เสียงเพลงในจังหวะสนุกสนานหนักแน่นดังก้องไปทั่วผับ บรรยากาศภายในผับเต็มไปด้วยผู้คนแต่งตัวดีที่กำลังปล่อยใจไปกับความสนุกสนานแม้จะเป็นคืนวันจันทร์แต่นักเที่ยวก็ยังมาใช้บริการกันอย่างคึกคัก
องศานั่งเอนหลังพิงโซฟากำมะหยี่สีเข้มในโซนวีไอพีของผับ มองดูแสงไฟนีออนที่สะท้อนวูบไหวบนผิวน้ำสีอำพันในแก้ววิสกี้ที่ถืออยู่ แม้จะอยู่ในท่าทางผ่อนคลาย แต่ดวงตาคมกริบของเขากลับฉายแววครุ่นคิด
“ไงองศา เป็นอะไรถึงได้แต่นั่งจ้องแก้วเหล้าอย่างนั้นล่ะ เครียดอะไรขนาดนั้น งานมีปัญหาเหรอ” เพชรภูมิเจ้าของผับถามก่อนจะนั่งลงข้างๆ
องศาไม่ได้ตอบคำถามทันที เขายกแก้ววิสกี้ขึ้นจิบ แต่สายตากลับกวาดมองไปรอบผับค้นหาใบหน้าหวานของผู้หญิงที่เจอคืนนั้น
“ฉันกำลังมองหาผู้หญิงคนนั้น” องศาตอบเสียงเรียบ
“ผู้หญิงคนนั้น? คนไหนวะ? คนที่แกหิ้วไปวันก่อนนู้นน่ะเหรอ? ไอ้ที่ยอมลงทุนลงไปเต้นรำเพื่อแลกกับอะไรบางอย่าง? สุดท้ายก็หายไปอย่างกับผีเสื้อกลางคืน” ไทธัชเพื่อนอีกคนถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ
“ไม่หาย.... แต่หนีไป แล้วทิ้งอะไรไว้รู้ไหม?”
“อะไรวะ? ทิ้งเบอร์? ทิ้งนามบัตร?” เพชรภูมิถามอย่างสนใจ
องศาส่ายหน้าก่อนจะหยิบซองซิปขนาดเล็กสีใสออกจากกระเป๋าเสื้อด้านในและโยนมันลงบนโต๊ะ ซองนั้นบรรจุธนบัตรใบละหนึ่งพันบาทสามใบและกระดาษโน้ตแผ่นเล็ก ๆ ที่พับไว้
ไทธัชหยิบขึ้นมาคลี่ดู เมื่ออ่านข้อความในกระดาษจบเขาก็หัวเราะออกมาอย่างไม่ไว้หน้าก่อนจะส่งกระดาษแผ่นนั้นให้เพชรภูมิ
“หัวเราะอะไรขนาดนั้นวะ” เพชรภูมิหยิบมาอ่านแล้วก็หัวเราะตามเพื่อนไปอีกคน
“ฮ่า ๆ ๆ อะไรวะเนี่ย! ฉันไม่รู้ว่าบาร์เทนเดอร์อย่างคุณคิดค่าตัวเท่าไหร่ แต่ขอให้เงิน 3,000 บาทนี้ เป็นค่าปิดปากเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นคืนนี้นะคะ” เพชรภูมิยื่นกระดาษไปทางองศาพร้อมกับหัวเราะจนตัวโยน
“ไอ้องศา! นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะ! ท่านประธานบริษัทใหญ่ที่มีมูลค่าทรัพย์สินเป็นหมื่นล้าน ถูกฟันแล้วทิ้ง แถมยังโดนยัดเงินสามพันบาทเป็นค่าตัวเนี่ยนะ นี่เป็นเรื่องที่ตลกที่สุดในรอบสิบปีของฉันเลยว่ะ”
“ฉันก็ไม่ได้อยากให้มันตลกหรอกนะ แต่เธอเมามากจริง ๆ เธอคงคิดว่าฉันเป็นบาร์เทนเดอร์เพราะคืนนั้นฉันใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวเหมือนเด็กในร้านแกด้วยสิ” องศาหัวเสียเมื่อนึกไปถึงเช้าวันต่อมา
“แล้วแกปล่อยให้เธอเข้าใจผิดได้ไงวะ? แกไม่บอกชื่อจริงหรือตำแหน่งตัวเองไปเลยเหรอ?” ไทธัชถามพลางเทเหล้าเพิ่มให้ตัวเอง
“ฉันไม่ได้มีเวลาจะอธิบายอะไรมากนักคืนนั้น เธอแค่ต้องการชนะเกมกับเพื่อนของเธอ แล้วฉันก็เสนอรางวัลให้ตัวเองเท่านั้น ฉันบอกแค่ชื่อเธอไปเธอก็คงคิดว่าฉันเป็นพนักงานผับ”
“แล้วทำไมแกไม่ทวงให้มากกว่าสามพันวะ หรือเรียกค่าเสียหายสักสามล้านไปเลย” ไทธัชยังคงหัวเราะ
“ไม่ตลกนะธัชเธอเป็นผู้หญิงที่กล้าทำแบบนี้กับฉัน เธอไม่ได้มาเพื่อหวังผลประโยชน์ ไม่ได้มาเพื่อเรียกร้องความรับผิดชอบและนั่นทำให้ฉันสนใจ” องศาเปลี่ยนน้ำเสียงให้จริงจัง
“แกไม่ได้โกรธที่ถูกดูถูก... แต่แกกำลังตามล่าเธออยู่ใช่ไหมวะ? ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่เป็นเรื่องศักดิ์ศรีของเสือที่ไม่เคยพลาด” ไทธัชหยุดหัวเราะ แล้วมองหน้าเพื่อนสนิทอย่างพิจารณา
“ก็คงอย่างนั้น ฉันแค่อยากเจอเธออีกครั้ง อยากคุยกับเธอแบบที่เธอมีสติ อยากรู้ว่าถ้าเธอรู้ว่าฉันคือใครเธอจะมีปฏิกิริยายังไง”
“แล้วจะเจอได้ไงวะ? เธอทิ้งแค่ชื่อน้ำผึ้งกับลายมือสวย ๆ บนโน้ตสามพันนี่เนี่ยนะ? ไม่รู้ว่านั่นจะใช่ชื่อจริงของเธอหรือเปล่า ผู้หญิงกลุ่มนั้นฉันก็ไม่ค่อยคุ้นหน้าเลยนะ น่าจะไม่ใช่นักเที่ยวขาประจำและตั้งแต่คืนนั้นพวกเธอก็ไม่มาเที่ยวอีกเลย” เพชรภูมิที่จำลูกค้าได้แม่นบอกกับเพื่อน
“เธอเคยบอกแกหรือเปล่าว่าทำงานที่ไหน” ไทธัชพยายามจะช่วยเพื่อนตามหา
“เท่าที่คุยกันเธอน่าจะยังเรียนไม่จบนะ”
“ท่านประธานกินเด็กเหรอนี่ ระวังคุกเพาะพรากผู้เยาว์นะเว้ย”
“ถ้าฉันจะติดคุกเพราะพรากผู้เยาว์ฉันก็จากลากนายเข้าไปในนั้นด้วย”
“เกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ” เพชรภูมิถามอย่างไม่เข้าใจ
“เพราะนายปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่ายี่สิบเข้ามาเที่ยวน่ะสิ คราวนี้คงต้องปิดผับแน่” องศาพูดหัวเราะ
“ไม่มีทางเพราะลูกน้องของฉันตรวจบัตรประชาชนอย่างละเอียดแล้ว” ชายหนุ่มเจ้าของผับยืนยันเสียงแข็ง
“งั้นนายก็สบายใจได้ว่าเธออายุเกินยี่สิบแล้วแต่ก็ยากที่จะเจอเธอเพราะเด็กวัยนี้เปลี่ยนที่เที่ยวไปทั่วเลยนะ” ไทธัชพูดขึ้นบ้าง
“ฉันก็เลยเครียดอยู่นี่ไงล่ะ”
“นี่ ฉันถามนายหน่อยนะองศา ชีวิตนายมีผู้หญิงสวย ๆ เข้าหาเยอะแยะไปหมดทำไมนายจะต้องมาสนใจผู้หญิงคนนี้ด้วยนะ” ไทธัชถามเพราะอยากรู้เหตุผลที่แท้จริงของเพื่อน
“ฉันก็บอกนายไปแล้วไงฉันว่าเธอน่าสนใจดี ฉันไม่เคยเจอใครแบบเธอก่อน”
“บางทีที่เธออยากให้ทุกอย่างมันจบเพราะอาจจะคิดว่านายก็แค่บาร์เทนเดอร์ธรรมดาคนหนึ่งแต่ถ้าเธอรู้ว่านายเป็นใครเธอก็จะเกาะติดนายเหมือนกับคนอื่น ๆ ฉันว่านายอย่าพยายามตามหาเลยเสียเวลาเปล่าน่า นายลองมองไปข้างล่างสิ วันนี้มีผู้หญิงสาวมาเที่ยวเยอะเลย นายแค่เดินลงไปชวนคนที่ถูกใจดื่มสักแก้วเดี๋ยวเธอก็ทำให้นายลืมน้องน้ำผึ้งได้เองแหละ” เพชรภูมิแนะนำเพราะไม่เห็นถึงความจำเป็นอะไรที่จะต้องตามหาผู้หญิงที่ตกลงจะวันไนท์สแตนด์ด้วย
“ไอ้เพชรมันพูดถึงนะองศา สนใจคนไหนเดี๋ยวฉันไปเรียกให้ก็ได้นะ อย่าเสียเวลาตามหาคนที่ไม่อยากให้เราตามเลย”
“ไม่ล่ะ ฉันจะรอก่อนเผื่อบางทีอาจจะเจอกับเธออีกครั้ง ถึงตอนนั้นถ้าเธอจะสนใจฉันเพราะรู้ว่าฉันเป็นใครมีเงินมากขนาดไหนฉันค่อยตัดสินใจอีกทีว่าจะเอายังไงต่อ บางทีเราอาจได้เจอกันอีกครั้งก็ได้ ถ้าโชคชะตายังไม่หมดอายุ” องศาไม่อยากถอดใจถึงแม้ว่าโอกาสที่จะได้เจอกับเธอนั้นมันแทบไม่มีเลยก็ตาม
“ก็แล้วแต่นายเลย ถ้าเธอกับเพื่อนมาเที่ยวที่นี่อีกฉันจะบอกนะ แล้วจะสั่งลูกน้องไว้ด้วยว่าถ้ามีผู้หญิงที่ชื่อน้ำผึ้งมาเที่ยวให้รีบบอกฉันทันที”
“ขอบใจมากนะเพชร”
องศานั่งดื่มคุยกับเพื่อนต่ออีกพักใหญ่เขาก็ขอตัวกลับ เขาไม่อยากดื่มต่อ ไม่อยากมองใครหน้าอื่น ในหัวของเขามีเพียงรอยยิ้มของหญิงสาวคืนนั้น ในใจของชายหนุ่มตอนนี้ยังคงคิดถึงผู้หญิงที่ชื่อน้ำผึ้งอยู่ตลอดเวลาถึงแม้ว่าจะผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้วก็ตาม