บทที่ 2
ตามฝันมารับดอกดาวเรืองที่ยายจี๊บสั่งไว้ร้อยพวงมาลัยในช่วงเช้าที่ตลาดโต้รุ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พัก หญิงสาวจึงเลือกเดินทางด้วยเท้าด้วยระยะทางที่แสนจะใกล้ ข้ามถนนไปอีกฝั่งก็ถึงบ้านไม้เก่า ๆ ของยายแล้ว ทว่าเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อเธอเดินข้ามถนนแต่ดันไม่พ้นรถที่กำลังสัญจรมา หากเขาเหยียบเบรกไม่ทันหรือหักหลบไม่พ้น เธอคงนอนหายใจรวยรินอยู่กลางถนน แต่ถึงกระนั้นก็ยังได้รับบาดเจ็บอยู่ดี
ข้อเท้าหญิงสาวเหมือนจะพลิกจนไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้เลย มือบางบีบนวดจุดที่รู้สึกจี๊ด ๆ เพื่อหวังจะบรรเทาอาการปวด แต่หารู้ไม่ว่ากำลังมีสายตาดุดันของใครบางคนจ้องมองมาอย่างไม่สบอารมณ์
"คุณไม่เห็นรถผมหรือไง ถึงได้เดินทะเล่อทะล่าข้ามฝั่งมาแบบนั้น" เสียงทุ้มดุของชายหนุ่มดังอยู่เหนือร่างเล็ก ทำให้คนเจ็บสะดุ้งตกใจ ตอนแรกเธอเห็นเขาขับรถห่างออกไปแล้ว ไม่คาดคิดว่าเขาจะยังอยู่
"ขอโทษนะคะ หนูไม่ทันระวังเอง แล้วคุณบาดเจ็บตรงไหนไหมคะ"
ตามฝันพนมมือก้มหัวไหว้คู่กรณีปลก ๆ ราเชนทร์ส่ายหน้าเอือมระอาเมื่อเห็นท่าทีของคนตัวเล็กที่ยกมือไหว้เขาราวกับไหว้เจ้าที่เจ้าทาง
นัยน์ตาสีฟ้าครามลอบสำรวจการแต่งตัวซอมซ่อของหญิงสาว หนุ่มใหญ่บุ้ยปากเล็กน้อย กลิ่นอายความจนพุ่งทะลุดวงตา เอาเรื่องเอาราวกับคนพวกนี้ก็ไร้ประโยชน์เปล่า ๆ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ได้ใจร้ายพอจะปล่อยให้หญิงสาวตัวเล็ก ๆ อยู่กลางถนนเพียงลำพัง
อย่างน้อยก็พาเข้าข้างทาง
หมายถึงพาไปนั่งพักที่ข้างถนนเพื่อให้ญาติของเธอมารับไปตรวจเช็กอาการบาดเจ็บน่ะ เขาไม่ใช่พวกนิยมของแปลกหรอกนะ
เมื่อประเมินแล้วว่าหญิงสาวน่าจะลุกขึ้นไม่ไหว ร่างสูงจึงย่อตัวลงและทำในสิ่งที่อีกฝ่ายนึกไม่ถึง ราเชนทร์เอื้อมมือเก็บดอกดาวเรืองที่เกลื่อนกลาดรอบตัวนำมายัดใส่ถุงให้หญิงสาวตามเดิม บางดอกที่ช้ำจนไม่น่ามองเขาก็เลือกที่จะเมินมัน นั่นอาจเป็นเพราะนิสัยส่วนตัวที่รักในความสมบูรณ์แบบ
ตามฝันอ้าปากพะงาบกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่กล้าเอ่ยห้ามเขารวมถึงไม่กล้าเงยหน้ามองเขาด้วยเช่นกัน จนกระทั่งเสียงเข้ม ๆ เอ่ยถามเธออีกครั้ง
"ลุกไหวหรือเปล่าครับ"
"ไหวค่ะ"
เสียงเล็กตอบอ้อมแอ้ม สองมือละจากข้อเท้าเปลี่ยนมายันพื้นถนนขรุขระเพื่อลุกยืน แต่ผลที่ได้คือการร่วงไปกองกับพื้นอีกครั้ง ซ้ำรอยช้ำเดิมจนน้ำตาเล็ด
"มานี่เดี๋ยวผมช่วย"
ราเชนทร์ไม่อาจทนความน่ารำคาญต่อสายตาตรงหน้าได้ มือหนาสอดใต้วงแขนเล็กเพื่อเหนี่ยวรั้งหญิงสาวให้ลุกยืน อาจด้วยเพราะเขาอุกอาจมากเกินไปหรืออะไรก็ตาม ความหวังดีเลยกลายเป็นอย่างอื่นแทน
ตามฝันร้องเสียงหลงเมื่อหลังมือของชายหนุ่มสัมผัสโดนหน้าอกของเธอเข้าอย่างจัง ใบหน้าเด็กสาวแดงจัด ริมฝีปากอิ่มเอิบขบเม้มจนเป็นเส้นตรง แววตาฉายชัดถึงความไม่พอใจ
"คุณ!"
แล้วทุกอย่างก็พลันหยุดชะงัก เมื่อคนทั้งสองสบสายตากันอัตราการเต้นของหัวใจเต้นถี่รัวในพื้นที่ไร้การสัญจรรอบข้างเงียบงัน ตามฝันมั่นใจเหลือเกินว่าเสียงตึกตักที่ได้ยิน คือเสียงหัวใจของตัวเธอเอง
อาการดังกล่าวไม่ได้เป็นเพียงแค่ตามฝัน รวมถึงราเชนทร์ก็ด้วยเช่นกัน แต่เขาแค่เก็บอาการได้ดีกว่าเท่านั้นเอง
ที่แท้เธอก็คือแม่ค้าขาย...พวงมาลัยตัวน้อย
โทษดวงชะตาได้ไหม ที่ลิขิตให้ชีวิตเด็กสาวคนหนึ่งต้องแบกรับภาระหน้าที่เกินตัวมากมายขนาดนี้
ตามฝันอายุได้สิบเก้าปีในตอนที่เสียพี่สาวเพียงคนเดียวไปตลอดกาล เท่ากับว่าชีวิตของเธอในตอนนี้มีแค่หลานชายเลือดเนื้อเชื้อไขที่จินดาทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า ซึ่งการเลี้ยงเด็กคนหนึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเอาซะเลย...
ช่วงนั้นน้องต้อมไม่สบายเป็นไข้ตัวร้อนบ่อยมาก งอแงตลอดเวลาจนตามฝันไม่เป็นอันทำอะไร เงินที่พี่สาวทิ้งไว้ให้ก็เริ่มร่อยหรอลงไปทุกที บวกกับวันนั้นต้อมไม่ยอมกินนมถ่ายเหลวทั้งวันด้วยความเป็นห่วงหลาน ตามฝันจึงตัดสินใจใช้เงินที่เหลือก้อนสุดท้ายพาต้อมไปโรงพยาบาล หมอบอกว่าต้อมท้องร่วงต้องนอนให้น้ำเกลือดูอาการสองสามวันเพราะต้อมยังเล็กมาก
จ่ายค่าหยูกยาไปตามฝันก็แทบไม่มีเหลือสักแดงเดียว เธอตัดสินใจเอาโทรศัพท์ที่จินดาซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดไปจำนำที่ร้านเฮียซ้ง พอได้ค่ากับข้าวนิดหน่อย ไม่ถึงอาทิตย์ก็คงหมด เธอคิดไม่ออกเลยว่าต่อไปนี้ชีวิตจะไปในทิศทางไหน เธอจะเลี้ยงต้อมได้อย่างไร ตามฝันแทบมองไม่เห็นอนาคต เงินจากการขายพวงมาลัยก็คงไม่พอใช้จ่ายในระหว่างที่ต้อมยังนอนโรงพยาบาลอยู่ ไหนจะค่าน้ำค่าไฟ ค่าเช่าห้องอีก
ในอารมณ์ชั่ววูบหนึ่งตามฝันนึกถึงงานที่จินดาเคยทำ งานที่ทำเงินได้อย่างมากมายในแต่ละคืน...และเป็นงานที่พี่สาวกำชับนักหนาว่าอย่าได้มาข้องเกี่ยว
จิตใต้สำนึกบอกเธอว่าอย่าเด็ดขาด แต่อีกเสียงในสมองมันบอกว่าเธอไม่มีทางเลือกแล้วจริง ๆ ...
ตามฝันอาศัยช่วงที่ต้อมนอนหลับมีพยาบาลประจำวอร์ดคอยเฝ้าอยู่ตลอดเวลา เธอกลับมาห้องเช่าในยามวิกาลสวมใส่ชุดที่เคยเป็นของจินดายามที่ยังมีชีวิตอยู่ เลือกตัวที่เปิดเนื้อหนังน้อยที่สุด
เด็กสาวยืนจ้องเงาสะท้อนในกระจก แก้มใสเป็นสีชมพูระเรื่อกว่าปกติจากการปัดบลัชออนหนัก ๆ ริมฝีปากอวบอิ่มเคลือบลิปสติกสีไวน์แดง เครื่องหน้าที่เคยจืดชืดจึงแปรเปลี่ยนเป็นสาวสวยสะพรั่งในค่ำคืนเดียว จริง ๆ แล้วตามฝันไม่ค่อยรู้เรื่องการแต่งหน้าสักเท่าไร มีบ้างเป็นบางครั้งที่จินดาเคยสอน พอนึกถึงความทรงจำเก่า ๆ นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนก็หม่นแสง หยาดน้ำตาคลอหน่วยจนเอ่อล้นก่อนที่หญิงสาวจะใช้นิ้วเกลี่ยมันออกอย่างเบามือ
ก็แค่คืนนี้เท่านั้น แล้วเธอจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับอาชีพนี้อีก
ถนนในยามวิกาลมีเพียงแสงสีส้มจากหลอดไฟข้างทางที่ส่องสว่าง บริเวณเดียวกันเป็นซุ้มไม้ขายพวงมาลัยเล็ก ๆ ทว่าไม่น่าสนใจเท่ากับหญิงสาวสี่ห้าคนที่แต่งหน้าจัดจ้าน เสื้อผ้าเว้าหน้าหลังจนคนมองยังแอบสั่นแทน
ณ ที่แห่งนี้ทุกคนมีจุดประสงค์เดียวกัน นั่นคือการหาลูกค้าที่จะจ่ายให้พวกหล่อนอย่างงาม
ตามฝันเคยมาส่งจินดาที่นี่ครั้งหนึ่ง ก่อนที่พี่สาวจะย้ายไปทำในคลับหรู เธอไม่กล้าไปคลับอย่างพี่ เพราะมันต้องมีคนแนะนำถึงเข้าไปทำงานที่นั่นได้ อีกอย่างเธอไม่คิดจะทำเป็นอาชีพหลักอยู่แล้ว ก็แค่วันนี้เท่านั้น
มีสายตาหลายคู่จับจ้องมองมา ตามฝันเม้มปากเบา ๆ หลุบตาลงต่ำแล้วเดินผ่านพวกหล่อนไปอย่างเงียบ ๆ เธอเลือกที่จะเมินเสียงซุบซิบนินทา
อาจเป็นเพราะเธอไม่ได้กวักมือเรียกรถที่ขับผ่านไปมา หรือยืนอวดทรวดทรงเย้ายวนอย่างสาว ๆ คนอื่น เธอเลยยังนั่งแห้งอยู่ที่เดิม เหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือก็เป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้ว ลูกค้าก็ไม่ได้สักคน ใจก็ห่วงต้อมที่นอนอยู่โรงพยาบาล
ในตอนนั้นเองเธอคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่าง เริ่มจากการลุกขึ้นยืน จับตามองรถที่กำลังขับเคลื่อนมาจากที่ไกล ๆ ภาวนาขอให้ได้ลูกค้ากระเป๋าหนัก ๆ ทว่ารถคันนั้นก็ขับผ่านไปอย่างเฉียดฉิว มือที่เตรียมจะยกขึ้นเป็นอันต้องชะงักค้างกลางอากาศ พร้อมกับเสียงหัวเราะเยาะของผู้หญิงคนอื่น ๆ ตามฝันอับอายเหลือเกิน แต่ก็ต้องทำใจสู้ยืนทำหน้านิ่ง ๆ เข้าไว้ ทั้งที่แทบอยากจะปล่อยโฮออกมาให้รู้แล้วรู้รอด
ในขณะที่หญิงสาวคนอื่น ๆ เริ่มทยอยได้ลูกค้าอย่างที่ต้องการ ทว่าตามฝันยังคงอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน หรือไม่บางทีฟ้าอาจจะบอกเธอเป็นนัย ๆ ว่านี่ไม่ใช่ทางของเธอตั้งแต่แรก
ในความน้อยเนื้อต่ำใจมีความโล่งอกเจือปน สองข้างทางตอนนี้เงียบงัน รถสักคันก็ไม่มีให้เห็น ร่างแบบบางพรูลมหายใจยาวเหยียด ตามฝันเตรียมจะกลับไปเปลี่ยนชุดที่ห้อง เธอเริ่มถอดใจกับการหาเงินด้วยวิธีแบบนี้ สองเท้าเล็กในรองเท้าส้นสูงเดินไปตามถนนริมฟุตพาทด้วยจิตใจที่ห่อเหี่ยว ปัญหาเรื่องเงินเป็นอะไรที่คิดไม่ตก ในขณะเดียวกันที่ต้องข้ามถนนไปอีกฝั่ง นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนขยายกว้างเล็กน้อย เมื่อซูเปอร์คาร์สีดำด้านค่อย ๆ เคลื่อนเข้ามาจอดข้างทาง ในตอนนั้นความคิดน่าละอายใจก็ผุดขึ้นเป็นฉาก ๆ ลองถ้ามีรถหรูขับขนาดนี้ เจ้าของรถต้องกระเป๋าหนักแค่ไหนกันนะ
บางทีถ้าเธอลองไปเสนอขายให้ถึงที่ ไม่แน่นะเขาอาจจะซื้อเธอก็ได้...
ทั้งที่เป็นเรื่องน่าละอายใจเอามาก ๆ จิตใต้สำนึกบอกเธอว่าไม่ควร ทว่าทุกอย่างมันต้องขับเคลื่อนด้วยเงินจริง ๆ เพราะสิ่งนี้สองเท้าเล็กจึงมาหยุดข้างกระจกรถติดฟิล์มสีทึบ ร่างแบบบางในชุดเดรสรัดรูปสีดำเว้นระยะห่างกับตัวรถเล็กน้อย ด้วยเกรงว่าอาจสร้างรอยขีดข่วนต่อรถของเขา
ก๊อก ก๊อก
มือบางสั่นระริกยามที่เคาะกระจกรถคันหรู รอเพียงไม่กี่อึดใจคนด้านในก็ลดกระจกลง ตามฝันกลั้นลมหายใจ ดวงตาคู่โตฉ่ำวาวหลุบลงต่ำ เสียงที่เอ่ยกับเขาติดสั่นเล็กน้อย
"คุณ...ช่วยซื้อหนูได้ไหมคะ หนูขอร้อง"
ตามฝันไม่สนว่าบุรุษที่เธอเสนอขายเขาจะหน้าตาเป็นเช่นไร จะอ้วนหรือผอมเธอก็ไม่สนใจ เพราะสิ่งเหล่านั้นมันไม่สำคัญหากเขาให้ในสิ่งที่เธอต้องการ
"..."
ความเงียบเข้าปกคลุม ชายหนุ่มภายในรถไม่แม้จะตอบรับ ตามฝันเริ่มใจไม่ดีเมื่อเขาเงียบจนผิดสังเกต เธอเดาว่าเขาอาจกำลังไม่พอใจกันอยู่ ดวงหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจนสวยสะพรั่งค่อย ๆ เงยขึ้นมองเจ้าของรถอย่างช้า ๆ ตามด้วยก้อนเนื้อในอกด้านซ้ายที่พากันกระหน่ำเต้นอย่างรุนแรง
เกิดความรู้สึกปั่นป่วนในท้องน้อยอย่างที่ไม่สามารถอธิบายถึงเหตุผลได้
เจ้าของรถคันหรูเขาไม่ใช่คนไทย ตามฝันตาค้างไปหลายวินาที เธอไล่สำรวจใบหน้าคมคายออกไปทางลูกครึ่งฝรั่ง คิ้วเข้มดกดำ จมูกโด่งรับริมฝีปากหยักสีชมพูระเรื่อที่ดูเหมือนว่าจะไม่เคยแตะต้องสิ่งเสพติด ทรงผมมาดคุณชายที่ถูกปาดเจลให้เสยขึ้นอยู่ตลอดเวลา บ่งบอกถึงสังคมที่เขาอยู่ได้เป็นอย่างดี ที่สะดุดตามากที่สุดก็เห็นจะเป็นดวงตาคู่คมสีฟ้าน้ำทะเล ถ้าไม่เป็นการเสียมารยาทมากเกินไป ตามฝันไม่อยากละจากดวงตาคู่นั้นเลย เขาเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบมาก ๆ มากจนเธอละอายใจเหลือเกินที่มาเคาะกระจกรถเขาในยามวิกาลเช่นนี้
ดวงตาคมกล้าที่อ่านไม่ออก กำลังเพ่งพินิจมาที่หญิงสาวนิรนาม คิ้วเข้มเลิกขึ้นนิด ๆ
ตามฝันจึงเข้าใจว่าเขาน่าจะฟังภาษาไทยไม่ออก เธอจึงรีบกล่าวขอโทษเขาเป็นภาษาอังกฤษด้วยคำง่าย ๆ ริมฝีปากอวบอิ่มเคลือบลิปสติกสีไวน์แดงส่งยิ้มเจื่อน ๆ ให้ชายหนุ่ม ทว่าเขาก็ยังไม่ละสายตาไปจากเธอ
พูดด้วยก็ไม่พูด เอาแต่จ้องกันจนคนถูกจ้องเริ่มทำตัวไม่ถูก ตามฝันจึงตัดสินใจได้ว่าไม่ควรอยู่ตรงนี้ เท้าเล็กก้าวถอยหลังในจังหวะที่กำลังเดินออกห่างจากซูเปอร์คาร์ เสียงทุ้มลึกในลำคอของคนในรถที่เธอคิดว่าเขาฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่องก็เอ่ยรั้งเธอไว้
"จะไม่ขายแล้วเหรอครับ?"
และที่สำคัญเขาพูดภาษาไทยได้อย่างชัดถ้อยชัดคำ จนใบหน้าสาวเห่อร้อนวูบวาบคล้ายไข้ขึ้นเดี๋ยวนั้น...
ราเชนทร์ลดมือที่หิ้วปีกคนตัวเล็กลง แต่เธอตั้งท่าจะล้มอีกหนเพราะข้อเท้าเล็กยังคงระบม จึงต้องพยุงไว้ตามเดิม แม้เจ้าของร่างจะไม่เต็มใจให้เขาโดนเนื้อตัวสักเท่าไรก็ตาม
ตามฝันเหมือนเป็นใบ้ หญิงสาวหาเสียงตัวเองไม่เจอไปชั่วขณะหนึ่ง เอาแต่ก้มหน้าก้มตาอึกอักพูดอะไรไม่ออก ด้วยไม่คิดว่าจะได้มาเจอเขาอีกครั้ง ผู้ชายที่เธอเสียความบริสุทธิ์เพื่อแลกกับเศษเงินของเขา ในสภาพที่เธอไม่ต่างอะไรกับคนข้างถนน