#เฮียมาเก็บดอก
4:ห้องเชือด
“ปล่อยดิวะลุง ปล่อย!!!…”
ไอ้ต่ายทั้งโวยวายมองเท้าตัวเองที่เริ่มลอยสูงขึ้นจากพื้น เริ่มดิ้นเริ่มสู้แต่ก็เหมือนจะถูกเสี่ยออกแรงกอดรัดเอวแน่นขึ้น
ลุงเป็นงูเหลือมรึไงฟร๊ะ!!
ตบแขนเสี่ยหลายทีสงสัญญาณว่าอึดอัดจนทนไม่ไหวกลัวตัวเองจะขาดใจตายซะก่อน
“ทำตัวดีๆ” เสี่ยขู่จ้องคนที่หมดฤทธิ์
“ก็ดีแล้วไง” ไอ้ต่ายเถียงมือก็ยังตบแขนเสี่ยให้ปล่อยมันลง
“ตัวมึงโคตรเบากูอุ้มได้ทั้งคืนอ่ะ”
“แต่กูไม่ไง!”
“พูดให้มันดีๆ ขึ้นมึงขึ้นกูกับผู้หลักผู้ใหญ่มันไม่น่ารัก!”
“ทำไมต้องฟังวะ!”
“มึงอยากโดนใช่ไหมรู้จักกูน้อยไปล่ะสิ”
“เหี้ยเอ๊ย! ...ปล่อยกู!!!” ไอ้ต่ายดิ้นพล่านพยายามงัดแขนลุงออกจากเอวของตัวเองอีกครั้ง
ความมั่นใจที่เคยคิดว่าตัวเองแข็งแรงมันหายไปตอนนี้สู้แรงลุงยังไม่ได้รู้สึกขายขี้หน้าชะมัดโดนจับอุ้มเข้าเอวกอดไว้อย่างกับตุ๊กตา
“ว่าไงนะแน่จริงก็พูดมาดังๆ!”
“ปะ…เปล่านี่”
“มึงด่ากูไม่ใช่ไง”
“ดะ…ด่าที่ไหนผมจะเรียกลุง…เอ่ย! เฮียต่างหาก”
“เฮีย?” เสี่ยหมีทำหน้าประหลาดใจ
“ครับ…ปล่อยผมก่อนนะครับเฮีย” พูดจบไอ้ต่ายก็เอามือมาวางบนแขนเสี่ยหมี
หันกลับมามองคนที่ยังอุ้มตัวเองไว้พยายามใช้สายตาอ่อนโยนใสซื่อจริงใจหวังว่ามันจะช่วยให้ตัวเองได้มีอิสระอีกครั้ง
เสี่ยหมีเองก็เคลิ้มกับความสุภาพและคำพูดคำจาที่น่าฟังของไอ้ต่ายแขนเริ่มคลาย ใจเริ่มคล้อยตามดูเหมือนว่าตัวเขากำลังพ่ายแพ้ให้กับคำว่า ‘เฮียครับ’ ทำไมมันรู้สึกระรื่นหูจนอยากจะฟังซ้ำอีกหลายๆ ครั้ง
อยากฟังไอ้ต่ายมันเรียกอ้อนๆ ว่า เฮียอย่างนั้น เฮียอย่างนี้ ขนาดคิดยังโคตรรู้สึกดีเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าถ้ามันเรียกขึ้นมาจริงๆ เขาจะเป็นไงสุดท้ายก็เคลิ้มจนยอมปล่อยไอ้ต่ายลงจนได้
สองเท้าแตะพื้นได้เท่านั้น
ไอ้ต่ายถอยหนึ่งก้าวหันกลับมายิ้มหวานก่อนจะสับขาวิ่งไม่คิดชีวิตตรงไปยังห้องที่เล็งไว้ก่อนหน้านี้ ความจริงก็อยากจะวิ่งหนีออกจากบ้านแต่คิดอีกทีทั้งดึกและเปลี่ยวขนาดนั้นสู้นอนในห้องนี้เก็บแรงไว้สู้กับเสี่ยวันพรุ่งนี้ยังดีเสียกว่า
ปัง!
ปัง ปัง…
ปังแรกคือไอ้ต่ายวิ่งเข้ามาในห้องแล้วล็อคประตูได้ทันส่วนสองปังหลังคือเสียงทุบประตูของเสี่ยหมีที่ระบายความหงุดหงิดที่พลาดท่าโดนเด็กมันหลอก
แสบสุดๆ เลยว่ะไอ้ต่าย
“มึงออกมาเลยนะ!” เสียงเสี่ยหมีโวยวายอยู่ข้างนอก
ออกไปก็โง่ดิ…ไอ้ต่ายโล่งใจที่จะได้อยู่อย่างสงบคลำผนังใกล้ๆ ประตูเพื่อจะหาสวิตไฟ
แป๊ะ...
ไฟสว่างไปทั้งห้องพร้อมกับเสียงสบถของคนที่อุตส่าห์วิ่งมาแทบตาย
"เชี่ย! ห้องน้ำแม่งเอ๊ยกูจะนอนไงวะเนี่ยยย…” ไอ้ต่ายทึ้งหัวตัวเองระบายความหงุดหงิด
“ไอ้ต่ายกูบอกให้ออกมา!”
“เอาไงดีวะ?” คุยกับตัวเองกำลังหาทางเอาตัวรอดที่มันดีกว่านี้จะบอกว่าปวดขี้จะฟังขึ้นไหม
ปึง! ...
สะดุ้งโหยงกับเสียงที่มั่นใจว่าเสี่ยถีบประตู ออกไปตอนนี้ก็ดูท่าจะไม่รอดแต่จะให้นอนในห้องน้ำมันก็ไม่ได้
“โอ๊ย…คิดไม่ออกแล้วโว๊ย!” ไอ้ต่ายโวยวายกับตัวเอง
“กูนับหนึ่งถึงสามนะ หนึ่ง…”
“อย่าพึ่งนับดิผม…ผมปวดขี้ขอเวลาสิบนาที” ไอ้ต่ายต่อรองพร้อมกับวิ่งไปกดชักโครกเพื่อความสมจริง
“ได้…ถ้าสิบนาทีมึงยังไม่ออกมากูจะพังเข้าไป” ขู่คนในห้องน้ำแล้วก็เดินกลับไปนั่งรอตรงโซฟา
ความจริงเสี่ยหมีก็ขู่ไปงั้นล่ะไม่ได้จะพังประตูเข้าไปจริงๆ ไม่ได้กลัวไอ้ต่ายนะแต่เสียดายค่าซ่อมประตูต่างหากก็บอกอยู่ว่าเงินมันหายากกว่าจะได้มาแต่ละบาทน่ะ ยกแขนข้างที่มีนาฬิกาขึ้นมาดูเวลาอย่างร้อนใจในหัวก็คิดว่าไอ้ต่ายจะมาไม้ไหนดูท่าแล้วมันไม่เต็มใจอยู่กับเขาง่ายๆ แน่
8นาทีผ่านมา
ประตูห้องน้ำเปิดออกพร้อมกับไอ้ต่ายที่เดินก้มหน้าทำตัวลีบเล็กดูเจียมเนื้อเจียมตัว
“นั่งลง!” ส่งด้วยอารมณ์ที่ยังคงค้างแต่พอเห็นท่าทางมันแล้วก็อดสงสารเห็นใจไม่ได้
ช่างมันเถอะต่อให้เป็นการแสดงเขาก็ไม่ใส่ใจดึกแล้วเขาควรคุยกับมันให้รู้เรื่องจะได้แยกย้ายไปนอน
“คืนนี้มึงต้องนอนกับกู”
“ห๊ะ!” ไอ้ต่ายตกใจไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเท่าไหร่นัก
“นี่เสี่ย…” เอียงตัวหลบแถมยกมือมากอดประสานกันที่กลางหน้าอกตัวเองไว้
นอนของเสี่ยมันต้องเป็นอะไรที่ไม่ใช่การนอนธรรมดาแน่ๆ รู้สึกแปลกๆ ตั้งแต่โดนอุ้มแล้วล่ะ
ใช่…ใช่มะ?
ใช่…ใช่ไหม?
ข่าวลือที่ว่าเสี่ยชอบผู้ชายมันเป็นข่าวจริงร้อยเปอร์เซ็นต์
“หยุดมองกูแบบนั้นได้ละไอ้ต่าย”
“แล้วจะให้มองแบบไหนล่ะเสี่ยคิดอกุศลกับผมอ่ะ”
“คิดอะไรกูยังไม่ได้ทำอะไรมึงเลยนะ?”
“ไม่ต้องมาโกหกหรอกดูตาดิ…โคตรไม่น่าไว้ใจ”
“แล้วมึงคิดว่าตัวขัดดอกอย่างมึงทำประโยชน์อะไรให้กูได้บ้าง”
“เยอะแยะ!”
“เหรอ? กูจะคอยดูแต่ยังไงคืนนี้มึงก็ต้องนอนกับกูก่อน”
“ไม่เอา…ผะ…ผม”
“ผมอะไร?”
“…” ไอ้ต่ายเลิ่กลั่กพยายามคิดหาข้ออ้างแต่มันก็ตื่นเต้นจนคิดอะไรไม่ออก
“ลุกเร็วๆ พรุ่งนี้กูต้องตื่นไปเก็บดอกแต่เช้า”
“ทะ…ทำไมผมต้องนอนกับเสี่ยอ่ะ”
“เรียกเฮียดิแล้วจะบอก”
“เฮีย…”
“หึหึ…มึงนี่ก็หลอกง่ายนะ”
“เสี่ยหลอกผมเหรอ?”
“เออ…แต่เรียกเฮียน่ะพูดจริง”
“ไม่เรียกหรอกเรียกลุงอย่างเก่าดีกว่า” ไอ้ต่ายบ่นพร้อมกับทำหน้างอ
“ลองดูดิ…ถ้ามึงอยากรู้ว่ากูจะจัดการยังไง” เสี่ยหมีจ้องไอ้ต่ายตาเป็นประกายอยากจะกลายร่างจากหมีเป็นเสือร้ายเข้าไปขย้ำกระต่ายกิน
“หะ…ห้าววว…ง่วงแล้วอ่ะ” ไอ้ต่ายแกล้งหาวเอามือปิดปากรีบลุกขึ้นเตรียมจะเข้านอน
แอบหันไปเหล่มองเสี่ยทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นสายตาเมื่อกี้แล้วขนลุก
“นอน...ด้วยกันจริงดิผมไม่เคยนะ” บอกความกังวลของตัวเองออกไป
ไอ้ต่ายทำใจในห้องน้ำมาแล้วว่ายังไงวันนี้ก็หนีไม่รอดอย่างที่เคยบอกว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องเก็บแรงเอาไว้เพราะงั้นไม่ว่าเสี่ยจะสั่งให้ทำไรเขาก็จะทำตามไปก่อน
รอพรุ่งนี้ค่อยหาทางหนีอีกครั้ง
“ไม่เคยอะไร?” เสี่ยหมีแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจความจริงอยากจะหัวเราะกับความใสซื่อน่ารักของไอ้ต่ายเอามากๆ
ทำให้อยากขย้ำ…
“ช่างเหอะถือว่าผมไม่เคยพูดแล้วกันผมต้องนอนห้องไหนล่ะ?”
“นั่นห้องกู นี่ห้องเชือด” เสี่ยหมีชี้ไปที่ประตูซึ่งอยู่คนละฝั่งกัน
“หะ…ห้องเชือด?” ไอ้ต่ายกลืนน้ำลายอึกใหญ่
"ใช่...ห้องที่ผู้ใหญ่เขาเอาไว้เล่นสนุกกันมึงอยากนอนห้องไหนล่ะ?”
"ผมยังเป็นเด็กงั้นนอนห้องเสี่ยดีกว่า" พูดแล้วก็รีบหันหลังให้ห้องเชือดที่ว่าทันที
"ห้องใครนะกูให้มึงพูดใหม่"
“หะ…ห้องเฮียครับ” ไอ้ต่ายยิ้มหวานพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพน่าฟังเป็นการประจบเอาใจ
“น่ารัก…” เสี่ยหมียิ้มยื่นมือไปหยิกแก้มไอ้ต่ายเบาๆ แล้วขยับตัวเข้าไปจับลูกบิดประตู
แกร๊ก…
ดันประตูให้เปิดกว้างก้าวเข้าไปในห้องพร้อมกับเปิดไฟจนสว่างแต่อีกคนก็ยังไม่ตามเข้ามา เสี่ยหันกลับไปมองจ้องไอ้ต่ายที่แสดงสีหน้าตื่นกลัวอย่างเห็นได้ชัดแววตาดูมีความกังวลไม่เหลือมาดเด็กแสบที่กวนประสาทกันตั้งแต่แรกเจอ
“เข้ามาดิ”
ไอ้ต่ายมองเสี่ยหมีถามตัวเองว่ามันต้องถึงขนาดนี้ไหม
แม่งเอ๊ย! ...ยังไงเขาก็ไม่พร้อมอ่ะ
“เข้ามา!” เสี่ยหมีตัดรำคาญจับมือไอ้ต่ายแล้วกระชากเข้ามาในห้อง