CH#2(1)_แค่บังเอิญมากกว่า#1

1243 Words
"ถ้ารู้ว่าอยากขนาดนี้ คงสนองให้ตั้งแต่แรกแล้ว" เสียงกระซิบดังออกมาจากปากของเขาที่แนบอยู่กับริมฝีปากบาง มันแทรกเข้ามาทำลายหมอกควันแห่งความซาบซ่านจนหมด ภัทรดันตัวออกห่าง หายใจหอบระรัว ตั้งสติ "ถ้าเธอไม่รังเกียจที่มีคนดู ในรถนี่ก็ได้นะ" “….” ดวงตาของภัทรเบิกกว้าง ตะลึง เจ็บจี๊ดหลังจากได้ยิน สะบัดมือตบไปที่หน้าขาวเนียนเหมือนผิวเด็กค่อนข้างแรง ...เพี๊ยะ... ธชาหันตามแรงตบ หน้าใสๆขึ้นเป็นรอยนิ้วสีแดงเป็นปื้นทันที "ไอ้บ้า ใครจะคิดต่ำๆแบบนั้น?" ตะโกนใส่หน้าคนถูกตบที่ตอนนี้หันมาจ้องเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ "เธอรู้ไม๊? ไม่มีใครเคยตบหน้าฉันมาก่อน" ขบกรามพูดรอดไรฟัน "ก็ดี สมแล้วกับความคิดเลวๆของนาย" "แล้วที่วิ่งตาม กอดขาฉันไว้แน่น หมายความว่าไง? ถ้าไม่อยาก…" ธชาสวนกลับ ใช้มือขวากอบกุมเรียวแขนของเธอเอาไว้แล้วบีบเต็มแรง "ปล่อยนะ! นายมันต่ำพอๆกับความคิดนั้นแหละ บอกให้ปล่อยไง" ภัทรตะโกนใส่หน้า พยายามแกะมือแข็งเหมือนคีมออกจากต้นแขน สุดท้ายคิดอะไรไม่ออกยกมืออีกข้างขึ้นจิกเล็บข่วนหน้าชายหนุ่มซ้ำรอยเดิมที่ถูกตบ "ฮึ่มม! ตบหน้าฉันยังไม่พอยังทำให้เป็นรอยอีก ฉันเอาเธอตายแน่! ตรงไปที่โรงแรมเลย" น้ำเสียงโกรธกริ้ว หน้าทั้งแสบทั้งระบมจากที่โดนตบโดนข่วน ประโยคสุดท้ายเงยหน้าสั่งคนขับรถเปลี่ยนแผนกะทันหัน ตอนแรกจะเข้าไปบริษัทเพื่อเคลียร์งานก่อน แต่ตอนนี้ตั้งใจจะจัดการแม่นักข่าวคนนี้แทน "ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น ทำไม? นายกลัวว่ารอยเล็บจะทำให้หน้าใสกระจ่างราวกับก้นเด็กของนายเป็นรอยรึไง?" ภัทรพยายามหาวิธีเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของชายหนุ่ม ซึ่งมันได้ผลเกินคาด "หุบปาก" จี้ใจดำอย่างแรง หน้าเริ่มเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีคลํ้าเข้ม กัดกรามจนเป็นสัน "นายคงต้องกลับไปเกาหลีใหม่แล้วละ เพื่อลบริ้วรอย" ภัทรเริ่มจับทางได้ จี้หนักกว่าเดิม "ฉันบอกให้หุบปาก!" จับแขนบอบบางทั้งสองข้างบีบแน่นยิ่งขึ้นตามแรงอารมณ์ คงเป็นรอยช้ำกันบางล่ะ "ไม่หุบ นอกจากจะปล่อยฉันลง" เสี่ยงต่อรองในนาทีวิกฤต "จอดรถ! ให้ผู้หญิงข้างถนนคนนี้ลงไป" ธชาตะโกนบอกคนขับรถอย่างหมดความอดทน รีบตัดสินใจก่อนที่จะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่แล้วทำลายผู้หญิงโดยไม่รู้ตัว ประตูไฟฟ้าเลื่อนเปิดอัตโนมัติ ภัทรรีบก้าวลงจากรถ แต่ด้วยความสงสัยบวกกับความอยากแก้แค้น ทำให้ต้องหมุนตัวกลับแล้วคว้ากล้องขึ้นมากดถ่ายรูปชายหนุ่มที่นั่งหน้าแดงดวงตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธ และไม่ทันได้ตั้งตัว ...แชะ... ถ่ายเสร็จรีบเผ่นแน่บเข้าไปในย่านชุมชนแถวนั้น ------------------------------------------ @ ชมรมคนรักชัตเตอร์ "ภัทรนี่แกหายหัวไปไหนมา? เล่นเอาเป็นห่วงกันไปหมด จนกว่าแกจะโทรมาบอก ฉันกับพี่เจนเกือบจะไปแจ้งความแล้วนะ" ดาวบ่นยาว เมื่อเห็นภัทรเดินเข้ามาในทาวน์โฮมสี่ชั้นที่ขอเช่าจากพี่เจนพี่สาวของหมอกหนึ่งในสมาชิกชมรม โดยชั้นล่างเปิดเป็นสำนักงานของชมรมคนรักชัตเตอร์รับจ้างถ่ายภาพทั่วไป ส่วนชั้นสองเป็นสตูดิโอเล็กๆ ชั้นสามกับชั้นที่สี่เป็นที่พัก สมาชิกในชมรมอยู่กันครบ สามหนุ่มหยุดงานที่กำลังทำอยู่.. วัฒน์แฟนของดาว วางมือที่กำลังเช็ดกล้อง หมอกเบือนหน้าจากจอคอมขึ้นมอง และสมาชิกคนสุดท้าย พี่ใหญ่ไม่ใช่ตี๋ใหญ่แต่เพราะความตุ้มตะตุ้มตุ้ยของร่างกาย แถมยังใจนักเลงเลยได้ฉายาพี่ใหญ่ไปครอง ซึ่งพี่ใหญ่ค้างอยู่ในท่าคีบเส้นมาม่าที่กำลังจะสาวเข้าปาก ทุกคนหันมามองภัทรเป็นตาเดียว "ไม่มีอะไรแค่หลงทางตามที่บอกดาวทางโทรศัพท์นั่นแหละ" "อายุแกขนาดนี้แล้วยังหลงทางอีกเหรอวะ คราวหน้าแกคงต้องเขียนชื่อที่อยู่ใส่กระเป๋าเสื้อไว้แล้วล่ะ" พี่ใหญ่มองอย่างสงสัย พูดจบสูดเส้นมาม่าเข้าปากเสียงดัง "เออๆ.. เดี๋ยวภัทรจะออกไปร้านซ่อมกล้องนะมันตกกระแทกพื้นไม่รู้มีส่วนไหนชำรุดรึเปล่า เสาร์นี้เอาไปถ่ายน้องหมาเกิดเสียขึ้นมา ซวยกันพอดี" ภัทรหาทางเลี่ยงคำถามที่จะตามมาอีกไม่รู้กี่คำถาม พูดจบรีบชิ่งออกมาทันที ------------------------------------------ ธชาทุบโต๊ะดังปึง!ในที่พักชั้นบนสุดของโรงแรมเดวิชสุดหรูหราย่านธุรกิจ โรงแรมเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่พ่ออเล็กซ์หันมาลงทุนเป็นเรื่องเป็นราวและกำลังไปได้สวย ทำให้ตอนนี้มีธุรกิจโรงแรมเพิ่มเข้ามาอีกหลายแห่งที่ธชาต้องดูแล ในขณะที่เขากำลังเช็คข่าวเศรษฐกิจและตลาดหุ้น แต่กลับเห็นข่าวตัวเองหลาพร้อมรูปที่นั่งอยู่ในรถตู้แทรกอยู่ในหน้าข่าวธุรกิจ ทั้งๆที่เขาตั้งใจกลับมาประเทศไทยให้เงียบที่สุดเพื่อเจรจาต่อรองธุรกิจลับๆกับนักธุรกิจชาวจีนที่จะมาหาหุ้นส่วนไปลงทุนโครงการใหญ่ที่ปักกิ่ง แต่กลับกลายเป็นว่าข่าวของเขาถูกเผยแพร่ออกไปจนดังไปทั่วโซเซียลแล้วตอนนี้ ธชากัดกรามกรอด รูปนี้จะมาจากใครไม่ได้นอกจาก แม่นักข่าวตัวซวยคนนั้น เผลอเอามือลูบแก้มที่โดนตบและถูกข่วน ตอนนี้แผลตกสะเก็ดแล้วแต่ยังมีรอยแดงจางๆให้เห็นเป็นการย้ำเตือนถึงความน่าขายหน้าของตัวเอง ------------------------------------------ @วันเสาร์ "โอ้โห!!! งานน้องหมาทำไมจัดซะใหญ่โตขนาดนี้" ภัทรพึมพำตาโต มองไปรอบบริเวณห้องแกรนด์บอลลูมของโรงแรมหรูที่ตอนนี้ถูกเนรมิตเป็นสวนสนุกของน้องหมา ถ้าจะพูดกันตามตรง มันก็ถูกทำขึ้นมาเพื่อสนองตัณหาของเหล่าไฮโซคนมีตังค์นั่นแหละ เนื่องจากอยากเอาน้องหมามาประชันโฉมกัน ไม่ใช่แค่นั้นเครื่องประดับของน้องหมาแต่ละชิ้นก็ใช่ย่อย เล่นเอาตาพร่า ภัทรทำตาละห้อย รู้สึกอยากเกิดเป็นน้องหมาขึ้นมาตะหงิดๆ ชาตินี้คงไม่มีวาสนาได้ใส่เหมือนน้องหมาเป็นแน่ "แกไม่รู้จริงดิ เฉพาะน้องหมาของไฮโซหรอก ถึงจะได้จัดในโรงแรมหรูหราหมาเห่า ถ้าลองแกเป็นหมาข้างถนน…" วัฒน์ตอบแบบยียวนกวนโมโห "ต้องใช้เส้นพี่เจนกับเส้นพี่ใหญ่ เราถึงได้งานนี้ ไม่งั้นอดแด๊กก" หมอก เด็กหนุ่มปากเสียอายุน้อยสุดในชมรมพูดขึ้น "เอ้าา มายืนอะไรกันตรงนี้? ภัทรแกไปกับวัฒน์นะตามคุณหญิงไปถ่ายรูปน้องหมากับเครื่องเพชร ส่วนหมอกมากับพี่เราจะถ่ายรูปน้องหมาบนเวที เออ.. ภัทร กล้องแกเป็นไงบ้างวะ?" สมเป็นพี่ใหญ่เข้ามาจัดแจงเสร็จสรรพ ประโยคสุดท้ายหันมาหาภัทรพร้อมกับมองกล้องที่คล้องอยู่ที่คอ "เครื่องมือทำมาหากิน ต้องดูแลเป็นพิเศษอยู่แล้ว เรียบร้อยดีหายห่วง" ภัทรพูดยิ้มๆ ยกกล้องที่คล้องคอยืนยัน --------------------------------------------------------
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD