลือตัวเองไม่ได้นี่นา แถมดูสภาพตอนนี้สิ มันแย่ชะมัด คงดูไม่จืดแหง! -///- โอ๊ย อายเขาจัง... “ครับ ไม่เป็นไร เชิญครับ” เขาบอกก่อนจะดับเครื่องยนต์ แล้วคว้าข้อมือฉันเอาไว้ เตรียมจะจูง อ๋างงงง! ฉันรู้สึกเหมือนเขาจับมือฉันแน่นเกินไปด้วยนะ -///- ทำไมล่ะ กลัวฉันจะสร้างปัญหามากไปกว่านี้เหรอ? “ชั้นไหนครับ” เขาหันมาถามฉันหลังจากที่เดินเข้ามาถึงข้างใน “เดี๋ยวฉันเดินไปเองก็ได้นะคะคุณ จะไปส่งถึงหน้าห้องจริงๆ เหรอ อย่าเลยค่ะ แค่นี้ก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว” ถ้าฉันดูกระจกเห็น เดาได้เลยว่า หน้าฉันตอนนี้มันเหยเกสุดๆ มันคงไม่มีคืนไหน ที่จะแย่ไปมากกว่าคืนนี้อีกแล้วล่ะมั้ง “ผมบอกจะไปส่งก็ไปส่งสิครับ มาถึงขนาดนี้แล้วจะมาเกรงใจทำไม เอาเป็นว่าคุณเข้าห้องแล้ว ผมจะรู้สึกโอเคมากกว่า ปล่อยคุณไว้ตรงนี้ แล้วผมเดินกลับไปละกัน” -///- อ๋างงงงง “ค่ะ” “แล้วไปทางไหนต่อ ขึ้นบันไดนี้ใช่ไหม” อ่า..แปปนะคะ เล็งก่อน ... อีกข้อหนึ่งที่ฉันโคตรจะอายเป็นอันดับสองรองจากชุด ก็คือหอพักที่ฉันอยู่ไม่มีลิฟท์เหมือนชาวบ้านเขานี่แหละ ตึกมีตั้งหกชั้น ไม่น่าทำฉันขายขี้หน้าแบบนี้เล้ย ย่านนี้คงจะไม่มีกันแล้วล่ะมั้ง แบบนี้.. เอาเป็นว่าค่าเช่าราคาถูกฉันเลยอยู่ จบ! “ขึ้นไปอีกชั้นนึง เลี้ยวซ้าย ก็ถึงแล้วค่ะ” “ครับ” เชื่อไหมนับตั้งแต่ตอนอยู่ในรถ เดินเข้ามาจนถึงในนี้ เขายังไม่ปล่อยข้อมือฉันเลยอะ เริ่มจะอึดอัดขึ้นมาจริงๆ แล้วนะ “ถึงแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ ขอบคุณมากจริงๆ” “นี่ห้องคุณเหรอ ไหนกุญแจ มาครับ ผมไขให้” ฮะ! -0- ถึงขั้นจะไขกุญแจให้กันเลยเรอะ! “เอ่อ..” “มาเถอะครับ คุณจะได้พักผ่อนสักที” “อ่า ค่ะๆ” ว่าแล้วฉันก็ล้วงหาพวงกุญแจที่มันมีลูกมากกว่าสิบดอกส่งไปให้ ก่อนที่เขาจะทำการไขมันจนประตูถูกเปิดออกเป็นอิสระ ถึงตอนนั้นฉันก็โค้งคำนับให้เลยทันที TT ซึ้งงงง ... “ขอบคุณ...” แต่ยังไม่ทันจะได้พูดจบ เชื่อไหมฉันแทบสำลักน้ำลาย “พรุ่งนี้ผมจะมารับคุณที่นี่” “คะ?!” “ตอนสิบโมงเช้า ไปตัดแว่นกัน” . . ...อีกห้านาทีสิบโมง... เข็มเวลาบอกแบบนั้น แต่ฉันตื่นตั้งแต่หกโมง! ไม่ใช่ว่าตื่นเต้นที่คุณซินบอกจะมารับไปตัดแว่นหรอกนะ แต่เป็นเพราะฉันถูกคนบางคนที่มันคือต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดโทรมาปลุกต่างหาก “ไอ้บ้าเพียว! เพราะนายคนเดียวเลย นายทำฉันนอนไม่เต็มอิ่ม ทั้งๆ ที่เวลานี้มันควรจะเป็นเวลาเพิ่งตื่นของช้าน!” อยากจะบ้าตาย! นี่ฉันว่าฉันน่าจะรอด เพราะโทรศัพท์มือถือติดต่อไม่ได้แล้วนะ ยังจะโทรเข้าเบอร์บ้านฉันอีก โชคดีหน่อยที่เขาเพิ่งจะได้นอนเลยขอวางไปนอนต่อ และฉันก็ไม่ได้หลุดปากบอกเขาเรื่องแว่นฉันแตกออกไปด้วย ไม่อย่างงั้นนะ คงจะเป็นเพียวอีกแหละที่อาสาจะพาฉันไป เผลอๆ คงจะแย่งหน้าที่คุณซินไปเลยด้วยซ้ำ ก็อก ก็อก ก็อก พูดถึงก็มาเลย ตายยากจริงๆ แฮะ! แอด.. “มาตรงเวลาเลยนะคะ” พ่ามมมม! -///- นาทีที่เปิดประตู เหมือนจะมีแสงออร่าปะทะเข้าหน้าดังวิ้ง! โอ๊ย.. ฉันกลับเข้าไปในห้อง แล้วโกหกว่าไข้ขึ้นยังจะทันอยู่ไหมนะ! อะไรมันจะน่าอายได้เบอร์นี้เนี่ย! “ไม่สบายเหรอ ทำไมหน้าซีดขนาดนั้นล่ะ” เขาถามหน้านิ่ง ในขณะที่ฉันเป็นฝ่ายต้องถอยหนี O.O “ยะ อย่าค่ะ!” อย่ามาแตะหน้ากันแบบนี้สิ แค่นี้ก็เขินจนทำหน้าไม่ถูกไม่รู้ จะยิ้มรึจะร้องไห้ดีล่ะเนี่ย “ครับ?” และแน่นอนเขาคงงงกับอาการบ้าบอของฉัน “ฉันนอนดึกไงคะ หน้าถึงซีด” “อ่อ ผมก็นึกว่าแผลที่มืออักเสบจนทำคุณป่วยซะอีก” เปล่าค่ะ อันที่จริง ฉันก็แค่อายตัวเองที่มันแต่งตัวเชยระเบิดไม่เข้ากับคุณต่างหากล่ะ กลัวคนอื่นที่เห็นเขาจะหัวเราะฉัน แล้วทำคุณขายหน้านี่แหละ “สบายดีค่ะ ไม่ได้เป็นอะไร” แค่หัวใจมันเต้นผิดจังหวะเท่านั้นเอง -///- “งั้น..ก็ไปเถอะครับ ตอนบ่ายผมมีงานต้องไปเคลียร์” เขาบอกก่อนจะเดินนำหน้าฉันไป เหมือนไม่ได้สนใจอะไรกับชุดของฉันเลย ประหลาดมากนะ กับผู้ชายคนนี้ ทั้งๆ ที่เขาแต่งตัวสะอาดสะอ้าน ดูเป็นคนเจ้าสำอาง แต่กลับไม่ทักท้วงฉันสักคำ ถึงไม่ได้คิดอะไรกับฉันก็เถอะ ก็น่าจะมีอารมณ์แบบแคร์คนอื่นเขาบ้าง แต่นี่น่ะรึ ..ไม่เลย โน่น.. เดินนำละลิ่วบันไดไปโน่น ทิ้งช่วงห่างกับฉันเป็นสิบเมตร แล้วสักพักเหมือนเขาจะเดินย้อนกลับมา นั่นก็เพราะว่า.. “ก็ว่าอยู่ ทำไมถึงช้า ผมลืมไป คุณมองไม่เห็น” เอิ่ม! พ่อคุณเพิ่งจะนึกออกหรอกเรอะ “ฮ่าๆๆ” “คุณก็ไม่คิดจะท้วงซะด้วยนะ มาครับผมช่วย” เขาบ่นนิดหน่อย ก่อนจะฉวยข้อมือฉันไปถือไว้แบบเมื่อคืน โอ้มายก็อด! หลังจากที่ตากลับมามองเห็นชัดเจนแล้ว หวังว่าฉันคงจะไม่เป็นโรคกล้ามเนื้อเกร็งแทนหรอกนะ เกลียดตัวเองตอนนี้ชะมัด ที่มันหน้าด้านไม่พอ! อร๊ายยยย -///- . . บอกตรงๆ ว่านี่คือครั้งแรกของฉันเลย ที่มีโอกาสได้เข้าร้านตัดแว่นไฮโซแบบนี้ สิ่งที่คุณซินมอบให้ ฉันว่าราคามันมากเกินกว่าที่ฉันควรจะได้ ซึ่งถ้าให้นับคร่าวๆ ละก็ โอโห..ค่าข้าวของฉันหลายเดือนเชียวล่ะ อันที่จริงไม่ใช่ว่าฉันจะไม่ปฏิเสธสินน้ำใจของเขาหรอกนะ ฉันพูดออกไปแล้ว แต่เขากลับผลักคืนกลับมา พร้อมบอกฉันว่า “อย่าขัดใจผมจะได้ไหมครับ ผมแค่อยากจะรับขวัญคุณ คุณจะคิดว่าผมให้ในฐานะลูกค้าวีไอพีก็ได้นะ เผื่อมันจะทำให้คุณสบายใจขึ้น” ถามหน่อย..แล้วใครจะขัดใจเขาลง! หลังจากออกมาจากร้านแว่นหรูหรานั่น เวลาก็ปาเข้าไปเที่ยงกว่าพอดี วันนี้เป็นวันหยุดของฉัน และแน่นอนมันก็คงจะเป็นวันหยุดของคนอื่นเขาด้วย ไม่แปลกที่เช้านี้รถจะติดขนาดหนัก ฉันกับคุณซินก็เลยมาถึงร้านตัดแว่นช้ากว่าปกติ เกินไปเป็นชั่วโมงเลย เฮ้อ! แถมตอนนี้ก็ยังคงติดไม่ต่างกัน “ผมว่า ถ้าผมไปส่งคุณตอนนี้ ผมวกกลับมาเคลียร์งานไม่ทันแน่ นัดลูกค้าไว้บ่ายโมง” จริงด้วย! ฉันลืมไปเลยว่าเขามีงานต่อ เขาบอกฉันแล้วนี่นา ทำไงดีล่ะทีนี้ -0- “งั้นคุณจอดให้ฉันลงแถวนี้ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจะต่อแท็กซี่เอง” ฉันบอกพร้อมกับยิ้มบางๆ ไปให้ แต่ไม่คิดว่า รอยยิ้มของฉันจะทำเขาดูเครียดหนักกว่าเดิม -0- ทำไมขมวดคิ้วแบบนั้นล่ะ ฉันพูดอะไรผิดไปงั้นเหรอ “จะบ้าเหรอคุณ ไปรับมาอย่างดี จะให้ทิ้งลงระหว่างทางเนี่ยนะ” อ๋า...ก็นึกว่าเรื่องอะไร “ทิ้งตรงไหนกันละคะ คุณมีธุระสำคัญต้องรีบไป ฉันก็แค่อาสาจะกลับเองก็เท่านั้น” “ไม่ได้!!!” “ทำไม คุณกลัวว่าฉันจะมองคุณไม่ดีเหรอ ฉันเป็นคนมีเหตุผลพอนะ แล้วอีกอย่างฉันก็มีแว่นแล้วด้วย คงไม่มีปัญหาอะไรหรอกมั้งคะ” ทำไมต้องโวยวายด้วย -0 – ตกใจเป็นเหมือนกันนะ! TT “คุณเห็นผมเป็นคนยังไงฮะ คุณ... นี่คุณชื่ออะไรนะ” อ้าว -0- เวรกรรม! พาไปทำแผลถึงในห้องก็แล้ว ส่งยันที่พักกันก็แล้ว แถมอยู่บนรถคันเดียวกันอีก นี่เขายังไม่รู้ชื่อฉันหรอกเรอะ! โอ๊ย อะไรกันนี่.. “ฉันชื่อนินค่ะ” “อ่านิน ชื่อน่ารักดีแฮะ” “อะไรนะคะ” “เปล่าครับ!” ตะกี้ยังพูดเสียงดังอยู่เลย ทีตอนนี้พูดเบาซะจนไม่ได้ยิน แปลกคนจริงๆ ว่าแต่ รถติดขนาดนี้ ฉันไม่ใช่คนขับทำไมถึงดูหงุดหงิดมากกว่าคนขับซะล่ะ เฮ้อ! “ตกลงเอาไงคะ คุณรีบไม่ใช่เหรอ” ฉันหันกลับไปถามเขาอีกที ในขณะที่ดูเหมือนว่าเขานั้น กำลังใช้ความคิดกับมันอยู่เหมือนกัน ทางข้างหน้าบอกเลย ถ้าใครรีบล่ะก็ คงจะหูร้อนไม่เบา รถขยับได้ทีละนิดอย่างกับใช้น้ำมันตราเต่า นี่ถ้าให้ฉันลงจากรถ เดินไปซื้อขนมข้างทางมากินละก็นะ กินจนหมด ฉันว่าฉันยังเดินทันรถอะ ฮ่าๆๆ บ้าจริง อะไรจะติดเบอร์นี้นะ “คุณรีบกลับ หรือ มีธุระที่ไหนจะไปต่อรึเปล่า” “ไม่มีค่ะ วันนี้วันหยุดฉัน” ถ้าจะให้ไปหาเด็กๆ ที่บ้านเก่า เวลาปาเข้าไปป่านนี้ คงไม่ทันแล้วแหละ “งั้นไปพบลูกค้าเป็นเพื่อนผมหน่อย เสร็จแล้วจะกลับมาส่ง” ฮะ!! -0- อะไรนะ “แต่เดี๋ยวแวะเอาเอกสารที่คอนโดผมก่อน คุณคงไม่ว่านะ” มัวแต่ค้าง ยังไม่ทันได้ตอบอะไรเลย เขาก็หักพวงมาลัยกลับรถไปอีกทางซะแล้ว เฮ้ยคุณ!! ชุดฉันไม่พร้อมมมมมม!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD