เขาคือผู้ชายคนนั้น

950 Words
"ไม่เรียกยัยตามมาช่วยงานบ้างล่ะ" ชมดาวเห็นว่าพักหลังมานี้เจอต้องรักทีไรก็จะสีหน้าเคร่งเครียดไม่ค่อยร่าเริงเหมือนแต่ก่อนเท่าไรจึงเสนอให้ต้องรักดึงตามฝันมาช่วยงานเพราะเธอเชื่อว่าแม้นตามฝันจะดูหัวอ่อนกว่าพี่สาวมากและไม่ได้เรียนบริหารมาตรงสายแต่ความเก่งของตามฝันจะสามารถช่วยงานต้องรักได้เป็นอย่างดีแน่นอน "ฉันคุยให้ยัยตามมาช่วยแล้ว.แต่เห็นบอกว่าดูแลคนไข้รายนี้หายจะกลับมาช่วยไม่รู้อีกนานเท่าไรเลย" "อย่าพูดเรื่องเครียดๆกันเลยอาหารมาแล้วรีบทานกันดีกว่า" ลูกพีชเห็นเด็กเสิรฟกำลังนำอาหารมาที่โต๊ะจึงให้ทุกคนหยุดใส่ใจกับเรื่องเครียดๆเพราะจะทานอาหารไม่อร่อยเปล่าๆ สามสาวนั่งคุยกันไปทานอาหารกันได้พักใหญ่เป็นชมดาวที่รู้สึกว่าจะเจอคนที่คุ้นเคยทางธุรกิจเขาคือม่านเมฆที่เดินเข้ามาในร้านอาหารพร้อมกับคนสนิทอย่างชานนท์ “สวัสดีค่ะคุณเมฆคุณนนท์” ชมดาวจึงรีบลุกยืนและทักทายชายหนุ่มทั้งสองด้วยสีหน้ายิ้มแย้มทันทีเพราะเขาคือลูกค้าระดับวีไอพีที่ดิวงานกับบริษัทของเธออยู่บ่อยๆ เสียงของชมดาวที่กำลังเอ่ยทักคนแปลกหน้าทำสองสาวที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วยต้องละสายตาจากจานอาหารมองไปยังสองหนุ่มที่ชมดาวเอ่ยทักทายเป็นตาเดียว "อ้าวคุณชม..บังเอิญจังเลยนะครับ" ชายร่างสูงทั้งสองที่กำลังเดินเข้ามาในร้านอาหารอย่างสง่าหยุดทักทายชมดาวด้วยรอยยิ้มกันทั้งคู่ด้วยคุ้นเคยกันดีเพราะร่วมงานกันบ่อย "ค่ะ..คุณเมฆมาทำอะไรที่นี่คะ" สิ้นคำถามของชมดาวสายตาของท่านเมฆก็ได้เหลือบไปจับจ้องกับต้องรักจนอีกฝ่ายต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาหันไปก้มหน้าสนใจกับอาหารกะทันหัน เขาจึงหันมามองชมดาวและตอบคำถามหญิงสาวต่อ "มีนัดกับลูกค้าด้านในครับยังไงขอตัวก่อนนะครับ" ม่านเมฆผายมือไปยังโซนไพรเวทชั้นบนของร้านอาหาร "ค่ะ..ชมไม่รบกวนแล้วค่ะเชิญคุณเมฆกับคุณนนท์ตามสบายนะคะ" “ครับ” ชมดาวไม่ได้คิดจะหาคำสนทนาอีกฝ่ายต่อเมื่อเห็นว่าเขามีธุระ หลังจากสองหนุ่มเดินออกไปได้ลูกพีชก็ไม่วายหันมาถามชมดาวที่กำลังทิ้งตัวลงนั่งด้วยท่าทีสงสัยเพราะไม่รู้ว่าทำไมชมดาวถึงได้มีทีท่าสนิทสนมกับม่านเมฆทั้งที่ชายหนุ่มคนนี้ใครต่างก็รู้ว่าเขาเข้าถึงยาก "ทำไมแกดูสนิทกับคุณม่านเมฆจัง..เค้าไม่ค่อยออกงานสังคมไม่ใช่หรอหรือว่าแกกับเค้า" ลูกพีชยังคงทำหน้าสงสัยก่อนจะตบท้ายด้วยการเปลี่ยนสีหน้ามองชมดาวอย่างมีเลศนัย “ไม่ใช่อย่างที่แกคิดลูกพีช..เพราะบริษัทของคุณเมฆดิวให้บริษัทฉันจัดงานให้บ่อยๆเท่านั้น" ชมดาวรีบส่ายหัวเมื่อเห็นสีหน้าลูกพีชก็รู้ได้เลยว่าเพื่อนเธอนั้นกำลังคิดอะไรไม่ดีอยู่แน่นอน "อ่องั้นก็แล้วไป..เออฉันเคยได้ยินชื่อเสียงคุณเมฆเหมือนกันเค้าทำธุรกิจจิวเวอร์รี่ไม่กี่ปีนี้เองทำไมถึงได้ดูมีเงินมหาศาลเลยล่ะ" "ก็พ่อรวยขนาดนั้นลูกจะรวยก็ไม่แปลกอีกอย่างเค้าว่ากันว่าตอนคุณเมฆอยู่ต่างประเทศทำธุรกิจสีเทา..แต่ก็ไม่รู้จริงแค่ไหน..แต่ฉันมองว่าเค้ามีอิทธิพลไม่ต่างจากพวกที่เรียกตัวเองว่ามาเฟียเพราะใครที่กล้ามีปัญหากับคุณเมฆจบไม่สวยสักราย" ชมดาวกระซิบกระซาบพูดถึงด้านมืดของม่านเมฆที่ได้ยินมาเธอเองก็ไม่รู้ว่ามันจริงแค่ไหนแต่ที่รู้ๆเรื่องเดียวก็คือใครที่กล้าต่อกลอนหรือคิดเป็นศัตรูของม่านเมฆพังแทบทุกราย "ขนาดนั้นเลยหรอ" ลูกพีชยกมือทั้งสองมากุมริมฝีปากทั้งเบิกตาโพรงตกใจไม่คิดว่าม่านเมฆจะมีมุมที่น่ากลัว "อืม" ชมดาวพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะเริ่มทานอาหารในจานของตัวเองต่อ “เออ..แกล่ะต้อง..เคยเจอกับคุณเมฆบ้างหรือเปล่าเพราะทำธุรกิจเหมือนๆกันน่ะ” ลูกพีชเริ่มจ้องไปที่ต้องรักที่เอาแต่นั่งก้มหน้าเล็มอาหารเพราะเห็นว่าทำธุรกิจในแบบเดียวกัน “อ่อ..ไม่..ไม่เคยเลยแค่เคยได้ยินชื่อเท่านั้น” ต้องรักตะกุกตะกักรีบส่ายหัวปฏิเสธที่ลูกพีชถามทันควันและรีบจ้วงตักอาหารเข้าปากยกใหญ่เพื่อไม่ให้เพื่อนๆเห็นว่าไม่ควรถามอะไรเธออีก ที่ต้องรักเสียอาการเช่นนี้เพราะเธอไม่คิดว่าเพื่อนรักอย่างชมดาวจะไปรู้จักสนิทอะไรกับม่านเมฆ ก่อนหน้าเธอพอจะรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของม่านเมฆอยู่บ้างว่าเขาเป็นลูกของภิภพเจ้าของธุรกิจเกี่ยวกับอัญมณีจิวเวอรี่ที่ใหญ่กว่าบริษัทของเธอพอสมควรแต่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตาเพราะเขาไม่ออกงานสังคมและไม่ออกสื่อ วันนี้เธอได้รู้แล้วว่าเขาก็คือผู้ชายคนนั้นผู้ชายที่ได้ครั้งแรกของเธอไปในคืนที่เธอถูกหลานชายของอาเขยมอมยาหมายจะได้ตัวของเธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD