พิพิมพ์ตื่นขึ้นมาในเช้าตรู่ของวันใหม่ หลังจากที่เธอนอนซมพิษไข้ไป 1 วันเต็มๆ
" อื้ม....ปวดหัวชะมัด ใครเอาค้อนมาทุบหัววะเนี่ย "
ร่างเล็กบ่มงึมงำพร้อมกับยกมือขึ้นนวดขมับเบาๆ เพื่อคลายความเมื่อยล้า แต่ก็นึกขึ้นได้มาเสียดื้อๆเรื่องคืนนั้น
" ตายละ ยาคุมฉุกเฉิน! "
สิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของเธอในตอนนี้คือเธอต้องไปร้านขายยาเพื่อซื้อยาคุมฉุกเฉินมากินไม่อย่างนั้นปัญหาที่จะตามมาเยอะแน่ๆ ถ้าถามว่าทำไมเธอถึงรู้ว่าต้องกินยาคุมก็เพราะว่าเธอมาถึงห้องคราบน้ำรักของเขาเปรอะเปื้อนตามซอกขาของเธอเต็มไปหมดน่ะสิ เธอนึกโกรธตัวเองที่ทำอะไรไปโดยไม่คิดสักนิดจากนี้ไปเธอจะเลิกดื่มแอลกอฮอล์เพราะมันทำให้เธอขาดสติ
พิพิมพ์หลังจากที่ซื้อยาคุมฉุกเฉินมาเธอก็รีบกินทันทีเพราะเธอเสียเวลาไปตั้ง 1 วันเต็มๆเภสัชกรบอกว่าหากช้าไปกว่านี้ประสิทธิภาพของยาอาจจะต่ำมาก แต่ด้วยช่วงนี้เป็นระยะปลอดภัยของเธอเธอจึงรู้สึกโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย ร่างเล็กมองดูนาฬิกาบอกเวลาว่าตอนนี้บ่ายโมงกว่าแล้วเธอจึงรีบหยิบกระเป๋าของตัวเองพร้อมกับเดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อไปหาผู้หญิงที่เธอรักมากที่สุดนั่นก็คือแม่
" แม่จ๋า เป็นยังไงบ้างจ๊ะวันนี้กินยาหรือยัง "
พรรัมภายิ้มให้กับลูกสาวหลังจากที่เธอรอลูกมาหาวันนี้เป็นวันที่ 2 แล้ว ปกติลูกสาวของเธอไม่เคยหายเงียบไปแบบนี้
" แม่กินแล้วจ่ะ แล้วนี่พิมพ์หายไปไหนมาเหรอลูก "
ด้วยความที่เธอจะแวะมาหาแม่ทุกวันถ้าไม่เป็นตอนเช้าก็เป็นตอนเย็นแต่เมื่อวานเธอจับไข้และไม่มีแรงแม้แต่จะลุกจึงไม่ได้มาหาแม่และไม่ได้โทรบอกอีกต่างหากจนตอนนี้เธอนึกโทษตัวเองอยู่ไม่น้อยที่ทำให้แม่ต้องเป็นห่วง เธอเหลือแม่แค่คนเดียวแล้ว
" พิมพ์ขอโทษนะจ๊ะ พอดีพิมพ์ได้งานที่ใหม่น่ะจ่ะแม่ เมื่อวานมีสัมภาษณ์ก็เลยไม่ได้แวะมาหา "
พิพิมพ์จำเป็นต้องโกหกแม่ เพราะเธอไม่สามารถบอกความจริงออกไปได้จริงๆ
" ตั้งใจทำงานเถอะลูกไม่ต้องห่วงแม่หรอกแม่อยู่ได้ จริงๆพาแม่กลับไปพักที่บ้านก็ได้นะพิมพ์อยู่ที่นี่สิ้นเปลืองเปล่าๆ แม่ไม่ได้เป็นอะไรมากเลย "
เพราะเธออยู่โรงพยาบาลมาจะครบปีแล้ว รักษาตามอาการมาเรื่อยๆ จนเธอไม่อยากให้ลูกสาวสิ้นเปลืองแล้ว ต่างจากพิพิมพ์ที่กำลังหนักอึ้งในอก แม่ของเธอต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยด่วนไม่อย่างนั้นเชื้อมันจะยิ่งลุกลาม แม่ของเธอเป็นมะเร็งตับต้องรักษาด้วยการผ่าตัดและปลูกถ่ายเปลี่ยนตับซึ่งนั่นต้องใช้งบมหาศาลกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย ดังนั้นเธอจึงต้องรีบปิดดีลนี้ให้เร็วที่สุดเพื่อแม่ของเธอ เธอเหลือแม่แค่คนเดียวต่อให้ต้องไปบุกน้ำลุยไฟที่ไหนเธอก็พร้อม
" ยังกลับไม่ได้นะจ๊ะแม่ อีกไม่เกิน 3 เดือนแม่จะต้องเข้ารับการผ่าตัด และในช่วงนี้แม่ต้องรักษาสุขภาพของตัวเองให้แข็งแรงที่สุดนะจ๊ะ พิมพ์รับรองว่าจะทำทุกอย่างให้แม่หายให้ได้ แม่ต้องอยู่กับพิมพ์ไปนานๆนะจ๊ะ "
พิพิมพ์ก้มลงกอดแม่ของตัวเองที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้แต่ก็ต้องรีบปัดมันออกเพราะกลัวว่าแม่จะไม่สบายใจ
" แม่ทำให้พิมพ์ต้องลำบาก "
พรรัมภาพูดออกมาด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย ก่อนหน้านี้ลูกสาวของเธอทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งรายได้ดีมาก ชีวิตของลูกสาวเธอกำลังจะไปได้ดีแต่ต้องมาสะดุดเพราะวันนั้นเธอเป็นลมล้มลงจนต้องมาโรงพยาบาลและตรวจพบว่าเป็นโรคร้ายนี้ และจากนั้นมาลูกสาวของเธอก็ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายอันหนักอึ้งมาโดยตลอด
" ไม่นะจ๊ะแม่ พิมพ์ไม่ได้ลำบากอะไรเลยอีกอย่างงานใหม่ให้เงินเดือนพิมพ์ตั้งเยอะ แม่อย่าพูดแบบนั้นนะจ๊ะพิมพ์มีแม่แค่คนเดียวแม่จะต้องหายนะ "
" ค่ารักษาแพงมากไหมลูก รักษาตามอาการแบบนี้ไปเรื่อยๆได้ไหม แม่ไม่อยากผ่าตัดเลยเพราะรู้ว่าค่าใช้จ่ายมันต้องสูงมากแน่ๆ พิมพ์เก็บเงินไว้ให้ตัวเองใช้ในอนาคตเถอะนะลูก "
" พิมพ์มีเงินเก็บมากพอนะจ๊ะแม่ แม่ไม่ต้องห่วงพิมพ์เลยนะ เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพิมพ์ แม่นอนพักนะจ๊ะ อีกหน่อยคุณหมอก็คงเข้ามาตรวจอาการของแม่แล้ว "
ร่างเล็กรีบบอกปัดออกไป เธอไม่อยากให้แม่คิดมากแม้ว่าในตอนนี้เงินในบัญชีของเธอมันแทบติดลบไปแล้วก็ตาม ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นแม่ของเธอก็จะต้องได้ผ่าตัด
.................
........
...
1 สัปดาห์ผ่านไป
พิพิมพ์มาถึงหน้าโรงแรมวรเชษณ์กิจสุวรรณ์กรุ๊ป ในช่วงเช้าเธอมาก่อนเวลาถึง 1 ชั่วโมงเพราะไม่อยากต้องคำนวณการเดินทางผิดพลาด เช้าวันแรกในการทำงานของเธอต้องสดใสไม่ใช่วิ่งตายมาเข้างาน ใช่ เธอสมัครงานที่นี่ในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาของท่านประธานบริษัทแล้วโชคก็เข้าข้างเมื่อเธอได้งานภายในระยะเวลาไม่กี่วันเท่านั้น เธอกดลิฟท์ขึ้นไปยังชั้นผู้บริหารเพราะนัดเจอกับท่านประธานบริษัทเห็นเลขาของเขาบอกว่าอยากสัมภาษณ์เพิ่มเติมเล็กน้อย เข้าทางเธอพอดี
" สวัสดีค่ะ พิพิมพ์ รัตนอนันกุล ค่ะ ผู้ช่วยเลขาของคุณปัทมาค่ะ "
พิพิมพ์เอ่ยทักทายบุคคลตรงหน้าที่คิดว่าคงเป็นปัทมาแน่ๆ
ปัทมามองผู้ช่วยเลขาที่ท่านประธานเพิ่งรับเข้ามาด้วยสายตาไม่เป็นมิตร เพราะยัยผู้หญิงคนนี้มันหน้าตาดีน่ะสิ
" รูปร่างลักษณะแบบนี้จะทำงานไหวหรือเปล่า "
ด้วยความที่พิพิมพ์ดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้าทำเอาปัทมาถึงกับเบะปากมองบน ซึ่งนั่นก็ทำให้พิมพ์รู้ได้ทันทีว่าเธอไม่น่าจะผูกมิตรกับผู้หญิงคนนี้ได้ ที่สำคัญเธอต้องทำงานกับเธอคนนี้นี่สิ แต่ไม่เป็นไรเพราะเธอคงอยู่ที่นี่อีกไม่นาน
" ไหวค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ "
" ฝากเอาไว้แค่ความสามารถก็พอย่ะ เนื้อตัวน่ะรักษาเอาไว้ให้ดีเถอะอย่าเที่ยวไปเสนอตัวให้กับใครโดยเฉพาะท่านประธานของฉัน "
เมื่อผู้หญิงตรงหน้าพูดออกมาแบบนั้นเธอก็รู้ได้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้กำลังหึงหวง กลิ่นอายความหึงแรงมาก ท่านประธานของฉันแบบเต็มปากเต็มคำเลยนะ
" ค่ะ พิมพ์จะระวังเอาไว้ให้มากนะคะ "
ปัทมาชักสีหน้าไม่พอใจแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังพาผู้หญิงคนนี้เข้าไปหาท่านประธานเพื่อสัมภาษณ์เพิ่มเติมอยู่ดี
" ตามฉันมา "
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก
" ขออนุญาตค่ะท่านประธานพนักงานใหม่มาถึงแล้วค่ะ "
ปัทมาเคาะประตูเพียงไม่กี่ครั้งก็เปิดเข้าไปพร้อมกับเธอที่เดินตามเข้าห้องไปติดๆ
เวียร์เงยหน้าจากกองเอกสารมากมายหลังจากที่ได้ยินเลขาสาวพูดขึ้นมา ทันทีที่เขาเงยหน้ามาสบตากับผู้ช่วยเลขาคนใหม่ก็ทำเอาเขาชะงักไปไม่น้อยเหมือนกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องรีบทำตัวให้เป็นปกติเพราะผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาเหมือนเธอจะไม่ได้มีอาการตระหนกหรือประหม่าใดๆ ทำไมโลกกลมจังนะมันกลมเกินไปหรือเปล่า
" โอเค คุณออกไปทำงานต่อเถอะปัทมา เดี๋ยวผมจะสัมภาษณ์เธออีกนิดหน่อย "