HUNTED STEP 03-02

2751 Words
HUNTED STEP 03-02 ก๊อก ก๊อก ผมเลือกที่จะไม่กดออดหน้าห้องแต่เคาะประตูแทนเพราะมันน่าสะใจกว่าตรงที่ตำแหน่งการเคาะประตูของผมเลือกที่จะเคาะข้างหูเขาพอดี ก็ช่วยไม่ได้ อยากมายืนขวางเองทำไม เขาเอียงคอหลบอย่างไม่พอใจก่อนจะผลักหน้าอกผมด้วยความโมโห “ช่วยมีมารยาทกับผมหน่อยนะคุณ” “กูบอกให้กลับไป อย่ามายุ่งกับเมียกู!!” เกลียดชะมัดเวลาโดนตะคอกใส่หน้าแบบนี้... “เมื่อก่อนน่ะเมียมึง แต่ตอนนี้เป็นเมียกู! กลับไปสักที ผัวเมียเขาจะอยู่ด้วยกัน!!” ผลั้วะ กำปั้นหนักๆของเขาปล่อยเข้ามาที่หน้าท้องของผมเต็มแรงจนตัวงอ เชี่ย จุกฉิบหาย ผมใช้มือกุมหน้าท้องไว้ข้างหนึ่งก่อนจะยกมืออีกข้างไปผลัก หน้าอกมันอย่างไม่ยอมแพ้ แอ๊ดดดด... “มาแล้วเหรอคะที่รัก เข้ามาสิ” ประตูห้องถูกเปิดออกโดยร่างบางที่อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำแล้วมีผ้าโพกหัวไว้คล้ายว่าเพิ่งอาบน้ำสระผมออกมาหมาดๆ ขณะที่ผมกำลังจะก้าวเท้าเดินเข้าไปหาเจ้าของห้องที่ส่งรอยยิ้มหวานมาให้นั้น ไอ้บ้านี่ก็ชิงเข้าไปซะก่อนแต่ดีที่ผมดึงมันออกมาได้ทันแล้วแทรกตัวเองเข้าไปในห้องแทน โดยมีแอมแปร์คอยปิดประตูทันทีที่ผมเข้ามาด้านในได้สำเร็จ “แฟนเธอนี่หมัดหนักชะมัด” “แฟนเก่า.. อย่ามาโอดครวญ นายก็ไปพูดยั่วโมโหพี่ซีเขา ดีไม่โดนต่อยอีกสักหมดสองหมัดเข้าที่หน้าได้หมดหล่อพอดี” “อ้าว งี้เธอก็เห็นสิว่าฉันจะโดนต่อย เธอเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเหรอ? แล้วทำไมไม่เปิดประตูตั้งแต่แรก” “รู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ เห็นผู้ชายถกเถียงกันสะใจดีออก ฉันชอบ” ยัยโรคจิต... “ฉันเจ็บตัวไปแล้วเธอจะรับผิดชอบยังไง” ผมโน้มหน้าเข้าไปหาเธอจนริมฝีปากของเราแทบจะชนกัน โดยที่แอมแปร์ไม่มีท่าทีจะหลีกหนีผมแม้แต่น้อย ตากลมจ้องมองผมกลับก่อนจะเผยยิ้มเยาะออกมาเล็กน้อย “นายต่างหากที่ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่นายก่อไว้” นิ้วเรียวยกขึ้นแตะที่ริมฝีปากของผมแผ่วเบาก่อนที่เธอจะโฉบหน้ามาจูบที่นิ้วตัวเองซึ่งเป็นกำแพงกั้นระหว่างริมฝีปากของเราทั้งคู่ แม่งเอ๊ย ผู้หญิงคนนี้มีแรงดึงดูดสูงมาก เธอสามารถทำให้ผมหยุดนิ่งได้ด้วยการกระทำของเธอเพียงเล็กน้อย แม้ว่าเธอจะเดินหนีผมไปแล้ว แต่ร่างกายผมเหมือนมันไม่ยอมขยับไปไหน ยังคงจดจำสัมผัสเมื่อครู่ได้ดีแม้จะผ่านไปเป็นนาทีแล้วก็ตาม เสียงไดร์เป่าผมดังขึ้นทำให้สติผมกลับมาอีกครั้ง ผมเดินตามหาร่าง บางภายในห้องจนพบว่าเธอยืนเป่าผมอยู่ที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งภายในห้อง นอนของเธอ ที่ตอนนี้ประตูเปิดกว้างเอาไว้ประหนึ่งว่ากำลังเชิญชวนให้ผมเข้าไปหา สองเท้าย่ำเข้าไปทางห้องนอนของเธออย่างมาดมั่น... “หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ ไม่ต้องเข้ามา” เธอปิดไดร์เป่าผมแล้วหันมาพูดกับผม “แล้วถ้าฉันไม่ฟังที่เธอพูดล่ะ?” “นายก็จะได้เจอฉันครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย” น่าแปลกที่สองขามันกลับชะงักเพียงเพราะคำพูดประโยคนั้นประกอบกับสายตาคมกริบที่เธอตั้งใจส่งมาขู่ผม บ้าจริง เสียฟอร์มชะมัด ผมยักไหล่แก้เก้อก่อนจะถอยออกมานั่งที่โซฟามองเธออยู่มุมนี้แทน “เร็วๆนะ!! ฉันจะต้องไปซื้อของเข้าร้านอีก แล้วเธอต้องไปช่วยฉันขนของด้วย ไม่ต้องพิถีพิถันแต่งตัวนานหรอก สวยอยู่แล้ว!!” ผมจ้องมองเธอทุกการกระทำจนกระทั่งเธอเป่าผมของเธอเสร็จแบบลวกๆน่ะนะ มือเล็กดึงเชือกของชุดคลุมอาบน้ำออกผมเห็นนี่รีบลุกขึ้นยืนเลย คาดหวังมากว่ารูปร่างภายในที่กำลังจะเผยสู่สายตาผมมันจะสะพรั่งขนาดไหน น้ำลายอึกใหญ่กลืนลงคออย่างตื่นเต้น และเหมือนว่าเธอจะจับสังเกตถึงความหื่นกระหายของผมที่นั่งไม่ติดในตอนนี้ คนตัวเล็กหันมาหาผมเต็มตัวก่อนจะถอดชุดคลุมอาบน้ำออกอย่างรวดเร็วพร้อมกับหัวใจของผมที่ลุ้นจนแทบจะหยุดเต้น “เก็บอาการหน่อยองศา ฉันไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นที่นายเคยผ่านมาหรอกนะ ฮะๆ จะพาฉันไปไหนล่ะ ไปได้แล้ว” “จิ๊ แอมแปร์ เธอนี่นะ!” ยัยนี่มันร้าย ทำตัวเหมือนตัวเองโป๊เปลือยอยู่ภายใต้ชุดคลุมอาบน้ำ แต่เปล่าเลย เธอใส่เสื้อผ้าไว้ข้างในแล้วต่างหาก เสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงยีนส์ขาสั้นมันปกคลุมร่างกายของเธออยู่อีกชั้นต่างหาก ผมสำรวจร่างกายเธอคร่าวๆก่อนจะรีบเดินเข้าไปที่ห้องนอนของเธอเพื่อหาผ้าขนหนูผืนเล็กแล้วหยิบมันเดินกลับมาหาเธออีกครั้ง “นายจะทำอะไร?” “จะเช็ดผมให้ เธอเป่าไม่ดีอะ มานี่มา” “ไม่ต้อง เดี๋ยวมันก็แห้งเองแหละ” ไม่รีรอให้เธอปฏิเสธไปมากกว่านี้ ผมจัดการใช้ผ้าคลุมหัวเธอก่อนจะออกแรงเช็ดเบาๆ ท่ามกลางความเงียบที่ก่อตัวขึ้นอีกครั้งผมจับสังเกตได้ว่าเธอดูเหม่อลอย แม้ว่ามือจะยังคงเช็ดผมให้เธอไม่ขาดแต่สายตาผมเห็นนะว่าเธอใจลอยไปสักพักแล้ว “คิดอะไรอยู่” คนตัวเล็กสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อผมโน้มหน้าไปกระซิบถามที่ข้างหู เธอถอนหายใจแล้วหันมาสบตาผมโดยตรงด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก ผมใช้มือจัดทรงผมให้เธอลวกๆหลังจากเช็ดจนฟูฟ่องเป็นลูกแมว “ฉันไม่ชอบให้พี่ซีมาเฝ้าแบบนี้ รำคาญ” “เธอไปบอกมันสิ ทำไมไม่คุยกันล่ะ” “...” เธอเงียบไปอีกครั้งผมเลยเดินไปหยิบหวีมาหวีผมให้จะได้เสร็จๆสักที เห็นผมเปียกแล้วขัดใจน่ะ เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ทำอะไรเรียบร้อยเลยสักอย่าง ดูจากการใช้ชีวิตในห้องก็รู้ เป็นผู้หญิงที่ง่ายๆ แต่งตัวยังไงก็ได้ แต่งหน้าหรือไม่แต่งก็ได้ ไม่เยอะเรื่องแบบนี้ แต่การที่เป่าผมไม่แห้งแล้วไปข้างนอกนี่ผมว่ามันดูมักง่ายไปหน่อย “ฉันว่าเธอไปใส่เสื้อมีแขนดีๆไป” “แล้วนายมายุ่งอะไรกับฉันเนี่ย” เธอเดินฟึดฟัดเข้าห้องนอนไปอีกครั้งก่อนจะกลับออกมาด้วยเสื้อฮู้ดตัวใหญ่สีชมพูสวมทับเสื้อกล้ามตัวจิ๋วเมื่อครู่ เออ เอาเถอะ ผมแค่เห็นว่าเธอใส่เสื้อกล้ามแล้วมันดูผอมเกินไป เสื้อรัดไปทุกสัดส่วนแบบนั้นยิ่งดูตัวเล็กไปอีก ใหญ่อย่างเดียวก็นมนั่นแหละ “นี่กินเธอกินข้าวรึยัง?” “ยัง หิวจะตาย แต่ออกไปไม่ได้ไง ถ้าฉันเปิดประตูพี่ซีต้องเข้ามาแน่ เพราะนายเลยนะองศา” “กับผู้ชายคนอื่นนี่เก่งจัง แพ้แค่กับมันคนเดียวเนี่ยนะ?” “...” แอมแปร์เงียบไป เธอเดินไปหยิบกระเป๋าตังค์แล้วไปรอผมที่หน้าประตูห้อง ร่างบางชะเง้อมองที่ตาแมวประตูแล้วก็ต้องถอนหายใจพรืดใหญ่ออกมาทำให้ผมต้องเดินตามไปส่องตามเพื่อความสงสัย อ่อ ไอ้เวรนั่นยังไม่ไปอีกเหรอ... “อยู่กับเธอนี่ฉันเปลืองเนื้อเปลืองตัวชะมัดเลยแอมแปร์” ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อเรียกความมั่นใจ ก่อนจะเอื้อมไปคว้ามือเล็กมากุมไว้แล้วเปิดประตูด้วยใบหน้ายิ้มแย้มสดใสให้ดูเหมือนมีความสุขมาก “จะไปไหนกัน” เสียงห้าวของแฟนเก่าเธอถามขึ้นหลังจากที่เราปิดประตูเดินออกมาเรียบร้อยแล้ว ตาคมจ้องมองมือที่เราจับกันไว้ด้วยความไม่พอใจ แต่มันทำให้ผมกระชับฝ่ามือให้กุมมือเธอไว้แน่นกว่าเดิม “ผมจะพาเมียไปฝากครรภ์ ขอตัวนะ” ตอบออกไปแบบนั้นแล้วก็จูงมือเธอเดินไปขึ้นลิฟต์ทันทีโดยที่เราทั้งคู่ไม่มีใครหันไปสนใจไอ้บ้านั่นอีก เมื่อพ้นสายตาคนแอมแปร์ก็ขืนแรงปล่อยมือที่ผมจับเธอไว้แน่นจนหลุดออกจากกัน “ฝากครรภ์บ้าอะไรของนาย” “เอ้า ไม่ดีเหรอ มันจะได้เลิกยุ่งกับเธอไง” “นายรู้ไหม ว่านายกำลังพาตัวเองมาผูกไว้กับฉัน ซึ่งฉันบอกเอาไว้ตรงนี้เลยว่าฉันไม่เห็นข้อดีที่เราอยู่ด้วยกัน” เวลาเป็นเรื่องไอ้ซีอะไรนั่น เธอมักจะจริงจังเสมอ สีหน้า ท่าทาง และน้ำเสียง ทุกๆอย่างแสดงให้ผมเห็นได้ชัดเจนว่าเธอไม่เคยเล่นๆเมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้น “ฉันเอาตัวมาผูกกับเธอยังไง ไม่เห็นเสียหายตรงไหน ดีซะอีกที่เธอมีฉันเป็นไม้กันหมา แฟนเก่าเธอจะได้เลิกยุ่ง” “องศา.. นายลืมอันนาไปรึเปล่า” “ฉันเก่งพอจะดูแลผู้หญิงสองคนได้พร้อมกันน่า” “ไม่จริง ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนทำได้ มันจะต้องมีคนหนึ่งที่ถูกดูแลเอาใจใส่มากกว่า และฉันอยากให้คนนั้นเป็นอันนาไม่ใช่ฉัน” ผมไหวไหล่อย่างไม่แยแสกับสิ่งที่เธอพูด เป็นจังหวะเดียวกับประตูลิฟต์เปิดออกมายังชั้นล่างพอดี มาเป็นแขกก็ต้องจอดรถไว้ลานด้านนอกแทน แยกกับที่จอดรถของผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโด ทำให้เราต้องเดินลงมายังหน้าคอนโดอีกครั้งเพื่อไปที่รถของผมโดยมีผมเองที่เดินนำเธอออกมา เพี้ยะ “หน้าด้าน รู้ว่าเขามีเมียแล้วยังไม่เลิกยุ่ง” เกิดได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาจากด้านหลังผมจึงหันไปมอง แต่ไม่คิดว่าเสียงเพี้ยะที่ได้ยินเมื่อครู่จะเป็นเสียงตบหน้าของผู้หญิงคนนั้น แล้วคนที่โดนตบจะใครซะอีกล่ะถ้าไม่ใช่แอมแปร์!! ผมรีบเดินกลับไปประคองเธอไว้ทันที “ทำอะไรของคุณเนี่ย!” ผมถามผู้หญิงคนนั้นออกไปด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนจะหันไปมองแอมแปร์ที่เพิ่งโดนตบไปหมาดๆ ทว่าเธอยังคงทำสีหน้านิ่งได้อยู่เหมือน เดิม “ต้นเป็นแฟนฉัน เธอเลิกยุ่งสักที!!” “บอกเขาว่าอย่ามายุ่งกับฉันจะดีกว่านะ” ทันทีที่สิ้นประโยคนี้ ดวงตาใสของแอมแปร์ก็เอ่อไปด้วยน้ำตา เธอคงทั้งเจ็บทั้งอายที่ต้องมาโดนตบอยู่หน้าคอนโดตัวเองท่ามกลางสายตาของคนแถวนี้ ผมเข้าใจว่าเธอคงทั้งอายทั้งโมโห ผู้ชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาก่อนจะดึงผู้หญิงคนนี้ออกไป ทว่าก็ยังคงขืนแรงเธอไว้ไม่อยู่ เพี้ยะ ผมตกใจจนทำอะไรไม่ถูก นี่ครั้งแรกเลยนะที่เคยอยู่ในเหตุการณ์ที่ผู้หญิงตบกัน ผมทำได้แค่ดึงเธอเข้าหาตัวแล้วเอาตัวเองบังไว้แทน “แอมป์ เราขอโทษนะ เราบอกเลิกโมทำให้โมเป็นบ้าแบบนี้ เธอเจ็บไหม” อ่อ ไอ้นี่คือไอ้ต้นสินะ เป็นแฟนของผู้หญิงคนนี้ที่พุ่งเข้ามาตบแอมแปร์ แล้วผู้หญิงคนนี้ชื่อโม ผมเริ่มเข้าใจละ “เจ็บค่ะ” น้ำตาที่เอ่อล้นเมื่อครู่เริ่มรินไหลอาบแก้ม ที่เธอบอกเจ็บคงเจ็บจริงๆนั่นแหละ โดนตบไปสองทีจนหน้าหันเลยนะเว้ย “เราขอโทษนะ แต่เราไม่ได้รักโมแล้ว” “ต้น!! ทำไมพูดกับโมแบบนี้!!” ผู้หญิงคนนั้นโวยวายขึ้นมาทันทีที่ได้ยินผู้ชายพูดจาหมดรักต่อหน้า ใจจริงอยากให้แอมแปร์ตบสวนไปสักทีเหมือนกันนะ เธอนิ่งเกินไปจนผมเดาไม่ออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ “ถ้างั้น...ฝากจัดการให้เรียบร้อยนะคะ” แอมแปร์พูดออกไปขณะที่ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาตัวเองลวกๆ และเหมือนไอ้ต้นนั่นจะเข้าใจความหมายดีจึงอุ้มแฟนสาวของตัวเองออกไป เมื่อตรงนี้เหลือแค่ผมกับเธอ ทำให้ผมหันกลับมาสนใจเธอทันทีทว่าสิ่งที่ผมเห็นคือสีหน้าเธอเปลี่ยนไป ริมฝีปากแสยะยิ้มร้าย ดวงตาเศร้าที่ผ่านการร้องไห้ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว เธอมองตามสองคนนั้นไปด้วยแววตาเย้ยหยัน “เธอเจ็บไหม?” ผมถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง รู้แหละว่าเจ็บแน่ๆ “เจ็บสิ โดนตบนะไม่ใช่โดนกอด แต่ฉันชินแล้วล่ะ” หมับ “หายเจ็บรึยัง” ได้ยินเธอพูดคำว่ากอด ผมเลยดึงเธอมากอดซะเลย “มากอดฉันทำไม” “กอดปลอบไง ไม่เคยได้ยินเหรอ?” “ฉันขอร้องให้นายมาปลอบรึไง?” “เปล่า อยากปลอบ รู้หรอกว่าเธอเล่นละคร แต่เธอคงเจ็บที่โดนตบ” ผมก็กวนประสาทเธอไปอย่างงั้นแหละ ก่อนจะผละกอดแล้วเดินนำไปขึ้นรถ โดยที่เธอยังคงลูบแก้มตัวเองป้อยๆ “หิวแล้วอะ พาไปกินข้าวก่อนได้ไหม?” “อ้าว ไม่ได้ไปฝากครรภ์กันเหรอ” เธอหัวเราะหึๆในลำคอแทนคำตอบ ทีแรกว่าจะพาเธอไปช่วยซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตเล็กๆนะ แต่เห็นว่าหิวเลยพาไปห้างเลยแล้วกันเพราะผมเองก็ชักจะหิวซะแล้วสิ แอมแปร์ยังคงลูบแก้มตัวเองป้อยๆตลอดทาง มันเลยทำให้ผมสงสัยอะไรบางอย่าง “นี่ ฉันขอถามอะไรเธอหน่อยสิ” “ถามมา” เป็นจังหวะที่รถติดไฟแดงพอดีผมจึงใช้มือข้างซ้ายเอื้อมไปลูบผมเธอเล่นก่อนจะถามสิ่งที่อยากรู้ออกไป “เธอรู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าไอ้ต้นอะไรนั่นมีแฟน แล้วเธอไปยุ่งกับมันทำไม? ฉันไม่รู้ว่าเธอทำแบบนี้บ่อยไหมแต่ฉันว่ามันไม่ถูกต้องนะแอมแปร์ เธอต้องมาเจ็บตัวแบบนี้มันคุ้มกันเหรอ?” “คุ้มสิ ทำให้ผู้หญิงอีกคนตาสว่างได้” “ไหนเธอลองแย่งฉันมาจากอันนาสิ” “ฉันเลือกนะ และนายไม่ได้อยู่ในประเภทผู้ชายที่ฉันอยากได้ ไม่สิ จริงๆฉันไม่ได้อยากได้ใครหรอก แต่อย่างนายมันเป็นมากกว่านี้ไม่ได้แล้วล่ะ ฉันมันเป็นผู้หญิงแบบที่ผู้ชายขยาดน่ะ” ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ความคิดเธอลึกซึ้งเกินไป ทำไมไม่คิดอะไรง่ายๆเหมือนคนอื่นเขาล่ะ ไม่รู้เธอจะสร้างกำแพงขึ้นมาปิดตัวเองอีกกี่ชั้นกัน ผมว่ากำแพงเธอเริ่มกินพื้นที่ที่เรียกว่าความสุขแล้วนะ “ฉันอยากได้เธอจะตาย เธอไม่อยากได้ฉันหน่อยเหรอ?” ผมยังคงหยอดคำพูดทีเล่นทีจริงออกไปให้เธอหายเครียด “นายไม่มีวันได้ฉันหรอกองศา ถ้าฉันไม่อนุญาตและจะไม่มีวันนั้น เพราะเดี๋ยวนายได้รู้จักฉันมากขึ้นนายก็จะไปจากฉันเอง ชีวิตฉันไม่มีอะไรหวือหวาให้นายสนใจหรอกนะ” “ฉันเป็นสีสันในชีวิตเธอได้นะ” “ถ้าคู่รักที่ฉันคิดจะแย่งฉันคิดว่าไม่ใช่คู่นาย ฉันอยากให้นายสนใจอันนาให้มากๆ ฉันไม่อยากเป็นสาเหตุให้นายกับเธอเลิกกัน นายยังไม่เลวพอในแบบที่ฉันต้องการ” ไม่เข้าใจแล้วไม่เข้าใจเล่ากับสิ่งที่เธอพูด ในหัวของผมมีแต่คำถามว่าทำไมๆๆ เพียงแต่ก็พอรู้ว่าเธอเครียดพอสมควรกับปัญหาที่เจอ ไหนจะเรื่องแฟนเก่า แบรนด์เครื่องสำอางโดนโจมตี ปัญหาชู้สาว ลูกเมียน้อยพ่อเธอที่ไม่เป็นมิตร บางทีผมอาจจะเป็นเพื่อนเธอได้นะ ผมคอยรับฟังได้เสมอ ช่วยอะไรได้ผมก็ช่วย เพื่อนกันมันดี ได้กันสักทีสองทีคงจะฟิน END TALK
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD