เมื่อนางเปลี่ยนชุดเสร็จ นางก็เตรียมตัวออกสำรวจบริเวณรอบบ้านทันที เป็นเรื่องที่น่าสนุกท้าทายไปเสียทุกสิ่ง ทุกอย่างล้วนดูแปลกหูแปลกตาไปเสียหมด นางใช้เวลากับการหยิบนู่นดูนั่นค้นนี่จนค่ำ นางไม่รู้สึกเบื่อ กลับดูสนุกมากกว่าอยู่โลกเดิมเสียอีก
"โอ๊ยเสี่ยวหง ลี่ลี่ข้าหิวแล้ว อยากกินอะไรเย็นๆ หวานๆ ใช่! บิงซู ข้าอยากกินบิงซู ที่นี่มีบิงซูกินไหม" สาวใช้สองคนมองหน้ากัน ด้วยความงุนงง
"คืออันใดกันเจ้าค่ะ"
"ก็น้ำแข็งเหมือนเกล็ดหิมะ ที่ราดน้ำหวานอยู่ข้างบนแล้วก็มีขนมสีสวยๆ วางตกแต่ง พอจะมีไหม"
"น้ำแข็งหรือ? ไม่มีผู้ใดกินน้ำแข็งกันตรงๆ หรอกนะเจ้าคะ"
"อันที่จริงก็มีน้ำแข็งก้อนอยู่ห้องใต้จวน แต่น้ำแข็งได้มาจากทะเลสาบ คุณหนูจะกินมันได้หรือเจ้าคะ"
"โอ้มายก๊อด มันเป็นเรื่องยากขนาดนั้นเชียวหรือ ขอกลับบ้านไปเปิดตู้เย็นก่อน"
นางกวาดเอาของที่อยากได้จากแหวนมิติ ออกมาวางเรียงทั้งขนมน้ำหวาน รวมทั้งน้ำแข็งด้วย
"ท่านทำได้อย่างไรคุณหนู" สองสาวตะลึงกับของแปลกตาที่นางเอามันออกมาจากแหวน จนพวกนางต้องถอยห่างราวกับว่าเห็นผี
"ข้าทำได้นานแล้ว แต่มันเป็นความลับ พวกเจ้าเลยไม่รู้" ร่างบางกระหยิ่มยิ้ม แสนจะมีความสุขกับของวิเศษที่นางได้รับมาจากท่านเทพ แม้ฟังดูไม่น่าเชื่อถือเท่าใดนัก แต่จะให้สองสาวใช้นั้นทำอย่างไรได้เล่า นอกจากต้องยอมรับและเรียนรู้
นางจัดการรังสรรค์ให้เป็นเมนูเลิศรส แล้วกินกันอย่างสนุกสนานกับสาวใช้ของนาง เสียงหัวเราะดังออกไปจนถึงด้านนอก ทำให้ใต้เท้าเจ้าของจวนต้องเดินมาดู ว่าเกิดอะไรขึ้น
"พวกเจ้าทำอะไรกันเสียงดังลั่นจวน สำรวมกิริยาบ้างนะฮูหยิน แล้วนั่นคืออะไร"
"บิงซูเจ้าค่ะ ท่านพี่อยากลองชิมไหมเจ้าคะ"
"ไม่ เอาออกไปให้หมด ถ้าเจ้าหายดีแล้วก็ออกไปร่วมสำหรับเย็น อย่าให้ต้องให้คนมาตาม"
"เจ้าค่ะ ใต้เท้าที่รัก"
"ฮึ น่าตายนัก" ร่างใหญ่เค้นเสียงในลำคอส่งสายตาเย้ยเหยียดสตรีหน้าหนาที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาตน
มื้อเย็น
ร่างบางตักอาหารเต็มถ้วย นางกินอาหารราวกับว่าอดอาหารมาแรมปี ท่าทางนางกินนั้นทำให้ผู้ได้เห็นอดลอบกลืนน้ำลายไม่ได้
"ท่านทำไมไม่กินเล่าที่รัก อร่อยๆ ทั้งนั่นเลย นี่ๆ ข้าคีบให้"
"เจ้ากินเถอะ ดูเจ้าน่าจะอดอาหารมาราวพันปีได้"
"โอ้ว์ แรงส์...!! ตั้งแต่ข้ามา อาหารข้ามีแค่ข้าวต้มกับยาขมๆ นี่นา"
"แต่ปกติเจ้ากลัวอ้วน ตอนนี้ไม่กลัวแล้วหรือ?"
"ก็ออกกำลังกาย"
"เจ้าไม่ชอบมีเหงื่อ"
"มิน่าล่ะ กล้ามเนื้อถึงได้นุ่มนิ่มลีบเหลวนัก แต่เอ๊ะ! ท่านนี้ก็รู้เกี่ยวกับข้าไม่น้อยเลยนี่นา แสดงว่าเป็นผู้ชายละเอียดอ่อน ใส่ใจเรื่องเล็กน้อย อืม เนี้ยบ เฉียบ เย็น สเป็ก!"
"เพ้อเจ้ออะไรของเจ้า ข้าจะกลับห้องแล้ว" เขาวางตะเกียบไว้ข้างถ้วยแล้วลุกออกจากโต๊ะอาหาร
"เดี๋ยว"
"อะไรของเจ้าอีก"
"ข้าอยากกินพุดดิ้ง"
"หือ? เจ้ารู้จักอาหารหวานพวกนี้ด้วยหรือ"
"ไม่มีหรือ? งั้นเอาอะไรก็ได้หวานๆ "ทั้งที่นางยังคงคุ้ยข้าวคำโต แต่ยังกลับถามหาของกินเพิ่มอีก ราวกับว่าปากเล็กๆ นั่นเป็นปากทางหุบเหวลึก ที่ไม่ว่าจะเทอาหารลงมากเพียงใดมันก็จะไม่มีวันเต็ม
‘แปลกมาก ไม่ใช่เจ้าแน่ๆ หรือจะเป็นผีเข้า แต่เรื่องเช่นนี่จะเป็นไปได้อย่างไร’
ยามไฮ่(21.00-22.59)
"ก๊อกๆๆ ข้าเข้าไปหน่อยนะ"
"..... "
"ไม่มีเสียงห้าม แสดงว่าอนุญาต อิอิ เข้าไปละจ้า"
ซีเย่หอบผ้าห่มเครื่องนอนเตรียมเข้ามานอนกับสามี แต่สามีไม่ได้อยู่ห้องนอน เขาอาบน้ำอยู่ แต่เขากำลังจะขึ้นจากน้ำแล้ว นางรีบจัดข้าวของของนางแล้วซ่อนตัวบนที่นอนเขา
"ไหนๆ ก็มาแล้วแอบดูหน่อยดีกว่า"
สิ่งแรกที่นางเห็นคือ ขาว ขาวมาก ร่างใหญ่ที่มีผ้านุ่งเพียงผืนเดียว กล้ามแขนแน่นแผ่นอกตึง มีหยดน้ำเกาะสะท้อนแสงเทียนเป็นประกาย กระชากใจนางให้ปลิ้วไป แม้หนุ่มหล่อในโลกปัจจุบันที่นางเคยพบเจอนั้น ยังไม่อาจทัใจนางให้เต้นรัวได้มากถึงเพียงนี้
ร่างใหญ่กำลังผลัดผ้าเป็นชุดนอน แต่เขาก็สังเกตเห็นความผิดปกติบนที่นอนของเขา เขาจึงกระโจนขึ้นคร่อมรัดคอโจรร้ายใต้ผ้าห่มในทันที
"แค่กๆๆ ขะ ข้าเอง สามี" เสียงใต้ผ้าห่มค่อนข้างคุ้นหู เขาจึงคลายแรงอัดลง เมื่อเปิดผ้าห่มออกปรากฏว่าเป็นนางจริงๆ
"เจ้ามาที่นี่ต้องการอะไร? "
"แค่กๆ ก็นอนกอดสามีสิ ถามได้"
"กลับห้องเจ้าไปซะ! " ร่างใหญ่ตวาดเสียงเข้ม
"ไม่! เป็นภรรยาก็ต้องนอนกับสามีไหมอ่ะ ยังไงข้าก็จะนอนนี่" นางยืนยันเสียงแข็ง
"ไม่ได้!"
"ต้องได้!" ทั้งคู่ดึงเชงกันอยู่นาน ดูเหมือนว่านางจะไม่ยอมออกจากห้องนี้ไปง่ายๆ
"หน้าทนนัก ได้ ถ้าเจ้าอยากอยู่ก็อยู่ แต่เจ้าต้องนอนข้างล่าง ทนไม่ได้ก็กลับห้องไป" ห้าวเฟยยกยิ้ม เพราะคนอย่างนางไม่มีทางยอมถูกหมิ่นเกียรติเช่นนี้เป็นแน่ และเขาจะได้พักผ่อนอย่างสบายใจเสียที แต่เขาคิดผิด!
"ฮึ ไม่กลับ ข้างล่างก็ยังดี" นางเบ้ปากมองบน เก็บข้าวของมากองข้างล่างแล้วนอนชื่นชมความงามของสามีที่นอนนิ่งเรียบอยู่บนเตียง
'ท่านเทพ ข้าหลงรักท่านเข้าแล้วสิ หลงหัวปักหัวปำโงหัวไม่ขึ้นแล้ว ที่รักจ๋า' นางนอนมองส่งยิ้มส่งจูบให้เขาก่อนจะมุดตัวลงใต้ผ้าห่มแล้วจินตนาการต่อในฝัน
‘เป็นไปได้อย่างไร นางยอมนอนพื้นล่างที่ทั้งแข็งและเย็น เพื่ออะไรกัน เพื่อให้ได้นอนห้องเดียวกันกับข้าเช่นนั้นหรือ?’
ห้าวเฟยพลางครุ่นคิดวุ่นวนอยู่ภายในใจ แต่ไหนแต่ไร นางไม่เคยจะยอมผู้ใด หยิ่งจองหอง ถือตนถือตัวไม่เว้นแม้แต่สามีอย่างเขา เขาพลาดไปตกปากรับคำกับบิดานาง ยอมตกแต่งกับนางเพียงเพราะแววตาหางหงของนางที่ปรายมองเขา เพียงเสี้ยวหน้าเท่านั้น ที่ทำให้เขาเสียใจมาจนถึงทุกวันนี้
“ใต้เท้าหาน ท่านเองก็เป็นขุนนางหนุ่มมากความสามารถ หน้าที่การงาน ชาติตระกูล นิสัยใจคอ ล้วนแล้วแต่ดีพร้อมทั้งนั้น หากข้าได้ดองกับท่าน ข้าคงหมดห่วง บุตรีคนโตของข้า นางโตพอที่จะออกเรือนแล้ว นางเป็นคนฉลาด เก่งบุ๋นกาพย์กลอน คงช่วยงานในจวนท่านได้เป็นอย่างดี ส่วนเรื่องรูปโฉมนั้น ก็ใช่ว่าจะด้อยกว่าสตรีนางใดในเมืองนี้ ท่านเห็นควรว่าอย่างไร”
“ท่านเจ้ากรมให้เกียรติข้าเช่นนี้ ข้าจะปฏิเสธคนงามเช่นนางได้อย่างไร”
“ฮ่าๆๆ ดีๆ เช่นนั้นเรามาดื่มกัน ข้าดื่มให้ลูกเขยรูปงามเช่นท่าน ใต้เท้าหาน”
“หมดจอกขอรับ ท่านพ่อตา”
ในขณะที่ทั้งสองคุยกันอยู่นั้น โจวซีเย่ได้แอบมองเขาผ่านช่องประตูเล็ก ๆ ที่นางเปิดแง้มเอาไว้ นางที่เขาเห็นเพียงเสี้ยวหน้าในวันนั้น นึกไม่ถึงว่าจะมานอนให้เขาได้มองหน้าอย่างเต็มตาในวันนี้