HUNTED STEP 05-02

3247 Words
HUNTED STEP 05-02 23.20 น. รู้สึกตัวอีกทีตอนที่ฉันขยับตัวแล้วพบว่าอ้อมกอดอุ่นของใครบางคนยังคงโอบกอดฉันอยู่ เราหลับไปทั้งคู่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน “องศา” ฉันลุกขึ้นนั่งบนตัวเขาก่อนจะสะกิดเรียกให้องศาตื่น “หืม กี่โมงแล้วเนี่ย” “ห้าทุ่มกว่าแล้ว” “อ่า ให้ตายสิ ฉันหิวชะมัด” ตัวฉันเองก็หิวนิดหน่อยเหมือนกัน เลยลงจากตัวเขาแล้วเดินนำเข้าห้องครัวเพื่อหาอะไรกิน แต่แล้วองศาก็เดินตามฉันมาติดๆ “มีข้าวกล่องแช่แข็งอะ” “ไม่เอา ฉันไม่ชอบกินอาหารแช่แข็ง เธอไปนั่งไปเดี๋ยวฉันจัดการเอง” “ตามใจแล้วกัน” ในห้องฉันไม่ค่อยมีอะไรที่ยุ่งยากหรอก เน้นสะดวกไว้ก่อน ฉันปล่อยให้องศาทำอาหารแล้วเดินมารื้อเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าลงตะกร้าเพื่อเตรียมซัก และจัดของที่นำออกมาจากกระเป๋าให้เข้าที่เข้าทาง “แอมแปร์ อาหารเสร็จแล้วนะ” ฉันเดินมาตามเสียงเรียก พบชามกระเบื้องวางคู่กันและอาหารในถ้วยนั้นคือมาม่า... หน้าตาน่ากินเลยล่ะ เขาใส่หมูสับและไข่ลงไปด้วย ไหนจะผักอีกนิดหน่อยเท่าที่พอมีเหลืออยู่ในตู้เย็น “นายทำอาหารเก่งเหมือนกันนะ” “มันจะไปยากอะไร แค่ต้มแล้วใส่นั่นใส่นี่ลงไปใครๆก็ทำได้” “หมายถึงว่าทำอาหารได้หลายอย่างไง เค้ก กาแฟ แล้วก็อาหารง่ายๆแบบนี้” “สนใจเป็นแฟนฉันไหมล่ะ เธอไม่อดตายแน่ ลองดูสิ” องศาโน้มหน้าพร้อมทั้งรอยยิ้มกรุ้มกริ่มเข้ามาใกล้ แต่ฉันไม่ได้ถอยหนีไปไหนเพียงแต่ส่งสายตาดุไปให้ เขาจึงหยุดอยู่แค่นั้นและเบือนหน้าหนีอย่างขัดใจ วันนี้เป็นอะไรของเขา เอะอะก็จะถึงเนื้อถึงตัวอย่างเดียวเลย เราต่างคนต่างนั่งกินมาม่าของตัวเองไป เรื่องของรสชาติมันก็พอกินได้ คือมันก็มาม่าทั่วไปนั่นแหละแค่รู้จักเอามาทำให้มันน่ากิน ฉันไม่ใช่สายพูดอวยคนอื่นสักเท่าไหร่ จะให้มานั่งบอกว่าเขาทำอร่อยจัง หรือให้ฉันนั่งชมมันก็ไม่ใช่ฉันอยู่ดี ใช้เวลาไม่นานอาหารตรงหน้าเราสองคนก็หมดเกลี้ยง “นายกลับได้แล้วนะ มันดึกมากแล้ว” ฉันพูดขณะที่ยกชามทั้งสองชามมาล้างที่อ่างล้างจาน “ดึกแล้วก็ให้ฉันนอนด้วยที่นี่ซะเลยสิ เมื่อคืนเรายังนอนด้วยกันได้เลย” “นั่นนายแอบมานอนเองต่างหาก กลับได้แล้วเดี๋ยวฉันจะทำงานต่อ” “ห้ะ! เธอพักบ้างเถอะ กินนอนเป็นเวลาเหมือนคนอื่นเขาบ้าง” “จะกินนอนตอนไหนก็เรื่องของฉันน่ะ” ไม่ต้องพูดมากไปกว่านี้ ฉันคว้าข้อมือเขาแล้วพาเดินมาที่หน้าประตูห้องทันที องศาทำหน้าหงอยแต่ก็ยอมใส่รองเท้าของตัวเอง ฉันเปิดประตูแล้วจูงเขาเดินออกมาด้านนอกเพื่อจะไปส่งเขาที่ลานจอดรถ “มันกลับไปแล้วเหรอ” ถ้าองศาหมายถึงพี่ซีล่ะก็... “เขาจะกลับไปหลังจากที่ฉันกลับมาอยู่ที่ห้องแล้ว” “อะไรของมัน เวลาเธออยู่ห้องมันก็มาเฝ้า วันไหนไม่อยู่ห้องก็รอเธอจนกลับแล้วตัวเองค่อยกลับ? ชีวิตมันดูว่างเนอะ งานการไม่มีทำเหรอ” “เหมือนนาย ที่ว่างตามฉันได้เป็นวันๆนั่นแหละ” “เธอปกป้องมันตลอดเลยนะแอมแปร์...” เอาเถอะ เขาอยากคิดยังไงก็แล้วแต่ แต่ฉันไม่ได้ปกป้องพี่ซีแค่ฉันรู้จักเขาดีก็เท่านั้น สิ้นประโยคที่เขาพูดประชดฉัน องศาก็เงียบไม่พูดอะไรออกมาอีกจนกระทั่งฉันจูงมือเขาเดินมาถึงรถ “ขับรถดีๆนะ” “อื้ม เธอก็นอนต่อได้แล้ว งานค่อยทำพรุ่งนี้ แล้วอย่าบล็อกเบอร์ฉันอีกนะ” ฉันพยักหน้าแล้วดันตัวเขาให้เข้าไปนั่งในรถสักที และยืนมองเขาขับรถออกไปจากบริเวณนี้จนพ้นสายตา โมเมนต์แบบนี้เหมือนตอนที่ฉันมาส่ง พี่ซีไปทำงานเมื่อหลายปีก่อนเลยเนอะ แต่กับองศาฉันเดินมาส่งเพราะเขาลูกเล่นเยอะ ไม่ยอมกลับสักที มันน่ารำคาญน่ะเลยลากมาส่งให้จบๆไป ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าของใครสักคนดังมาจากด้านหลังทำให้ฉันต้องหันไปมอง “ร่าน! นอนกกกับแฟนชาวบ้านค่อนคืน!” อันนา.. เธอเดินปรี่เข้ามาหาฉันพร้อมทั้งสาดน้ำจากขวดน้ำในมือมาใส่ฉัน ทว่าฉันหลบทันอย่างหวุดหวิด มันจึงโดนแค่ปลายผมด้านหลังและโดนเสื้อคลุมตัวนอกที่ฉันใส่ออกมาเท่านั้น แต่คิดเหรอว่าฉันจะยอม? เหอะ! วินาทีต่อมา ฉันก้มหยิบรองเท้าแตะที่ตัวเองใส่ปาเข้าที่หน้าของเธอ อย่างจังและไม่ออมแรงแม้แต่น้อย “โอ๊ย! แก!” ไม่รอให้เสียเวลา ฉันเดินปรี่เข้าไปหาแล้วคว้าขวดน้ำในมือเขวี้ยงทิ้งลงพื้นก่อนตบหน้าเธอจนสุดแรง คนอย่างฉันไม่ได้ยอมให้ใครมารังแกง่ายๆ ถ้าคิดจะทำฉันเจ็บก็ต้องเตรียมใจมาเจ็บตัวด้วยเหมือนกัน! เพี้ยะ “กรี๊ดดดดด อีบ้า ฉันเจ็บนะ!!” ก็ตบให้เจ็บไง!! เมื่อเธอเงื้อมมือจะตบฉันกลับ ฉันจึงรีบเอื้อมมือไปจิกกลุ่มผมสีบลอนด์ของเธอแล้วออกแรงกระชากให้ล้มลงบนพื้นโดยมีตัวฉันคร่อมอยู่ด้านบน “กล้าดียังไงมาด่าฉันแบบนั้น?” ฉันเอ่ยถามอันนาไปเสียงเรียบและใบหน้านิ่ง.. “ก็มายุ่งกับพี่องศาของฉันทำไม ไม่มีปัญญาหาผัวเหรอถึงต้องพาผู้ชายมานอนกกถึงห้องน่ะ!!” หัวใจฉันเต้นถี่แรงด้วยความโกรธ ยิ่งสายตาเหลือบไปเห็นน้ำที่ไหลจากขวดมันเริ่มเกิดฟองและมีไอร้อนขึ้นมาฉันยิ่งโมโห เธอกล้ามากนะคิดจะเอาน้ำกรดมาสาดฉันเลยเหรอ!! ปลายเล็บของฉันออกแรงจิกโคนผมของหล่อนให้แรงกว่าเดิม เคยคิดว่าองศากับอันนาเหมาะสมกัน แต่ตอนนี้คงต้องเปลี่ยนความคิด “ฉันไม่เคยคิดจะแย่งเขามาจากเธอ แต่ตอนนี้ ฉันจะเอาเขามาเป็นของฉันให้ได้! คนอย่างองศาน่ะไม่ยากหรอก” “โอ๊ย! ฉันไม่มีวันยอมเสียพี่เขาให้ใคร!!” เธอจิกเล็บลงที่แขนของฉันจนรู้สึกเจ็บ แต่ฉันไม่ปล่อยเธอหรอก ฉันจะยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้เธอกลับไปด้วย “เกมนี้เธอเริ่มเองนะอันนา แต่ฉัน..จะเป็นคนจบเกมนี้ให้เอง ขอบอกเอาไว้ตรงนี้ว่าต่อไปเขาจะไม่สนใจเธออีกร้อยเท่าพันเท่า องศาจะอยู่กับฉันแทบทุกวัน เราจะนอนด้วยกันจนหนำใจ โดยที่เธอจะไม่มีวันได้รับความรักจากเขาเท่าเดิมอีก!” “ไม่มีทาง!! พี่เขารักฉัน!” “ฉันไม่สน! ถ้าเขารักเธอเขาคงไม่ตัวติดกับฉันแบบนี้หรอก รู้เอาไว้ว่ากำลังจะเป็นหมาหัวเน่า! เวลาองศาอยู่กับฉัน เขาไม่เคยนึกถึงเธอเลย หึ! ฉันไม่มีทางปล่อยองศาคืนให้เธอแน่อันนา เธอคิดผิดที่ทำเรื่องต่ำๆกับฉันวันนี้! แล้วตัวเธอเองนั่นแหละที่จะเจ็บเจียนตายเพราะผู้ชายทิ้งมาหาฉัน!” ทุกอย่างที่พูดออกไปทุกคำฉันตั้งใจที่จะพูดเพราะฉันจะทำตามนั้นจริงๆ ผู้หญิงคนนี้จะเจ็บยิ่งกว่าเจ็บ สายตาอาฆาตที่เธอส่งมาให้มันไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกกลัวเลยสักนิด ปิ๊ดดด ได้ยินเสียงนกหวีดของพี่ยามดังแว่วมาไกลๆ ฉันจึงจับหัวยัยเด็กนี่กระแทกพื้นเบาๆเป็นการส่งท้ายก่อนจะลุกเดินออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่อารมณ์โกรธยังคงพลุ่งพล่านไม่หาย ฉันไม่คิดเลยจริงๆว่าเด็กนี่จะกล้าถือน้ำกรดมาทำเรื่องแบบนี้ สมองมีน้อยมากมั้งถึงคิดไม่ได้ ถ้าน้ำกรดนั่นโดนใครสักคนขึ้นมาจนบาดเจ็บจะทำยังไง น้ำกรดนะไม่ใช่น้ำเปล่า ขนาดฉันไม่โดนเต็มๆยังรู้สึกร้อนๆที่ต้นคอเลย ดีที่หลบทันเลยโดนปลายผมด้านหลังแทน ถ้าโดนหน้าฉันขึ้นมาล่ะ? มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยนะ รักมากใช่ไหมผู้ชายคนนี้ งั้นฉันขอก็แล้วกัน!!! ปัง!! ปิดประตูห้องเสียงดังด้วยอารมณ์ที่ไม่คงที่นัก ยัยเด็กบ้านั่นทำฉัน หัวเสียกลางดึกซะได้ ฉันรีบเดินไปยืนหน้ากระจกบานใหญ่แล้วส่องสำรวจร่างกายตัวเองอย่างละเอียดว่าโดนน้ำกรดตรงไหนบ้างหรือเปล่า เสื้อคลุมตัวหนาถูกถอดออกเพื่อดูว่าโดนน้ำกรดไปมากน้อยแค่ไหน ปรากฏว่ามันขาดเป็นรูตามที่ผิวผ้าสัมผัสโดนน้ำกรดนั่น หลังคอฉันที่โดนไอระเหยของน้ำกรดยังรู้สึกแสบร้อนไม่หาย นี่ขนาดไม่สัมผัสผิวโดยตรงยังแสบขนาดนี้เลยล่ะ มันร้ายแรงถึงขนาดปลายผมด้านหลังของฉันแหว่งไม่เป็นทรง วันมะรืนฉันต้องไปออกบูธน้ำหอมที่ห้างซะด้วยสิ พรุ่งนี้คงต้องไปทำผมใหม่ก่อนวันงาน วุ่นวายไปหมดเพราะยัยเด็กนั่นคนเดียวเลย ฉันไม่รู้หรอกว่าเธอไปรู้ไปเห็นอะไรระหว่างฉันกับองศามาตอนไหน แต่ต่อไปเธอจะต้องเจ็บยิ่งกว่าการโดนน้ำกรดสาดแน่นอน เธอเข้ามาทำพฤติกรรมไม่น่ารักกับฉันก่อน ซึ่งมันกระตุ้นความอยากได้และอยากชนะของฉันให้สูงปี๊ด จากที่ไม่คิดอะไรกับองศาเลยเพราะเขาดูเป็นคนดี แต่จากนี้ฉันจะต้องได้หัวใจองศา มันคือวิธีที่จะทำให้อันนาเจ็บที่สุด แล้วนี่องศาจะรู้บ้างไหมนะ ว่าแฟนที่แสนดีน่ารักของเขาทำแบบนี้ ฉันแจ้งตำรวจจับยัยนั่นยังได้เลยแต่ฉันไม่ทำ มันน้อยไปสำหรับยัยนั่น ขอเปิดศึกตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ผู้ชายที่ชื่อองศาต้องเป็นของฉัน หลังจากที่ใช้ผ้าเย็นประคบที่หลังคอฉันจึงหยิบโทรศัพท์โทรหาองศาสักหน่อย ไม่รู้อันนาโทรไปเป่าหูอะไรหรือเปล่า แต่ก็ช่างยัยเด็กนั่นเถอะ ตู๊ดดดด [ฮัลโหลแอมแปร์] “นายถึงบ้านรึยัง” [ยัง แต่ใกล้ถึงแล้วล่ะ เธอเป็นอะไรรึเปล่า? ทุกทีไม่เห็นจะโทรหาฉันเลย] “กลัวนายจะหลับใน ถึงแล้วโทรบอกฉันด้วยล่ะ” [ก็นึกว่าโทรมาเพราะไอ้แฟนเก่าเธอไปกวน จะได้วนรถไปหาเดี๋ยวนี้เลย แต่ที่ไหนได้เธอโทรมาเพราะเป็นห่วงฉันนี่เอง ฮ่าๆ] “ไอ้บ้า แค่นี้แหละ” พอเขาขี้เล่นใส่ฉันบางทีก็อดขำตามไม่ได้ ช่างไม่รู้ชะตากรรมตัวเองที่กำลังจะตกเป็นหมากในเกมระหว่างฉันกับอันนาเอาซะเลย แต่อีกใจฉันไม่อยากทำร้ายองศานะ เชื่อเถอะว่าสักวันเขาจะชอบฉันขึ้นมาจริงๆแล้วถึงวันนั้นตัวฉันเองอาจจะทิ้งเขาอย่างเลือดเย็น แต่ก็ไม่แน่ เราอาจเป็นเพื่อนกันได้ เพราะทุกวันนี้ฉันวางสถานะของเขาเป็นแค่เพื่อนคนหนึ่งและมันก็โอเคนะ เขาเป็นเพื่อนที่ใช้ได้เลยล่ะ ฉันเดินเข้าไปอาบน้ำโดยไม่ลืมที่จะหยิบโทรศัพท์เข้าไปด้วย เผื่อว่าองศาถึงบ้านแล้วโทรมาจะได้รับสายทัน เมื่อได้นอนแช่น้ำอุ่นมันช่วยให้ผ่อนคลายลงได้มาก ความคิดฟุ้งซ่านเมื่อครู่หายไป ในหัววางแผนการที่ตัวเองควรจะทำเงียบๆ Rrrrrr ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครโทรกลับมา ฉันเช็ดมือที่เปียกก่อนจะคว้าโทรศัพท์ ขึ้นมาดู ทว่า...องศาวิดีโอคอลมา “ถึงบ้านแล้วเหรอ?” [เพิ่งถึง ทำไมเธอไม่เปิดกล้องล่ะ?] “ฉันอาบน้ำอยู่” เขาไม่ได้ปิดกล้องทางฝั่งเขาเมื่อรู้ว่าฉันไม่ยอมเปิดกล้อง เพียงแต่ทำหน้าเซ็งใส่เหมือนรู้ว่าฉันมองเขาอยู่ [เดี๋ยวฉันอาบน้ำโชว์ให้เธอดูเอาไหม?] “ไม่ดูหรอก เออ มะรืนว่างไหม? ฉันต้องไปออกบูธน้ำหอม ถ้าว่างก็มากินข้าวกัน” [เธอชวนฉันกินข้าวเหรอ? เห้ย!!] ฉันตัดสินใจเปิดกล้องแต่ถ่ายตัวเองให้เห็นแต่หน้าเพื่อคุยกับเขา ที่องศาวิดีโอคอลมาเพราะอยากเห็นหน้าฉันล่ะมั้ง ฉะนั้นก็ควรได้เห็นเพื่อไม่ให้เสียความตั้งใจ แต่เห็นได้แค่หน้าเท่านั้นล่ะ “ตกใจอะไรของนาย ไม่ว่างก็แล้วแต่ แล้วนายไปรับแฟนนายวันไหนล่ะ กลับจากพัทยารึยัง?” [ว้าวววว ลดกล้องต่ำลงมาอีกหน่อยสิ เห็นหน้าบ่อยแล้วอยากเห็นนมบ้าง] “องศา! นายนี่! เมื่อก่อนไม่เห็นจะทะลึ่งขนาดนี้เลย” [ก็ผู้ชายอะ มันคิดอยู่ไม่กี่เรื่องหรอก เมื่อกี้เธอถามว่าไงนะ?] “ถามว่าไปรับอันนาวันไหน ถ้าต้องไปรับแฟนก็ไม่ต้องมาหาฉันก็ได้” แสร้งถามทำเป็นไม่รู้ไปอย่างงั้น ทั้งที่ฉันเพิ่งเจอกับแฟนเขาเมื่อชั่วโมงก่อนนี้เอง [อันนาเหรอ ยังไม่ได้คุยกันเลยอะ แต่ฉันว่างสำหรับเธออยู่แล้ว] “อยู่กับนายบ่อยๆก็ดีนะ ไม่เบื่อดี ถ้าว่างตรงกันก็เจอกันบ้างก็ได้ แต่เกรงใจแฟนนายจัง ทำตัวอย่างกับเป็นชู้กันทั้งที่เราไม่ได้เป็นอะไรกันเลย” นางร้ายในคราบนางเอกแบบที่ฉันกำลังทำมันใช้ได้กับผู้ชายทุกคนนะ ผู้ชายมักจะโง่เรื่องผู้หญิงนี่แหละ [ฉันดีใจจังที่เธออยู่กับฉันแล้วมันโอเค เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันไปหาเธอบ่อยๆแล้วกัน เราไม่ได้เป็นชู้กันสักหน่อย ฉันอยากเป็นเพื่อนกับเธอมากกว่า เธออยู่กับตัวเองมากไปอะ ถ้าฉันอยู่ข้างเธออาจทำให้เธอคลายเครียดได้] องศาก็เป็นแบบนี้ ชอบพูดกึ่งเล่นกึ่งจริงแต่ก็มักจะตรงตามที่เขาบอกอยู่บ่อยครั้งในเรื่องเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของฉัน ก็เมื่อก่อนชีวิตฉันมีแค่พี่ซี วันนี้ไม่มีพี่เขาแล้วฉันก็เหลือแต่ตัวเอง ก็ถูกแล้วนี่ที่ฉันใช้ชีวิตคนเดียวแบบนี้ นี่ถ้าแม่อยู่เมืองไทยฉันก็คงอยู่กับแม่ แต่แม่อยู่ต่างประเทศ ชีวิตฉันเลยเป็นอย่างที่เห็น ฉันออกจะแฮปปี้ ไม่เห็นซีเรียสอะไรเลย “นายน่ารักดีนะองศา ถ้านายไม่มีแฟนอยู่ก็คงดี” [วันนี้มาอารมณ์ไหนของเธอเนี่ย] “ไปอาบน้ำนอนได้แล้วไป บาย” คิดว่าเขาคงว้าวุ่นกับคำพูดของฉันไม่น้อย เอาจริงๆฉันแทบจะไม่ต้องทำอะไรมากเลยนะเพื่อให้องศาสนใจ ฉันก็เป็นตัวเองแบบนี้เดี๋ยวเขาก็เข้ามาหาฉันเอง อาจจะเปิดใจให้เขามากขึ้นหน่อยก็เท่านั้น นับเคสผู้ชายที่ฉันเจอมา คู่องศากับอันนาเป็นอะไรที่ฉันอยากชนะมากที่สุด ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนท้าทายฉันได้ขนาดนี้ เลยทำให้ดูเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นซะจนคู่อื่นที่ผ่านมากระจอกไปเลย เทียบกับผู้ชายที่นอกใจแฟนมากิ๊กกับฉัน องศาก็ไม่ต่างไปจากผู้ชายพวกนั้นหรอก เขามีอันนาอยู่แล้วแต่ยังเอาตัวมาพัวพันกับฉันถึงขั้นเสนอตัวกับแฟนเก่าว่าเป็นแฟนใหม่อีก เวลาที่อยู่กับฉัน ไม่เห็นจะมีสักเสี้ยววินาทีไหนที่องศาจะสนใจอันนาเลย ถามว่าเลวไหมก็เลว แต่จริงๆแล้วเรื่องอื่นองศาเป็นคนดีเลยนะ คือคนแบบนี้เหมาะกับการเป็นเพื่อนอย่างที่ฉันเคยบอกนั่นแหละ พักความคิดเรื่องอยากเอาชนะไว้เพียงแค่นั้น ฉันรีบลุกมาล้างตัวและสวมชุดนอนตัวบางอย่างลวกๆ ทว่าขณะเดินผ่านโซฟาสายตาฉันเหลือบเห็นกระเป๋าตังค์หล่นอยู่ น่าจะขององศา กระเป๋าหนังจระเข้สีดำยี่ห้อดังหล่นอยู่บนพื้นข้างโซฟา ขอถือวิสาสะหยิบขึ้นมาเปิดดูหน่อยแล้วกัน ด้านในเป็นรูปครอบครัวของเขา มีพ่อ แม่ และเด็กผู้หญิงอีกคนหน้าตาเหมือนองศาเป๊ะเลย คงจะเป็นน้องสาว เห็นแล้วก็อดยิ้มไม่ได้เพราะครอบครัวฉันแตกระแหงไปหมดแล้ว ลืมความอบอุ่นของคำว่าครอบครัวไปนานแล้วด้วย เอิ่ม นอกนั้นก็มีบัตรเครดิตอีกหลายใบ บัตรประชาชน เงินสด จำนวนหนึ่ง แล้วก็...ถุงยางอนามัย “นายนี่มันจริงๆเลยนะองศา หึ” มันก็น่าคิดเหมือนกันนะ เขามีอุปกรณ์อย่างว่าอยู่กับตัว แต่เขาไม่ทำแบบนั้นกับฉัน อาจมีพูดจาทะลึ่งตึงตังบ้างแต่องศาไม่เคยเหวี่ยงฉันลงเตียงแล้วระดมจูบเหมือนที่ผู้ชายคนอื่นทำ เขาจะจูบก็ขออนุญาตฉันก่อน พอไม่ให้ก็ไม่ทำ แปลกไหมล่ะ เขาเลือกที่จะไม่ทำเองทั้งที่มีโอกาสตั้งหลายครั้ง แต่ฉันก็มั่นใจว่าฉันสามารถควบคุมเขาอยู่ ฉันถ่ายรูปกระเป๋าตังค์ของเขาแล้วส่งไลน์ไปบอกว่าเขาลืมของไว้ที่นี่ ก่อนจะถือมันไปวางไว้บนโต๊ะดีๆและเข้าห้องนอน Rrrrrr องศา... “ว่าไงองศา นายลืมกระเป๋าตังค์ไว้ที่ห้องฉันนี่ตั้งใจรึเปล่า” [อ้าว ฉันลืมเหรอ?] “นายยังไม่อ่านไลน์ที่ฉันส่งไปเหรอ?” [ยัง ทะเลาะกับอันนาอยู่ ฉันจะโทรมาถามเธอว่าเธอได้เจออันนาบ้างรึเปล่า หรืออันนาโทรไปกวนเธอไหม] ยัยเด็กนั่น...จะหาเรื่องใส่ร้ายอะไรฉันอีกนะ น่าสนุกจัง “เธอบอกนายว่าไงล่ะ” [ก็พูดแต่ว่าเธอจะแย่งฉันไป อะไรไม่รู้ว่ะ งง อยู่ดีๆก็มาหาฉันที่บ้าน ร้องไห้เพิ่งหยุดเมื่อกี้เอง แล้วเรื่องมันเป็นยังไงเหรอ?] “ถามฉัน ฉันจะไปรู้ด้วยกับแฟนนายไหมล่ะ คงเห็นนายอยู่กับฉันบ่อยๆมั้งเลยหึงเป็นธรรมดา” [ช่างเถอะ เดี๋ยวฉันจัดการอันนาเอง] “แล้วนายมีตังค์ใช้ไหม ลืมกระเป๋าตังค์ไว้ที่นี่” [มีอยู่ เดี๋ยวมะรืนเจอกันนะ อย่าลืมเอามาคืนฉันด้วยล่ะ บ๊ายบาย] น้ำเสียงยังสดใสอยู่แสดงว่าไม่เครียดมาก ยัยเด็กนั่นถึงกับถ่อไปหาองศากลางดึกกันเลยเหรอ? เหอะ ตลกชะมัด มีโอกาสอ้อนองศาอยู่ก็อ้อนเขาซะให้พอนะอันนา นอนกอดเขาให้แน่นๆนะคืนนี้ END TALK
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD