ตอนที่ 7 ลูกสาวของเพื่อนแม่

1517 Words
ชัชวีร์ส่งข้อความนี้ออกไปก็ปิดหน้าจอมือถือเก็บใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงยีนทันที แล้วเข้าไปนั่งรับประทานอาหารเย็นร่วมกับแขกของผู้เป็นแม่ เดิมทีค่ำนี้มีนัดกับหญิงสาวที่เขาเก็บซ่อนเอาไว้ไม่บอกให้ใครล่วงรู้ เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันเกิดของอรกมล แต่เพราะเพื่อนเก่าของแม่ได้มาเที่ยวหาที่บ้าน พร้อมกับลูกสาวที่เพิ่งเรียนจบปริญญาโทและกลับมาจากต่างประเทศ ทั้งสองท่านไม่ได้พบเจอกันนาน แม่ของเขาจึงชวนกินมื้อเย็นด้วยกันโดยขอให้เขาอยู่ด้วย ชัชวีร์ไม่กล้าขัดใจมารดาและคิดว่าทางด้านอรกมลมีเพื่อนฉลองวันเกิดด้วยแล้ว เขาค่อยหาซื้อของขวัญมอบให้ในภายหลังก็คงไม่เป็นไร “หนูริน ตักแกงเขียวหวานให้พี่ลองชิมดูสิ นี่เป็นเมนูโปรดที่ตาวีร์ชอบเลยนะ” แม่ของชัชวีร์เอ่ยกับรินลดาลูกสาวของเพื่อนเก่า “ค่ะคุณป้า” หญิงสาวเผยรอยยิ้มอย่างเหนียมอาย เลื่อนมือไปหยิบช้อนตักแกงเขียวหวานที่ได้เข้าไปช่วยเป็นลูกมือในครัววางลงในจานของชายหนุ่ม “ขอบคุณครับ” หนุ่มหล่อมาดเข้มเอ่ยน้ำเสียงสุภาพ รุ่งวิภากับอนงค์พากันจ้องมองเด็กทั้งสอง ก่อนจะหันมาส่งสายตาอย่างรู้ทันความคิดของกันและกัน เด็กสองคนนี้อายุห่างกันกำลังพอดี ชัชวีร์อายุสามสิบเอ็ด ส่วนรินลดาอายุยี่สิบห้า ถ้าได้จับคู่ให้ลองคบหากันดู น่าจะไปด้วยกันได้ ส่วนรินลดาที่กลับมาจากต่างประเทศและเลิกกับแฟนไปเมื่อปีก่อน พอได้กลับมาเจอกับพี่วีร์ในอดีตที่ตอนนี้กลายเป็นหนุ่มเจ้าของไร่ส้ม ผู้มีใบหน้าหล่อคมคายอีกครั้ง ก็เกิดความชอบอีกฝ่ายจนผู้ใหญ่สังเกตได้ ทั้งสองคนเคยเจอกันตอนเป็นเด็ก แต่นับเวลาก็สิบกว่าปีแล้วที่ไม่ได้พบกันอีก ทำให้อาจจะลืมช่วงเวลาในวัยนั้นที่เคยสนิทกันไปบ้าง แต่หลังจากนี้ถ้าได้มีเวลาทำความคุ้นเคยกันใหม่ แม่ของชัชวีร์เชื่อว่าลูกสาวของเพื่อนจะทำให้ลูกชายของตนเกิดความชอบแบบหนุ่มสาวได้แน่ “หนูรินจ๊ะ ถ้าวันไหนว่างเข้ามาเที่ยวที่ไร่บ่อย ๆ นะ” รุ่งวิภาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ค่ะคุณป้า ขอบคุณสำหรับมื้อค่ำนะคะ หนูกับแม่ขอตัวกลับก่อน” รินลดาไหว้ลาผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม ก็เดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไปจากไร่พร้อมกับแม่ของเธอ พ่อแม่ของชัชวีร์และคุณย่าฉายรวีที่ได้นั่งร่วมโต๊ะกินข้าวด้วยกัน ต่างก็รู้สึกถูกชะตากับรินลดา เห็นพ้องต้องกันว่าอยากให้เด็กสองคนนี้ควรจะทำความรู้จักกันให้มากขึ้น เพราะทุกคนต่างก็อยากเห็นชัชวีร์มีคนรัก คนดูแล และแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที “ตาวีร์” เสียงหญิงชราเอ่ยรั้งก่อนที่หลานชายจะกลับเข้าบ้านอีกหลัง “ครับคุณย่า” “หนูรินเป็นยังไงบ้าง” “ก็น่ารักดีครับ ดูสุภาพเรียบร้อยดี” ชัชวีร์ตอบออกไปตามเนื้อผ้า “ถ้าตาวีร์เห็นน้องน่ารักแบบนี้ งั้นลองเปิดใจศึกษากันดูไหม” “คุณย่าครับ ผมยังไม่…” ชัชวีร์ยังพูดไม่จบประโยค เสียงของผู้เป็นแม่ก็คัดค้านขึ้นมาทันที “หยุดเลยตาวีร์ เอะอะก็บอกว่าไม่พร้อม คุณย่าก็ไม่ได้ให้แกแต่งงานกับหนูรินวันนี้หรือพรุ่งนี้สักหน่อย ก็แค่ลองเปิดใจให้น้องมันดู ศึกษาดูใจกันไปก่อน ไม่แน่ว่าเจอกันบ่อย ๆ แกอาจจะชอบขึ้นมาสักวันก็ได้” รุ่งวิภารู้ว่าลูกชายไม่กล้าขัดใจ ขอแค่โอกาสให้ลูกสาวของเพื่อนได้เริ่มผูกไมตรี หวังว่าชัชวีร์จะไม่ใจร้ายปฏิเสธตั้งแต่ทางนั้นยังไม่เริ่ม “ก็ได้ครับ” ชัชวีร์จำใจต้องตอบตกลง ไม่อย่างนั้นคงโดนผู้เป็นแม่รั้งตัวไว้และบ่นให้ฟังอีกหลายประโยค ก่อนจะรีบขอตัวกลับเข้าบ้านไป ***** ทางด้านอรกมล หลังจากเห็นข้อความเพื่อนของเธอก็เอ่ยปลอบใจ อย่างน้อยแฟนหนุ่มก็บอกแล้วว่าจะชดเชยให้วันหลัง สองสาวนั่งรอไม่นานอาหารที่สั่งไว้พนักงานก็นำมาจัดวางไว้บนโต๊ะ ทว่าข้าวอีกจานที่สั่งมาคงไม่มีใครกิน อรกมลและเขมิกากินข้าวไปได้เพียงไม่กี่คำ เสียงทุ้มสุภาพก็ดังขึ้นตรงหัวโต๊ะ “สวัสดีครับสองสาว” หมอหนุ่มหล่อเผยรอยยิ้มอย่างเป็นกันเองบนใบหน้า “สวัสดีค่ะพี่หมอ” “สวัสดีค่ะพี่ไทม์” “นัดใครมากินข้าวเหรอครับ” หมอทินกรสังเกตเห็นจานข้าวสวยอีกหนึ่งที่ แต่ไม่มีใครนั่งเก้าอี้ตรงนั้นจึงเอ่ยถาม “วันนี้เป็นวันเกิดของยัยอัยย์ค่ะพี่หมอ ทีแรกแฟนของอัยย์จะมาฉลองด้วย แต่จู่ ๆ ก็บอกว่าติดธุระมาไม่ได้แล้ว” เขมิกาเป็นฝ่ายตอบคำถาม “อัยย์มีแฟนแล้วเหรอ” ปลายหัวคิ้วของหมอทินกรย่นเข้าหากันเล็กน้อย ทำหน้าสงสัย ทั้งสองอยู่คอนโดเดียวกันมาหลายเดือน เขาไม่เคยเห็นอรกมลอยู่กับแฟนเลยสักครั้ง จึงคิดว่าสาวรุ่นน้องยังโสดมาตลอดเสียอีก “ค่ะ” อรกมลคลี่ยิ้มบางเบา ถ้าจะให้ดีเธออยากให้ชัชวีร์อยู่ตรงนี้ด้วย ทุกคนที่เธอสนิทจะได้ทำความรู้จักกัน “พี่ไทม์มากินข้าวกับเพื่อนเหรอคะ” อรกมลเอ่ยถาม “เปล่าครับ พี่มาคนเดียว พอดีช่วงนี้เบื่ออาหารที่โรงพยาบาล เลยอยากเปลี่ยนร้านดู ไม่คิดว่าจะบังเอิญมาเจอพวกเรา” “งั้นนั่งด้วยกันเลยนะคะ อีกที่ยังว่างอยู่” เขมิกาบอกกับหนุ่มรุ่นพี่ผู้แสนดี เขมิกาพอจะมองสายตาของหมอทินกรออกว่าแอบชอบเพื่อนของเธอมานาน แต่ติดที่มีนิสัยสุภาพบุรุษเกินไป จีบสาวไม่เก่ง แล้วอรกมลก็เป็นคนรักเดียวใจเดียว ชอบหนุ่มเจ้าของไร่คนนั้นมานานแล้ว เธอจึงไม่เคยส่งเสริมให้สองคนนี้คบหากัน “ยินดีครับ งั้นพี่ไม่เกรงใจแล้วนะ” “ตามสบายนะคะพี่ไทม์ มื้อนี้อัยย์เป็นเจ้ามือเองค่ะ” เมื่อมีเพื่อนร่วมโต๊ะเพิ่มมาอีกหนึ่งคน บรรยากาศที่อึมครึมเหมือนหัวใจของอรกมลที่เหี่ยวเฉาจากการถูกเทนัดสำคัญ ใบหน้าของเธอก็กลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง คนทั้งสามที่เป็นหมอและนักศึกษาพยาบาลต่างก็พูดคุยกันถูกคอ และพอนั่งด้วยกันสักครึ่งชั่วโมงหนุ่มหล่อก็เอ่ยขึ้น “พี่ขอตัวสักครู่นะ” เอ่ยจบเขาก็เดินออกไปนอกร้าน เพราะได้สั่งเค้กจากร้านเบเกอรีที่อยู่ไม่ไกลผ่านบริการเดลิเวอรี หนุ่มหล่อขอความเห็นใจจากเจ้าของร้าน ถือกล่องเค้กเข้าไปที่ด้านหลังเคาน์เตอร์เพื่อหลบซ่อนสายตา ก่อนจะนำเค้กมาปักเทียนและจุดไฟ ถือเข้าไปที่โต๊ะเจ้าของวันเกิด “แฮปปีเบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปีเบิร์ดเดย์ทูยู …” เสียงสุภาพร้องเพลงสุขสันต์วันเกิดให้กับอรกมล เขมิกาก็ช่วยร้องอีกหนึ่งเสียงจนจบเพลง อรกมลเห็นภาพนี้ก็รู้สึกตื้นตันใจจนน้ำตาคลอสองหน่วยตา ใบหน้าสวยฉายแววแห่งความสุข มีรอยยิ้มกว้างให้กับเพื่อนรักและหนุ่มรุ่นพี่ พอเสียงเพลงจบลงเธอก็หลับตาขอพร ก่อนจะเป่าลมออกจากริมฝีปากเพื่อดับเทียน “พี่ขอให้อัยย์มีความสุข และสมหวังดั่งใจปรารถนาทุกอย่างนะครับ” คืนนี้หมอทินกรทำได้แค่หาเค้กวันเกิดสักก้อน มอบให้พร้อมกับคำอวยพร เสียดายที่ไม่รู้ล่วงหน้า ไม่อย่างนั้นเขาก็คงมีเวลาตระเตรียมของขวัญให้กับอรกมล “ฉันก็ขอให้แกมีความสุขมาก ๆ นะเพื่อนรัก” “ขอบคุณนะคะพี่ไทม์ ขอบใจแกมากนะเขม” ทั้งสามคนนั่งกินเค้กด้วยกันในร้านอาหาร แม้จะเป็นเค้กก้อนเล็กขนาดครึ่งปอนด์ที่เหลืออยู่เพียงก้อนเดียวในร้านเบเกอรี แต่ความสุขที่ได้รับมันกลับมหาศาลมากกว่าขนาดเค้กเป็นไหน ๆ นึกไม่ออกเลยว่าถ้าคืนนี้ไม่มีหมอทินกรกับเพื่อนรักอย่างเขมิกาฉลองวันเกิดเป็นเพื่อน เธอจะรู้สึกเหงาและน้อยใจที่ชัชวีร์หายไปมากแค่ไหน เขาบอกแค่มีธุระด่วน แต่ธุระอะไรก็ไม่ได้อธิบายให้เธอเข้าใจ แล้วอรกมลก็ต้องเป็นฝ่ายเก็บความรู้สึกเหล่านี้เอาไว้แต่เพียงผู้เดียวอีกเช่นเคย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD