เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง แต่สองหนุ่มที่อยู่ภายในห้องยังคุยกันเหมือนเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะดังจากหน้าประตูทำให้บทสนทนาของคนที่อยู่ภายในห้องหยุดลง ก่อนที่ประตูจะถูกเปิดออกจากมือเล็กของเด็กสาว
“ขออนุญาตค่ะนาย พรีมเอาอาหารเช้ามาให้”
“ว่าไง? คราวนี้มึงจะออกไปได้หรือยัง? กูจะกินข้าว”
“ครับนาย”
แทนไทก้มหน้ารับคำสั่ง เดินออกไปจากห้อง ระหว่างที่เดินผ่านร่างเล็กสายตาก็เหลือบมองสาวน้อยอย่างกังวล
แกร็ก!
ทันทีที่เสียงประตูห้องปิดสนิท ตอนนี้ภายในห้องก็เหลือแค่เพียงชายตัวโตกับเด็กสาวที่เข้ามาพร้อมกับถาดอาหารในมือ
คิ้วหนายกสูง มุมปากแสยะยิ้ม สายตาคมแฝงความเจ้าเล่ห์มองคนตัวเล็กด้วยความพอใจ
“เอาไปวางไว้บนโต๊ะสิ”
สิ้นคำสั่งของชายตัวโต เด็กสาวก็นำถาดเข้ามาวางไว้บนโต๊ะตามที่ผู้เป็นนายสั่งอย่างว่าง่าย
พรึ่บ!
“อ่ะ นะ นาย ขะ ขอโทษค่ะ พรีมไม่ระวังเอง”
ทันทีที่หันกลับมา ใบหน้าเล็กก็ชนเข้ากับแผงอกกว้างของชายตัวโตจนร่างผละถอยหลังชนเข้ากับโต๊ะ แต่ก็ถูกมือใหญ่โอบเอวรั้งดึงเอาไว้ได้
“เป็นอะไร?” นัยน์ตาเข้มจ้องใบหน้าขาวเล็ก ก่อนจะค่อยโน้มเข้าใกล้สาวน้อยวัยแรกแย้ม
“ปะ เปล่าค่ะ” เสียงติดขัดในลำคอ ดวงตาใสซื่อมีเพียงความหวาดกลัว เกรงว่าผู้เป็นนายจะดุด่าไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นใดที่อีกฝ่ายจะสื่อถึง
“อายุเท่าไหร่แล้ว?” ร่างใหญ่ขยับถอยห่าง ให้สาวน้อยได้ผ่อนคลายจากความกังวล
“17 ย่าง 18 ค่ะ”
ถึงอยากจะตะครุบเหยื่อตรงหน้าใจแทบขาด แต่ท่าทางและแววตาหวาดกลัวของเด็กน้อยทำให้ผมไม่อาจทำเรื่องแบบนั้นตอนนี้ได้ กระต่ายน้อยในโพรงลึกมักเก็บซ่อนความหวานหอมที่ยากจะปฏิเสธ แต่การได้มาซึ่งความไม่เต็มใจ ก็ไม่ใช่วิสัยของบุรุษชนเช่นเดียวกัน
“อืม ดี งั้นตอนนี้ก็อยู่ ม.5 สินะ”
“ ม.6 ค่ะ พรีมเรียนชั้นม.6”
“อ้าวเหรอ? แล้วคิดอยากจะเรียนต่อไหม?”
ทันทีที่ได้ยินคำถาม ดวงตาหวานก็ถึงกลับเบิกกว้างจ้องใบหน้าคมเข้มตาไม่กระพริบ แต่เพียงไม่นานดวงตาเปล่งประกายเมื่อครู่ก็เปลี่ยนเป็นแววตาเศร้าพร้อมกับรอยยิ้มแห้ง ก่อนจะก้มหน้ามองลงไปที่พื้นเหมือนเดิน
“อยากค่ะ แต่พรีมคงไม่มีโอกาส”
“ถ้าอยากเรียน ก็ต้องทำตัวเป็นเด็กดี เชื่อฟัง แล้วเฮียจะจ่ายค่าเทอมให้”
“จริงเหรอคะ? นายอนุญาตให้พรีมเรียนต่อได้จริงๆเหรอคะ?”
ทันทีที่ได้ยินคำพูดของชายหนุ่มจากใบหน้าเศร้าตอนนี้กลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง
“จริงสิ แต่ในโลกนี้มันไม่มีอะไรได้มาฟรีๆหรอกนะรู้ไหม? ทุกอย่างต้องมีข้อแลกเปลี่ยนเสมอ คนเปลี่ยน เวลาเปลี่ยน หน้าที่ความรับผิดชอบก็ต้องเพิ่มขึ้นเหมือนกัน”
“พรีมทำได้ค่ะ พรีมสัญญาว่าพรีมจะตั้งใจทำงานที่นายสั่งอย่างสุดความสามารถเลยค่ะ”
“แน่ใจเหรอ ว่าจะยอมทำทุกอย่าง?”
“แน่ใจสิคะ ^^”
สาวน้อยตอบด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น ท่าทางดีใจฉีกยิ้ม ดวงตาสดใสมีประกายของความสุข ความสดใสน่ารัก ทำให้ชายตัวโตเผลอหลุดยิ้มตามเธอไปด้วย ดวงตาคมจดจ่อมองใบหน้าหวานของเด็กสาว ความไร้เดียงสาและอ่อนต่อโลก เธอไม่รู้เลยว่าทุกคำพูดของเธอในวันนี้ มันเป็นเหมือนโซ่ตรวนที่กำลังผูกมัดตัวเธอไว้กับเขาไปเสียแล้ว
“อายุครบ18 เมื่อไหร่?”
“วันที่ 20 เดือนหน้าค่ะ ค่ะ”
ชายตัวโตนิ่งเงียบ ขมวดคิ้วเข้าหากันเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะถอนหายใจยาว ราวกับคนสิ้นหวัง ทำให้สาวน้อยมองเขาด้วยความสงสัย
“นายเป็นอะไรคะ?” เสียงหวานในลำคอเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“อีกตั้งหลายวัน”
“หลายวัน? หลายวันอะไรคะ? แล้วเกี่ยวอะไรกับวันเกิดของพรีม?”
“เกี่ยวสิ เกี่ยวมากซะด้วย” สายตาเจ้าเล่ห์มองคนตัวเล็ก รอยยิ้มมีนัย แฝงไปด้วยกระหายของชายหนุ่ม
“นายอยากได้อะไรเพิ่มไหมคะ เดี๋ยวพรีมลงไปเอามาให้”
“ที่อยากได้ก็มีนะ! แต่ตอนนี้พรีมยังเอามาให้เฮียไม่ได้นะสิ”
ดวงตากลมโตจ้องใบหน้าคมคายตรงหน้าด้วยความสงสัย ยิ่งพูดมากเท่าไหร่เธอก็ยิ่งเหมือนไม่เข้าใจสิ่งที่ชายตัวโตกำลังสื่อ แต่เมื่อไม่เข้าใจเธอก็เลือกที่จะเงียบและเก็บความสงสัยเอาไว้ก่อน เพราะถ้ายิ่งซักไซ้ก็เกรงว่าเจ้านายตัวร้ายของเธอจะขุ่นเคืองใจไปเสียเปล่าๆ ด้วยความใสซื่อและอ่อนต่อโลกเขาจึงเป็นเหมือนผู้มีพระคุณ ไม่ต่างจากพ่อแม่ที่ให้กำเนิด
“เลิกเรียก ‘นาย’ เถอะฟังแล้วมันดูห่างเหินแปลกๆ เฮียไม่ชอบ” คิ้วหนายกสูง มองสาวน้อยตรงหน้าเหมือนรอฟังคำตอบจากปากเล็ก แต่คำตอบที่ได้กลับมีเพียงความเงียบพร้อมกับแววตาที่ว่างเปล่า
“ต่อไป ให้เรียกว่า ‘เฮีย’ เข้าใจไหม?” เสียงนุ่มลึกพูดอย่างใจเย็น ทั้งท่าทางและสายตาที่มองสาวน้อย เป็นการสร้างความไว้วางใจให้กับหญิงสาวได้เป็นอย่างดี
“แต่ป้าหวานบอกว่า พรีมเข้ามาในฐานะคนทำงานที่อาศัยอยู่ในบ้าน ดังนั้นให้เรียกนาย ว่า นาย ห้ามเรียกเฮียเหมือนคนข้างนอกเด็ดขาด”
“หึ ใครบอกว่าพรีมเป็นคนงานล่ะ?” เสียเค้นขำในลำคอ ร่างกำยำลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินเข้ามาหาร่างบางที่ยืนอยู่อีกฟากฝั่งของโต๊ะ ปลายนิ้วช้อนคางเล็กให้เชิดขึ้น ใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโตประดับด้วยขนตายาวงอนเรียงเส้น ริมฝีปากเล็กสีชมพูหวาน ทุกอย่างช่างมีความสมมาตรอยู่ในสมดุล ดูมีเสน่ห์น่าหลงใหล
“พรีมไม่ได้เป็นคนงานสักหน่อย จำไม่ได้เหรอว่าพ่อกับแม่พาพรีมมาฝากไว้กับเฮียทำไม?”
สายตาคมมองริมฝีปากอวบอิ่ม มันช่างเป็นเหมือนกลีบดอกไม้ที่กำลังยั่วยวน ดึงดูดแมลงภู่บินเข้าไปไต่ตอมลิ้มรสหวานจากเกล็ดเกสร แต่ยังไม่ทันที่ใบหน้าคมจะโน้มเข้าใกล้ สาวน้อยก็รีบผละร่างถอยหลบไปยืนอยู่อีกทาง
“น้ำ! พรีมยังไม่ได้เอาน้ำขึ้นมา นายรอก่อนนะคะ เดี๋ยวพรีมจะรีบลงไปเอาน้ำมาให้เดี่ยวนี้เลยค่ะ” พูดจบเด็กสาวก็รีบวิ่งออกมาจากห้อง โดยไม่รอให้ผู้เป็นนายได้เอ่ยปาก
“หึ ดูสิว่าจะหลบไปได้นานสักแค่ไหน” เสียงทุ้มเบาในลำคอ มองตามร่างเล็กที่วิ่งออกไปจากห้อง
คนตัวเร็งเร่งฝีเท้า กึ่งวิ่งสลับเดิน หายใจหอบเหนื่อย เสียงหัวใจเต้นรัวประหนึ่งจะหลุดออกมาจากร่าง ทันทีที่เท้าเล็กสัมผัสสนามหญ้าหลังบ้านความรู้สึกที่อึดอัดก็ค่อยๆโล่งโปร่งหายใจสะดวกราวกับยืนอยู่บนยอดเขาสุง
“น้องพรีม!”
“อุ้ย! 0.0 พี่แทน! ตกใจหมดเลย มาเงียบๆแบบนี้เกิดพรีมหัวใจวายตายจะทำยังไงคะ”
“แหม! ขวัญอ่อนจังเลยนะ พี่นั่งอยู่ตรงนี้ก่อนพรีมจะมาซะอีก แล้วเมื่อกี้ก็เพิ่งเดินผ่านหน้าพี่ไปหยก ๆ อย่าบอกนะว่าไม่เห็น?”
ดวงตาคมจ้องสาวน้อยที่ยืนว่าเขาเมื่อครู่ ก่อนที่เธอจะฉีกยิ้มกว้างแทนคำตอบ
“ไม่เห็นคะ แล้วทำไมพี่ไม่ทักตั้งแต่พรีมเดินผ่านล่ะคะ มาทักอะไรตอนนี้”
“สรุป ยังไงพี่ก็ผิดว่างั้น?”
คนตัวเล็กกอดอกยักคิ้วให้เป็นคำตอบ ก่อนจะเดินเข้ามานั่งข้างๆชายตัวโตที่นั่งอยู่ก่อนหน้า
“แล้วเมื่อกี้.. เป็นอะไรหรือเปล่า? นายไม่ได้ทำ.. อะไร ใช่ไหม?” คำถามแผ่วเบา เสียงพูดขาดหายฟังไม่ต่อเนื่อง ทั้งที่เป็นคนตั้งคำถามแต่กลับก้มหน้าไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามอง
“พี่แทน คิดอะไรอยู่คะ?” เสียงเล็กเอ่ยถาม ก้มช้อนส่องหน้าชายหนุ่มด้วยความสงสัย ริมฝีปากเล็กยกยิ้มก่อนจะลุกกลับมานั่งในท่าเดิม
“ยิ้มอะไร?”
“ก็ยิ้มพี่แทนไงคะ พรีมไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ”
แทนไทเหลือบมองคนตัวเล็ก สีหน้าของเขาแสดงความแปลกใจสงสัยกับคำพูดนั้น
“พรีมรู้เหรอว่าพี่หมายถึงอะไร?”
“รู้สิคะ ตอนที่เข้ามาที่นี่พรีมก็โตแล้วนะ รู้ว่าตัวเองอยู่ในสถานะเป็นแค่ลูกหนี้ ทำงานขัดดอกแทนพ่อกับแม่ แต่พรีมว่านายใจดีมากๆเลยนะคะ ขนาดพรีมเป็นแค่ลูกหนี้นายก็ยังให้เรียนหนังสือ สำหรับพรีมนายเป็นผู้มีพระคุณแล้วก็ใจดีที่สุด ไม่ว่านายอยากให้พรีมทำอะไรพรีมยินดีค่ะ”
สาวน้อยพรรณนาถึงความรู้สึกที่มีต่อชายตัวโตที่อยู่บนบ้านหลังใหญ่ ทั้งสีหน้า แววตา รอยยิ้มเต็มไปด้วยความปิติยินดี นั้นแปลว่าความจริงแล้วเธอไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลยสักนิด
แทนไท มองเด็กสาวตรงหน้า นึกถึงครั้งแรกที่เจอกันแต่ตอนนี้เธอเปลี่ยนจากเด็กน้อยขี้เหร่มาเป็นสาวน้อยวัยแรกแย้มที่สดใสน่ารัก น้องสาวที่เขาอยากเป็นคนคอยดีแลและอยากเป็นมากกว่าคำว่าพี่ชาย