หญิงสาวผู้งดงามผิวขาวผ่องพรรณตัดกันกับอาภรณ์สีแดงที่นางสวมใส่ แต่ท่าทีหยิ่งยโสดังคุณหนูเอาแต่ใจ คล้ายนางร้ายในละครทีวี
"นี่ร่างชั่วคราวฉันหรือ สวยดีอยู่หรอก แต่ลุคชีนี่ดูแรงมาก คงมีคนเหม็นขี้หน้ากว่าครึ่งเมือง อยู่ร่างนางมีหวังโดนเปลือกทุเรียนเป็นแน่" คาร่ายืนขมวดคิ้ว พิจารณาร่างงามที่จะกลายเป็นร่างเธออีกในไม่ช้า
"ท่านเทพเลือกให้แล้ว เจ้าทำอะไรไม่ได้นอกจากทำตาม" คาร่าทำหน้าเบ้ กลอกตามองบน
"เอ๊ะ!! นั่นท่านเทพนี่ มาทำอะไรที่นี่ ใส่ชุดขุนนางซะด้วย หล่อไปอีกแบบ น่ากินอีกแล้ว ฮิฮิ"
"นั่นไม่ใช่ท่านเทพ แต่เป็นสามีของแม่นางโจว ชื่อหานห้าวเฟย แต่ก็เป็นเสี้ยวดวงจิตของท่านอีกนั่นแหละ เจ้านี่ตาถึง"
"ว้าว ส่งฉันมาอยู่กับดวงจิตตัวเอง แสดงว่ามีใจ เสร็จภารกิจเดี๋ยวน้องกลับไปหานะจ๊ะพี่จ๋า ไป ท่าน ส่งฉันเดี๋ยวนี้เลย อยากกอดสามีแล้ว เร็ว!!" บุรุษผู้นั้นหน้าตาเหมือนกันกับท่านเทพของเธออย่างกับแกะ ซ้ำยังเป็นสามีของร่างนั้นอีกต่างหาก เธอจึงเลิกที่จะต่อต้าน เลิกความคิดปฏิเสธการเกิดใหม่
"ไม่นึกว่าเจ้าจะบ้าผู้ชายได้ถึงเพียงนี้"
"ฮ่าๆๆ อีกหนึ่งความสามารถพิเศษของฉัน"เธอตอบอย่างภาคภูมิใจ
สองสามีภรรยาเดินแยกจากกันดังว่าเพิ่งทะเลาะ แต่หนึ่งทูตและหนึ่งวิญญาณ ก็ได้เลือกติดตามร่างหญิงสาวมาจนถึงสะพานข้ามน้ำ ที่ซึ่งแม่นางคนงามนั้นต้องมาจบชีวิตที่นี่
ตู้ม!!
"ใครก็ได้ช่วยด้วยเจ้าค่ะ คุณหนูตกน้ำ ช่วยด้วย!"
น้ำค่อนข้างไหลเชี่ยว และมีหินมาก ร่างบางไหลไปตามแรงของน้ำ กระแทกหินจนบอบช้ำทั้งร่าง สาวใช้วิ่งตามร่างนายที่ลอยพัดตามกระแสน้ำจนมาหยุดที่แก่งหิน จึงได้ช่วยพากันดึงร่างไร้วิญญาณของนายขึ้นมา ชาวบ้านพากันมามุงดู แต่ไม่มีผู้ใดเข้ามาช่วยเลยแม้แต่คนเดียว ช่างน่าเวทนายิ่งนัก เมื่อสามีนางทราบข่าวจึงเร่งมาดูร่างไร้วิญญาณของผู้ที่ขึ้นชื่อว่า เป็นภรรยา
"ระหว่างข้ากับเจ้า สิ้นสุดเสียทีนะ"บุรุษหน้าหล่อกล่าวเสียงเบา
"คุณหนูเจ้าขา ไม่น่าเลย ไม่น่ารีบจากเราไปเลยเจ้าค่ะ ฮือๆๆ "จะมีก็แต่ ลี่ลี่และเสี่ยวหง สาวใช้คู่กายนางเท่านั้นที่โศกเศร้า ส่วนคนอื่นๆ ยังดูเฉยเมยหรืออาจจะยิ้มเยาะเสียด้วยซ้ำ
"นายเจ้าไปดีแล้ว อย่าได้อาวรณ์เลย ข้าจะจัดงานให้นายเจ้าอย่างสมเกียรติ" หานห้าวเฟยเอ่ยปลอบสองสาวใช้ ดังว่าตนไม่มีหน้าที่มาเสียใจ ที่ภรรยาของตนต้องมาจากไปเช่นนี้
ส่วนอีกด้านหนึ่ง ในมุมที่ไม่มีผู้ใดพบเห็น คาร่ายังลังเลที่จะเข้าร่าง แม้จะมีแรงจูงใจอยู่มากก็ตาม
"ท่านยมทูต ถ้าฉันเข้าร่างตอนนี้ฉันจะเจ็บไหม" คาร่าเอ่ยถามด้วยเห็นสภาพอันน่าเวทนาของร่าง
พรึบ!!
"แค่กๆๆ " ยมทูตรีบผลักนางเข้าร่างในขณะที่นางยังไม่ทันตั้งตัว
"เอ๋? คุณหนูฟื้นแล้ว ฟื้นแล้วเจ้าค่ะใต้เท้า"
'หือ? เจ้านี่มันกระดูกแข็งจริงๆ ซีเย่' ห้าวเฟยถอนหายใจยาวดังว่าผิดหวัง ยืนมองร่างนางที่เพิ่งฟื้นจากความตายดังว่ามีปาฏิหาริย์ สายตาผู้คนที่มามุงมอง กดดันให้เขาต้องจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย
"พานางกลับจวน ข้าจะเรียกหมอให้ พวกเจ้าก็คอยดูแลนายเจ้าให้ดีแล้วกัน"
ความทรงจำของร่างนี้พลันวิ่งเข้าหัวนางเป็นฉากๆ อย่างรวดเร็ว สิ่งแรกที่นางมองหาเมื่อลืมตาขึ้นได้ก็คือ "เขา"
"โอ้ยยยย ปวดหัว...สามี อย่าเพิ่งไป กอดข้าก่อน แค่กๆ โอ๊ยย"
"เจียนตายเช่นนี้ เจ้ายังมีแก่ใจมาพูดเล่นอยู่อีกนะ พวกเจ้าจะรอช้าอยู่ไย รีบพานายเจ้าไปเสียสิ!"
จวนราชทูต
“โอยย ท่านยมทูต ท่านนะท่าน เจ็บแทบกระดิกตัวไม่ได้เลยเนี่ย” คาร่าในร่างของโจวซีเย่ เจ็บปวดทรมานกับร่างกายที่บอบช้ำ แต่ถึงกระนั้นก็ยังเอาแต่เพรียกหาใต้เท้าหานผู้เป็นสามี
"คุณหนูกินยาก่อนเถอะเจ้าค่ะใต้เท้าไม่มาที่นี่หรอกค่ะ"
“เขาเกลียดข้าหรือ?”
“อย่าใส่ใจเลยเจ้าค่ะ ข้าจะทายาให้”
มีเพียงสองสาวใช้ผู้ภักดีนี้ เท่านั้นที่ไม่เกลียดนาง เพราะเป็นสาวใช้ที่มาจากจวนใต้เท้าโจว บิดาของนาง และดูแลนางมาตั้งแต่เด็ก ครั้นเมื่อบิดาของนางแต่งงานใหม่และมีบุตร นางก็ไร้คนเหลียวแล ทุกครั้งที่บุตรบ้านนี้ทะเลาะกัน นางจะกลายเป็นคนผิดโดยไม่ต้องสอบสวน มีเพียงลูกแม่ครัวสองคนนี้ ที่เป็นเพื่อนเล่นกับนาง ดูแลนางอย่างพี่น้อง แม้บิดานางจะรู้สถานการณ์ดี แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรนางมากนัก เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยของสตรี จึงปล่อยปะละเลย เมื่อถึงวัยที่นางควรออกเรือน แม่เลี้ยงก็อาศัยจังหวะนี้กำจัดนางออกจากจวนไปเสีย ส่วนพ่อก็คิดว่าจะเป็นการดีถ้านางมีที่พึ่งพิงใหม่ที่ดีกว่าบ้าน
"ขอบใจเจ้าทั้งสองมากนะ ถ้าข้าเคยทำไม่ดีกับพวกเจ้า ข้าขอโทษนะ"
"ว๊ายยย! ไม่พูดเช่นนั้นนะเจ้าคะ สงสัยโดนกระแทกแรงคุณหนูอาจจะฟั่นเฟือน พักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ"
"ข้าอาจไม่ใช่คุณหนูคนเดิมของพวกเจ้า นับแต่นี้ข้าคือซีเย่คนใหม่ ที่แสนจะน่ารักและใจดี และที่สำคัญ ข้ารักพวกเจ้าดังพี่สาวของข้า"
คำพูดนายทำให้สองสาวใช้ถึงกับน้ำตาร่วง พวกนางทั้งสองทำดีกับซีเย่ นอกจากสงสารในชะตานางแล้ว ตอนเด็ก ๆ ซีเย่ก็เคยออกตัวปกป้องทั้งคู่จนตัวเองต้องถูกลงโทษแทนบ่าว ซีเย่จึงกลายเป็นนายที่กล้าหาญในดวงใจของพวกนาง
ผ่านไปเพียง 3 ราตรีเท่านั้น อาการของซีเย่ดีขึ้นจนน่าประหลาด
"นี่มันอะไรกัน 3 วันก่อน ยังเจ็บเจียนตาย มาวันนี้กลับเดินได้ อะเมซิ่งจริงๆ" ซีเย่มองดูร่างกายตนที่เหลือเพียงแผลตกสะเก็ดและรอยเขียวช้ำ
'ท่านพี่อยู่ไหนนะ ชอบทำอะไร กินอะไร ทำไมนางโจวผู้นี้ไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับสามีตัวเองเลย ไม่เคยใส่ใจสามีตัวเองเลยอย่างนั้นหรือ ในหัวนางคิดแต่เรื่องเอาชนะแก้แค้น ชิงดีชิงเด่น และความสวยความงาม สามีนางมีค่าเพียงเป็นใบเบิกทางให้นางได้ออกจากบ้านเท่านั้นเอง ตาไม่ถึงของจริงๆ ซีเย่เอ๋ย’
คาร่าในร่างใหม่ เดินออกมาสูดอากาศด้านนอก หลังจากอุดอู้นอนเป็นผักมา 3 วันเต็ม นางออกมาคาดิโอเบาๆ ที่นอกบ้าน
"วัน ทู ทรีแอนด์โฟร์ แอนด์หนึ่ง แอนด์สอง แอนด์สาม แอนด์สี่"
"เสียงใครมาทำอะไรแถวนี้ เจ้าไปดูสิ อาเปา" ใต้เท้าหานสั่งบ่าวคนสนิทออกไปฟังเสียงนับเต้นคาดิโอ ว่ามาจากที่ใด
"ใต้เท้าขอรับ คือ...คือ...ฮูหยินเป็นอะไรไม่รู้ขอรับ"
"หือ? ใกล้ตายแล้วหรือ งั้นข้าต้องออกไปดูสินะ"
ร่างใหญ่ ผู้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามี เดินออกไป เพื่อทำหน้าที่ดูใจภรรยาเป็นครั้งสุดท้าย แต่ภาพที่เขาเห็นตอนนี้ คือหญิงสาวที่นุ่งชุดแปลกๆ ซึ่งเป็นชุดออกกำลังกายที่มาจากโลกเดิมของนาง กำลังเต้นแร้งเต้นกา พูดภาษาแปลกๆ ซึ่งไม่ใช่ภาษาฮั่นเลย เพ่งพิศมองแล้วมองอีก ใบหน้าเช่นนี้ก็เห็นจะมีแต่นางผู้เดียวเท่านั้น
"นี่นางเป็นอะไร วิปลาสไปแล้วเช่นนั้นหรือ แต่เหตุใด นางจึงแข็งแรงลุกขึ้นมาเต้นแร้งเต้นกาอย่างนี้ได้ น่าแปลกโดยแท้ ข้าคิดว่านางจะตายแล้วเสียอีก" ร่างใหญ่แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง อาการคนบาดเจ็บเจียนตายเมื่อ 3 วันก่อนหายไปจนไม่เหลือเค้าเดิม เขาจึงเดินมาหานางเพื่อไถ่ถาม
"เจ้าหายดีแล้วหรือฮูหยิน"
"ตายแล้ว!! ท่านพี่มาหาข้าหรือ ไม่ได้ไปทำงานหรือคะวันนี้"
"ผู้ใดตาย สำเนียงการพูดเจ้านี่ประหลาดนัก เจ้าต้องวิปลาสไปแล้วแน่ๆ"
"ข้าไม่ได้บ้านะ ข้าจำทุกอย่างได้หมด จำได้ด้วยว่าท่านเป็นสามี มามะ มาให้เมียชื่นใจเดี๋ยวนี้เลยจ้ะ" นางวิ่งเข้าโผกอด บุรุษรูปงามที่ยืนอยู่ต่อหน้า แต่โดนผลัก ล้มหงายหลังตึง ก้นจ้ำเบ้า
" โอ๊ย... ท่านนี่ชอบความรุนแรงก็ไม่บอก"
"ไร้ยางอาย ไปเปลี่ยนอาภรณ์ใหม่เสีย อย่าให้ข้าเห็นเช่นนี้อีกนะ" สายตาที่เขาใช้มองนาง ช่างเย็นชาและน่ากลัวเสียจริง
"ดุไม่ใช่เล่นเลยแฮะ" ซีเย่กระตุกยิ้มบาง พลางมองแผ่นหลังของสามีที่กำลังเดินจากไป ดังว่าเป็นเรื่องสนุก