ขึ้นชั้นปีที่สี่อรกมลค่อนข้างเรียนหนัก อีกทั้งยังต้องไปฝึกงานที่โรงพยาบาล ทำให้ช่วงกลางวันแทบไม่มีเวลาพัก ส่วนกลางคืนก็ต้องอ่านหนังสือ
ใบหน้าสวยหันมองดูเวลาตอนนี้ก็สามทุ่มกว่า ไม่รู้ว่าชัชวีร์จะเข้านอนแล้วหรือยัง พอนึกถึงคนรักมือเล็กก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ข้อความแล้วกดส่งออกไป
อรกมล: นอนรึยังคะ
หญิงสาวนั่งอ่านหนังสือต่ออย่างไม่มีสมาธิ ทุกห้านาทีเบี่ยงสายตามองไปทางโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ แต่ไร้ซึ่งข้อความตอบกลับจากชายที่ครอบครองหัวใจ จนกระทั่งเหลืออีกสามนาทีจะเป็นเวลาสี่ทุ่ม เสียงแจ้งเตือนของข้อความก็ดังขึ้นพลันทำให้หัวใจของอรกมลเอิบอิ่ม
แต่แล้วพอเห็นข้อความที่ชัชวีร์ส่งมา รอยยิ้มบนใบหน้าก็เจื่อนลงทันที
ชัชวีร์: นอนแล้ว ฝันดีนะ
อรกมล: ฝันดีค่ะ
หญิงสาวพักอยู่คอนโดไม่ได้เจอหน้าชัชวีร์มาร่วมเดือน ที่เขาบอกว่าจะชดเชยวันเกิดย้อนหลังให้ นั่นคืออีกเมื่อไร
พักหลังเขามักจะบอกว่าเหนื่อยจากงาน มีบ้างที่เธอเกิดความคิดสับสนขึ้นในหัว ช่วงนี้ทำไมเขาดูเงียบผิดปกติ เวลาคุยกันก็ลดน้อยลงกว่าแต่ก่อน ทว่าอรกมลก็พยายามทำความเข้าใจ หนุ่มคนรักเป็นถึงเจ้าของไร่ส้มเนื้อที่กว่าเก้าร้อยไร่ มีธุรกิจอื่น ๆ และคนงานที่ต้องดูแลอีกนับร้อยกว่าชีวิต ย่อมต้องเหนื่อยมากเป็นธรรมดา
เธอที่เป็นคนรักก็ควรจะเข้าใจ และไม่สร้างปัญหาเพิ่ม
*****
ทางด้านไร่สิงหเนวินทร์
ช่วงนี้ลูกสาวของเพื่อนแม่มาที่ไร่เป็นประจำเนื่องจากว่างงาน รินลดาอาสามาช่วยถ่ายรูปเพื่อโปรโมตลงในสื่อโซเชียล ทำให้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการกันอย่างเนืองแน่น สร้างรายได้ให้กับไร่ส้มของชัชวีร์มากขึ้นหลายเปอร์เซ็นต์
หนุ่มเจ้าของไร่ได้ขับรถกอล์ฟมาจอดบริเวณด้านข้างคาเฟเพื่อตรวจดูความเรียบร้อย ทันใดที่รินลดาเห็นว่าเขาเดินเข้ามาทางหลังร้าน ก็รีบเทน้ำเย็นใส่แก้วแล้วเดินเข้าไปหา
“น้ำค่ะ” เสียงหวานเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้ม
“ขอบคุณครับ” ชัชวีร์ยื่นมือออกไปรับแก้วน้ำเย็นมายกดื่มไปหลายอึกเพื่อคลายร้อน
วันนี้รินลดามาถ่ายรูปเมนูอาหารที่ขายในคาเฟ ชัชวีร์รู้สึกว่าเธอเป็นคนเอาการเอางานดี แม้จะไม่ได้ตากตรำอยู่กลางแดด แต่เรื่องการตลาดยังคงทำได้ดีสมกับเป็นนักศึกษาปริญญาโทบริหารธุรกิจ และยังมีงานอดิเรกคือชื่นชอบการถ่ายรูปเป็นชีวิตจิตใจ อีกทั้งหญิงสาวยังเป็นอินฟูเอนเซอร์ มีผู้ติดตามมากมายในโลกโซเชียล การที่ได้เธอมาช่วยโปรโมตไร่ ย่อมส่งผลดีมากเลยทีเดียว
“ไม่เห็นต้องเกรงใจกันขนาดนั้นเลยค่ะ” เธอคลี่ยิ้มกว้างมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่คม ก่อนจะเอ่ยต่อ
“รินกับพวกพี่ ๆ กำลังช่วยกันคิดเมนูใหม่ พี่วีร์ลองชิมดูได้ไหมคะ เพื่อจะได้ช่วยติว่าควรจะปรับลดหรือเพิ่มวัตถุดิบอะไรบ้าง”
เมื่อหนุ่มหล่อพยักหน้าให้ รินลดาก็เดินกลับเข้าไปในครัว นำเมนูใหม่ที่อยากเพิ่มเป็นเมนูเด็ดของทางร้านอย่างยำสามรสทะเลราดลงบนเส้นสปาเกตตีทอดกรอบ โดยใช้ส้มจี๊ดเป็นตัวชูรสเปรี้ยวแทนมะม่วงหรือมะนาว ถือจานพร้อมช้อนส้อมมาหาชัชวีร์ที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะด้านหลังร้าน
ชัชวีร์เห็นในความตั้งใจของเธอ ก็หยิบช้อนมาตักเมนูดังกล่าวเข้าปาก
“อืม รสชาติกำลังดี พี่ว่าโอเคแล้วนะ ไม่ต้องปรับอะไรแล้ว”
“งั้นรินเพิ่มเมนูนี้ในรายการอาหารเลยนะคะ ต่อไปลูกค้าจะต้องติดใจจนเชฟทำไม่ทันแน่นอนค่ะ”
“ครับ”
ชัชวีร์ใช้น้ำเสียงคุยกับรินลดาอย่างสุภาพ แปลกไปจากคนที่พร่ำบอกว่าเป็นผู้หญิงของเขาอย่างเห็นได้ชัด
รินลดาที่มาช่วยงานร่วมเดือน ได้เห็นความรับผิดชอบที่ชัชวีร์มีต่อไร่สิงหเนวินทร์ ก็รู้สึกปลาบปลื้มเขามากขึ้นเรื่อย ๆ ผิดก็แต่หนุ่มหล่อมักจะวางตัวอย่างระมัดระวัง แต่ทว่ายิ่งยากรินลดาก็รู้ว่าท้าทายและอยากเอาชนะ และจะทำให้เขาตกเป็นของเธอให้ได้ อย่างน้อยก็มีทั้งคุณพ่อคุณแม่ และคุณย่าของชัชวีร์ ที่ยังคอยเชียร์เธออยู่
*****
อรกมลเพิ่งกลับมาถึงไร่ในช่วงเย็นวันศุกร์ ขณะเข้าไปช่วยงานในครัว โทรศัพท์ของเธอก็ส่งเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น หญิงสาวละมือจากผักที่กำลังหั่นอยู่บนเขียง หยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากระโปรงยีนสีขาวขึ้นมาเปิดดู
ชัชวีร์: คืนนี้มานอนกับฉันที่บ้านนะ
เห็นข้อความที่หนุ่มเจ้าของไร่ส่งเข้ามาก็ทำให้ใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ทั้งดีใจและกลัวว่าจะมีคนจับได้เพราะทุกทีชัชวีร์จะเป็นฝ่ายมาหาเธอที่บ้านหลังเล็กเอง แต่คืนนี้นึกอย่างไรถึงอยากให้เธอเป็นฝ่ายไปหาเขาที่บ้าน
แม้ชัชวีร์จะอยู่ในบ้านหลังนั้นเพียงลำพัง แต่โบราณว่าไว้หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง เธอก็แอบกลัวว่าจะมีใครผ่านมาเห็น ทว่าความคิดถึงคนรักนั้นดันมีมากกว่า
ร่างเล็กจึงก้าวเข้าไปในบ้านที่ปิดไฟมืดสนิทในยามดึก มีเพียงแสงจากพระจันทร์เต็มดวงที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างพอให้มองเห็นบรรยากาศภายในบ้านไม้สักที่ถูกตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์
มือเล็กจับราวบันไดเดินขึ้นไปบนชั้นสอง หัวใจดวงน้อยเต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่ต้องแอบมาหาชายคนรักแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ
เมื่อคนด้านในได้ยินเสียงมือเล็กยกขึ้นเคาะประตูเบา ๆ เขาก็รีบเปิดแล้วคว้าข้อมือของอรกมลดึงรั้งเข้าไปในห้องนอน ดันแผ่นหลังของหญิงสาวแนบชิดกับผนังไม้สัก รวบข้อมือของคนตัวเล็กกลิ่นกายหอมเย้ายวนขึ้นไปอยู่เหนือศีรษะ บดจูบเธออย่างไม่ทันตั้งตัวจนริมฝีปากอวบอิ่มเคลือบไปด้วยคราบน้ำลาย
ชัชวีร์ผละริมฝีปากออก เอ่ยเสียงพร่าแนบริมฝีปากของอรกมล
“ฉันคิดถึงเธอนะอัยย์” เอ่ยจบเขาก็จูบเธออีกครั้งโดยไม่รีรอให้อีกฝ่ายได้เอ่ยอะไร
อรกมลเผลอไผลไปกับสัมผัสอันวาบหวามและเร่าร้อนทุกครั้งที่เขาเป็นฝ่ายจู่โจม จากนั้นเสื้อผ้าของทั้งคู่ก็ถูกถอดออกอย่างเร่งรีบ และจบลงด้วยการมีอะไรกันตามที่ทั้งคู่ปรารถนา ทุกสัมผัสที่เธอได้รับจากชายคนรักมันช่างมีความสุขอยู่ในทุกอนูของหัวใจ
หญิงสาวล้มตัวนอนหนุนแขนของชัชวีร์ วาดวงแขนกอดร่างกำยำอยู่บนเตียงนอนในบ้านส่วนตัวของชายหนุ่ม ทั้งสองยังคงอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า มีผ้าห่มผืนบางปกคลุมหลังจากเสร็จกิจอันฉ่ำแฉะ
“ให้อัยย์มาหาแบบนี้ ไม่กลัวใครจับได้เหรอคะ”
“หึ ถ้ากลัวคงไม่ให้เธอมา”
“พักหลังเราสองคนไม่ค่อยได้คุยกันเลยนะคะ อัยย์นึกว่าพี่วีร์จะเบื่ออัยย์แล้วซะอีก”
“ช่วงนี้มีการปรับเปลี่ยนการโปรโมตไร่ใหม่ และก็เตรียมเข้าร่วมงานเกษตรแฟร์ด้วย เลยยุ่ง ๆ”
เขาว่าพลางขยับขึ้นนั่งพิงหัวเตียง เลื่อนมือไปเปิดลิ้นชักตรงตู้ไม้ที่ตั้งวางด้านข้าง หยิบกล่องกำมะหยี่สี่เหลี่ยมผืนผ้าออกมาให้ยื่นกับอรกมล