ตอนที่ 9 นายหญิงของไร่

1432 Words
ช่วงนี้ชัชวีร์มัวแต่ยุ่งกับงานในไร่ และยังต้องดูแลรินลดาตามคำสั่งของผู้เป็นแม่ จนลืมให้ความสำคัญกับผู้หญิงของเขา เมื่อนึกขึ้นได้ว่าของขวัญที่ซื้อมายังไม่ได้นำไปมอบให้กับอรกมล คืนนี้เขาจึงตั้งใจให้เธอเป็นฝ่ายมาหาที่นี่ “สุขสันต์วันเกิดย้อนหลัง” “ขอบคุณนะคะ อัยย์รักพี่วีร์ที่สุดเลยค่ะ” อรกมลโผเข้าสวมกอดร่างเปลือยเปล่าของชายคนรักด้วยรอยยิ้มดีใจ นึกว่าเขาจะลืมไปแล้วเสียอีก แต่ไม่คิดว่าชัชวีร์จะเตรียมของขวัญให้เธอจริง ๆ ก่อนจะผละตัวออกแล้วเลื่อนมือไปรับกล่องของขวัญ หญิงสาวเปิดกล่องกำหยี่ด้านในเป็นสร้อยคอไวท์โกล์ด พร้อมจี้ทรงวงแหวนสลักคำว่า Love มูลค่าเก้าหมื่นกว่าบาท “หายน้อยใจรึยัง” “อัยย์ไม่ได้น้อยใจพี่สักหน่อย” ใบหน้าสวยมีรอยยิ้มบางเบาอย่างเขินอาย ยอมรับว่าตลอดที่ผ่านมาเธอน้อยใจเขามากที่ไม่สามารถมางานวันเกิดของเธอได้ ทว่าเธอก็เข้าใจว่าเขาต้องทำงาน ไม่ได้มีเวลาว่างมาเอาอกเอาใจ เหมือนอย่างคนอื่นที่คบแฟนรุ่นราวคราวเดียวกัน และยังอยู่ด้วยกันทุกคืนวัน จึงมีเวลาให้กันมากหน่อย แต่มันไม่ใช่สำหรับคู่ของเธอ “ฉันใส่ให้นะ” หญิงสาวพยักหน้ารับด้วยความตื้นตัน คนรักของเธอแสนดีขนาดนี้จะมัวแต่น้อยใจได้อย่างไร เขาทำงานหนักมาตลอดหลายปีเธอก็เห็นด้วยสายตาตัวเอง ใช่ว่าชัชวีร์จะเพิ่งมายุ่งกับงานในไร่ตอนนี้เสียหน่อย เธอโผเข้าสวมกอดชัชวีร์แน่น รู้สึกรักเขามากขึ้นในทุกวัน แม้จะมีเวลาให้กันน้อยลง แต่เธอก็จะพยายามเป็นแฟนที่เข้าใจ ไม่หาเรื่องทะเลาะด้วยเรื่องเล็กน้อย เพื่อทำลายความสุขที่ควรจะมี ในช่วงสองวันที่กลับมานอนที่ไร่ กิจวัตรประจำวันของอรกมลก็ยังเหมือนเดิม ปรนนิบัติคุณย่าฉายรวีเสร็จ ช่วงบ่ายก็เข้าไปช่วยงานที่คาเฟต่อ “ช่วงนี้ลูกค้าเยอะเป็นพิเศษ ถ้าเป็นแบบนี้สิ้นเดือนพวกเราต้องได้โบนัสเพิ่มแน่ ๆ” “นั่นน่ะสิ ต้องขอบคุณคุณรินเลยนะ ทั้งสวยและยังใจดี มาช่วยโปรโมตไร่ให้ฟรีไม่คิดเงิน” “คุณรินนี่ใครเหรอคะ” อรกมลได้ยินพนักงานในคาเฟคุยกันก็อดถามไม่ได้ ตั้งแต่เดินเข้ามาภายในร้านมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย มีการตกแต่งแบบใหม่ อีกทั้งยังมีเมนูใหม่เพิ่มเข้ามา ลูกค้าก็ดูมากขึ้นกว่าแต่ก่อนจนเห็นได้ชัด “เห็นว่าเป็นลูกสาวของเพื่อนคุณรุ่งวิภา สงสัยอีกหน่อยคงได้มาเป็นนายหญิงของไร่เราแน่ ๆ” หัวใจของอรกมลกระตุกวูบ ใบหน้าถอดสีขึ้นมาทันทีกับประโยคที่ได้ยิน นายหญิงของไร่อย่างนั้นหรือ จะเป็นไปได้อย่างไร ก็ในเมื่อคนที่ชัชวีร์คบในตอนนี้ก็คือเธอ อรกมลจมอยู่กับความรู้สึกสับสนตลอดทั้งวัน จนกระทั่งชัชวีร์มาหาที่บ้านเล็กในตอนที่ทุกคนเข้านอนกันหมดแล้ว ทันทีที่ประตูห้องปิดสนิทก็ไม่อาจรีรอที่จะเก็บเรื่องนี้เอาไว้ได้อีกต่อไป “พี่วีร์คะ อัยย์ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม” “อืม ถามมาสิ” “อัยย์ได้ยินคนในร้านพูดถึงคุณริน เธอเป็นใครเหรอคะ” แม้จะรู้อยู่แล้วว่าเป็นลูกสาวของเพื่อนผู้เป็นแม่ของชัชวีร์ แต่ที่เธออยากรู้มากก็คือผู้หญิงคนนั้นสนิทกับเขาถึงขั้นไหน ทำไมคนในร้านถึงพากันพูดแบบนั้น หนุ่มเจ้าของไร่เห็นได้ชัดว่าบนใบหน้าของอรกมลเต็มไปด้วยความกังวล คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน จ้องหน้าเขาเพื่อรอคอยคำตอบ ถ้าหากรู้ความจริงว่ารินลดาเข้ามาช่วยงานที่ไร่สิงหเนวินทร์เพราะแม่ของเขาต้องการให้จับคู่กับอีกฝ่าย เธอจะรับได้หรือไม่ ชัชวีร์จึงรีบโพล่งขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบ “ไม่ต้องไปฟังคนพวกนั้นพูดหรอก ฉันกับรินรู้จักกันตั้งแต่เด็ก ช่วงนี้รินว่างงาน เลยอาสามาช่วยที่ไร่ก็เท่านั้น” “ถ้าพี่วีร์บอกว่าแค่คนรู้จัก อัยย์ก็จะเชื่อค่ะ” หญิงสาวยังคงเชื่อใจชัชวีร์อยู่เสมอ ขอแค่เขาเอ่ยออกมาจากปาก เธอก็พร้อมรับฟัง แม้ว่ามันจะสวนทางกับความคิดของคนอื่นที่พูดถึงคนทั้งสองก็ตาม อรกมลยังไม่มีโอกาสได้พบกับรินลดาที่ทุกคนในคาเฟเอ่ยถึงเพราะอีกฝ่ายไม่ได้มาที่ไร่ทุกวัน เรียกได้ว่ามาตามใจชอบ อยากมาเมื่อไรก็มา จึงไม่รู้วันเวลาที่แน่ชัด ระหว่างที่กลับมาอยู่คอนโดก็พยายามไม่คิดถึงเรื่องไม่เป็นเรื่อง ชัชวีร์บอกแล้วว่าแค่รู้จักกันตั้งแต่เด็ก เธอเองก็ควรจะหยุดคิดและโฟกัสแค่เรื่องเรียนก็พอ ทว่าพอมาถึงช่วงที่ชัชวีร์เข้าร่วมงานเกษตรแฟร์ แอปพลิเคชันสีฟ้าที่สร้างไว้ให้คนเข้ามาติดตามการดำเนินงานและบริการต่าง ๆ ของไร่ ก็ได้ลงรูปภาพบรรยากาศของงาน แต่มีภาพหนึ่งที่ทำให้เธอรู้สึกติดใจ ก็คือภาพหญิงสาวหน้าตาดีแต่งตัวแบรนด์เนมทั้งชุดคนหนึ่งที่กำลังกอดแขนชายที่เธอรัก ถ่ายภาพคู่กันแค่สองคนพร้อมกับแคปชัน ขอเชิญมาพบกับอินฟูเอนเซอร์คนสวย กับเจ้าของไร่สิงหเนวินทร์ ที่งานเกษตรแฟร์ อรกมลไม่อาจนิ่งเฉยเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นภาพของสองคนนี้ถ่ายร่วมกัน ก่อนหน้านั้นที่หนุ่มเจ้าของไร่บอกว่าลูกสาวของเพื่อนแม่มาช่วยโปรโมตร้านลงโซเชียล ก็ทำให้ได้เห็นโฉมหน้าของอีกฝ่ายแล้ว ว่าสวยดั่งที่คนในไร่พูดถึงไม่เกินจริงผ่านภาพถ่าย รินลดามักจะถ่ายรูปและคลิปวิดีโอแนะนำอาหาร มุมต่าง ๆ ในคาเฟ รวมไปถึงผลผลิตในไร่ บางครั้งก็มีภาพทั้งสองนั่งรถกอล์ฟชมไร่ส้มด้วยกัน ทำให้จิตใจของอรกมลที่ได้เห็นภาพของทั้งคู่ในวันนี้เกิดความว้าวุ่นคิดไปต่าง ๆ นา ๆ เขามาร่วมงานเกษตรแฟร์แบบเดินทางไปกลับ แต่ไม่ได้แบ่งเวลามาเจอหน้าเธอเลยทั้งที่อยู่ในตัวเมืองเหมือนกัน แม้แต่โทรมาถามว่าเที่ยงนี้กินข้าวหรือยังก็ไม่มี มันทำให้แฟนอย่างเธอเกิดความน้อยใจขึ้นมา รีบกดเบอร์โทรออกไปหาอีกฝ่าย เสียงต่อสายดังไม่นานชัชวีร์ก็กดรับ “พี่วีร์ทำอะไรอยู่คะ” (ฉันอยู่ที่งานเกษตรแฟร์ มีอะไรรึเปล่า) “ไม่มีอะไรค่ะ อัยย์แค่อยากไปช่วยงานตอนหลังเลิกเรียน” (ไม่ต้องมาหรอก แค่เรียนก็หนักแล้ว รีบกลับเข้าห้องไปพักเถอะ) เสียงตอบกลับทำให้อรกมลคิดมาก เขาไม่อยากให้เธอไป หรือกลัวว่าเธอจะไปเจอผู้หญิงคนนั้นกันแน่ “พี่วีร์อยู่กับใครเหรอคะ ทำไมถึงไม่อยากให้อัยย์ไปหา” (อย่างี่เง่าน่ะอัยย์ แค่นี้ก่อนนะ พี่ต้องทำงาน) อีกฝ่ายวางสายไป ส่งผลให้อรกมลยิ่งเกิดความกลัวในใจ คำว่านายหญิงของไร่ ที่หมายถึงผู้หญิงคนนั้นยังดังกึกก้องอยู่ในหูไม่จางหาย ไหนจะคำว่างี่เง่าด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้นเมื่อครู่นี้ พลันทำให้ใบหน้าเกิดความร้อนรุ่ม ดวงตาแดงก่ำ แต่ก็ต้องฝืนข่มหยดน้ำตาไม่ให้ร่วงหล่นเพราะยังอยู่ในเวลาฝึกงาน อรกมลกลับมานั่งที่เคาน์เตอร์พยาบาลก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปหลังจากที่หลบไปคุยโทรศัพท์ในช่วงพัก เขมิกาที่นั่งอยู่ข้างกันเห็นแล้วก็อดห่วงไม่ได้จึงเอ่ยถาม “แกเป็นอะไร หรือว่าทะเลาะกับพี่วีร์” “เปล่า ฉันแค่ง่วง หาวจนน้ำตาจะเล็ดอยู่แล้ว” เธอแสร้งว่าไม่เป็นอะไร ทั้งที่ภายในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกหน่วง แต่ก็ต้องรวบรวมสมาธิ เพราะงานที่ทำเกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วยของคนไข้ จะให้มีเรื่องมารบกวนไม่ได้ “แค่ง่วงนี่เอง ฉันก็นึกว่าแกเป็นอะไรซะอีก” “ขอบใจแกมากนะเขมที่เป็นห่วง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD