“กรี๊ดดดด” เสียงกรีดร้องในยามวิกาลผสานกับเสียงร่ำไห้โหยหวนดังมาจากเฮือนสม ปลุกให้บ้านเรือนละแวกใกล้เคียงตื่นตระหนก แลใคร่รู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นในเรือน แม้งานบุญหลวงใหญ่ยังมิแล้ว หนุ่มสาวหลายเรือนยังเที่ยวเล่นอยู่ในงาน แต่บรรดาเฮือนต่าง ๆ อันเป็นเรือนของข้าราชการล้วนต่างพากันกลับเรือนตั้งแต่หัวค่ำ เนื่องด้วยมีเหตุมิคาดคิดเกิดขึ้นในศาลเจ้าหลวง “ผู้ใดมันทำเยี่ยงนี้กับกูวะ! มึงบอกกูมามันเป็นผู้ใด ไอ้อีพวกบ่าวสารเลว มึงอยู่เรือนกันเยี่ยงไร เหตุใดจึงมิรู้ว่ามีคนบุกมาทำกับพ่อกูเยี่ยงนี้” พระยาคำแปงตวาดลั่นขณะวิ่งเข้าไปโอบอุ้มศีรษะไร้ร่างที่ถูกวางอยู่บนตั่งตรงชานเรือน ปทุมบดีถึงกับเข่าอ่อนทรุดตัวนั่งบนพื้น มิกล้ามองไปยังจุดนั้น บรรดาบ่าวไพร่ที่วิ่งขึ้นเรือนมา ต่างพากันตื่นตระหนกตกตะลึงเมื่อเห็นสิ่งน่าสยดสยองเบื้องหน้า เช่นนั้นในห้องของท่านอำมาตย์คงมีเพียงร่างไร้ลมหายใจ เพราะศีรษะถูกตัดออกมา

