"ไม่เรียกยัยตามมาช่วยงานบ้างล่ะ"
ชมดาวเห็นว่าพักหลังมานี้เจอต้องรักทีไรก็จะสีหน้าเคร่งเครียดไม่ค่อยร่าเริงเหมือนแต่ก่อนเท่าไรจึงเสนอให้ต้องรักดึงตามฝันมาช่วยงานเพราะเธอเชื่อว่าแม้นตามฝันจะดูหัวอ่อนกว่าพี่สาวมากและไม่ได้เรียนบริหารมาตรงสายแต่ความเก่งของตามฝันจะสามารถช่วยงานต้องรักได้เป็นอย่างดีแน่นอน
"ฉันคุยให้ยัยตามมาช่วยแล้ว.แต่เห็นบอกว่าดูแลคนไข้รายนี้หายจะกลับมาช่วยไม่รู้อีกนานเท่าไรเลย"
"อย่าพูดเรื่องเครียดๆกันเลยอาหารมาแล้วรีบทานกันดีกว่า"
ลูกพีชเห็นเด็กเสิรฟกำลังนำอาหารมาที่โต๊ะจึงให้ทุกคนหยุดใส่ใจกับเรื่องเครียดๆเพราะจะทานอาหารไม่อร่อยเปล่าๆ
สามสาวนั่งคุยกันไปทานอาหารกันได้พักใหญ่เป็นชมดาวที่รู้สึกว่าจะเจอคนที่คุ้นเคยทางธุรกิจเขาคือม่านเมฆที่เดินเข้ามาในร้านอาหารพร้อมกับคนสนิทอย่างชานนท์
“สวัสดีค่ะคุณเมฆคุณนนท์”
ชมดาวจึงรีบลุกยืนและทักทายชายหนุ่มทั้งสองด้วยสีหน้ายิ้มแย้มทันทีเพราะเขาคือลูกค้าระดับวีไอพีที่ดิวงานกับบริษัทของเธออยู่บ่อยๆ
เสียงของชมดาวที่กำลังเอ่ยทักคนแปลกหน้าทำสองสาวที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วยต้องละสายตาจากจานอาหารมองไปยังสองหนุ่มที่ชมดาวเอ่ยทักทายเป็นตาเดียว
"อ้าวคุณชม..บังเอิญจังเลยนะครับ"
ชายร่างสูงทั้งสองที่กำลังเดินเข้ามาในร้านอาหารอย่างสง่าหยุดทักทายชมดาวด้วยรอยยิ้มกันทั้งคู่ด้วยคุ้นเคยกันดีเพราะร่วมงานกันบ่อย
"ค่ะ..คุณเมฆมาทำอะไรที่นี่คะ"
สิ้นคำถามของชมดาวสายตาของท่านเมฆก็ได้เหลือบไปจับจ้องกับต้องรักจนอีกฝ่ายต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาหันไปก้มหน้าสนใจกับอาหารกะทันหัน เขาจึงหันมามองชมดาวและตอบคำถามหญิงสาวต่อ
"มีนัดกับลูกค้าด้านในครับยังไงขอตัวก่อนนะครับ"
ม่านเมฆผายมือไปยังโซนไพรเวทชั้นบนของร้านอาหาร
"ค่ะ..ชมไม่รบกวนแล้วค่ะเชิญคุณเมฆกับคุณนนท์ตามสบายนะคะ"
“ครับ”
ชมดาวไม่ได้คิดจะหาคำสนทนาอีกฝ่ายต่อเมื่อเห็นว่าเขามีธุระ หลังจากสองหนุ่มเดินออกไปได้ลูกพีชก็ไม่วายหันมาถามชมดาวที่กำลังทิ้งตัวลงนั่งด้วยท่าทีสงสัยเพราะไม่รู้ว่าทำไมชมดาวถึงได้มีทีท่าสนิทสนมกับม่านเมฆทั้งที่ชายหนุ่มคนนี้ใครต่างก็รู้ว่าเขาเข้าถึงยาก
"ทำไมแกดูสนิทกับคุณม่านเมฆจัง..เค้าไม่ค่อยออกงานสังคมไม่ใช่หรอหรือว่าแกกับเค้า"
ลูกพีชยังคงทำหน้าสงสัยก่อนจะตบท้ายด้วยการเปลี่ยนสีหน้ามองชมดาวอย่างมีเลศนัย
“ไม่ใช่อย่างที่แกคิดลูกพีช..เพราะบริษัทของคุณเมฆดิวให้บริษัทฉันจัดงานให้บ่อยๆเท่านั้น"
ชมดาวรีบส่ายหัวเมื่อเห็นสีหน้าลูกพีชก็รู้ได้เลยว่าเพื่อนเธอนั้นกำลังคิดอะไรไม่ดีอยู่แน่นอน
"อ่องั้นก็แล้วไป..เออฉันเคยได้ยินชื่อเสียงคุณเมฆเหมือนกันเค้าทำธุรกิจจิวเวอร์รี่ไม่กี่ปีนี้เองทำไมถึงได้ดูมีเงินมหาศาลเลยล่ะ"
"ก็พ่อรวยขนาดนั้นลูกจะรวยก็ไม่แปลกอีกอย่างเค้าว่ากันว่าตอนคุณเมฆอยู่ต่างประเทศทำธุรกิจสีเทา..แต่ก็ไม่รู้จริงแค่ไหน..แต่ฉันมองว่าเค้ามีอิทธิพลไม่ต่างจากพวกที่เรียกตัวเองว่ามาเฟียเพราะใครที่กล้ามีปัญหากับคุณเมฆจบไม่สวยสักราย"
ชมดาวกระซิบกระซาบพูดถึงด้านมืดของม่านเมฆที่ได้ยินมาเธอเองก็ไม่รู้ว่ามันจริงแค่ไหนแต่ที่รู้ๆเรื่องเดียวก็คือใครที่กล้าต่อกลอนหรือคิดเป็นศัตรูของม่านเมฆพังแทบทุกราย
"ขนาดนั้นเลยหรอ"
ลูกพีชยกมือทั้งสองมากุมริมฝีปากทั้งเบิกตาโพรงตกใจไม่คิดว่าม่านเมฆจะมีมุมที่น่ากลัว
"อืม"
ชมดาวพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะเริ่มทานอาหารในจานของตัวเองต่อ
“เออ..แกล่ะต้อง..เคยเจอกับคุณเมฆบ้างหรือเปล่าเพราะทำธุรกิจเหมือนๆกันน่ะ”
ลูกพีชเริ่มจ้องไปที่ต้องรักที่เอาแต่นั่งก้มหน้าเล็มอาหารเพราะเห็นว่าทำธุรกิจในแบบเดียวกัน
“อ่อ..ไม่..ไม่เคยเลยแค่เคยได้ยินชื่อเท่านั้น”
ต้องรักตะกุกตะกักรีบส่ายหัวปฏิเสธที่ลูกพีชถามทันควันและรีบจ้วงตักอาหารเข้าปากยกใหญ่เพื่อไม่ให้เพื่อนๆเห็นว่าไม่ควรถามอะไรเธออีก
ที่ต้องรักเสียอาการเช่นนี้เพราะเธอไม่คิดว่าเพื่อนรักอย่างชมดาวจะไปรู้จักสนิทอะไรกับม่านเมฆ ก่อนหน้าเธอพอจะรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของม่านเมฆอยู่บ้างว่าเขาเป็นลูกของภิภพเจ้าของธุรกิจเกี่ยวกับอัญมณีจิวเวอรี่ที่ใหญ่กว่าบริษัทของเธอพอสมควรแต่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตาเพราะเขาไม่ออกงานสังคมและไม่ออกสื่อ
วันนี้เธอได้รู้แล้วว่าเขาก็คือผู้ชายคนนั้นผู้ชายที่ได้ครั้งแรกของเธอไปในคืนที่เธอถูกหลานชายของอาเขยมอมยาหมายจะได้ตัวของเธอ